ยาวหน่อยนะคะ
สวัสดีคะเราชื่อ"แสนดี" เกิ่นเรื่องก่อนนะคะ คือพ่อของเรามีโรคประจำตัวหลายโรค ทั้งเบาหวาน ความดัน ไตวาย (โรคฮิตๆทั้งนั้นคะ) และเมื่อปีที่แล้ว พ่อแม่ของแสนดีแยกทางกันผ่านมาประมาณปีนึง พ่อของแสนดีมีแฟนใหม่ เค้าเป็นคนใต้คะ แล้วเค้าก็ย้ายมาอยู่กับพ่อของแสนดี จากที่เราที่เราเคยอยู่ด้วยกันแสนดีกลับถูกผลักให้ห่างออกมา นี่แหละคะคือจุดเริ่มต้น...
~จากที่เล่ามานั้น พอพ่อแสนดีอยู่กับแฟนใหม่ได้ไม่นานก็มีตัวแทนเข้ามาขายประกันภัย และผู้รับผลประโยชน์ถูกแบ่งดังนี้ 1. น้องสาวของแสนดีเอง 34%
2. แสนดี 33%
และ 3. แฟนใหม่พ่อ 33%
แสนดีมารู้เรื่องประกันทีหลัง หลังจากกรมธรรส่งมาถึงบ้านแล้วเลยไม่ได้คัดค้านอะไร ก็ส่งประกันให้พ่อปกติ
พอต่อมาไม่นาน ส่งประกันได้ประมาณ 4-5 เดือน พ่อของแสนดีก็เข้ารักษาตัวที่ รพ.เอกชนแห่งนึงใน จ.สระบุรี หมอระบุว่าเป็นฝีที่เท้าต้องคว้านออก แสนดีจึงโทติดต่อกับตัวแทนประกันไปเกี่ยวกับเรื่องการรักษา เค้าพูดจาดีมากบอกให้เรารักษาพ่อได้เลย แล้วก็สำรองจ่ายไปก่อนเก็ใบเสร็จไว้ และส่งให้เค้าจะเบิกจ่ายคืนให้ไม่เกิน 3 วัน (รายละเอียดที่คุยกันทางโทรศัพท์ประมาณนี้)
เราก็ให้หมอรักษาพ่อตามขั้นตอน เสร็จแล้วจ่ายเงินรับยากลับบ้าน เนื่องจากพ่อแสนดีสุขภาพไม่แข็งแรงพอแผลอักเสบจึงมีไข้ขึ้นและกลับมานอนที่ รพ. เอกชนเดิม (สำรองจ่าย) คืนนึงหมอแจ้งค่าเข้าพัก 18,xxx พ่อเห็นว่าราคาสูงจึงออก และก็ไปรักษาต่อ รพ.สระบุรี ได้ทำการล้างแผลและจ่ายเงินนอกเขตเองทุกครั้ง รวมยอดเงินรอบนี้ประมาณ 3x,xxx (ตั้งแต่ช่วงเดือน มิ.ย. จนตอนนี้ ก.ย แล้ว) เสร็จการรักษาเราส่งบิลค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ตัวแทน ผ่านไป 1 เดือน เราโทหาเค้า เค้าไม่รับเลย จนเค้าเข้ามาเก็บใบเสร็จรอบสอง (ตอนแสนดีไม่อยู่) พ่อเราจึงถามเค้าว่าลูกโทหาทำไมไม่รับ เค้าโทมาต่อว่าเราว่าทำไมต้องโกหกโตๆแล้วทำไมต้องหรอกพ่อให้เค้าเสียผู้ใหญ่ว่าโทแล้วไม่รับ เราพยายายามจะบอกเค้าว่าเราโทไปจิงๆเค้าก็ยังต่อว่าเราไม่หยุดแล้วบอกกับพ่อเราว่าจะไม่ขอคุยเรื่องประกันกับเราอิกจะคุยกะแฟนใหม่พ่อเราเท่านั้น (คือเรางงมาเหมือนเป็นแผน) จากนั้นพ่อเราก็เข้ารักษาตัวที่ รพ.อิกด้วยโรคประจำตัวคือเบาหวาน มีการตัดเท้า และฉีดสี ขยายเส้นเลือดซึ่งเราสำรองจ่ายทั้งหมด (เงินรอบแรกก็ยังไม่ได้คืน) เชื่อไหมคะตลอดเวลา 2 เดือนที่ผ่านมาตัวแทนไม่เคยเข้ามาเยี่ยมหรือมาดูเลยสักครั้ง ดีแต่โทมาว่าพรุ่งนี้จะเข้าไป แแบบนี้แต่ไม่เคยเห็นหน้า จนมาอาทิตย์ที่แล้ว เอกสารการรักษาทุกอย่างตีกลับมาจากบริษัทประกันภัย ใจความว่า"ไม่สามารถ จ่ายค่าสินไหมทดแทนให้เราได้เนื่องจากไม่มีประวัติการรักษาที่ได้มจาก รพ. เราจึงขอพ่อเข้ามาตามเรื่องเอง เราจึงโทไปเบอร์ที่แนบมาด้านล่างของข้อความในใบพิจารณาสินไหมทดแทนเพื่อถามว่าเอกสารขาดอะไรบ้างและเราต้องทำอย่างไรต่อไป พอมาวันนี้ตัวแทนโทไปขู่พ่อเราว่าถ้าเราข้ามายุ่งอิกจะไม่เบิกเงินสินไหมคืนพ่อเราและจะไม่เบิกเคลมที่ตัดเท้าด้วย คือเรางงทำได้ด้วยหรอ?
คำถามนะคะ
1.แฟนใหม่พ่อมีสิทธิเป็นผู้รับผลประโยชน์ได้รึเปล่าในเมื่อพ่อกับแม่เราไม่ได้หย่ากัน
2.เป็นไปได้ไหมที่แฟนใหม่ของพ่อกับตัวแทนประกันจะแอบกินใต้โต๊ะกันเพราะกันเราตากเรื่องนี้ตลอด
3.คัวแทนสามารถข่มขู่ลูกค้าแบบนี้ได้หรอ?
4.ตัวแทนไม่เคยสนใจมาเยี่ยมมาถามอาการเลยแถมมาด่าใส่ร้ายเราอิกทั้งที่เราเป็นลูกค้าคอมเพลนได้ไหม/ทางไหน
5. เราสามารถเปลี่ยนเป็นตัวแทนคนอื่นได้ไหม
6.กรณีที่เรากลัวว่าเมียใหม่กับตัวแทนไปกันจะรวมหัวกันหุบของที่เป็นชีอพ่อเรา เราสามารถให้พ่อเขียนมอบอำนาจให้เราได้ไหม
7.กรณีที่เขียนมอบอำนาจกันแล้ว สามารถระบุรวมๆเช่น ขอให้ นส. A ในฐานะลูกมีสิทธิในทรัพสิที่เป็นกรรมสิทธ์โดยชอบทั้งหมดของนานย B แต่เพียงผู้เดียวแบบนี้ได้ไหม
ขอคำตอบจากผู้รู้ด้วยคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตัวแทนประกันภัยสุดห่วย!!
สวัสดีคะเราชื่อ"แสนดี" เกิ่นเรื่องก่อนนะคะ คือพ่อของเรามีโรคประจำตัวหลายโรค ทั้งเบาหวาน ความดัน ไตวาย (โรคฮิตๆทั้งนั้นคะ) และเมื่อปีที่แล้ว พ่อแม่ของแสนดีแยกทางกันผ่านมาประมาณปีนึง พ่อของแสนดีมีแฟนใหม่ เค้าเป็นคนใต้คะ แล้วเค้าก็ย้ายมาอยู่กับพ่อของแสนดี จากที่เราที่เราเคยอยู่ด้วยกันแสนดีกลับถูกผลักให้ห่างออกมา นี่แหละคะคือจุดเริ่มต้น...
~จากที่เล่ามานั้น พอพ่อแสนดีอยู่กับแฟนใหม่ได้ไม่นานก็มีตัวแทนเข้ามาขายประกันภัย และผู้รับผลประโยชน์ถูกแบ่งดังนี้ 1. น้องสาวของแสนดีเอง 34%
2. แสนดี 33%
และ 3. แฟนใหม่พ่อ 33%
แสนดีมารู้เรื่องประกันทีหลัง หลังจากกรมธรรส่งมาถึงบ้านแล้วเลยไม่ได้คัดค้านอะไร ก็ส่งประกันให้พ่อปกติ
พอต่อมาไม่นาน ส่งประกันได้ประมาณ 4-5 เดือน พ่อของแสนดีก็เข้ารักษาตัวที่ รพ.เอกชนแห่งนึงใน จ.สระบุรี หมอระบุว่าเป็นฝีที่เท้าต้องคว้านออก แสนดีจึงโทติดต่อกับตัวแทนประกันไปเกี่ยวกับเรื่องการรักษา เค้าพูดจาดีมากบอกให้เรารักษาพ่อได้เลย แล้วก็สำรองจ่ายไปก่อนเก็ใบเสร็จไว้ และส่งให้เค้าจะเบิกจ่ายคืนให้ไม่เกิน 3 วัน (รายละเอียดที่คุยกันทางโทรศัพท์ประมาณนี้)
เราก็ให้หมอรักษาพ่อตามขั้นตอน เสร็จแล้วจ่ายเงินรับยากลับบ้าน เนื่องจากพ่อแสนดีสุขภาพไม่แข็งแรงพอแผลอักเสบจึงมีไข้ขึ้นและกลับมานอนที่ รพ. เอกชนเดิม (สำรองจ่าย) คืนนึงหมอแจ้งค่าเข้าพัก 18,xxx พ่อเห็นว่าราคาสูงจึงออก และก็ไปรักษาต่อ รพ.สระบุรี ได้ทำการล้างแผลและจ่ายเงินนอกเขตเองทุกครั้ง รวมยอดเงินรอบนี้ประมาณ 3x,xxx (ตั้งแต่ช่วงเดือน มิ.ย. จนตอนนี้ ก.ย แล้ว) เสร็จการรักษาเราส่งบิลค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ตัวแทน ผ่านไป 1 เดือน เราโทหาเค้า เค้าไม่รับเลย จนเค้าเข้ามาเก็บใบเสร็จรอบสอง (ตอนแสนดีไม่อยู่) พ่อเราจึงถามเค้าว่าลูกโทหาทำไมไม่รับ เค้าโทมาต่อว่าเราว่าทำไมต้องโกหกโตๆแล้วทำไมต้องหรอกพ่อให้เค้าเสียผู้ใหญ่ว่าโทแล้วไม่รับ เราพยายายามจะบอกเค้าว่าเราโทไปจิงๆเค้าก็ยังต่อว่าเราไม่หยุดแล้วบอกกับพ่อเราว่าจะไม่ขอคุยเรื่องประกันกับเราอิกจะคุยกะแฟนใหม่พ่อเราเท่านั้น (คือเรางงมาเหมือนเป็นแผน) จากนั้นพ่อเราก็เข้ารักษาตัวที่ รพ.อิกด้วยโรคประจำตัวคือเบาหวาน มีการตัดเท้า และฉีดสี ขยายเส้นเลือดซึ่งเราสำรองจ่ายทั้งหมด (เงินรอบแรกก็ยังไม่ได้คืน) เชื่อไหมคะตลอดเวลา 2 เดือนที่ผ่านมาตัวแทนไม่เคยเข้ามาเยี่ยมหรือมาดูเลยสักครั้ง ดีแต่โทมาว่าพรุ่งนี้จะเข้าไป แแบบนี้แต่ไม่เคยเห็นหน้า จนมาอาทิตย์ที่แล้ว เอกสารการรักษาทุกอย่างตีกลับมาจากบริษัทประกันภัย ใจความว่า"ไม่สามารถ จ่ายค่าสินไหมทดแทนให้เราได้เนื่องจากไม่มีประวัติการรักษาที่ได้มจาก รพ. เราจึงขอพ่อเข้ามาตามเรื่องเอง เราจึงโทไปเบอร์ที่แนบมาด้านล่างของข้อความในใบพิจารณาสินไหมทดแทนเพื่อถามว่าเอกสารขาดอะไรบ้างและเราต้องทำอย่างไรต่อไป พอมาวันนี้ตัวแทนโทไปขู่พ่อเราว่าถ้าเราข้ามายุ่งอิกจะไม่เบิกเงินสินไหมคืนพ่อเราและจะไม่เบิกเคลมที่ตัดเท้าด้วย คือเรางงทำได้ด้วยหรอ?
คำถามนะคะ
1.แฟนใหม่พ่อมีสิทธิเป็นผู้รับผลประโยชน์ได้รึเปล่าในเมื่อพ่อกับแม่เราไม่ได้หย่ากัน
2.เป็นไปได้ไหมที่แฟนใหม่ของพ่อกับตัวแทนประกันจะแอบกินใต้โต๊ะกันเพราะกันเราตากเรื่องนี้ตลอด
3.คัวแทนสามารถข่มขู่ลูกค้าแบบนี้ได้หรอ?
4.ตัวแทนไม่เคยสนใจมาเยี่ยมมาถามอาการเลยแถมมาด่าใส่ร้ายเราอิกทั้งที่เราเป็นลูกค้าคอมเพลนได้ไหม/ทางไหน
5. เราสามารถเปลี่ยนเป็นตัวแทนคนอื่นได้ไหม
6.กรณีที่เรากลัวว่าเมียใหม่กับตัวแทนไปกันจะรวมหัวกันหุบของที่เป็นชีอพ่อเรา เราสามารถให้พ่อเขียนมอบอำนาจให้เราได้ไหม
7.กรณีที่เขียนมอบอำนาจกันแล้ว สามารถระบุรวมๆเช่น ขอให้ นส. A ในฐานะลูกมีสิทธิในทรัพสิที่เป็นกรรมสิทธ์โดยชอบทั้งหมดของนานย B แต่เพียงผู้เดียวแบบนี้ได้ไหม
ขอคำตอบจากผู้รู้ด้วยคะ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้