
ขอย้อนเรื่องราวสักนิดก่อน จากที่เคยตั้งกระทู้ สามีที่ใช้ชีวิตด้วยกัน17ปี มีลูกด้วยกัน2 คน วันนี้บอกเราว่าไม่เคยรักเราเลย และเค้าเจอคนที่เค้ารักมากแล้ว แต่เหมือนเค้ารอเวลาอะไรสักอย่าง ยังไม่ออกไปจากบ้าน ....แต่มาวันนี้ ดิฉันอยากจะเดินออกจากบ้านพร้อมด้วยลูกๆ เพราะ ใจเริ่มรับไม่ไหว ดิฉันไม่อยากเกลียดเค้าไปมากกว่านี้
เราตกลงว่าเลิกกัน โดยสามีให้อยุ่บ้านนี้เพราะใกล้ รร ลูก เราตกลงกัน อยู่ด้วยกันจะไม่แสดงให้ลูกเห็นว่ามีปัญหากัน จะทำเหมือนปกติ เพียงแต่ไม่ได้นอนห้องเดียวกัน เรานอนกับลูกข้างล่าง เค้าก็แยกไปนอนในห้องชั้น2 ซึ่งเราเอง ทำใจได้ระดับนึง ไม่คิด ไม่ถาม ไม่ส่อง ไม่อยากรู้เรื่องของเค้ากับคนอื่น ทำหน้าที่แม่ และแม่บ้านเหมือนเดิม กับเค้าเราก็ดูแลเหมือนเดิม เหมือน17ปีที่ผ่านมา แต่แล้ว เหตุการณ์หลายอย่างก็ทำให้เรารู้สึกว่า ต้องแยกกันอยู่ตั้งแต่ตอนนี้ ก่อนที่ดิฉันจะเกลียดเค้าไปมากกว่านี้..สิ่งที่ทำให้ดิฉันคิดว่าควรต้องแยกกันอยู่ คือ
1.คำพูดดูถูก คำพูดทำร้ายจิตใจ มีมาตลอดเวลา เช่น สามีตอนนี้มีโรคประจำตัว คือไต เราก็ดูแลอาหารให้ แต่เค้าดันพูดว่า คนเราทำอะไรไม่ได้ออกมาจากความจริงใจ สักวันก็เลิกทำ ว่าดิฉันที่ดูแลเค้าทั้งเสื้อผ้า ผิวพรรณ กล่าวหาว่าดิฉันเสแสร้ง หรือแม้กระทั่งกับลูกเอง ทุกวันนี้ดิฉันต้องตื่นตี4 เพื่อเตรียมอาหารไว้ให้ลูกเพราะเย็นเด็กกลับมาไม่มีคนอยู่ด้วย เราก็เตรียมให้ทั้งเช้าและไว้กินตอนเย็น ก็ว่าดิฉันแกล้งทำ จนบางที เค้าพูดจบน้ำตาเราไหลเลย ทำไมต้องขนาดนี้เลยเหรอ
2. ความสัมพันธ์กับลูกๆ เค้าเองมีเวลาทำกิจกรรมส่วนตัวเช่นไปปั่นจักรยาน ได้ตลอดแต่ไม่มีวันหยุดเพื่ออยู่กับลูกๆ สัญญาจะพาลูกไปเที่ยวก็ไม่พาไป เราเองก็ต้องเป็นฝ่ายพาไปทั้งที่ตัวเองก็ไม่สบาย และเหตุการณ์ที่สะเทือนใจคนเป็นแม่มากคือ มีอยู่คืนนึง ลูกชายคนเล็ก 4 ขวบอยากนอนกับพ่อ อยากให้พ่อนอนด้วย ลูกพูดว่า หนูอยากให้นอนด้วยกัน4 คนเหมือนเดิม แต่คนเป็นพ่อเดินหันหลังขึ้นบันไดไปเลย ลูกชายนั่งร้องไห้ตรงบันได พ่อไม่หันมามองด้วยซ้ำ เรานี่เข้าไปกอดลูกน้ำตาไหลเลย คือไม่ได้อยากนอนกับเค้าหรอกนะคะ แต่กับลูก คุณควรจะมีใจให้ลูกหน่อยไม๊ ลูกหลับแล้วค่อยแยกไปนอนก็ได้ แต่เค้าไม่แม้จะหันมามองด้วยซ้ำ แต่ละวัน เค้าแทบไม่ได้เล่นกับลูก ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำ เจอลูกวันนึงไม่ถึง 1ชม พอเราพูดให้เวลากับลูกบ้าง เค้าก็จะตอบกลับมาว่า ให้ลูกอยู่กับเธอ ลูกจะได้ไม่ติดฉัน แม้กระทั่งเมื่อวันที่8/8 ดิฉันต้องนอน รพ เพราะผ่าตัดนิ่ว เค้าอยู่กับลูก กับข้าวนก็ไม่เตรียมให้ลูกเสักวัน ยิ่งกับดิฉัน ต้องบอกว่าใจดำมาก ดิฉันไม่มีญาติใน กทม ดิฉันต้องเข้าผ่าตัด เค้าไม่แม้จะไปดู ส่งดิฉันหน้า รพ แค่นั้น วันแรกดิฉันต้องนอนติดเตียงเพราะขยับไม่ได้ เค้ายังไม่แวะมาดูด้วยซ้ำ นอน รพ อยู่คนเดียว 4 วัน วันออกก็จัดการเองทุกอย่าง...
ที่เล่ามาแค่บางส่วน เวลาทำอะไรพลาดนิดเดียว เค้าจะต่อว่าใหญ่โตมาก เราก็จะเงียบไม่อยากมีปากเสียงให้ลูกรู้ จนมาเมื่อคืน ความอดทนดิฉันก็ขาดค่ะ
เค้าเอารถพี่สาวกลับมาบ้าน แต่มีรถมอไซค์จอดขวาง ดิฉันก็จะขยับรถให้เพราะเอารถใหญ่เข้าจอดในบ้าน แต่ทำไม่ค่อยสะดวกเพราะยังเจ็บแผล เค้าลงจากรถและตะคอกดิฉันอย่างแรง ใช้คำพูด"ถอยไปไกลๆ จะทำเอง" จากนั้น พอเข้าบ้านมา คือชั้นล่างที่ดิฉันกับลูกนอนไม่ได้กั้นห้องค่ะ นอนกันหน้าทีวี เค้าใช้คำถามว่า "เธอนอนกับลูกทุกวันรู้ไม๊ยุงมันกัดลูก เป็นแม่ประสาอะไร เรื่องแค่นี้ไม่รู้ไม่ดูแล แล้วอยากจะเอาลูกไว้เอง หรือไม่ใส่ใจ" คำพูดประมาณนี้ และส่งสายตาตำหนิมาให้ด้วย คือ ยุงมีแต่ถ้าวันไหนฝนไม่ตก ก็จะไม่มี ลูกไม่อยากนอนมุ้งเพราะร้อน บ้านไม่ติดแอร์ค่ะ ซึ่งดิฉันนอนแบบนี้ักันมา 2-3เดือนแล้ว ตั้งแต่เราแยกกัน ก็ไม่ได้มีปัญหา คงเพราะช่างที่เค้าต้องอยู่กับลูกตอนที่ดิฉันนอน รพ แหละ ดิฉันเลยถามลูกว่า แล้วตอนพ่อนอนกับหนูพ่อกางมุ้งให้หรือป่าว ลูกก็บอกว่าไม่ได้กางก็นอนแบบนี้
มันเหมือนว่า ทำอะไรก็ผิดหมด ทั้งที่ตัวเค้าเองก็ไม่เคยทำอะไรให้ลูก ดิฉันดูแลเองหมด เค้าให้แค่เงินเดือนละ 15000 บาท ที่ทำให้เค้ายังพอมีความรับผิดชอบอยู่บ้างเท่านั้น นอนคิดทั้งคืน ดิฉันไม่ไหวแล้ว ถ้าหากยังอยู่บ้านเดียวกัน ดิฉันคงต้องเกลียดเค้ามากแน่ๆ ไม่อยากเกลียดไม่อยากโกรธไม่อยากทุกข์ใจไปมากกว่านี้ ดิฉันควรพาลูกออกไปอยู่ที่อื่นดีกว่าไม๊คะ เพราะเค้าก็ยังไม่ยอมไป คือดิฉันยอมอยู่ในห้องหอพักกับลูกอีก2 คนก็ได้นะ ขอคำแนะนำจากทุกคนด้วยนะคะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
จะตัดสินใจเป็นฝ่ายเดินออกจากบ้านพร้อมลูกเองดีกว่ารอเค้าออกไป ดีไม๊ เพราะใจเริ่มรับไม่ไหวแล้ว !!!!
เราตกลงว่าเลิกกัน โดยสามีให้อยุ่บ้านนี้เพราะใกล้ รร ลูก เราตกลงกัน อยู่ด้วยกันจะไม่แสดงให้ลูกเห็นว่ามีปัญหากัน จะทำเหมือนปกติ เพียงแต่ไม่ได้นอนห้องเดียวกัน เรานอนกับลูกข้างล่าง เค้าก็แยกไปนอนในห้องชั้น2 ซึ่งเราเอง ทำใจได้ระดับนึง ไม่คิด ไม่ถาม ไม่ส่อง ไม่อยากรู้เรื่องของเค้ากับคนอื่น ทำหน้าที่แม่ และแม่บ้านเหมือนเดิม กับเค้าเราก็ดูแลเหมือนเดิม เหมือน17ปีที่ผ่านมา แต่แล้ว เหตุการณ์หลายอย่างก็ทำให้เรารู้สึกว่า ต้องแยกกันอยู่ตั้งแต่ตอนนี้ ก่อนที่ดิฉันจะเกลียดเค้าไปมากกว่านี้..สิ่งที่ทำให้ดิฉันคิดว่าควรต้องแยกกันอยู่ คือ
1.คำพูดดูถูก คำพูดทำร้ายจิตใจ มีมาตลอดเวลา เช่น สามีตอนนี้มีโรคประจำตัว คือไต เราก็ดูแลอาหารให้ แต่เค้าดันพูดว่า คนเราทำอะไรไม่ได้ออกมาจากความจริงใจ สักวันก็เลิกทำ ว่าดิฉันที่ดูแลเค้าทั้งเสื้อผ้า ผิวพรรณ กล่าวหาว่าดิฉันเสแสร้ง หรือแม้กระทั่งกับลูกเอง ทุกวันนี้ดิฉันต้องตื่นตี4 เพื่อเตรียมอาหารไว้ให้ลูกเพราะเย็นเด็กกลับมาไม่มีคนอยู่ด้วย เราก็เตรียมให้ทั้งเช้าและไว้กินตอนเย็น ก็ว่าดิฉันแกล้งทำ จนบางที เค้าพูดจบน้ำตาเราไหลเลย ทำไมต้องขนาดนี้เลยเหรอ
2. ความสัมพันธ์กับลูกๆ เค้าเองมีเวลาทำกิจกรรมส่วนตัวเช่นไปปั่นจักรยาน ได้ตลอดแต่ไม่มีวันหยุดเพื่ออยู่กับลูกๆ สัญญาจะพาลูกไปเที่ยวก็ไม่พาไป เราเองก็ต้องเป็นฝ่ายพาไปทั้งที่ตัวเองก็ไม่สบาย และเหตุการณ์ที่สะเทือนใจคนเป็นแม่มากคือ มีอยู่คืนนึง ลูกชายคนเล็ก 4 ขวบอยากนอนกับพ่อ อยากให้พ่อนอนด้วย ลูกพูดว่า หนูอยากให้นอนด้วยกัน4 คนเหมือนเดิม แต่คนเป็นพ่อเดินหันหลังขึ้นบันไดไปเลย ลูกชายนั่งร้องไห้ตรงบันได พ่อไม่หันมามองด้วยซ้ำ เรานี่เข้าไปกอดลูกน้ำตาไหลเลย คือไม่ได้อยากนอนกับเค้าหรอกนะคะ แต่กับลูก คุณควรจะมีใจให้ลูกหน่อยไม๊ ลูกหลับแล้วค่อยแยกไปนอนก็ได้ แต่เค้าไม่แม้จะหันมามองด้วยซ้ำ แต่ละวัน เค้าแทบไม่ได้เล่นกับลูก ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำ เจอลูกวันนึงไม่ถึง 1ชม พอเราพูดให้เวลากับลูกบ้าง เค้าก็จะตอบกลับมาว่า ให้ลูกอยู่กับเธอ ลูกจะได้ไม่ติดฉัน แม้กระทั่งเมื่อวันที่8/8 ดิฉันต้องนอน รพ เพราะผ่าตัดนิ่ว เค้าอยู่กับลูก กับข้าวนก็ไม่เตรียมให้ลูกเสักวัน ยิ่งกับดิฉัน ต้องบอกว่าใจดำมาก ดิฉันไม่มีญาติใน กทม ดิฉันต้องเข้าผ่าตัด เค้าไม่แม้จะไปดู ส่งดิฉันหน้า รพ แค่นั้น วันแรกดิฉันต้องนอนติดเตียงเพราะขยับไม่ได้ เค้ายังไม่แวะมาดูด้วยซ้ำ นอน รพ อยู่คนเดียว 4 วัน วันออกก็จัดการเองทุกอย่าง...
ที่เล่ามาแค่บางส่วน เวลาทำอะไรพลาดนิดเดียว เค้าจะต่อว่าใหญ่โตมาก เราก็จะเงียบไม่อยากมีปากเสียงให้ลูกรู้ จนมาเมื่อคืน ความอดทนดิฉันก็ขาดค่ะ
เค้าเอารถพี่สาวกลับมาบ้าน แต่มีรถมอไซค์จอดขวาง ดิฉันก็จะขยับรถให้เพราะเอารถใหญ่เข้าจอดในบ้าน แต่ทำไม่ค่อยสะดวกเพราะยังเจ็บแผล เค้าลงจากรถและตะคอกดิฉันอย่างแรง ใช้คำพูด"ถอยไปไกลๆ จะทำเอง" จากนั้น พอเข้าบ้านมา คือชั้นล่างที่ดิฉันกับลูกนอนไม่ได้กั้นห้องค่ะ นอนกันหน้าทีวี เค้าใช้คำถามว่า "เธอนอนกับลูกทุกวันรู้ไม๊ยุงมันกัดลูก เป็นแม่ประสาอะไร เรื่องแค่นี้ไม่รู้ไม่ดูแล แล้วอยากจะเอาลูกไว้เอง หรือไม่ใส่ใจ" คำพูดประมาณนี้ และส่งสายตาตำหนิมาให้ด้วย คือ ยุงมีแต่ถ้าวันไหนฝนไม่ตก ก็จะไม่มี ลูกไม่อยากนอนมุ้งเพราะร้อน บ้านไม่ติดแอร์ค่ะ ซึ่งดิฉันนอนแบบนี้ักันมา 2-3เดือนแล้ว ตั้งแต่เราแยกกัน ก็ไม่ได้มีปัญหา คงเพราะช่างที่เค้าต้องอยู่กับลูกตอนที่ดิฉันนอน รพ แหละ ดิฉันเลยถามลูกว่า แล้วตอนพ่อนอนกับหนูพ่อกางมุ้งให้หรือป่าว ลูกก็บอกว่าไม่ได้กางก็นอนแบบนี้
มันเหมือนว่า ทำอะไรก็ผิดหมด ทั้งที่ตัวเค้าเองก็ไม่เคยทำอะไรให้ลูก ดิฉันดูแลเองหมด เค้าให้แค่เงินเดือนละ 15000 บาท ที่ทำให้เค้ายังพอมีความรับผิดชอบอยู่บ้างเท่านั้น นอนคิดทั้งคืน ดิฉันไม่ไหวแล้ว ถ้าหากยังอยู่บ้านเดียวกัน ดิฉันคงต้องเกลียดเค้ามากแน่ๆ ไม่อยากเกลียดไม่อยากโกรธไม่อยากทุกข์ใจไปมากกว่านี้ ดิฉันควรพาลูกออกไปอยู่ที่อื่นดีกว่าไม๊คะ เพราะเค้าก็ยังไม่ยอมไป คือดิฉันยอมอยู่ในห้องหอพักกับลูกอีก2 คนก็ได้นะ ขอคำแนะนำจากทุกคนด้วยนะคะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ