อย่างแรกเลย เศรษฐกิจดี๊ดี... กับ ชีวิตดี๊ดี... มันไม่เหมือนกันนะครับ
เศรษฐกิจดี ชีวิตก็ห่วยได้
เศรษฐกิจห่วย ชีวิตก็ดีได้
การเล่นเก้าเก ใครหน้าตักเยอะ ก็ได้เปรียบคนหน้าตักน้อยๆอยู่แล้ว
ยิ่งถ้าสองใบเก ใครหน้าตักน้อย ไม่แน่จริงไม่นิ่งจริง และดวงไม่ดีจริง
เจ๊ง..กับเจ๊ง ครับ
คำว่า "เงินต่อเงิน" มันย่อมมีที่มา การลงทุนทำธุรกิจอะไรสักอย่าง
มีเงินเตี่ยให้มา 20-30 ล้าน ซื้อตึก ตกแต่ง มันไม่มีต้นทุนเรื่องดอกเบี้ย
ต่อให้ทำธุรกิจเจ๊ง ก็ยังเหลือตึก ไม่เดือดร้อน เพราะไม่ได้กู้มาทำ
ถามว่ากล้ามั้ย แบบนี้ไม่เรียกกล้าครับ
ถ้ากล้าต้องแบบพ่อค้าก๋วยเตี๋ยว กำเงินก้อนสุดท้ายในมือแค่ไม่กี่หมื่น
ลงทุนซื้อตู้ เช่าที่ ซื้ออุปกรณ์ ทำขายสักสิบวันยี่สิบวันถ้าไปไม่รอดคือหมดตัว
แบบนี้ถึงเรียกว่ากล้า!!
ยิ่งถ้าบอกว่าการเริ่มธุรกิจในตอนแรก เตี่ยให้วัตถุดิบมาแบบไม่คิดเงิน
มันก็ไม่ต้องใช้ความกล้าอะไรแล้วครับ
ถ้าจกจะคุยว่าขยันจนสำเร็จ โอเคครับ
แต่อย่าคุยว่าเศรษฐกิจดีจึงสำเร็จ อย่าคุยว่ากล้าทำจึงสำเร็จ
อายเค้าครับ!!
อย่างที่สองนะครับจก
การทำการค้า เช่นร้านกาแฟ
บอกว่า 40 แก้วมีกำไรแล้ว คือกำไรอะไรครับ กำไรสุทธิ กำไรก่อนหักค่าใช้จ่าย
หรือแค่กำไรหลังหักต้นทุนค่ากาแฟ
ถ้าแบบนั้น แก้วเดียวก็กำไรแล้วครับ.
กิจการของผมก็ยังไม่ตกครับ ยอดขายก็ยังดีอยู่ ผมก็ไม่ได้คิดว่าเพราะเศรษฐกิจดี
เพราะว่า....
ถ้าเศรษฐกิจมันดีจริง ยอดขายไตรมาสแรกของผมป่านนี้มันควรจะถึง 8 หลักได้แล้ว
และยอดเช็คเด้งของลูกค้าก็ควรจะน้อยกว่านี้ หรือไม่มีเลย..
คุยได้ครับ ว่าตัวคุณขยัน
คุยได้ครับ ว่าตัวคุณมันรวย
แต่อย่าคุยครับว่าตัวเองเก่ง แล้วไปประชดคนอื่น
ยิ่งอย่าได้คุยครับ ว่าเศรษฐกิจมันดี
ถ้าเศรษฐกิจดีจริง คุณเก่งจริง ลองไปสอนไปบริหารร้าน 3 อย่าง 100 ให้มีกำไรร่ำรวยหน่อยครับ
อย่าบอกว่าอินดี้ หรือเล่นเอามันล่ะ!!!
*** จิ้งจกครับ จะสอนอะไรให้นะครับ ***
เศรษฐกิจดี ชีวิตก็ห่วยได้
เศรษฐกิจห่วย ชีวิตก็ดีได้
การเล่นเก้าเก ใครหน้าตักเยอะ ก็ได้เปรียบคนหน้าตักน้อยๆอยู่แล้ว
ยิ่งถ้าสองใบเก ใครหน้าตักน้อย ไม่แน่จริงไม่นิ่งจริง และดวงไม่ดีจริง
เจ๊ง..กับเจ๊ง ครับ
คำว่า "เงินต่อเงิน" มันย่อมมีที่มา การลงทุนทำธุรกิจอะไรสักอย่าง
มีเงินเตี่ยให้มา 20-30 ล้าน ซื้อตึก ตกแต่ง มันไม่มีต้นทุนเรื่องดอกเบี้ย
ต่อให้ทำธุรกิจเจ๊ง ก็ยังเหลือตึก ไม่เดือดร้อน เพราะไม่ได้กู้มาทำ
ถามว่ากล้ามั้ย แบบนี้ไม่เรียกกล้าครับ
ถ้ากล้าต้องแบบพ่อค้าก๋วยเตี๋ยว กำเงินก้อนสุดท้ายในมือแค่ไม่กี่หมื่น
ลงทุนซื้อตู้ เช่าที่ ซื้ออุปกรณ์ ทำขายสักสิบวันยี่สิบวันถ้าไปไม่รอดคือหมดตัว
แบบนี้ถึงเรียกว่ากล้า!!
ยิ่งถ้าบอกว่าการเริ่มธุรกิจในตอนแรก เตี่ยให้วัตถุดิบมาแบบไม่คิดเงิน
มันก็ไม่ต้องใช้ความกล้าอะไรแล้วครับ
ถ้าจกจะคุยว่าขยันจนสำเร็จ โอเคครับ
แต่อย่าคุยว่าเศรษฐกิจดีจึงสำเร็จ อย่าคุยว่ากล้าทำจึงสำเร็จ
อายเค้าครับ!!
อย่างที่สองนะครับจก
การทำการค้า เช่นร้านกาแฟ
บอกว่า 40 แก้วมีกำไรแล้ว คือกำไรอะไรครับ กำไรสุทธิ กำไรก่อนหักค่าใช้จ่าย
หรือแค่กำไรหลังหักต้นทุนค่ากาแฟ
ถ้าแบบนั้น แก้วเดียวก็กำไรแล้วครับ.
กิจการของผมก็ยังไม่ตกครับ ยอดขายก็ยังดีอยู่ ผมก็ไม่ได้คิดว่าเพราะเศรษฐกิจดี
เพราะว่า....
ถ้าเศรษฐกิจมันดีจริง ยอดขายไตรมาสแรกของผมป่านนี้มันควรจะถึง 8 หลักได้แล้ว
และยอดเช็คเด้งของลูกค้าก็ควรจะน้อยกว่านี้ หรือไม่มีเลย..
คุยได้ครับ ว่าตัวคุณขยัน
คุยได้ครับ ว่าตัวคุณมันรวย
แต่อย่าคุยครับว่าตัวเองเก่ง แล้วไปประชดคนอื่น
ยิ่งอย่าได้คุยครับ ว่าเศรษฐกิจมันดี
ถ้าเศรษฐกิจดีจริง คุณเก่งจริง ลองไปสอนไปบริหารร้าน 3 อย่าง 100 ให้มีกำไรร่ำรวยหน่อยครับ
อย่าบอกว่าอินดี้ หรือเล่นเอามันล่ะ!!!