ลดน้ำหนัก หรือ ลดอะไร

     ผมเชื่อว่าทุกคนลึกๆแล้วอยากสุขภาพดี   อยากหุ่นดี กันทั้งนั้น แต่บางที่ไม่รู้จะทำอย่างไร หรือ ขี้เกียจทำ ผมเองก็เคยวนเวียนอยู่ในจุดนั้นเช่นกัน  และ ลุกขึ้นมาดูแลตัวเอง ดังนั้นผมจึงอยากแชร์สิ่งที่ได้เรียนรู้และลงมือทำมาเพื่อประโยชน์ต่อผู้อื่นต่อไป  

    ลดน้ำหนัก หลายคนอยากทำแต่ทำแบบไม่ถูก และ บางครั้งก็ทำร้ายร่างกายตัวเองโดยไม่รู้ตัว ถ้าเรารู้เราจะทำได้อย่างถูกต้องและยั่งยืน  

น้ำหนัก ในร่างกาย ประกอบด้วย ปัจจัยหลัก 4ประการ
1.กล้ามเนื้อ
2.อวัยวะ
3.ไขมัน
4.ของเหลวในร่างกาย (เลือด น้ำ)

          ประเด็นคือ จะลดอะไร เพราะแต่ละอย่างวิธีลดไม่เหมือนกัน แต่ปกติเราคงมุ่งเป้าไปลดไขมัน แน่ๆ เพราะคงไม่มีใครชื่นชอบมัน เพราะ ฉะนั้น เรามาเจาะจง วิธีลดไขมันกันเลยดีกว่า  ผมมีเส้นทางให้เลือกอยู่ 2 วิธี แต่ก่อนจะเข้าสู่วิธีเราต้องรู้จักไอ้สิ่งที่เราเอาเข้าก่อน  ผมเปรียบเทียบให้เห็นภาพนะครับ พลังงานเหมือนน้ำในเขื่อน มีน้ำเข้า กับ น้ำออกใช่ไหมหล่ะ น้ำเข้าเขื่อน คือ สิ่งที่เรากินเข้าไปในร่างกาย น้ำออกจากเขื่อน คือ เราเผาผลานพลังงาน  น้ำในเขื่อนคือพลังงานสะสมในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะไขมัน

       คุณสังเกตเขื่อนซิช่วงไหนฝนตกหนักพายุเข้า น้ำในเขื่อนก็จะเยอะ และหลายคนก็มักจะทำให้เกิดพายุอยู่ตลอดเวลานะ 55 เพราะฉะนั้น การลดน้ำในเขื่อน ก็คือหลีกเลี่ยงให้ฝนตกหนัก และ ปล่อยน้ำออกอยู่เสมอ แต่บอกเลยว่า คุณไม่มีทางปล่อยน้ำในเขื่อนของคุณได้หมดหรอก และอย่าไปทำเลย จริงๆไม่ดีต่อสุขภาพด้วยหละ ให้มีน้ำพอดีดีกว่า

การคุมน้ำในเขื่อน
       ควบคุมอาหาร ไม่ใช่ อดอาหาร ไม่เหมือนกันนะระหว่างควบคุม กับ อด เพราะควบคุมคือยังกินอยู่แต่กินแบบควบคุม กับ อด คือไม่กินเลย สองแบบนี้ให้ผลไม่เหมือนกันนะ

       หลายคนอาจบอก การอด เห็นผลเร็วกว่า ก็ใช่แต่แค่ระยะสั้นนะ ระยะยาวนี่เสียหายและมีปัญหา เพราะร่างกายคนเราเก่งนะ เราปรับตัวเพื่อความอยู่รอด เราอด ร่างกายจะตีความหมายว่าเฮ้ย เราได้รับพลังงานน้อยลง เพราะฉนั้นเราต้องลดการใช้พลังงานแล้วหละ คุณเคยเห็นเขาปล่อยน้ำออกจากเขื่อนจนแห้งไหมละ เขาไม่ทำเพราะเขารู้ว่าเขื่อนแห้งไม่ได้   แห้งไปเขื่อนพังแน่ ร่างกายก็เหมือนกัน นะ  เขาก็รู้ว่าเราอด เขาจึงลดการใช้พลังงานลง นั่นหละหายนะแล้ว ซึ่งจะส่งผลร้ายตามมา ที่หลายคนรู้จักกันในนาม โยโย่เอฟเฟ็ก นั่นหละ  เพราะฉะนั้นคุมปริมาณน้ำเข้าเขื่อน  ดีกว่า ไม่ให้มีน้ำเข้าเขื่อนนะครับ

เอาหละมาดูวิธีลดน้ำในเขื่อนดีกว่า
วิธีที่ 1. ลดสะสมน้ำใหม่ และ ปล่อยน้ำเก่าออกไป

เราต้องแยกประเด็นออกจากกันก่อน  คือ ลดการสะสม กับ ปล่อยของเก่าออก นะครับ
       ลดการสะสม คือ การใส่ของดีเข้าไป ในจำนวนที่พอเหมาะ  คำว่าของดีผมเชื่อว่าเราคงรู้อยู่แล้วอะไรที่ดีมีประโยชน์ อะไรที่ไม่ดี กินแล้วไม่มีประโยชน์ สำคัญคือให้ความสำคัญหรือไม่  และเรามักใช้คำนี้ คือ “เอาน่าเกิดมาชาติเดียว”  555 ไม่อยากบอกว่าผมก็เคยใช้  จุดสำคัญของคำนี้คือ ถ้าคุณกินจนพึงพอใจแล้วคุณตายเลย ก็ไม่มีปัญหา  แต่ ปัญหาคือ ดันไม่ตายทันทีนี่สิ แต่ดันเป็นโรคสารพัดให้เราทรมาน ตอนร่างกายเราเริ่มเสื่อมสภาพนี่สิ มันทรมานจริงๆ

ก่อนลดการสะสม มาดูวิธีการสะสมกันหน่อย เพื่อความเข้าใจ

         พอเรากินเข้าไป อันดับแรก เขาจะเลือกใช้พลังงานใหม่ที่เข้าก่อน เพราะมันหยิบใช้ง่ายสุด แต่เมื่อหยิบแล้วเหลือ สิ่งที่เรากินจะเปลี่ยนแปลงไปเป็น พลังงานฉุกเฉินเพื่อว่าเราต้องการเบิกฉุกเฉิน เช่น เผื่ออยู่ดีๆเกิดหมาวิ่งไล่กัด เราจะได้มีพลังงานฉุกเฉินเพื่อการวิ่ง  คราวนี้พอไม่ได้ใช้สะแล้ว เขาก็จะนำพลังงานที่เหลือจากการใช้ มาเปลี่ยนเป็นพลังงานระยะยาว แทนอันนี้สะสมเพื่ออนาคต 55 จริงๆไม่ต้องห่วงกุมากก็ได้  ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่าร่างกายสะสมพลังงานไว้ที่ไหนบ้างและ เวลาใช้เขาดึงมาใช้ยังไง

     จุดที่ 1 พลังงานพื้นฐาน   ง่ายๆก็คือพลังงานที่เขาต้องใช้ในการดำรงชีวิตปกตินั่นละ ใช้คิด เดิน นั่ง ขับเคลื่อนอวัยวะต่างๆซ่อมแซมอวัยวะต่างๆ ใน 1วัน  พลังงานนี้ได้มาจากการกินปกติของเรา ต่อให้เรานอนเฉยๆหายใจอย่างเดียวก็ต้องใช้พลังงาน เพียงแต่ใช้น้อยแค่นั้นเอง

    จุดที่ 2 พลังงานฉุกเฉิน คือ พลังงานที่เขาเลือกที่จะสะสมไว้เผื่อยามฉุกเฉิน และต้องการเบิกใช้ทันทีทันได จะถูกสะสม อยู่ในตับ กล้ามเนื้อ อะไรพวกนี้  

    จุดที่ 3 พลังงานระยะยาว คือ ไขมันที่เรารู้จักดี อันนี้สะสมไว้เพื่อการเอาชีวิตรอดระยะยาว เบิกมาใช้ยาก แต่สะสมง่าย 55

      มาถึงจุดนี้เรารู้แล้วว่าเขาสะสมพลังงานไว้ที่ไหนบ้าง เราก็ถึงเวลาที่จะดึงมันออกมาใช้แล้ว ว่าแต่แล้วอยากถอนมาใช้ทำไงดี  ก็ใช้พลังงานให้เยอะซิ  เออหว่ะ ก็ไม่เห็นยากนะ  แล้ว ทำไงหละ  ก็ออกกำลังกายไง แต่ออกแบบไหนถึงจะเหมาะกับเป้าหมายเราหละ

        เพิ่มการเผาผลาญพลังงาน   

อันนี้เป็นภารกิจหลายคนร้องยี้เลย จึงมักจะเลือกทางที่ง่ายกว่าคือ งดการเติมเข้า หนักหน่อยก็อาศัยยาซะเลย(อันนี้ทำร้ายสุขภาพด้วย) ซึ่งก็ได้ผลนะ แต่ไม่ยั่งยืน ได้แค่ชั่วคราวและในระดับหนึ่ง ซึ่งผมเห็นมานักต่อนักแล้ว ผมเองก็เป็น ถึงได้มาเล่าให้ฟังนี่ไง 55  

เอาหละเรามาดูการเผาผลาญด้วยการออกกำลังกายดีกว่าว่าทำอย่างไรได้บ้าง  เพราะแต่ละอย่างได้ผลไม่เหมือนกัน นะจะบอกให้ แต่สิ่งที่จะได้ผลปลายทางเดียวกันคือ เมื่อเลือกการเผาผลาญด้วยการออกกำลังกายอย่างเหมาะสมแล้ว คุณจะมีสุขภาพดีขึ้นแน่นอน ข้าพเจ้าขอเอาคอการันตี

เดิน วิ่งเหยาะๆ  ปั่นจักรยานแบบชิวๆ ว่ายน้ำขิวๆ แบบพอเหนื่อย  ไม่ใช่ชิลแบบไม่เหนื่อยนะครับ
>  ประมาณ20นาทีแรก พลังงานพื้นฐาน  หลังจาก ประมาณ20นาทีไป เตรียมถอนพลังงานระยะยาวมาได้

วิ่งระดับความเร็วปานกลาง  ปั่นจักรยานความเร็วปานกลาง   ว่ายน้ำ การเวทเทรนนิ่งแบบคาดิโอ้
>  20นาทีแรก พลังงานพื้นฐาน  หลังจาก ประมาณ20นาที   ไป ถอนพลังงานฉุกเฉิน50%  + ถอนพลังงานระยะยาว50%

วิ่งระดับความเร็วสูง  ปั่นจักรยานความเร็วสูง   ชกมวย การเวทเทรนนิ่งคาดิโอ้แบบกระชากอัตราการเต้นหัวใจแบบเหนื่อยใจจะขาด
>  20นาทีแรก พลังงานพื้นฐาน  หลังจาก ประมาณ20นาที   ไป ถอนพลังงานฉุกเฉิน80% + ถอนพลังงานระยะยาว20%

ตัวเลขเป็นตัวเลขประมาณเพื่อให้เห็นภาพนะครับ ถ้าต้องการแบบทฤษฤีเปะลองศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ

อยากถอนของสะสมออกเยอะ ก็ต้องถอนอย่างสม่ำเสมอ เพราะเราก็สะสมของใหม่ทุกวันเหมือนกันเนอะ

วิธีที่ 2. ลดสะสมของใหม่ + เผาของเก่ามันออกไป + สร้างเตาเผาพลังงานเพิ่ม
      ก็ทำแบบที่ 1 บวกกับการสร้างกล้ามเนื้อเพิ่มเติม เพราะถ้าเรามองเขื่อน กล้ามเนื้อเสมือนเครื่องปั่นไฟฟ้าพลังน้ำ เมื่อเครื่องปั่นไฟเยอะขึ้นก็ต้องการน้ำมาปั่นเยอะขึ้น เช่นเดียวกัน กล้ามเนื้อเยอะขึ้นก็ต้องการพลังงานเยอะขึ้นด้วย แต่อย่าเติมเยอะขึ้นแล้วกัน ให้เติมให้เหมาะสม อันนี้แนะนำให้ปรึกษาหรือหาข้อมูลเพิ่มเติมนะ อยากสุขภาพดีต้องทำการบ้านด้วยนะ จะบอกให้


ผมเลือกใช้วิธีที่2ครับ ส่วนใครยังมีข้ออ้างต่างๆนาๆกับตัวเองก็ตัวใครตัวมันนะครับ เรื่องนี้รู้อย่างเดียวไม่ได้ สำคัญต้องลงมือทำเท่านั้นถึงจะเป็นผล

ด้วยความปรารถนาดี จาก  นายหนึ่ง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่