เรียน ผู้สูงวัย คนรุ่นใหม่ วัยทำงาน หนุ่มๆ สาวๆ และน้องวัยรุ่น (โดยเฉพาะในภาคใต้) ทุกท่าน
ท่านใดที่กำลังหาหนทางสร้างความสุขสงบแก่จิตใจและร่างกายของตัวเองบ้างคะ
ฉันอยากเชิญชวนไปเข้าค่ายอบรมวิปัสสนากรรมฐานค่ะ
ในโครงการที่ชื่อว่า "พัฒนาจิตให้เกิดปัญญาและสันติสุข" ตามแนวทางของคุณแม่ ดร.สิริ กรินชัย
วันที่ 13-20 ตุลาคม 2560
ณ วัดคีรีวง อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช
อยากบอกว่า 7 คืน 8 วันในโครงการนี้สามารถสร้างสุขให้แก่จิตใจของเราได้อย่างมากเลยค่ะ
ตนเองเพิ่งเคยไปครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายนปีนี้ รู้สึกประทับใจมากจริงๆ
ถึงกับอยากชวนคนที่เรารักให้มีโอกาสได้สัมผัสสักครั้งหนึ่งในชีวิต
เพราะอะไรน่ะหรือคะ ?
ที่เคยเครียดกลับผ่อนคลาย ที่เคยคับแคบทางจิตก็กลับแผ่ขยาย
ที่เคยทุกข์ก็รู้จักการปล่อยวาง ที่เคยกลัวเคยกังวลก็รู้จักการรับมือกับความกลัวและกังวลนั้น
น่าสังเกตว่าคนส่วนใหญ่ที่ไปร่วมกิจกรรมนี้แล้ว มักจะเปลี่ยนพฤติกรรมมาเป็นด้านบวกได้ทุกคน ไม่มากก็น้อยค่ะ
หลายคนจึงถือโอกาสไปเพื่อขัดเกลาตนเอง
ไปเพื่อไถ่บาป
ไปเพื่อเปลื้องทุกข์
ไปเพื่อสะสมวันเวลาดีๆ แก่ชีวิตของเราเอง (และครอบครัว)
ซึ่งถือว่าตอบโจทย์และตรงตามความต้องการอย่างยิ่งค่ะ
วิทยากรเป็นผู้สูงวัยชื่อ อาจารย์นิศารัตน์ ลาวัณยากุล ท่านน่ารักมาก มีเมตตาอย่างยิ่ง
ไม่จำกัดวัยและเพศผู้เข้าร่วมกิจกรรมค่ะ ขอเพียงสามารถดูแลตนเองได้
หากชราภาพ ต้องนั่งรถเข็น หรือพยุงตัวด้วยไม้เท้า ก็ไปได้ค่ะ (ขอให้มีคนดูแลกรณีนั่งรถเข็น)
ที่สำคัญ ถ้าสูงวัยแล้วก็ไม่ต้องฝึกเข้มข้นเท่าคนหนุ่มสาว เหนื่อยก็พัก นั่งสงบจิตใจแทนการเดินจงกรมได้
หรือบางท่านจำเป็นต้องมีเด็กเล็กๆ พ่วงไปด้วย วิทยากรก็ไม่รังเกียจนะคะ
จะได้ถือโอกาสฝึกเด็กน้อยไปด้วยค่ะ
มีอาหารที่ย่อยง่ายบริการวันละ 3 มื้อ พร้อมอาหารว่าง เครื่องดื่มร้อน-เย็น ตลอดทั้ง 7 คืน 8 วัน
ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ นอกจากการบริจาคใส่ขันทำบุญร่วมกันตามศรัทธา
แต่ที่ต้องยึดถือเป็นระเบียบเข้มก็คือ
1-สวมชุดขาวที่สุภาพ ไม่บางเกินไปจนเห็นชุดชั้นใน
2-งดใช้เครื่องมือสื่อสารทุกชนิดตลอดการอบรม
3-งดพูดคุยกัน (แต่สื่อสารกับวิทยากรได้)
กิจกรรมที่ได้ปฏิบัติคือ
การฝึกเดินจงกรม สวดมนต์เช้า-เย็น
การฟังบรรยายธรรมที่เข้าใจง่าย
การแลกเปลี่ยนความเห็นในการปฏิบัติร่วมกับวิทยากร
กิจกรรมกราบพระในบ้าน (สอนเรื่องความกตัญญู)
ฉันได้รับทราบข้อมูลมาว่าที่วัดคีรีวง มีทำเลที่ตั้งที่งดงาม สงบ ร่มรื่นมาก (อยู่ใกล้น้ำตกค่ะ)
เหมาะแก่การฝึกปฏิบัติอย่างยิ่งค่ะ
ท่านใดสนใจ โปรดโทรติดต่อวิทยากรได้เลยนะคะ
อ.นิศารัตน์ 08-9892-2612
หรือท่านใดมีคำถาม ก็สามารถสอบถาม จขกท มาได้ทั้งหน้าไมค์และหลังไมค์ค่ะ
หมายเหตุ--รอบนี้ ท่านอื่นที่อยู่ในภูมิภาคอื่นและมีความสนใจก็สามารถไปร่วมกิจกรรมได้ค่ะ
เพียงแต่ต้องเดินทางไป-กลับด้วยตนเอง
ข่าวดีสำหรับคนภาคกลาง ในปีหน้า (2561) จะมีค่ายนี้อีก 2 รอบค่ะ ช่วงเดือนเมษายน กับสิงหาคม
จขกท จะมานำเสนอข่าวคืบหน้าให้ทราบนะคะ
หมายเหตุ 2-หมู่บ้านคีรีวงที่ฉันเคยทราบ เป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็งสามัคคี และมีการพัฒนาด้วยวิถีการพึ่งตนเองที่โดดเด่น
เคยประสบวาตภัยครั้งใหญ่เมื่อปี 2535 (พายุไต้ฝุ่นเกย์) ทำลายแหล่งที่อยู่และที่ทำกินจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม
แต่กลับฟื้นฟูขึ้นมาและพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ใหม่อย่างน่าทึ่งค่ะ
เชิญชวนพี่น้องชาวใต้เข้าค่ายวิปัสสนาเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตค่ะ
ท่านใดที่กำลังหาหนทางสร้างความสุขสงบแก่จิตใจและร่างกายของตัวเองบ้างคะ
ฉันอยากเชิญชวนไปเข้าค่ายอบรมวิปัสสนากรรมฐานค่ะ
ในโครงการที่ชื่อว่า "พัฒนาจิตให้เกิดปัญญาและสันติสุข" ตามแนวทางของคุณแม่ ดร.สิริ กรินชัย
วันที่ 13-20 ตุลาคม 2560
ณ วัดคีรีวง อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช
อยากบอกว่า 7 คืน 8 วันในโครงการนี้สามารถสร้างสุขให้แก่จิตใจของเราได้อย่างมากเลยค่ะ
ตนเองเพิ่งเคยไปครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายนปีนี้ รู้สึกประทับใจมากจริงๆ
ถึงกับอยากชวนคนที่เรารักให้มีโอกาสได้สัมผัสสักครั้งหนึ่งในชีวิต
เพราะอะไรน่ะหรือคะ ?
ที่เคยเครียดกลับผ่อนคลาย ที่เคยคับแคบทางจิตก็กลับแผ่ขยาย
ที่เคยทุกข์ก็รู้จักการปล่อยวาง ที่เคยกลัวเคยกังวลก็รู้จักการรับมือกับความกลัวและกังวลนั้น
น่าสังเกตว่าคนส่วนใหญ่ที่ไปร่วมกิจกรรมนี้แล้ว มักจะเปลี่ยนพฤติกรรมมาเป็นด้านบวกได้ทุกคน ไม่มากก็น้อยค่ะ
หลายคนจึงถือโอกาสไปเพื่อขัดเกลาตนเอง
ไปเพื่อไถ่บาป
ไปเพื่อเปลื้องทุกข์
ไปเพื่อสะสมวันเวลาดีๆ แก่ชีวิตของเราเอง (และครอบครัว)
ซึ่งถือว่าตอบโจทย์และตรงตามความต้องการอย่างยิ่งค่ะ
วิทยากรเป็นผู้สูงวัยชื่อ อาจารย์นิศารัตน์ ลาวัณยากุล ท่านน่ารักมาก มีเมตตาอย่างยิ่ง
ไม่จำกัดวัยและเพศผู้เข้าร่วมกิจกรรมค่ะ ขอเพียงสามารถดูแลตนเองได้
หากชราภาพ ต้องนั่งรถเข็น หรือพยุงตัวด้วยไม้เท้า ก็ไปได้ค่ะ (ขอให้มีคนดูแลกรณีนั่งรถเข็น)
ที่สำคัญ ถ้าสูงวัยแล้วก็ไม่ต้องฝึกเข้มข้นเท่าคนหนุ่มสาว เหนื่อยก็พัก นั่งสงบจิตใจแทนการเดินจงกรมได้
หรือบางท่านจำเป็นต้องมีเด็กเล็กๆ พ่วงไปด้วย วิทยากรก็ไม่รังเกียจนะคะ
จะได้ถือโอกาสฝึกเด็กน้อยไปด้วยค่ะ
มีอาหารที่ย่อยง่ายบริการวันละ 3 มื้อ พร้อมอาหารว่าง เครื่องดื่มร้อน-เย็น ตลอดทั้ง 7 คืน 8 วัน
ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ นอกจากการบริจาคใส่ขันทำบุญร่วมกันตามศรัทธา
แต่ที่ต้องยึดถือเป็นระเบียบเข้มก็คือ
1-สวมชุดขาวที่สุภาพ ไม่บางเกินไปจนเห็นชุดชั้นใน
2-งดใช้เครื่องมือสื่อสารทุกชนิดตลอดการอบรม
3-งดพูดคุยกัน (แต่สื่อสารกับวิทยากรได้)
กิจกรรมที่ได้ปฏิบัติคือ
การฝึกเดินจงกรม สวดมนต์เช้า-เย็น
การฟังบรรยายธรรมที่เข้าใจง่าย
การแลกเปลี่ยนความเห็นในการปฏิบัติร่วมกับวิทยากร
กิจกรรมกราบพระในบ้าน (สอนเรื่องความกตัญญู)
ฉันได้รับทราบข้อมูลมาว่าที่วัดคีรีวง มีทำเลที่ตั้งที่งดงาม สงบ ร่มรื่นมาก (อยู่ใกล้น้ำตกค่ะ)
เหมาะแก่การฝึกปฏิบัติอย่างยิ่งค่ะ
ท่านใดสนใจ โปรดโทรติดต่อวิทยากรได้เลยนะคะ
อ.นิศารัตน์ 08-9892-2612
หรือท่านใดมีคำถาม ก็สามารถสอบถาม จขกท มาได้ทั้งหน้าไมค์และหลังไมค์ค่ะ
หมายเหตุ--รอบนี้ ท่านอื่นที่อยู่ในภูมิภาคอื่นและมีความสนใจก็สามารถไปร่วมกิจกรรมได้ค่ะ
เพียงแต่ต้องเดินทางไป-กลับด้วยตนเอง
ข่าวดีสำหรับคนภาคกลาง ในปีหน้า (2561) จะมีค่ายนี้อีก 2 รอบค่ะ ช่วงเดือนเมษายน กับสิงหาคม
จขกท จะมานำเสนอข่าวคืบหน้าให้ทราบนะคะ
หมายเหตุ 2-หมู่บ้านคีรีวงที่ฉันเคยทราบ เป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็งสามัคคี และมีการพัฒนาด้วยวิถีการพึ่งตนเองที่โดดเด่น
เคยประสบวาตภัยครั้งใหญ่เมื่อปี 2535 (พายุไต้ฝุ่นเกย์) ทำลายแหล่งที่อยู่และที่ทำกินจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม
แต่กลับฟื้นฟูขึ้นมาและพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ใหม่อย่างน่าทึ่งค่ะ