รบกวนขอคำปรึกษาหน่อยครับ ถ้าท่านใดมีประสบการณ์หรือพอจะชี้แนะได้จะขอบพระคุณมากเลยครับ
ยาวหน่อยนะครับ เพื่อจะได้เข้าใจรายละเอียด อาการ และความเป็นไประหว่างที่ผมรักษาตัว...
ปัจจุบันผมอายุ 39 ปี ครับ ไม่เคยเจ็บป่วยหนักจนต้องเข้า รพ.เลยซักครั้ง
พฤติกรรมส่วนตัวผมคือ
-ไม่ค่อยทานข้าวเช้า
-นอนค่อนข้างดึก เฉลี่ยประมาณตี 1 เกือบทุกคืน ตื่น 8 โมงเช้า
-ไม่ค่อยทานอาหารที่มีประโยชน์เท่าที่ควร
-ขาดการออกกำลังกาย
-นั่งทำงานอยู่หน้าคอมเป็นเวลานานๆ (2-3 ช.ม.) ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน
-สูบบุหรี่มาประมาณ 26 ปี เพิ่งมาเลิกประมาณ 3 ปีให้หลัง มาใช้บุหรี่ไฟฟ้าทดแทน
-ไม่ดื่มแอลกอฮอลล์ทุกชนิดมา 7-8 ปีแล้ว
เรื่องมันเริ่มจากผมมีอาการ "แน่นหน้าอก" ครับ หายใจไม่อิ่ม ชอบถอนหายใจหนักๆ จะเป็นมากตอนเวลากินอิ่มมากๆ
...จริงๆก็เป็นมาประมาณ 2-3 ปีแล้วครับ แต่ไม่มาก
จนเมื่อเดือน เม.ย.60 ที่ผ่านมา ก่อนนอนคืนนึง ผมมีอาการแน่นเหมือนเดิม จนต้องลุกขึ้นมานั่งกลางดึก..ใจก็คิดไปเรื่อย จนมาสะดุดว่า "เราเป็นโรคหัวใจหรือเปล่า" เท่านั้นแหละครับ เริ่มแย่ขึ้นอีก...
ทนอยู่ 2 วัน คราวนี้ไม่หายไปง่ายๆ จนวันที่ 3 ไปเดินห้างกับแฟน อยู่ดีๆเกิดหน้ามืด ใจสั่น หอบเหนื่อย หวิวๆคล้ายจะเป็นลม จนต้องรีบชวนแฟนกลับบ้านด่วน
กลับถึงบ้านเลยให้พ่อพาไป รพ.เอกชนแห่งหนึ่งที่ผมใช้สิทธิประกันสังคมอยู่
รวบรัดตัดตอนไปตอนพบหมอเลยนะครับ
หมอซักอาการ แล้วให้ผมไปทำการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG ใช้เวลาประมาณ 5 นาที...ผลออกมา "ปกติ" ครับ
หมอเลยวินิจฉัยว่าผมออาจจะเป็นโรควิตกกังวล หรือ Panic ให้ยาคลายเครียดกับวิตามินมากิน...
อาการเหมือนจะดีขึ้นบ้างครับ อาจเป็นเพราะผมสบายใจว่าไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรง เลยไม่เครียดมาก
แต่ก็ยังมีอาการใจสั่นอยู่เป็นระยะๆ...
หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้นิ่งนอนใจครับ ถัดมาอีก 2-3 วัน เลยไปตรวจสุขภาพรวมที่ รพ.ที่แฟนผมทำงานอยู่...
ตอนที่ตรวจเสร็จ ได้พบหมอ เลยขอคำปรึกษาจากหมอ เล่าอาการให้ฟัง หมอเลยซักพฤติกรรมส่วนตัว และเสนอแนะว่าอาจจะเป็นเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร กรดในกระเพาะ กรดไหลย้อน อาหารไม่ย่อย ฯลฯ เพราะมีอาการจุกแน่นหายใจไม่สะดวก ให้ลองหายาลดกรดกิน...
หลังจากนั้นผมก็เลยลองค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องกรดไหลย้อน อาการก็ค่อนข้างใกล้เคียงกับที่ผมเป็นอยู่บ้างครับ
เลยเริ่มออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร กินอาหารที่ย่อยง่าย กินข้าวตรงเวลา กินยาลดกรด กินน้ำขิง ขมิ้นชัน ฯลฯ
อาการดีขึ้นเรื่อยๆครับ จุกแน่นบ้างแต่ไม่หนัก
ผ่านมา 1 เดือน ผลตรวจสุขภาพออกมา...ปรากฏว่าทุกอย่างปกติครับ ผลเลือด ไขมัน น้ำตาล ไตรกลีเซอไรด์ HDL LDL ค่าตับ ค่าใต ผลตรวจปัสสาวะ รวมทั้งผลการเอ็กซเรย์ปอดที่ผมกังวลที่สุดเนื่องจากสูบบุหรี่มานาน ทุกอย่างปกติครับ เลยสบายใจมากขึ้น อาการเหมือนจะหายไปเลย...
แต่...
ไม่รู้ว่าสบายใจมากเกินไปหรือเปล่า จนลืมดูแลตัวเอง เริ่มกินตามใจปาก เริ่มขาดการออกกำลังกาย...จนอาการกลับมาอีก
อาการส่วนใหญ่คล้ายเดิมๆครับ แต่ที่หนักเลยคือใจสั่น หวิวๆเหมือนใจจะขาด หอบเหนื่อยทั้งที่นั่งอยู่เฉยๆ แน่นเหมือนโดนรัดหน้าอกตลอดเวลา...
ผ่านมาไม่กี่วัน ได้ข่าวว่าพี่ที่ทำงานคนนึง ที่เคยคุยกันว่ามีอาการเหมือนผม แล้วหมอสรุปว่าเป็นกรดไหลย้อน..."แอดมิดเข้า รพ. ด้วยอาการเส้นเลือดหัวใจตีบ" (รู้ภายหลังว่าต้องทำการผ่าตัดบายพาสขนานใหญ่เลย)
ผมก็เสียวเลยครับ...รีบแจ้นไปหาหมอที่ รพ.เดิมอีกครั้ง..
เจอหมออีกท่าน...ซักอาการ เอาประวัติการรักษาครั้งก่อนมาดู...(ส่วนผมเอาผลตรวจสุขภาพไปให้หมอดูด้วยครับ เพื่อช่วยในการวินิจฉัย)
หมอสั่งตรวจ EKG อีกรอบ ห่างจากครั้งแรกประมาณ 2-3 เดือน.......ผลออกมา "ปกติเหมือนเดิม"
หมอเลยเอาผลทั้งสองครั้งมาเทียบกัน แล้วบอกว่า
"หมอคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับหัวใจแล้วละ เทียบผล 2 ครั้ง ปกติดีทั้งสองครั้ง แล้วจากอาการที่เล่ามา หมอว่าไม่ใกล้เคียงโรคหัวใจ ลองกลับมาโฟกัสที่เกี่ยวกับระบบย่อยอาหารดีกว่า พร้อมทั้งบอกอีกว่า ถ้าคุณเป็นโรคหัวใจคุณมานั่งคุยกับหมอแบบนี้ไม่ได้หรอก..." พร้อมทั้งจ่ายยาลดกรดมาหลายขนานเลยครับ...
หลังจากกลับมา ก็พยายามกินยาอย่างเคร่งครัด เริ่มกลับมาดูแลตัวเอง ออกกำลังกายเหมือนเดิม...แต่ผมกลับรู้สึกว่า "อาการเหมือนจะไม่ดีขึ้นเลย"
อาการเดิมๆยังอยู่ครับ แต่คราวนี้พ่วงมาอีก 2 อาการคือ
- มึนหัว มึนๆ ลอยๆ เหมือนหัวหนัก ทรงตัวไม่ค่อยอยู่ (เป็นไม่นาน ส่วนใหญ่จะเป็นตอนเช้าๆ)
- อ่อนเพลียเกือบตลอดเวลา นั่งตรงไหนก็จะหลับ
- อาการนี้เพิ่งเป็นมาประมาณ 2-3 วันก่อนเองครับ คือ ปวดท้อง ปวดจุกตรงลิ้นปี่เป๊ะๆ เหมือนมีลมในท้อง บางทีก็เหมือนกินอะไรอิ่มๆแล้ววิ่ง คือจุกแบบนั้นเลยครับ
- อาการล่าสุดที่ทำให้ผมเสียวสันหลังวาบคือ "ผมเริ่มเจ็บหน้าอก" เป็นการเจ็บแบบตื้นๆ ไม่ลึก บางทีตรงยอดอกค่อนมาทางซ้าย บางทีข้างราวนมซ้าย บางทีก็สะบักหลัง เจ็บแบบไม่มากแต่รำคาญ
อาการทุกอย่างเกิดขึ้นรายวันครับ สลับๆกันไปจนผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่ามันเป็นอะไรตรงไหนกันแน่...ทำให้ตอนนี้วิตกกังวลมากครับ เครียดอยู่ตลอดเวลา ทำงานลำบาก จะเดินทางไปไหนก็ไม่สบายใจ กลัวไปวูบที่อื่น ออกกำลังกายก็ไม่เต็มที่ คือกลัวไปหมดเพราะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่ครับ
.
ทั้งหมดอาจจะยาวหน่อย แต่ผมต้องการให้ข้อมูลที่ครบถ้วนที่สุดเพื่อเป็นข้อมูล หากผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยจริงๆครับ
หรือหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมตรงไหนสอบถามได้เลยครับ
ตรงนี้เป็นคำถามที่ผมต้องการคำตอบมากเลย รบกวนด้วยนะครับ
1. การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) บ่งบอกอะไรได้บ้างครับ แล้วเชื่อถือได้แค่ไหน...คือ..หลังจากตรวจสองครั้งแล้วผลปกติ ชัดเจนหรือยังครับว่าไม่เกี่ยวกับหัวใจแน่นอน (ส่วนตัวผมกลัวว่าตอนตรวจอาจปกติ เพราะใช้เวลาตรวจแค่ไม่ถึง 5 นาที ซึ่งขณะนั้นอาจไม่แสดงอาการก็ได้)
2. ถ้าการตรวจ EKG อาจยืนยันไม่ได้ชัดเจน ต้องทำการตรวจแบบไหนในขั้นต่อไปครับ แล้วจะทำยังไงถึงจะได้ตรวจ (ผมกังวลว่าถ้าไปหาหมออีกครั้ง หมออาจจะสั่งตรวจ EKG อีก แล้วผลก็ออกมาปกติอีก ซึ่งถ้ามันยืนยันไม่ได้ชัดเจนผมก็กังวลว่าจะเสียโอกาสในการรักษาในระยะเริ่มแรก หากเป็นเกี่ยวกับหัวใจจริงๆ)
เอาจริงๆ ผมไม่ค่อยกลัวว่าจะเป็นโรคร้ายแรงนะครับ เพราะผมเชื่อว่าทุกอย่างรักษาได้ การแพทย์ก้าวหน้าไปมากแล้วจริงๆ...
เพียงแต่ โรคหัวใจบางครั้งมันรอเวลาไม่ได้สิครับ ส่วนตัวผมคิดว่าถ้ามีอาการบ่งชี้ว่าอาจจะเป็น น่าจะต้องตรวจให้ละเอียดเพื่อยืนยันว่าเป็นหรือไม่ จะได้ไม่เสียโอกาสในการรักษา...เพราะถ้าเป็นแบบฉับพลันขึ้นมา.."โอกาสที่จะไปไม่ถึงโรงพยาบาลมีสูง"...
อีกอย่างที่กลัว คือ "ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่" ไปพบแพทย์ ก็ไม่ชัดเจน ทำให้กังวลไปต่างๆนาๆ เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตมากครับ
ป.ล. ได้ลองค้นคว้าข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตมาพอสมควรแล้วครับ ยิ่งค้นยิ่งฟุ้งซ่าน ไม่มั่นใจว่าเราเข้าข่ายโรคนี้หรือเปล่า เลยมารบกวนสอบถาม เผื่อท่านใดมีประสบการณ์ หรืออาจจะเคยเป็น เพราะผมเชื่อว่าข้อมูลจากผู้ที่ประสบพบเจอ จะด้วยตัวเอง หรือเพื่อนฝูง คนใกล้ชิดก็แล้วแต่ น่าจะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์กว่าข้อมูลตามตำราครับ
ขอบพระคุณทุกท่านเป็นอย่างสูงครับ อยากทราบอะไรเพิ่มเติมสอบถามได้เลยครับ ^^
ขอคำปรึกษาด้วยครับ..เกี่ยวกับอาการ ที่ไม่แน่ว่าอาจเป็นโรคหัวใจ
ยาวหน่อยนะครับ เพื่อจะได้เข้าใจรายละเอียด อาการ และความเป็นไประหว่างที่ผมรักษาตัว...
ปัจจุบันผมอายุ 39 ปี ครับ ไม่เคยเจ็บป่วยหนักจนต้องเข้า รพ.เลยซักครั้ง
พฤติกรรมส่วนตัวผมคือ
-ไม่ค่อยทานข้าวเช้า
-นอนค่อนข้างดึก เฉลี่ยประมาณตี 1 เกือบทุกคืน ตื่น 8 โมงเช้า
-ไม่ค่อยทานอาหารที่มีประโยชน์เท่าที่ควร
-ขาดการออกกำลังกาย
-นั่งทำงานอยู่หน้าคอมเป็นเวลานานๆ (2-3 ช.ม.) ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน
-สูบบุหรี่มาประมาณ 26 ปี เพิ่งมาเลิกประมาณ 3 ปีให้หลัง มาใช้บุหรี่ไฟฟ้าทดแทน
-ไม่ดื่มแอลกอฮอลล์ทุกชนิดมา 7-8 ปีแล้ว
เรื่องมันเริ่มจากผมมีอาการ "แน่นหน้าอก" ครับ หายใจไม่อิ่ม ชอบถอนหายใจหนักๆ จะเป็นมากตอนเวลากินอิ่มมากๆ
...จริงๆก็เป็นมาประมาณ 2-3 ปีแล้วครับ แต่ไม่มาก
จนเมื่อเดือน เม.ย.60 ที่ผ่านมา ก่อนนอนคืนนึง ผมมีอาการแน่นเหมือนเดิม จนต้องลุกขึ้นมานั่งกลางดึก..ใจก็คิดไปเรื่อย จนมาสะดุดว่า "เราเป็นโรคหัวใจหรือเปล่า" เท่านั้นแหละครับ เริ่มแย่ขึ้นอีก...
ทนอยู่ 2 วัน คราวนี้ไม่หายไปง่ายๆ จนวันที่ 3 ไปเดินห้างกับแฟน อยู่ดีๆเกิดหน้ามืด ใจสั่น หอบเหนื่อย หวิวๆคล้ายจะเป็นลม จนต้องรีบชวนแฟนกลับบ้านด่วน
กลับถึงบ้านเลยให้พ่อพาไป รพ.เอกชนแห่งหนึ่งที่ผมใช้สิทธิประกันสังคมอยู่
รวบรัดตัดตอนไปตอนพบหมอเลยนะครับ
หมอซักอาการ แล้วให้ผมไปทำการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG ใช้เวลาประมาณ 5 นาที...ผลออกมา "ปกติ" ครับ
หมอเลยวินิจฉัยว่าผมออาจจะเป็นโรควิตกกังวล หรือ Panic ให้ยาคลายเครียดกับวิตามินมากิน...
อาการเหมือนจะดีขึ้นบ้างครับ อาจเป็นเพราะผมสบายใจว่าไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรง เลยไม่เครียดมาก
แต่ก็ยังมีอาการใจสั่นอยู่เป็นระยะๆ...
หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้นิ่งนอนใจครับ ถัดมาอีก 2-3 วัน เลยไปตรวจสุขภาพรวมที่ รพ.ที่แฟนผมทำงานอยู่...
ตอนที่ตรวจเสร็จ ได้พบหมอ เลยขอคำปรึกษาจากหมอ เล่าอาการให้ฟัง หมอเลยซักพฤติกรรมส่วนตัว และเสนอแนะว่าอาจจะเป็นเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร กรดในกระเพาะ กรดไหลย้อน อาหารไม่ย่อย ฯลฯ เพราะมีอาการจุกแน่นหายใจไม่สะดวก ให้ลองหายาลดกรดกิน...
หลังจากนั้นผมก็เลยลองค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องกรดไหลย้อน อาการก็ค่อนข้างใกล้เคียงกับที่ผมเป็นอยู่บ้างครับ
เลยเริ่มออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร กินอาหารที่ย่อยง่าย กินข้าวตรงเวลา กินยาลดกรด กินน้ำขิง ขมิ้นชัน ฯลฯ
อาการดีขึ้นเรื่อยๆครับ จุกแน่นบ้างแต่ไม่หนัก
ผ่านมา 1 เดือน ผลตรวจสุขภาพออกมา...ปรากฏว่าทุกอย่างปกติครับ ผลเลือด ไขมัน น้ำตาล ไตรกลีเซอไรด์ HDL LDL ค่าตับ ค่าใต ผลตรวจปัสสาวะ รวมทั้งผลการเอ็กซเรย์ปอดที่ผมกังวลที่สุดเนื่องจากสูบบุหรี่มานาน ทุกอย่างปกติครับ เลยสบายใจมากขึ้น อาการเหมือนจะหายไปเลย...
แต่...
ไม่รู้ว่าสบายใจมากเกินไปหรือเปล่า จนลืมดูแลตัวเอง เริ่มกินตามใจปาก เริ่มขาดการออกกำลังกาย...จนอาการกลับมาอีก
อาการส่วนใหญ่คล้ายเดิมๆครับ แต่ที่หนักเลยคือใจสั่น หวิวๆเหมือนใจจะขาด หอบเหนื่อยทั้งที่นั่งอยู่เฉยๆ แน่นเหมือนโดนรัดหน้าอกตลอดเวลา...
ผ่านมาไม่กี่วัน ได้ข่าวว่าพี่ที่ทำงานคนนึง ที่เคยคุยกันว่ามีอาการเหมือนผม แล้วหมอสรุปว่าเป็นกรดไหลย้อน..."แอดมิดเข้า รพ. ด้วยอาการเส้นเลือดหัวใจตีบ" (รู้ภายหลังว่าต้องทำการผ่าตัดบายพาสขนานใหญ่เลย)
ผมก็เสียวเลยครับ...รีบแจ้นไปหาหมอที่ รพ.เดิมอีกครั้ง..
เจอหมออีกท่าน...ซักอาการ เอาประวัติการรักษาครั้งก่อนมาดู...(ส่วนผมเอาผลตรวจสุขภาพไปให้หมอดูด้วยครับ เพื่อช่วยในการวินิจฉัย)
หมอสั่งตรวจ EKG อีกรอบ ห่างจากครั้งแรกประมาณ 2-3 เดือน.......ผลออกมา "ปกติเหมือนเดิม"
หมอเลยเอาผลทั้งสองครั้งมาเทียบกัน แล้วบอกว่า
"หมอคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับหัวใจแล้วละ เทียบผล 2 ครั้ง ปกติดีทั้งสองครั้ง แล้วจากอาการที่เล่ามา หมอว่าไม่ใกล้เคียงโรคหัวใจ ลองกลับมาโฟกัสที่เกี่ยวกับระบบย่อยอาหารดีกว่า พร้อมทั้งบอกอีกว่า ถ้าคุณเป็นโรคหัวใจคุณมานั่งคุยกับหมอแบบนี้ไม่ได้หรอก..." พร้อมทั้งจ่ายยาลดกรดมาหลายขนานเลยครับ...
หลังจากกลับมา ก็พยายามกินยาอย่างเคร่งครัด เริ่มกลับมาดูแลตัวเอง ออกกำลังกายเหมือนเดิม...แต่ผมกลับรู้สึกว่า "อาการเหมือนจะไม่ดีขึ้นเลย"
อาการเดิมๆยังอยู่ครับ แต่คราวนี้พ่วงมาอีก 2 อาการคือ
- มึนหัว มึนๆ ลอยๆ เหมือนหัวหนัก ทรงตัวไม่ค่อยอยู่ (เป็นไม่นาน ส่วนใหญ่จะเป็นตอนเช้าๆ)
- อ่อนเพลียเกือบตลอดเวลา นั่งตรงไหนก็จะหลับ
- อาการนี้เพิ่งเป็นมาประมาณ 2-3 วันก่อนเองครับ คือ ปวดท้อง ปวดจุกตรงลิ้นปี่เป๊ะๆ เหมือนมีลมในท้อง บางทีก็เหมือนกินอะไรอิ่มๆแล้ววิ่ง คือจุกแบบนั้นเลยครับ
- อาการล่าสุดที่ทำให้ผมเสียวสันหลังวาบคือ "ผมเริ่มเจ็บหน้าอก" เป็นการเจ็บแบบตื้นๆ ไม่ลึก บางทีตรงยอดอกค่อนมาทางซ้าย บางทีข้างราวนมซ้าย บางทีก็สะบักหลัง เจ็บแบบไม่มากแต่รำคาญ
อาการทุกอย่างเกิดขึ้นรายวันครับ สลับๆกันไปจนผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่ามันเป็นอะไรตรงไหนกันแน่...ทำให้ตอนนี้วิตกกังวลมากครับ เครียดอยู่ตลอดเวลา ทำงานลำบาก จะเดินทางไปไหนก็ไม่สบายใจ กลัวไปวูบที่อื่น ออกกำลังกายก็ไม่เต็มที่ คือกลัวไปหมดเพราะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่ครับ
.
ทั้งหมดอาจจะยาวหน่อย แต่ผมต้องการให้ข้อมูลที่ครบถ้วนที่สุดเพื่อเป็นข้อมูล หากผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยจริงๆครับ
หรือหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมตรงไหนสอบถามได้เลยครับ
ตรงนี้เป็นคำถามที่ผมต้องการคำตอบมากเลย รบกวนด้วยนะครับ
1. การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) บ่งบอกอะไรได้บ้างครับ แล้วเชื่อถือได้แค่ไหน...คือ..หลังจากตรวจสองครั้งแล้วผลปกติ ชัดเจนหรือยังครับว่าไม่เกี่ยวกับหัวใจแน่นอน (ส่วนตัวผมกลัวว่าตอนตรวจอาจปกติ เพราะใช้เวลาตรวจแค่ไม่ถึง 5 นาที ซึ่งขณะนั้นอาจไม่แสดงอาการก็ได้)
2. ถ้าการตรวจ EKG อาจยืนยันไม่ได้ชัดเจน ต้องทำการตรวจแบบไหนในขั้นต่อไปครับ แล้วจะทำยังไงถึงจะได้ตรวจ (ผมกังวลว่าถ้าไปหาหมออีกครั้ง หมออาจจะสั่งตรวจ EKG อีก แล้วผลก็ออกมาปกติอีก ซึ่งถ้ามันยืนยันไม่ได้ชัดเจนผมก็กังวลว่าจะเสียโอกาสในการรักษาในระยะเริ่มแรก หากเป็นเกี่ยวกับหัวใจจริงๆ)
เอาจริงๆ ผมไม่ค่อยกลัวว่าจะเป็นโรคร้ายแรงนะครับ เพราะผมเชื่อว่าทุกอย่างรักษาได้ การแพทย์ก้าวหน้าไปมากแล้วจริงๆ...
เพียงแต่ โรคหัวใจบางครั้งมันรอเวลาไม่ได้สิครับ ส่วนตัวผมคิดว่าถ้ามีอาการบ่งชี้ว่าอาจจะเป็น น่าจะต้องตรวจให้ละเอียดเพื่อยืนยันว่าเป็นหรือไม่ จะได้ไม่เสียโอกาสในการรักษา...เพราะถ้าเป็นแบบฉับพลันขึ้นมา.."โอกาสที่จะไปไม่ถึงโรงพยาบาลมีสูง"...
อีกอย่างที่กลัว คือ "ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่" ไปพบแพทย์ ก็ไม่ชัดเจน ทำให้กังวลไปต่างๆนาๆ เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตมากครับ
ป.ล. ได้ลองค้นคว้าข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตมาพอสมควรแล้วครับ ยิ่งค้นยิ่งฟุ้งซ่าน ไม่มั่นใจว่าเราเข้าข่ายโรคนี้หรือเปล่า เลยมารบกวนสอบถาม เผื่อท่านใดมีประสบการณ์ หรืออาจจะเคยเป็น เพราะผมเชื่อว่าข้อมูลจากผู้ที่ประสบพบเจอ จะด้วยตัวเอง หรือเพื่อนฝูง คนใกล้ชิดก็แล้วแต่ น่าจะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์กว่าข้อมูลตามตำราครับ
ขอบพระคุณทุกท่านเป็นอย่างสูงครับ อยากทราบอะไรเพิ่มเติมสอบถามได้เลยครับ ^^