ขอคำปรึกษาด้วยครับ..เกี่ยวกับอาการ ที่ไม่แน่ว่าอาจเป็นโรคหัวใจ

รบกวนขอคำปรึกษาหน่อยครับ ถ้าท่านใดมีประสบการณ์หรือพอจะชี้แนะได้จะขอบพระคุณมากเลยครับ
ยาวหน่อยนะครับ เพื่อจะได้เข้าใจรายละเอียด อาการ และความเป็นไประหว่างที่ผมรักษาตัว...

ปัจจุบันผมอายุ 39 ปี ครับ ไม่เคยเจ็บป่วยหนักจนต้องเข้า รพ.เลยซักครั้ง

พฤติกรรมส่วนตัวผมคือ
-ไม่ค่อยทานข้าวเช้า
-นอนค่อนข้างดึก เฉลี่ยประมาณตี 1 เกือบทุกคืน ตื่น 8 โมงเช้า
-ไม่ค่อยทานอาหารที่มีประโยชน์เท่าที่ควร
-ขาดการออกกำลังกาย
-นั่งทำงานอยู่หน้าคอมเป็นเวลานานๆ (2-3 ช.ม.) ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน
-สูบบุหรี่มาประมาณ 26 ปี เพิ่งมาเลิกประมาณ 3 ปีให้หลัง มาใช้บุหรี่ไฟฟ้าทดแทน
-ไม่ดื่มแอลกอฮอลล์ทุกชนิดมา 7-8 ปีแล้ว

เรื่องมันเริ่มจากผมมีอาการ "แน่นหน้าอก" ครับ  หายใจไม่อิ่ม ชอบถอนหายใจหนักๆ จะเป็นมากตอนเวลากินอิ่มมากๆ
...จริงๆก็เป็นมาประมาณ 2-3 ปีแล้วครับ แต่ไม่มาก
จนเมื่อเดือน เม.ย.60 ที่ผ่านมา ก่อนนอนคืนนึง ผมมีอาการแน่นเหมือนเดิม จนต้องลุกขึ้นมานั่งกลางดึก..ใจก็คิดไปเรื่อย จนมาสะดุดว่า "เราเป็นโรคหัวใจหรือเปล่า" เท่านั้นแหละครับ เริ่มแย่ขึ้นอีก...

ทนอยู่ 2 วัน คราวนี้ไม่หายไปง่ายๆ จนวันที่ 3 ไปเดินห้างกับแฟน อยู่ดีๆเกิดหน้ามืด ใจสั่น หอบเหนื่อย หวิวๆคล้ายจะเป็นลม จนต้องรีบชวนแฟนกลับบ้านด่วน
กลับถึงบ้านเลยให้พ่อพาไป รพ.เอกชนแห่งหนึ่งที่ผมใช้สิทธิประกันสังคมอยู่
รวบรัดตัดตอนไปตอนพบหมอเลยนะครับ
หมอซักอาการ แล้วให้ผมไปทำการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG ใช้เวลาประมาณ 5 นาที...ผลออกมา "ปกติ" ครับ
หมอเลยวินิจฉัยว่าผมออาจจะเป็นโรควิตกกังวล หรือ Panic ให้ยาคลายเครียดกับวิตามินมากิน...
อาการเหมือนจะดีขึ้นบ้างครับ อาจเป็นเพราะผมสบายใจว่าไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรง เลยไม่เครียดมาก
แต่ก็ยังมีอาการใจสั่นอยู่เป็นระยะๆ...

หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้นิ่งนอนใจครับ ถัดมาอีก 2-3 วัน เลยไปตรวจสุขภาพรวมที่ รพ.ที่แฟนผมทำงานอยู่...
ตอนที่ตรวจเสร็จ ได้พบหมอ เลยขอคำปรึกษาจากหมอ เล่าอาการให้ฟัง หมอเลยซักพฤติกรรมส่วนตัว และเสนอแนะว่าอาจจะเป็นเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร กรดในกระเพาะ กรดไหลย้อน อาหารไม่ย่อย ฯลฯ เพราะมีอาการจุกแน่นหายใจไม่สะดวก ให้ลองหายาลดกรดกิน...
หลังจากนั้นผมก็เลยลองค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องกรดไหลย้อน อาการก็ค่อนข้างใกล้เคียงกับที่ผมเป็นอยู่บ้างครับ
เลยเริ่มออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร กินอาหารที่ย่อยง่าย กินข้าวตรงเวลา กินยาลดกรด กินน้ำขิง ขมิ้นชัน ฯลฯ
อาการดีขึ้นเรื่อยๆครับ จุกแน่นบ้างแต่ไม่หนัก
ผ่านมา 1 เดือน ผลตรวจสุขภาพออกมา...ปรากฏว่าทุกอย่างปกติครับ ผลเลือด ไขมัน น้ำตาล ไตรกลีเซอไรด์ HDL LDL ค่าตับ ค่าใต ผลตรวจปัสสาวะ รวมทั้งผลการเอ็กซเรย์ปอดที่ผมกังวลที่สุดเนื่องจากสูบบุหรี่มานาน ทุกอย่างปกติครับ เลยสบายใจมากขึ้น อาการเหมือนจะหายไปเลย...

แต่...
ไม่รู้ว่าสบายใจมากเกินไปหรือเปล่า จนลืมดูแลตัวเอง เริ่มกินตามใจปาก เริ่มขาดการออกกำลังกาย...จนอาการกลับมาอีก
อาการส่วนใหญ่คล้ายเดิมๆครับ แต่ที่หนักเลยคือใจสั่น หวิวๆเหมือนใจจะขาด หอบเหนื่อยทั้งที่นั่งอยู่เฉยๆ แน่นเหมือนโดนรัดหน้าอกตลอดเวลา...

ผ่านมาไม่กี่วัน ได้ข่าวว่าพี่ที่ทำงานคนนึง ที่เคยคุยกันว่ามีอาการเหมือนผม แล้วหมอสรุปว่าเป็นกรดไหลย้อน..."แอดมิดเข้า รพ. ด้วยอาการเส้นเลือดหัวใจตีบ" (รู้ภายหลังว่าต้องทำการผ่าตัดบายพาสขนานใหญ่เลย)

ผมก็เสียวเลยครับ...รีบแจ้นไปหาหมอที่ รพ.เดิมอีกครั้ง..
เจอหมออีกท่าน...ซักอาการ เอาประวัติการรักษาครั้งก่อนมาดู...(ส่วนผมเอาผลตรวจสุขภาพไปให้หมอดูด้วยครับ เพื่อช่วยในการวินิจฉัย)
หมอสั่งตรวจ EKG อีกรอบ ห่างจากครั้งแรกประมาณ 2-3 เดือน.......ผลออกมา "ปกติเหมือนเดิม"
หมอเลยเอาผลทั้งสองครั้งมาเทียบกัน แล้วบอกว่า
"หมอคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับหัวใจแล้วละ เทียบผล 2 ครั้ง ปกติดีทั้งสองครั้ง แล้วจากอาการที่เล่ามา หมอว่าไม่ใกล้เคียงโรคหัวใจ ลองกลับมาโฟกัสที่เกี่ยวกับระบบย่อยอาหารดีกว่า พร้อมทั้งบอกอีกว่า ถ้าคุณเป็นโรคหัวใจคุณมานั่งคุยกับหมอแบบนี้ไม่ได้หรอก..." พร้อมทั้งจ่ายยาลดกรดมาหลายขนานเลยครับ...

หลังจากกลับมา ก็พยายามกินยาอย่างเคร่งครัด เริ่มกลับมาดูแลตัวเอง ออกกำลังกายเหมือนเดิม...แต่ผมกลับรู้สึกว่า "อาการเหมือนจะไม่ดีขึ้นเลย"
อาการเดิมๆยังอยู่ครับ แต่คราวนี้พ่วงมาอีก 2 อาการคือ
- มึนหัว มึนๆ ลอยๆ เหมือนหัวหนัก ทรงตัวไม่ค่อยอยู่ (เป็นไม่นาน ส่วนใหญ่จะเป็นตอนเช้าๆ)
- อ่อนเพลียเกือบตลอดเวลา นั่งตรงไหนก็จะหลับ
- อาการนี้เพิ่งเป็นมาประมาณ 2-3 วันก่อนเองครับ คือ ปวดท้อง ปวดจุกตรงลิ้นปี่เป๊ะๆ เหมือนมีลมในท้อง บางทีก็เหมือนกินอะไรอิ่มๆแล้ววิ่ง คือจุกแบบนั้นเลยครับ
- อาการล่าสุดที่ทำให้ผมเสียวสันหลังวาบคือ "ผมเริ่มเจ็บหน้าอก" เป็นการเจ็บแบบตื้นๆ ไม่ลึก บางทีตรงยอดอกค่อนมาทางซ้าย บางทีข้างราวนมซ้าย บางทีก็สะบักหลัง เจ็บแบบไม่มากแต่รำคาญ
อาการทุกอย่างเกิดขึ้นรายวันครับ สลับๆกันไปจนผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่ามันเป็นอะไรตรงไหนกันแน่...ทำให้ตอนนี้วิตกกังวลมากครับ เครียดอยู่ตลอดเวลา ทำงานลำบาก จะเดินทางไปไหนก็ไม่สบายใจ กลัวไปวูบที่อื่น ออกกำลังกายก็ไม่เต็มที่ คือกลัวไปหมดเพราะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่ครับ
.
ทั้งหมดอาจจะยาวหน่อย แต่ผมต้องการให้ข้อมูลที่ครบถ้วนที่สุดเพื่อเป็นข้อมูล หากผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยจริงๆครับ
หรือหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมตรงไหนสอบถามได้เลยครับ

ตรงนี้เป็นคำถามที่ผมต้องการคำตอบมากเลย รบกวนด้วยนะครับ

1. การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) บ่งบอกอะไรได้บ้างครับ แล้วเชื่อถือได้แค่ไหน...คือ..หลังจากตรวจสองครั้งแล้วผลปกติ ชัดเจนหรือยังครับว่าไม่เกี่ยวกับหัวใจแน่นอน (ส่วนตัวผมกลัวว่าตอนตรวจอาจปกติ เพราะใช้เวลาตรวจแค่ไม่ถึง 5 นาที ซึ่งขณะนั้นอาจไม่แสดงอาการก็ได้)

2. ถ้าการตรวจ EKG อาจยืนยันไม่ได้ชัดเจน ต้องทำการตรวจแบบไหนในขั้นต่อไปครับ แล้วจะทำยังไงถึงจะได้ตรวจ (ผมกังวลว่าถ้าไปหาหมออีกครั้ง หมออาจจะสั่งตรวจ EKG อีก แล้วผลก็ออกมาปกติอีก ซึ่งถ้ามันยืนยันไม่ได้ชัดเจนผมก็กังวลว่าจะเสียโอกาสในการรักษาในระยะเริ่มแรก หากเป็นเกี่ยวกับหัวใจจริงๆ)


เอาจริงๆ ผมไม่ค่อยกลัวว่าจะเป็นโรคร้ายแรงนะครับ เพราะผมเชื่อว่าทุกอย่างรักษาได้ การแพทย์ก้าวหน้าไปมากแล้วจริงๆ...
เพียงแต่ โรคหัวใจบางครั้งมันรอเวลาไม่ได้สิครับ ส่วนตัวผมคิดว่าถ้ามีอาการบ่งชี้ว่าอาจจะเป็น น่าจะต้องตรวจให้ละเอียดเพื่อยืนยันว่าเป็นหรือไม่ จะได้ไม่เสียโอกาสในการรักษา...เพราะถ้าเป็นแบบฉับพลันขึ้นมา.."โอกาสที่จะไปไม่ถึงโรงพยาบาลมีสูง"...
อีกอย่างที่กลัว คือ "ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่" ไปพบแพทย์ ก็ไม่ชัดเจน ทำให้กังวลไปต่างๆนาๆ  เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตมากครับ

ป.ล. ได้ลองค้นคว้าข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตมาพอสมควรแล้วครับ ยิ่งค้นยิ่งฟุ้งซ่าน ไม่มั่นใจว่าเราเข้าข่ายโรคนี้หรือเปล่า เลยมารบกวนสอบถาม เผื่อท่านใดมีประสบการณ์ หรืออาจจะเคยเป็น เพราะผมเชื่อว่าข้อมูลจากผู้ที่ประสบพบเจอ จะด้วยตัวเอง หรือเพื่อนฝูง คนใกล้ชิดก็แล้วแต่ น่าจะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์กว่าข้อมูลตามตำราครับ

ขอบพระคุณทุกท่านเป็นอย่างสูงครับ อยากทราบอะไรเพิ่มเติมสอบถามได้เลยครับ ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
เอาเรื่องจริงเลยนะครับ โรคกลัวตายครับ ,แก้ง่ายด้วยครับ คิดว่าเป็นเรื่องธรรมชาติสิครับ
เรายังหายใจได้อยู่ กินได้อยู่ จะคิดอะไรมากล่ะครับ เพราะว่ายิ่งคิดยิ่งเครียด ทำให้เกิดลมในกระเพาะมากขึ้น
ทำให้กระบังลมขยาย หายใจไม่ทั่วท้องเพราะว่าแน่นมากกก อย่าคิดมากไปครับ ไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ

ผมเคยเป็น และก็ผ่านมาแล้ว ตอนนี้ก็ทำใจได้แล้ว ใช้จิดของเรารักษาตัวเราเองครับ เพราะว่าเราใช้ร่างกายหนักไป เที่ยว กิน ดื่ม อดนอน ครบเลยยย เค้าก็มาเตือนเราให้รับรู้ครับ

- อาการล่าสุดที่ทำให้ผมเสียวสันหลังวาบคือ "ผมเริ่มเจ็บหน้าอก" เป็นการเจ็บแบบตื้นๆ ไม่ลึก บางทีตรงยอดอกค่อนมาทางซ้าย บางทีข้างราวนมซ้าย บางทีก็สะบักหลัง เจ็บแบบไม่มากแต่รำคาญ
  อาการนี้ คงเป็นที่กล้ามเนื้อลายครับ (ตอนแรกผมก็คิดไปเรื่อยเปื่อย เป็นนู้นเป็นนี่ครับ) เหมือนสะบักจม มันถึงกันหมดเลยครับ ตึงปวด บ่า ไหล่ หน้าอกด้านซ้ายยย ผมเป็นตอนแรกๆ ยังคิดว่าโรคหัวใจหรือเปล่าเนี่ย (ออฟฟิต ซินโดรม)

ขอให้อย่าคิดมากครับ ดูแลร่างกายให้ดี กินอาหารดีมีประโยชน์ ออกกำลังกายให้เหมาะสม ก็จะดีขึ้นเองครับ คิดเป็นหลัดธรรมชาติเลยครับ
,ถ้ากังวลมากไป ก็หาหมอทางจิตเวชก็ได้ครับ ก็เป็นทางออกที่ดีครับ สู้ๆนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่