วันนี้ผมบอกลูกว่า...เวลาดิวงานกับใครให้ดูว่าอำนาจต่อรองอยู่ที่ใคร...อยู่ที่เราหรืออยู่ที่เค้า"
หากอยู่ที่เราก็ให้เพิ่มข้อเสนอที่คิดว่าเราควรจะได้...
แต่หากเราคิดว่าอำนาจต่อรองอยู่กับเค้า ให้เราดึงเวลาในการต่อรอง..และ..หาวิธีพูดเพื่อให้เค้าลดเงื่อนไขลง..
ในการจะทำสิ่งใดเรามักพูดถึงโอกาศว่าเมื่อไรโอกาศจะมาและมาแล้วจะทำยังไง..???
แต่หากพูดถึงความสำเร็จจริงๆนั้นผมคิดว่า..อยู่ที่การสร้างอำนาจการต่อรอง...
แทบทุกการวงการหากมีการต่อรองเพื่อผลประโยชน์จะต้องมีคนได้กับคนเสียเสมอ...
และการดิวนั้นอยู่ที่ว่า อำนาจการต่อรองอยู่ที่ใคร.???
เรามักจะเห็นเสมอๆว่า..ในบ้านเราผู้กู้มักจะเสียเปรียบผู้ให้กู้..เช่นเราไปกู้เงินแบงค์..
ส่วนใหญ่อำนาจการต่อรองจะอยู่กับแบงค์...เงื่อนไขต่างๆมักเป็นแบงค์กำหนด..
มีน้อยรายที่อำนาจการต่อรองไปอยู่ที่ผู้กู้..ผู้กู้สามารถกำหนดเงื่อนไขได้..
ซึ่งกรณีนี้จะเกิดเมื่อเศรษฐกิจไม่ค่อยดีที่แบงค์หาผู้กู้ยากต้องเลือกปล่อยจริงๆ..
การกำหนดดอกเบี้ย และค่าปรับต่างๆนั้นแบงค์มักจะถูกต่อรองอย่างมาก..
ดังนั้นบางครั้งการต่อรองกับแบงค์ต้องสร้างความรู้สึกว่าเราไม่จำเป็นกับเงินกู้ก่อนนี้..
เพราะถ้าแบงค์รู้ว่าเราอยากได้มาก..อำนาจการต่อรองจะไปอยู่กับแบงค์ทันที...
แม้แต่การตั้งรัฐบาลที่ผ่านๆมา..
พรรคไหนที่มีเสียง สส มากกว่าก็จะได้สิทธิในการตั้งรัฐบาล..
แต่หากเสียงไม่มากจนชี้ขาดได้ก็ต้องไปง้อพรรคเล็กๆมาร่วมรัฐบาล..
อำนาจการต่อรองก็มักไปอยู่ที่พรรคเล็กเหล่านั้นที่สามารถต่อรองมาคุมกระทรวงใหญ่ๆได้...
ในชีวิตผมที่ผ่านมา..ผ่านการดิวงานมามากมาย..จึงมองเห็นว่าการสร้าง"อนาจการต่อรองนั้น"..สำคัญอย่างยิ่ง...
ในวงการธุรกิจการที่จะสร้างอำนาจการต่อรองนั้นต้องเริ่มจากกการสร้างเครดิตก่อน...
ให้วงการค้าเชื่อถือในเครดิตของเราคือพูดคำไหนคำนั้น..ก็จะสามารถทำให้ใครๆก็อยากค้าขายด้วย...
วันนี้อาจจะไม่มีธรรมะมาฝาก..
แต่คิดว่าข้อคิดนี้อาจจะมีประโยชน์สำหรับเพื่อนๆี่เริ่มทำธุรกิจครับ...
คนอุบล
"อำนาจการต่อรอง"กลยุทธของผู้ชนะ.../คนอุบล
หากอยู่ที่เราก็ให้เพิ่มข้อเสนอที่คิดว่าเราควรจะได้...
แต่หากเราคิดว่าอำนาจต่อรองอยู่กับเค้า ให้เราดึงเวลาในการต่อรอง..และ..หาวิธีพูดเพื่อให้เค้าลดเงื่อนไขลง..
ในการจะทำสิ่งใดเรามักพูดถึงโอกาศว่าเมื่อไรโอกาศจะมาและมาแล้วจะทำยังไง..???
แต่หากพูดถึงความสำเร็จจริงๆนั้นผมคิดว่า..อยู่ที่การสร้างอำนาจการต่อรอง...
แทบทุกการวงการหากมีการต่อรองเพื่อผลประโยชน์จะต้องมีคนได้กับคนเสียเสมอ...
และการดิวนั้นอยู่ที่ว่า อำนาจการต่อรองอยู่ที่ใคร.???
เรามักจะเห็นเสมอๆว่า..ในบ้านเราผู้กู้มักจะเสียเปรียบผู้ให้กู้..เช่นเราไปกู้เงินแบงค์..
ส่วนใหญ่อำนาจการต่อรองจะอยู่กับแบงค์...เงื่อนไขต่างๆมักเป็นแบงค์กำหนด..
มีน้อยรายที่อำนาจการต่อรองไปอยู่ที่ผู้กู้..ผู้กู้สามารถกำหนดเงื่อนไขได้..
ซึ่งกรณีนี้จะเกิดเมื่อเศรษฐกิจไม่ค่อยดีที่แบงค์หาผู้กู้ยากต้องเลือกปล่อยจริงๆ..
การกำหนดดอกเบี้ย และค่าปรับต่างๆนั้นแบงค์มักจะถูกต่อรองอย่างมาก..
ดังนั้นบางครั้งการต่อรองกับแบงค์ต้องสร้างความรู้สึกว่าเราไม่จำเป็นกับเงินกู้ก่อนนี้..
เพราะถ้าแบงค์รู้ว่าเราอยากได้มาก..อำนาจการต่อรองจะไปอยู่กับแบงค์ทันที...
แม้แต่การตั้งรัฐบาลที่ผ่านๆมา..
พรรคไหนที่มีเสียง สส มากกว่าก็จะได้สิทธิในการตั้งรัฐบาล..
แต่หากเสียงไม่มากจนชี้ขาดได้ก็ต้องไปง้อพรรคเล็กๆมาร่วมรัฐบาล..
อำนาจการต่อรองก็มักไปอยู่ที่พรรคเล็กเหล่านั้นที่สามารถต่อรองมาคุมกระทรวงใหญ่ๆได้...
ในชีวิตผมที่ผ่านมา..ผ่านการดิวงานมามากมาย..จึงมองเห็นว่าการสร้าง"อนาจการต่อรองนั้น"..สำคัญอย่างยิ่ง...
ในวงการธุรกิจการที่จะสร้างอำนาจการต่อรองนั้นต้องเริ่มจากกการสร้างเครดิตก่อน...
ให้วงการค้าเชื่อถือในเครดิตของเราคือพูดคำไหนคำนั้น..ก็จะสามารถทำให้ใครๆก็อยากค้าขายด้วย...
วันนี้อาจจะไม่มีธรรมะมาฝาก..
แต่คิดว่าข้อคิดนี้อาจจะมีประโยชน์สำหรับเพื่อนๆี่เริ่มทำธุรกิจครับ...
คนอุบล