เรื่องมีอยู่ว่า...พี่ที่ทำงานของเราคนหนึ่ง แกเป็นคนไม่หล่อ แต่ใจดี ชอบทำบุญ ชอบช่วยเหลือคนอื่น อายุก็น่าจะราวๆ 40-50 ปี ทำงานที่บริษัทมานานแล้ว ส่วนเราอายุ 20+ เพิ่งเข้ามาได้ปีเดียว โดยเราเข้ามาทำงานในแผนกเดียวกับเพื่อน ซึ่งเพื่อนเราทำอยู่ก่อนแล้ว ต้องบอกก่อนนะคะว่างานที่เราทำต้องเข้ากะ มีกะเช้า กะสายและกะบ่ายค่ะ เราเป็นคนไม่สุงสิงหรือสนิทกับใครนอกจากเพื่อนในแผนกเดียวกัน เพราะไม่รู้จักและไม่สนใจใครด้วยแหละ ก่อนหน้าที่เราจะเข้ามาพี่แกก็จะช่วยเหลือเพื่อนจขกท. อยู่บ่อยๆ เวลาที่ต้องการความช่วยเหลือหรือทำสิ่งที่แกพอจะช่วยได้ เพราะแกจะอาสาทำให้ตลอดไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม แต่เราไม่ค่อยขอให้แกช่วยสักเท่าไหร่ เพราะเราเป็นคนขี้เกรงใจ และไม่อยากรบกวนใครอยู่แล้ว
ทำงานประมาณเดือนที่ 9 พี่แกเริ่มซื้อของกินมาให้ตอนเช้า คือจริงๆ ที่ทำงานเรามีข้าวให้กินฟรีค่ะ แต่มีแค่ 2 มื้อ คือมื้อเที่ยงกะมื้อเย็น ตอนเช้ามีกาแฟกะโอวัลตินให้ชงกินเอง ซึ่งปกติเราก็จะกินโอวัลตินนี่แหละ 3 แก้ว แค่นั้นให้มันอิ่มถึงมื้อเที่ยง พี่แกเริ่มซื้อให้จากข้าวเหนียวหมูปิ้งก่อน หลังๆ เริ่มสลับเป็นขนม อาหารจากเซเว่น หรือข้าวกล่อง แรกๆ ก็ซื้อให้ไม่ทุกวัน แต่หลังๆ มา พี่แกเล่นกลายเป็นผู้สนับสนุนหลักเฉยเลย ซื้อให้ทุกวันที่เราเข้ากะเช้าจริงๆ เราก็เกรงใจมากกกกกกกกกกกก บอกแกตลอดนะ ว่าเกรงใจ ไม่ต้องซื้อมาให้ บอกตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่พี่แกเริ่มเข้ามาเป็นสปอนเซอร์อาหารเช้าแล้ว แต่พี่แกก็ยังซื้อมาให้ตลอด เราบอกแล้วบอกอีก จนในที่สุดเราก็เลิกปฏิเสธ เพราะแกไม่ได้ซื้อให้เรากินคนเดียว แกซื้อให้เพื่อนเราด้วยถ้าเพื่อนเราเข้ากะเช้า ซึ่งก็เพิ่งมาให้เหมือนกันนะ เมื่อก่อนยังไม่ซื้อให้แบบนี้ เราไม่อยากให้ติดเป็นหนี้บุญคุณมากเกินไป เพราะแกให้พวกเรามาเยอะ เรามีโอกาสก็จะพยายามซื้อขนมไปให้แกเหมือนกัน แต่ให้ได้ไม่บ่อยเท่าแกเพราะเราประหยัด ไม่ค่อยมีเงินไว้ซื้อของมากนัก อาศัยข้าวฟรีที่ทำงาน ปกติไม่ค่อยจะซื้อกินอยู่แล้ว ฟังดูอาจจะดูเหมือนเราขี้เหนียวนะ แต่เรายอมรับนะว่าเราขี้เหนียวจริงๆ แหละ เพราะอะไรที่ฟุ่มเฟือยเราจะไม่ซื้อกินเลย เรามีเงินเหลือใช้ต่อเดือนไม่เยอะด้วย เลยให้คืนแกได้ไม่เยอะ บางทีซื้ออะไรไปที่เราว่าอร่อย แกก็ดันกินไม่เป็นอีก -_-
ของที่พี่แกซื้อให้เรา บางทีเราไม่ชอบนะ แต่เราก็กิน เพราะเห็นว่าเป็นน้ำใจ กินหมดอะไรที่แกให้ เราเริ่มสงสัยว่าแกอยากมาเป็นสปอนเซอร์เราทำไมตั้งแต่แรกๆ แล้วค่ะ สงสัยตลอดแต่คิดว่าคงเพราะแกชอบทำบุญทำทานรึเปล่า ก็ปรึกษากับเพื่อนที่แกซื้อให้กินเหมือนกัน เพื่อนบอกว่าเพราะแกชอบทำบุญมั้ง อย่าปฏิเสธแกเลยเดี๋ยวเสียน้ำใจ เราก็เลยรับของแกมาตลอดค่ะ
เมื่อก่อนให้ข้าวเช้า หลังๆ มานี่นอกจากข้าวเช้าแล้วแกยังมีขนม ผลไม้ อาหารอื่นๆ มาให้ด้วยช่วงที่เราเข้ากะสายหรือบ่าย แกแอดเฟสบุคเรา ซึ่งปกติเราไม่รับคนอื่นที่บริษัทเป็นเพื่อนนะคะ ยกเว้นในแผนก แต่เพราะแกมีบุญคุณเราเลยรับ แกก็ทักมาคุยมาถามเรื่องงาน เรื่องทั่วไป ไม่มีอะไรอื่น และมีวันนึงแกทักมาถามว่า ชอบกินอะไรบ้าง อาหาร ผล ไม้ ขนม ให้เราตอบ เราก็คิดนะว่าถามทำไม เรื่องส่วนตัว แต่แกบอกอยากรู้เราก็ลำบากใจนะแต่ก็บอกแกไป หลังจากนั้นแกก็ซื้อทุกอย่างที่เราบอกว่าชอบมาให้ตลอด เช่น เราบอกว่าชอบมะละกอ แกก็ซื้อมะละกอมาให้จากในห้าง ราคาก็แพง ของแพงๆ แกก็ซื้อมาให้ เราอยากให้แกเอาเงินไปซื้อให้ลูกเมียแกกินมากค่ะ (แกมีลูกเมียแล้ว) เวลาแกซื้อของพวกนี้เราแบ่งเพื่อนตลอดนะคะ แกซื้อให้เราจนเหมือนกลายเป็นหน้าที่แกเลย เบอร์เราแกก็ขอ นี่แอบคิดสุดๆ ว่ามี something รึเปล่านะ แต่แกก็พูดดักทีหลังว่าเอาไว้เป็นเบอร์ญาติผู้ใหญ่ติดต่อยามฉุกเฉิน เพราะเห็นว่าเรามาทำงานกรุงเทพคนเดียว ญาติพี่น้องไม่มี แฟนไม่มี เราเลยให้
เรื่องมันเริ่มเลวร้ายมากขึ้น เมื่อแกยังคงซื้อให้ต่อเนื่อง และมากกว่าเดิม ถ้าเราเข้ากะบ่าย ดึกๆ แกจะซื้อขนม มาให้ ซึ่งเราไม่ทานมื้อดึก แต่ของที่แกซื้อมาส่วนใหญ่คือของชอบเราทั้งนั้น บางทีก็อดใจไม่ไหวกินมื้อดึกอีก เราเป็นกรดไหลย้อน ยิ่งกินดึกยิ่งส่งผล ต้องโทษตัวเราเองด้วย หลังๆ เราพยายามเอาไปให้คนอื่นแทน วันหยุด แกยังอุตสาห์ใจดีซื้อของมาให้กินถึงหอพัก แกรู้ที่อยู่เราว่าอยู่แถวไหน ซึ่งไม่ไกลจากที่ทำงาน และสิ่งที่เราไม่ชอบมากที่สุดคือแกจะรอไปส่งเราตอนเลิกงานทุกวันถ้าเลิกดึก บอกว่าอันตราย โจรวิ่งราวเยอะ
ทุกสิ่งทุกอย่างที่แกทำเราเคยถามแกในวันที่เราไม่ไหว แกบอกว่าเราอยู่กรุงเทพฯ คนเดียว ไม่มีแฟน ไม่มีเพื่อน ไม่มีญาติพี่น้อง แกอยากเป็นญาติผู้ใหญ่ให้เรา แกอยากมีลูกสาวเพราะแกมีลูกชายแล้ว เราเลยรับน้ำใจจากแกมาตลอด แม้ว่าในใจเราไม่ชอบเลย เราไม่อยากได้ของจากแก เราไม่อยากให้แกไปส่ง สิ่งที่แกให้เรานี้เราไม่ได้เรียกร้องเลยนะคะ แกหยิบยื่นมาให้เอง แม้ว่าเราอยากจะได้หรือไม่ก็ตาม แต่เราต้องรับไว้เพราะน้ำใจหรือคะ หรือจะมีวิธีไหนปฏิเสธแกแบบดีๆ ไหมคะ เราเบื่อนะ วันหยุดเราอยากซื้อกินเอง ไม่อยากให้แกซื้อให้ ไม่อยากรับ เพราะรับแล้วแกก็จะให้เรื่อยๆ เรากลัวค่ะ กลัวว่าแกให้เพราะความพิศวาส มากกว่าความเอ็นดู
ป.ล. เราไม่อยากทำร้ายน้ำใจหรือทำร้ายจิตใจแกเลย แกดีกับเรามากจนเราไม่อยากจะคิดกับแกในทางลบ แต่พอแกเริ่มหนักข้อขึ้นเราก็ต้องคิดอ่ะค่ะ เรากลัวคนมองไม่ดีทั้งแกและเราเพราะแกให้หนักกะเราคนเดียว เพื่อนเรายังไม่ขนาดนี้ (เพื่อนจขกท. มีลูกมีผัวแล้ว เราโสด)
พี่ที่ทำงานชอบซื้อของกินมาให้ แต่เราไม่ชอบเลย
ทำงานประมาณเดือนที่ 9 พี่แกเริ่มซื้อของกินมาให้ตอนเช้า คือจริงๆ ที่ทำงานเรามีข้าวให้กินฟรีค่ะ แต่มีแค่ 2 มื้อ คือมื้อเที่ยงกะมื้อเย็น ตอนเช้ามีกาแฟกะโอวัลตินให้ชงกินเอง ซึ่งปกติเราก็จะกินโอวัลตินนี่แหละ 3 แก้ว แค่นั้นให้มันอิ่มถึงมื้อเที่ยง พี่แกเริ่มซื้อให้จากข้าวเหนียวหมูปิ้งก่อน หลังๆ เริ่มสลับเป็นขนม อาหารจากเซเว่น หรือข้าวกล่อง แรกๆ ก็ซื้อให้ไม่ทุกวัน แต่หลังๆ มา พี่แกเล่นกลายเป็นผู้สนับสนุนหลักเฉยเลย ซื้อให้ทุกวันที่เราเข้ากะเช้าจริงๆ เราก็เกรงใจมากกกกกกกกกกกก บอกแกตลอดนะ ว่าเกรงใจ ไม่ต้องซื้อมาให้ บอกตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่พี่แกเริ่มเข้ามาเป็นสปอนเซอร์อาหารเช้าแล้ว แต่พี่แกก็ยังซื้อมาให้ตลอด เราบอกแล้วบอกอีก จนในที่สุดเราก็เลิกปฏิเสธ เพราะแกไม่ได้ซื้อให้เรากินคนเดียว แกซื้อให้เพื่อนเราด้วยถ้าเพื่อนเราเข้ากะเช้า ซึ่งก็เพิ่งมาให้เหมือนกันนะ เมื่อก่อนยังไม่ซื้อให้แบบนี้ เราไม่อยากให้ติดเป็นหนี้บุญคุณมากเกินไป เพราะแกให้พวกเรามาเยอะ เรามีโอกาสก็จะพยายามซื้อขนมไปให้แกเหมือนกัน แต่ให้ได้ไม่บ่อยเท่าแกเพราะเราประหยัด ไม่ค่อยมีเงินไว้ซื้อของมากนัก อาศัยข้าวฟรีที่ทำงาน ปกติไม่ค่อยจะซื้อกินอยู่แล้ว ฟังดูอาจจะดูเหมือนเราขี้เหนียวนะ แต่เรายอมรับนะว่าเราขี้เหนียวจริงๆ แหละ เพราะอะไรที่ฟุ่มเฟือยเราจะไม่ซื้อกินเลย เรามีเงินเหลือใช้ต่อเดือนไม่เยอะด้วย เลยให้คืนแกได้ไม่เยอะ บางทีซื้ออะไรไปที่เราว่าอร่อย แกก็ดันกินไม่เป็นอีก -_-
ของที่พี่แกซื้อให้เรา บางทีเราไม่ชอบนะ แต่เราก็กิน เพราะเห็นว่าเป็นน้ำใจ กินหมดอะไรที่แกให้ เราเริ่มสงสัยว่าแกอยากมาเป็นสปอนเซอร์เราทำไมตั้งแต่แรกๆ แล้วค่ะ สงสัยตลอดแต่คิดว่าคงเพราะแกชอบทำบุญทำทานรึเปล่า ก็ปรึกษากับเพื่อนที่แกซื้อให้กินเหมือนกัน เพื่อนบอกว่าเพราะแกชอบทำบุญมั้ง อย่าปฏิเสธแกเลยเดี๋ยวเสียน้ำใจ เราก็เลยรับของแกมาตลอดค่ะ
เมื่อก่อนให้ข้าวเช้า หลังๆ มานี่นอกจากข้าวเช้าแล้วแกยังมีขนม ผลไม้ อาหารอื่นๆ มาให้ด้วยช่วงที่เราเข้ากะสายหรือบ่าย แกแอดเฟสบุคเรา ซึ่งปกติเราไม่รับคนอื่นที่บริษัทเป็นเพื่อนนะคะ ยกเว้นในแผนก แต่เพราะแกมีบุญคุณเราเลยรับ แกก็ทักมาคุยมาถามเรื่องงาน เรื่องทั่วไป ไม่มีอะไรอื่น และมีวันนึงแกทักมาถามว่า ชอบกินอะไรบ้าง อาหาร ผล ไม้ ขนม ให้เราตอบ เราก็คิดนะว่าถามทำไม เรื่องส่วนตัว แต่แกบอกอยากรู้เราก็ลำบากใจนะแต่ก็บอกแกไป หลังจากนั้นแกก็ซื้อทุกอย่างที่เราบอกว่าชอบมาให้ตลอด เช่น เราบอกว่าชอบมะละกอ แกก็ซื้อมะละกอมาให้จากในห้าง ราคาก็แพง ของแพงๆ แกก็ซื้อมาให้ เราอยากให้แกเอาเงินไปซื้อให้ลูกเมียแกกินมากค่ะ (แกมีลูกเมียแล้ว) เวลาแกซื้อของพวกนี้เราแบ่งเพื่อนตลอดนะคะ แกซื้อให้เราจนเหมือนกลายเป็นหน้าที่แกเลย เบอร์เราแกก็ขอ นี่แอบคิดสุดๆ ว่ามี something รึเปล่านะ แต่แกก็พูดดักทีหลังว่าเอาไว้เป็นเบอร์ญาติผู้ใหญ่ติดต่อยามฉุกเฉิน เพราะเห็นว่าเรามาทำงานกรุงเทพคนเดียว ญาติพี่น้องไม่มี แฟนไม่มี เราเลยให้
เรื่องมันเริ่มเลวร้ายมากขึ้น เมื่อแกยังคงซื้อให้ต่อเนื่อง และมากกว่าเดิม ถ้าเราเข้ากะบ่าย ดึกๆ แกจะซื้อขนม มาให้ ซึ่งเราไม่ทานมื้อดึก แต่ของที่แกซื้อมาส่วนใหญ่คือของชอบเราทั้งนั้น บางทีก็อดใจไม่ไหวกินมื้อดึกอีก เราเป็นกรดไหลย้อน ยิ่งกินดึกยิ่งส่งผล ต้องโทษตัวเราเองด้วย หลังๆ เราพยายามเอาไปให้คนอื่นแทน วันหยุด แกยังอุตสาห์ใจดีซื้อของมาให้กินถึงหอพัก แกรู้ที่อยู่เราว่าอยู่แถวไหน ซึ่งไม่ไกลจากที่ทำงาน และสิ่งที่เราไม่ชอบมากที่สุดคือแกจะรอไปส่งเราตอนเลิกงานทุกวันถ้าเลิกดึก บอกว่าอันตราย โจรวิ่งราวเยอะ
ทุกสิ่งทุกอย่างที่แกทำเราเคยถามแกในวันที่เราไม่ไหว แกบอกว่าเราอยู่กรุงเทพฯ คนเดียว ไม่มีแฟน ไม่มีเพื่อน ไม่มีญาติพี่น้อง แกอยากเป็นญาติผู้ใหญ่ให้เรา แกอยากมีลูกสาวเพราะแกมีลูกชายแล้ว เราเลยรับน้ำใจจากแกมาตลอด แม้ว่าในใจเราไม่ชอบเลย เราไม่อยากได้ของจากแก เราไม่อยากให้แกไปส่ง สิ่งที่แกให้เรานี้เราไม่ได้เรียกร้องเลยนะคะ แกหยิบยื่นมาให้เอง แม้ว่าเราอยากจะได้หรือไม่ก็ตาม แต่เราต้องรับไว้เพราะน้ำใจหรือคะ หรือจะมีวิธีไหนปฏิเสธแกแบบดีๆ ไหมคะ เราเบื่อนะ วันหยุดเราอยากซื้อกินเอง ไม่อยากให้แกซื้อให้ ไม่อยากรับ เพราะรับแล้วแกก็จะให้เรื่อยๆ เรากลัวค่ะ กลัวว่าแกให้เพราะความพิศวาส มากกว่าความเอ็นดู
ป.ล. เราไม่อยากทำร้ายน้ำใจหรือทำร้ายจิตใจแกเลย แกดีกับเรามากจนเราไม่อยากจะคิดกับแกในทางลบ แต่พอแกเริ่มหนักข้อขึ้นเราก็ต้องคิดอ่ะค่ะ เรากลัวคนมองไม่ดีทั้งแกและเราเพราะแกให้หนักกะเราคนเดียว เพื่อนเรายังไม่ขนาดนี้ (เพื่อนจขกท. มีลูกมีผัวแล้ว เราโสด)