ตอนก่อนหน้า
https://pantip.com/topic/36795162
https://pantip.com/topic/36815263
https://pantip.com/topic/36819926
https://pantip.com/topic/36829151
https://pantip.com/topic/36841457
https://pantip.com/topic/36850268
เหยื่อ
โดย...ล. วิลิศมาหรา
ไม่มีประโยชน์ที่จะแกล้งทำเป็นหลับ เพราะมันจะทำให้หาทางออกจากเขาวงกตแห่งความทรงจำนี้ไม่ได้ ถ้าหากต้องการรู้ข้อเท็จจริงก็มีแต่ต้องกล้าเผชิญหน้า
เอมิลี่พลิกตัวจากนอนตะแคงคุดคู้มาเป็นนอนหงาย ดวงตาสีเขียวมะกอกของเธอจ้องหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งวัยของอีกฝ่าย เธอพร้อมจะรับมือกับทุกเรื่องไม่ว่าดีหรือร้ายจากปากของมาร์ธาแล้ว
“คุณหมายความว่ายังไง” หญิงทั้งสองจ้องหน้ากัน เอมิลี่ถามช้าๆ อย่างระมัดระวัง
“เธอไม่ได้กินยาที่ฉันให้...ใช่ไหม” หล่อนเอ่ยถามออกมา น้ำเสียงอ่อนโยนไม่ใกล้เคียงกับการตำหนิ
“ฉันควรกินมันไหมล่ะคะ”
ย้อนถามหยั่งเชิงไปบ้าง ความรู้สึกบอกว่าหญิงสูงวัยคนนี้ไม่ธรรมดา อย่างน้อยๆ หล่อนก็มองออกว่าเธอแค่ทำท่า
เหมือน กินยาที่กำอยู่ในมือ
“ไม่ควร...”
และถึงแม้จะเตรียมใจไว้รับมือกับเรื่องร้ายแล้ว แต่เอมิลี่ก็ยังสะดุ้งน้อยๆ หญิงสาวนอนจ้องหญิงชราผู้ยืนอยู่ข้างเตียงนิ่งงัน ความเย็นเยียบเริ่มเกาะกุมหัวใจเธอทีละนิด กระทั่งรู้สึกเย็นวาบแล่นขึ้นๆ ลงๆ ไปตามกระดูกสันหลัง ไม่ชอบใจคำตอบนั้นของหล่อนเลย เพราะมันเท่ากับว่า หล่อนได้เปิดประตูแห่งความพรั่นพรึงให้เปิดกว้างออก รอต้อนรับแขกที่ไม่เต็มใจอย่างเธอเข้าให้แล้ว
“ทำไม” ถามเสียงแผ่วราวกระซิบ แทบจะเห็นสีหน้าหวาดกลัวของตัวเองขณะถาม เผลอกำเล็บที่จิกเข้าไปในฝ่ามือแน่น ความรู้สึกราวกำลังหลงเข้ามาอยู่ในแดนสนธยา ที่ไม่มีอะไรเป็นไปตามคาดคิด
“เพราะเธอจะมีสภาพเหมือนกับพอล”
หญิงสูงวัยโพล่งออกมา เอมิลี่สังเกตเห็นสีหน้าอิดโรยของหล่อนเมื่อเริ่มต้นเล่า ท่าทางของมาร์ธาคล้ายคนที่กำลังมีปัญหาหนักใจอะไรบางอย่าง เป็นปัญหาใหญ่ที่รุมเร้าหล่อนอยู่ และดูเหมือนมันจะร้อยรึงเอาสำนึกรับผิดชอบเข้าไว้ด้วย แต่ประโยคต่อมาของหล่อนก็อธิบายท่าทีแบบนั้นจนหมดจด ซึ่งทำให้เอมิลี่ถึงกับผวา
“ยานั่น...จะทำให้ความจำเธอเลอะเลือนถดถอยลงไปทุกวัน จนจำอะไรไม่ได้อีก นอกจากนั้น มันยังจะทำให้กล้ามเนื้อของเธออ่อนเปลี้ยไม่มีแรง พอลในระยะแรกก็เป็นแบบนั้น กระทั่งเขาได้รับการช่วยเหลือจากฉัน”
“คุณพูดถึงเรื่องอะไร” ย้อนถามเสียงแหลม หญิงสาวทำท่าจะผุดลุกขึ้นนั่ง แต่มาร์ธากดไหล่เธอไว้
“ใจเย็นๆ ที่รัก” หล่อนจุ๊ปาก
“เอมี่ เธอไม่กินยาเพราะเกิดนึกสงสัยขึ้นมาเองหรือเพราะลิซบอกล่ะ ฉันคิดว่าลิซที่กำลังปกปิดตัวเองจะต้องหาทางบอกเรื่องนี้กับเธอแน่ ใช่ไหม...ขอให้เล่ามาตามตรง ฉันอยู่ข้างเธอและเธอจำเป็นต้องไว้ใจฉัน”
แทนที่จะตอบคำถาม หญิงชรากลับตั้งคำถามใหม่ขึ้นมาเสียเอง เอมิลี่ขวัญเสียทันที ใบหน้าเธอซีดเผือด ความหวาดหวั่นจู่โจมเข้าครอบงำจิตใจอย่างเฉียบพลันทันใด เป็นความจริงหรือที่ยาของหมอผู้ซึ่งควรเป็นที่พึ่งของคนไข้ กลับไม่ใช่ยาเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วย หากแต่เป็นยาเพื่อทำร้ายเธอกับพอล แล้วเรื่องของลิซ่ากับพอลที่หล่อนบอกเธอก่อนหน้านั้นล่ะ
“ลิซ่า...” ครางชื่อลูกสาวอย่างแตกตื่น
“แล้วที่คุณบอกฉันเรื่องลิซกับพอลเมื่อครู่นี้ล่ะ ตกลงว่าพวกคุณหาลูกสาวฉันเจอแล้วจริงหรือเปล่า”
“ฉันโกหก ยังหาไม่เจอหรอก...” มาร์ธาส่ายหน้า รับว่าโกหกเต็มปากเต็มคำ แววตาที่มองมายังเธอเต็มไปด้วยความเห็นใจ
“แต่หาไม่เจอน่ะดีแล้วล่ะ รู้ไหม เพราะถ้าพวกเขาหาเจอ พวกเธอก็จะตกอยู่ในอันตราย”
อันตราย...อันตรายบ้าอะไรกัน หญิงผู้ซึ่งกำลังตื่นกลัวเบิ่งตาโต ย้อนถามคนที่กดไหล่เธออยู่เสียงดัง
“พวกเขาคือใคร ทำไมต้องวางยาพอลกับฉันด้วย แล้วพอลไม่ได้ความจำเสื่อมจากอุบัติเหตุรถชนจนต้องผ่าตัดสมองหรอกหรือ” คราวนี้มาร์ธาพยักหน้า
“ไม่มีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น พอลถูกจับตัวมาที่นี่หลายวันแล้ว และถูกมอมยาจากหมอวิลเลียม ก่อนจะได้รับยาซ้ำซากในเครื่องดื่มและอาหารจากฝีมือของจีนอีกที พอลฉลาด เขาเกิดสงสัยจึงไม่ยอมดื่มกินอะไรง่ายๆ ฉันช่วยเขาโดยพยายามให้กินพวกผลไม้ และแอบช่วยตอนเขาล้วงคออาเจียนเอาอาหารออกมา จนความจำของเขาพอฟื้นขึ้นมาบ้าง แต่พวกนั้นก็มีวิธีจัดการกับเขาจนหมดทางหนี เอมี่ ฟังให้ดีนะ พวกเขา...จีนกับคนในหมู่บ้านเป็นบุคคลอันตราย แต่ฉันไม่ได้เป็นพวกนั้น...เพียงแต่ต้องตกกะไดพลอยโจน”
มาร์ธาเล่าเสียงเบาเร็ว เหลือบตามองไปทางประตูบ่อยๆ หล่อนถามเธอซ้ำ
“บอกฉันได้หรือยังว่าทำไมเธอถึงไม่กินยา”
“คุณพูดถึงเรื่องอะไร ฉัน...ฉันไม่รู้...”
ปฏิเสธเอาไว้ก่อนเป็นดีที่สุด เพราะนับตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาในห้องนอนบ้านของคนอื่นที่ปราศจากผู้คน เธอพบว่าตัวเองตกอยู่ในสภาพสูญเสียความทรงจำ ก่อนจะไปพบกับข้อความประหลาดของลูกสาวที่หายตัวไปพร้อมอดีตสามีเข้า แล้วไหนจะคำพูดพลิกไปมาของมาร์ธา ผู้ที่บอกว่าเป็นป้าของจีน ภรรยาคนใหม่ของพอลที่เธอยังไม่เคยเห็นหน้าเลย
ซึ่งทีแรกหญิงชราก็พูดจาปกติดี บอกว่าหาตัวลูกสาวของเธอกับพอลพบแล้ว จีนกำลังไปรับตัวกลับมาจากบ้านหมอ แต่เมื่อรู้ว่าเธอไม่ได้กินยาของหมอวิลเลียมอะไรนั่น หล่อนกลับเล่าเรื่องพิลึกพิลั่นน่ากลัวให้ฟัง ซึ่งมันทำให้เอมิลี่ไม่ไว้ใจสถานการณ์ที่นี่อีกต่อไป
ฉันควรเชื่อผู้หญิงคนนี้ดีไหม...เอมิลี่ถามใจตัวเอง ณ ตอนนี้ยังจะมีใครให้เธอสามารถไว้ใจได้อีกบ้าง นอกเหนือจากผู้หญิงคนนี้ หญิงสาวรับรู้ถึงแรงกดที่หนักขึ้นของมือบนไหล่
“ฉันไม่แปลกใจหรอกที่เธอจะไม่เชื่อฉัน ถ้าอย่างนั้นลองพยายามนึกให้ออก นึกดูให้ดี เธอไม่ได้รับยาเข้าไปเพิ่ม ความจำจึงน่าจะเริ่มกลับมาบ้างแล้ว เอาล่ะ มองดูในห้องนี้สิ เธอเข้ามาพักอยู่กับลิซ่าตั้งแต่วันแรกที่มาถึง”
มาร์ธาคลายมือออกจากหัวไหล่ของหญิงสาวเมื่อเห็นเธอนิ่วหน้า ทำน้ำเสียงปลอบประโลม ก่อนพยักพเยิดให้เธอมองไปรอบๆ ห้อง คำพูดของมาร์ธากระตุ้นให้เอมิลี่อยากรู้ หญิงสาวมองตามแล้วพยายามเค้นสมองนึกอย่างหนัก จนปวดมึนศีรษะไปหมด และแล้วในชั่วขณะหนึ่งสมองก็เหมือนมีภาพราวฉายสไลด์ผ่านแวบเข้ามาเร็วๆ
...หนีไปเร็วเข้า เธอต้องหลอกให้พวกนั้นตามเธอไป ไม่ต้องห่วงทางนี้...
“มาร์ธา เป็นคุณเหรอ...คุณนั่นเอง”
(มีต่อ)
เหยื่อ...ตอนที่ 7
https://pantip.com/topic/36795162
https://pantip.com/topic/36815263
https://pantip.com/topic/36819926
https://pantip.com/topic/36829151
https://pantip.com/topic/36841457
https://pantip.com/topic/36850268
โดย...ล. วิลิศมาหรา
ไม่มีประโยชน์ที่จะแกล้งทำเป็นหลับ เพราะมันจะทำให้หาทางออกจากเขาวงกตแห่งความทรงจำนี้ไม่ได้ ถ้าหากต้องการรู้ข้อเท็จจริงก็มีแต่ต้องกล้าเผชิญหน้า
เอมิลี่พลิกตัวจากนอนตะแคงคุดคู้มาเป็นนอนหงาย ดวงตาสีเขียวมะกอกของเธอจ้องหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งวัยของอีกฝ่าย เธอพร้อมจะรับมือกับทุกเรื่องไม่ว่าดีหรือร้ายจากปากของมาร์ธาแล้ว
“คุณหมายความว่ายังไง” หญิงทั้งสองจ้องหน้ากัน เอมิลี่ถามช้าๆ อย่างระมัดระวัง
“เธอไม่ได้กินยาที่ฉันให้...ใช่ไหม” หล่อนเอ่ยถามออกมา น้ำเสียงอ่อนโยนไม่ใกล้เคียงกับการตำหนิ
“ฉันควรกินมันไหมล่ะคะ”
ย้อนถามหยั่งเชิงไปบ้าง ความรู้สึกบอกว่าหญิงสูงวัยคนนี้ไม่ธรรมดา อย่างน้อยๆ หล่อนก็มองออกว่าเธอแค่ทำท่า เหมือน กินยาที่กำอยู่ในมือ
“ไม่ควร...”
และถึงแม้จะเตรียมใจไว้รับมือกับเรื่องร้ายแล้ว แต่เอมิลี่ก็ยังสะดุ้งน้อยๆ หญิงสาวนอนจ้องหญิงชราผู้ยืนอยู่ข้างเตียงนิ่งงัน ความเย็นเยียบเริ่มเกาะกุมหัวใจเธอทีละนิด กระทั่งรู้สึกเย็นวาบแล่นขึ้นๆ ลงๆ ไปตามกระดูกสันหลัง ไม่ชอบใจคำตอบนั้นของหล่อนเลย เพราะมันเท่ากับว่า หล่อนได้เปิดประตูแห่งความพรั่นพรึงให้เปิดกว้างออก รอต้อนรับแขกที่ไม่เต็มใจอย่างเธอเข้าให้แล้ว
“ทำไม” ถามเสียงแผ่วราวกระซิบ แทบจะเห็นสีหน้าหวาดกลัวของตัวเองขณะถาม เผลอกำเล็บที่จิกเข้าไปในฝ่ามือแน่น ความรู้สึกราวกำลังหลงเข้ามาอยู่ในแดนสนธยา ที่ไม่มีอะไรเป็นไปตามคาดคิด
“เพราะเธอจะมีสภาพเหมือนกับพอล”
หญิงสูงวัยโพล่งออกมา เอมิลี่สังเกตเห็นสีหน้าอิดโรยของหล่อนเมื่อเริ่มต้นเล่า ท่าทางของมาร์ธาคล้ายคนที่กำลังมีปัญหาหนักใจอะไรบางอย่าง เป็นปัญหาใหญ่ที่รุมเร้าหล่อนอยู่ และดูเหมือนมันจะร้อยรึงเอาสำนึกรับผิดชอบเข้าไว้ด้วย แต่ประโยคต่อมาของหล่อนก็อธิบายท่าทีแบบนั้นจนหมดจด ซึ่งทำให้เอมิลี่ถึงกับผวา
“ยานั่น...จะทำให้ความจำเธอเลอะเลือนถดถอยลงไปทุกวัน จนจำอะไรไม่ได้อีก นอกจากนั้น มันยังจะทำให้กล้ามเนื้อของเธออ่อนเปลี้ยไม่มีแรง พอลในระยะแรกก็เป็นแบบนั้น กระทั่งเขาได้รับการช่วยเหลือจากฉัน”
“คุณพูดถึงเรื่องอะไร” ย้อนถามเสียงแหลม หญิงสาวทำท่าจะผุดลุกขึ้นนั่ง แต่มาร์ธากดไหล่เธอไว้
“ใจเย็นๆ ที่รัก” หล่อนจุ๊ปาก
“เอมี่ เธอไม่กินยาเพราะเกิดนึกสงสัยขึ้นมาเองหรือเพราะลิซบอกล่ะ ฉันคิดว่าลิซที่กำลังปกปิดตัวเองจะต้องหาทางบอกเรื่องนี้กับเธอแน่ ใช่ไหม...ขอให้เล่ามาตามตรง ฉันอยู่ข้างเธอและเธอจำเป็นต้องไว้ใจฉัน”
แทนที่จะตอบคำถาม หญิงชรากลับตั้งคำถามใหม่ขึ้นมาเสียเอง เอมิลี่ขวัญเสียทันที ใบหน้าเธอซีดเผือด ความหวาดหวั่นจู่โจมเข้าครอบงำจิตใจอย่างเฉียบพลันทันใด เป็นความจริงหรือที่ยาของหมอผู้ซึ่งควรเป็นที่พึ่งของคนไข้ กลับไม่ใช่ยาเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วย หากแต่เป็นยาเพื่อทำร้ายเธอกับพอล แล้วเรื่องของลิซ่ากับพอลที่หล่อนบอกเธอก่อนหน้านั้นล่ะ
“ลิซ่า...” ครางชื่อลูกสาวอย่างแตกตื่น
“แล้วที่คุณบอกฉันเรื่องลิซกับพอลเมื่อครู่นี้ล่ะ ตกลงว่าพวกคุณหาลูกสาวฉันเจอแล้วจริงหรือเปล่า”
“ฉันโกหก ยังหาไม่เจอหรอก...” มาร์ธาส่ายหน้า รับว่าโกหกเต็มปากเต็มคำ แววตาที่มองมายังเธอเต็มไปด้วยความเห็นใจ
“แต่หาไม่เจอน่ะดีแล้วล่ะ รู้ไหม เพราะถ้าพวกเขาหาเจอ พวกเธอก็จะตกอยู่ในอันตราย”
อันตราย...อันตรายบ้าอะไรกัน หญิงผู้ซึ่งกำลังตื่นกลัวเบิ่งตาโต ย้อนถามคนที่กดไหล่เธออยู่เสียงดัง
“พวกเขาคือใคร ทำไมต้องวางยาพอลกับฉันด้วย แล้วพอลไม่ได้ความจำเสื่อมจากอุบัติเหตุรถชนจนต้องผ่าตัดสมองหรอกหรือ” คราวนี้มาร์ธาพยักหน้า
“ไม่มีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น พอลถูกจับตัวมาที่นี่หลายวันแล้ว และถูกมอมยาจากหมอวิลเลียม ก่อนจะได้รับยาซ้ำซากในเครื่องดื่มและอาหารจากฝีมือของจีนอีกที พอลฉลาด เขาเกิดสงสัยจึงไม่ยอมดื่มกินอะไรง่ายๆ ฉันช่วยเขาโดยพยายามให้กินพวกผลไม้ และแอบช่วยตอนเขาล้วงคออาเจียนเอาอาหารออกมา จนความจำของเขาพอฟื้นขึ้นมาบ้าง แต่พวกนั้นก็มีวิธีจัดการกับเขาจนหมดทางหนี เอมี่ ฟังให้ดีนะ พวกเขา...จีนกับคนในหมู่บ้านเป็นบุคคลอันตราย แต่ฉันไม่ได้เป็นพวกนั้น...เพียงแต่ต้องตกกะไดพลอยโจน”
มาร์ธาเล่าเสียงเบาเร็ว เหลือบตามองไปทางประตูบ่อยๆ หล่อนถามเธอซ้ำ
“บอกฉันได้หรือยังว่าทำไมเธอถึงไม่กินยา”
“คุณพูดถึงเรื่องอะไร ฉัน...ฉันไม่รู้...”
ปฏิเสธเอาไว้ก่อนเป็นดีที่สุด เพราะนับตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาในห้องนอนบ้านของคนอื่นที่ปราศจากผู้คน เธอพบว่าตัวเองตกอยู่ในสภาพสูญเสียความทรงจำ ก่อนจะไปพบกับข้อความประหลาดของลูกสาวที่หายตัวไปพร้อมอดีตสามีเข้า แล้วไหนจะคำพูดพลิกไปมาของมาร์ธา ผู้ที่บอกว่าเป็นป้าของจีน ภรรยาคนใหม่ของพอลที่เธอยังไม่เคยเห็นหน้าเลย
ซึ่งทีแรกหญิงชราก็พูดจาปกติดี บอกว่าหาตัวลูกสาวของเธอกับพอลพบแล้ว จีนกำลังไปรับตัวกลับมาจากบ้านหมอ แต่เมื่อรู้ว่าเธอไม่ได้กินยาของหมอวิลเลียมอะไรนั่น หล่อนกลับเล่าเรื่องพิลึกพิลั่นน่ากลัวให้ฟัง ซึ่งมันทำให้เอมิลี่ไม่ไว้ใจสถานการณ์ที่นี่อีกต่อไป
ฉันควรเชื่อผู้หญิงคนนี้ดีไหม...เอมิลี่ถามใจตัวเอง ณ ตอนนี้ยังจะมีใครให้เธอสามารถไว้ใจได้อีกบ้าง นอกเหนือจากผู้หญิงคนนี้ หญิงสาวรับรู้ถึงแรงกดที่หนักขึ้นของมือบนไหล่
“ฉันไม่แปลกใจหรอกที่เธอจะไม่เชื่อฉัน ถ้าอย่างนั้นลองพยายามนึกให้ออก นึกดูให้ดี เธอไม่ได้รับยาเข้าไปเพิ่ม ความจำจึงน่าจะเริ่มกลับมาบ้างแล้ว เอาล่ะ มองดูในห้องนี้สิ เธอเข้ามาพักอยู่กับลิซ่าตั้งแต่วันแรกที่มาถึง”
มาร์ธาคลายมือออกจากหัวไหล่ของหญิงสาวเมื่อเห็นเธอนิ่วหน้า ทำน้ำเสียงปลอบประโลม ก่อนพยักพเยิดให้เธอมองไปรอบๆ ห้อง คำพูดของมาร์ธากระตุ้นให้เอมิลี่อยากรู้ หญิงสาวมองตามแล้วพยายามเค้นสมองนึกอย่างหนัก จนปวดมึนศีรษะไปหมด และแล้วในชั่วขณะหนึ่งสมองก็เหมือนมีภาพราวฉายสไลด์ผ่านแวบเข้ามาเร็วๆ
...หนีไปเร็วเข้า เธอต้องหลอกให้พวกนั้นตามเธอไป ไม่ต้องห่วงทางนี้...
“มาร์ธา เป็นคุณเหรอ...คุณนั่นเอง”
(มีต่อ)