เนื่องจากเป็นคนตั้งใจทำอะไรแล้ว จะเหมือนมีสมาธิดีจดจ่อทำแต่สิ่งนั้นๆ จนไม่ได้ยินเสียงคนรอบข้าง แม้แต่เสียงมือถือตัวเองที่วางอยู่ข้างหน้า ( จริงๆคือรู้ว่ามีเสียงอยู่รอบตัวแต่ไม่สนใจ และไม่ได้แปลความหมายของเสียงที่ได้ยิน) ดังนั้นเวลาใครเรียกอะไรจะไม่ได้ยิน และไม่หันไปตามเสียงเรียก จนกว่าจะมีคนมาสะกิด หรือตะโกนหลายๆครั้งจนกว่าจะรู้ตัว
ปัญหาคือ ทุกคนจะคิดว่าเราหูตึง จนทำให้เราติดนิสัยคิดและบอกกับตัวเองว่า เราเป็นคนฟังอะไรไม่ค่อยได้ยินนะ เราต้องถามซ้ำว่า " อะไรนะ" ทั้งๆที่ฟังครั้งแรกเราก้ได้ยิน แต่สมองเราไม่สามารถแปลความหมายได้ทันทีที่ฟัง มันจะช้าไปชั่วอึดใจ จนทุกคนคิดว่าเราแกล้งบ้าง หรือไม่ก็ เป็นคนไม่มีสติอยู่กะตัวบ้าง
พยายามฝึกนั่งสมาธิ แต่ทำได้ไม่นาน มันฟุ้งซ่าน และด้วยมีภาระหน้าที่การงานที่ทำกลางวัน และต้องคอยดูลูกที่ยังเล็กที่คอยร้องกวนทั้งกลางคืนทำให้เป็นข้ออ้างที่ไม่สามารถนั่งทำสมาธิได้
ตอนนี้เลยทำให้เรากลายเป็นคนไม่อยากคุยกะใคร หลีกเลี่ยงการพูดคุย ไม่มั่นใจในการพูดคุย เพราะโดนเด็กที่มีอายุน้อยกว่าที่ทำงานเกือบ15ปี ล้อว่าหูตึง โดนหัวหน้างานมองว่าเป็นคนไม่น่าจะรับผิดชอบอะไรได้
สมาชิกท่านใดมีอาการเช่นนี้บ้างคะ มีใครแนะนำอะไรได้บ้างคะ ว่าเราเป็นคนที่มีสมาธิดีหรือเป็นคนไม่มีสติกันแน่คะ
สมาธิดี หรือ ไม่มีสติ
ปัญหาคือ ทุกคนจะคิดว่าเราหูตึง จนทำให้เราติดนิสัยคิดและบอกกับตัวเองว่า เราเป็นคนฟังอะไรไม่ค่อยได้ยินนะ เราต้องถามซ้ำว่า " อะไรนะ" ทั้งๆที่ฟังครั้งแรกเราก้ได้ยิน แต่สมองเราไม่สามารถแปลความหมายได้ทันทีที่ฟัง มันจะช้าไปชั่วอึดใจ จนทุกคนคิดว่าเราแกล้งบ้าง หรือไม่ก็ เป็นคนไม่มีสติอยู่กะตัวบ้าง
พยายามฝึกนั่งสมาธิ แต่ทำได้ไม่นาน มันฟุ้งซ่าน และด้วยมีภาระหน้าที่การงานที่ทำกลางวัน และต้องคอยดูลูกที่ยังเล็กที่คอยร้องกวนทั้งกลางคืนทำให้เป็นข้ออ้างที่ไม่สามารถนั่งทำสมาธิได้
ตอนนี้เลยทำให้เรากลายเป็นคนไม่อยากคุยกะใคร หลีกเลี่ยงการพูดคุย ไม่มั่นใจในการพูดคุย เพราะโดนเด็กที่มีอายุน้อยกว่าที่ทำงานเกือบ15ปี ล้อว่าหูตึง โดนหัวหน้างานมองว่าเป็นคนไม่น่าจะรับผิดชอบอะไรได้
สมาชิกท่านใดมีอาการเช่นนี้บ้างคะ มีใครแนะนำอะไรได้บ้างคะ ว่าเราเป็นคนที่มีสมาธิดีหรือเป็นคนไม่มีสติกันแน่คะ