
สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว Pantip ทุกท่าน
วันนี้ผมขอมาแชร์ประสบการณ์ตรงที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยเฉพาะ Tesla หรือรถ EV รุ่นอื่นๆ ที่มีความเงียบเป็นพิเศษครับ เรื่องมีอยู่ว่า...
รถผม: Tesla Model Y
อายุยาง: 2 ปี 4 เดือน (ยางติดรถ ตีตราผลิตปี 2023 ถือว่าสดใหม่มาก)
ระยะทาง: 34,000 กิโลเมตร
ปัญหาที่เจอ: ช่วงหลังๆ มานี้ ผมรู้สึกชัดเจนว่าเสียงยางเวลาวิ่งบนถนนมันดังขึ้นมาก เป็นเสียงหึ่งๆ น่ารำคาญเข้ามาในห้องโดยสาร จากที่เคยเงียบสงบ ตอนนี้เริ่มรู้สึกหงุดหงิดเวลาขับทางไกล แต่พอผมก้มลงไปดูยาง... โอ้โห! ดอกยางยังเต็มๆ เลยครับ ลองวัดดูยังเหลือตั้ง 6 มม. (ของใหม่ประมาณ 7-8 มม.) ซึ่งตามคู่มือบอกว่าถ้าต่ำกว่า 3-4 มม. ค่อยน่าเป็นห่วง
ผมเอารถเข้าศูนย์บริการ ช่างก็ดูแล้วบอกว่า "ปกติครับพี่ ยางยังดีมาก ดอกเหลือเยอะขนาดนี้ใช้ได้อีกเป็น 20,000 โลสบายๆ"
คำตอบนี้มันทำให้ผมคาใจมากครับ! ในแง่ความปลอดภัยน่ะใช่ แต่ในแง่ฟีลลิ่งการขับขี่มันไม่ใช่เลย ความสุขในการขับรถ EV ที่เคยเงียบๆ มันหายไปไหน? ผมเลยตัดสินใจไปศึกษาข้อมูลเรื่องนี้อย่างจริงจัง จนได้เจอ "ความจริง" บางอย่างที่อยากเอามาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันครับ
ทำไมยางดอกเต็ม แต่เสียงดังสนั่น?
หลังจากที่ไปค้นคว้ามา สรุป "ผู้ร้ายตัวจริง" ไม่ใช่ดอกยางที่สึกหรอครับ แต่เป็นสิ่งเหล่านี้ต่างหาก:
1. "ยางตาย" หรือ "การแข็งตัวของเนื้อยาง" (Tire Hardening) นี่คือพระเอกของเรื่องเลยครับ ยางรถเราทุกเส้นต้องเจอสิ่งที่เรียกว่า "วัฏจักรความร้อน" (Heat Cycle) คือตอนวิ่งยางก็ร้อน ตอนจอดก็เย็น สลับไปมาเป็นพันๆ ครั้งตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ผลคือสารเคมีกับน้ำมันที่ทำให้ยางนุ่มนวล มันค่อยๆ ระเหยออกไปครับ เนื้อยางที่เคยนิ่มๆ ซับเสียงดีๆ ก็เลยค่อยๆ แข็งกระด้างขึ้นเรื่อยๆ พอยางแข็ง มันก็ซับแรงสะเทือนและเสียงจากการบดถนนได้ไม่ดีเหมือนเดิม เสียงก็เลยดังเข้าห้องโดยสารเต็มๆ
2. "การสึกแบบฟันเลื่อย" (Saw-tooth Wear) อันนี้คือตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดเสียง "หึ่งๆ" ที่ความเร็วคงที่เลยครับ มันคือการสึกของขอบดอกยางแต่ละก้อนที่ไม่เท่ากัน (ด้านหน้ากับหลังของบล็อกดอกยาง) เกิดจากแรงบิดมหาศาลของรถ EV การเบรก และการตั้งศูนย์ที่ไม่เป๊ะ 100% พอดอกยางมันมีลักษณะเหมือนฟันเลื่อยเล็กๆ วิ่งบดไปบนถนน มันเลยสร้างเสียงและความสั่นสะเทือนน่ารำคาญขึ้นมา ซึ่งมองด้วยตาเปล่าแทบไม่เห็น!
3. รถ EV เงียบเกินไป! ใช่ครับ ความเงียบของรถ EV คือดาบสองคม พอไม่มีเสียงเครื่องยนต์มากลบ เสียงยางที่เคยเป็นแค่เสียงรองในรถสันดาป ก็กลายเป็นเสียงที่ดังที่สุดและชัดเจนที่สุดในรถ EV นั่นเอง
ยางรถ EV ไม่ใช่ยางธรรมดา
ยางติดรถ Tesla (หรือ EV รุ่นใหม่ๆ) มักจะมีเทคโนโลยีพิเศษซ่อนอยู่ครับ คือ
"แผ่นโฟมดูดซับเสียง" ที่บุอยู่ด้านในของยาง เพื่อช่วยลดเสียงลมที่ก้องอยู่ในล้อโดยเฉพาะ ซึ่งช่วยให้รถเงียบมากตอนเป็นยางใหม่ แต่พอเนื้อยางภายนอกเริ่มแข็งขึ้น ประสิทธิภาพของโฟมอย่างเดียวก็เอาไม่อยู่ครับ
สรุปและสิ่งที่ผมได้เรียนรู้
ดอกยางเหลือเยอะ ไม่ได้แปลว่ายางยังดีเสมอไป ในเชิง "คุณภาพการขับขี่"
อายุการใช้งานของยางในแง่ "ความนุ่มเงียบ" อาจจะสั้นกว่าอายุในแง่ "ความปลอดภัย" มาก โดยเฉพาะกับรถ EV
การจอดรถตากแดดบ่อยๆ ยิ่งเร่งให้ยางแข็งตัวเร็วขึ้นไปอีก
การสลับยางและตั้งศูนย์ล้ออย่างสม่ำเสมอ คือสิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยยืดอายุ "ความเงียบ" ของยางได้
สุดท้ายนี้ ถ้าเพื่อนๆ คนไหนเจออาการแบบเดียวกับผม คือรถเริ่มเสียงดังขึ้นทั้งที่ยางยังดูใหม่ ก็สบายใจได้ครับว่ารถไม่ได้ผิดปกติ แต่เป็นธรรมชาติของยางที่เสื่อมสภาพตามการใช้งานจริง ถ้าเสียงมันดังจนรบกวนความสุขในการขับขี่แล้ว แม้ดอกจะเหลือเยอะ การเปลี่ยนยางชุดใหม่ที่เน้นเรื่องความนุ่มเงียบและมีเทคโนโลยีสำหรับ EV โดยเฉพาะ ก็อาจจะเป็นคำตอบที่คุ้มค่าครับ
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ นะครับ ใครมีประสบการณ์คล้ายๆ กัน หรือมียางรุ่นไหนแนะนำสำหรับ EV มาแชร์กันได้เลยนะครับ!
ขอบคุณครับ
ยางรถไฟฟ้า Tesla แค่ 2 ปี ทำไมเสียงดัง ทั้งที่ดอกยางเหลือเพียบ? ความจริงที่ศูนย์อาจไม่ได้บอก
สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว Pantip ทุกท่าน
วันนี้ผมขอมาแชร์ประสบการณ์ตรงที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยเฉพาะ Tesla หรือรถ EV รุ่นอื่นๆ ที่มีความเงียบเป็นพิเศษครับ เรื่องมีอยู่ว่า...
รถผม: Tesla Model Y อายุยาง: 2 ปี 4 เดือน (ยางติดรถ ตีตราผลิตปี 2023 ถือว่าสดใหม่มาก) ระยะทาง: 34,000 กิโลเมตร
ปัญหาที่เจอ: ช่วงหลังๆ มานี้ ผมรู้สึกชัดเจนว่าเสียงยางเวลาวิ่งบนถนนมันดังขึ้นมาก เป็นเสียงหึ่งๆ น่ารำคาญเข้ามาในห้องโดยสาร จากที่เคยเงียบสงบ ตอนนี้เริ่มรู้สึกหงุดหงิดเวลาขับทางไกล แต่พอผมก้มลงไปดูยาง... โอ้โห! ดอกยางยังเต็มๆ เลยครับ ลองวัดดูยังเหลือตั้ง 6 มม. (ของใหม่ประมาณ 7-8 มม.) ซึ่งตามคู่มือบอกว่าถ้าต่ำกว่า 3-4 มม. ค่อยน่าเป็นห่วง
ผมเอารถเข้าศูนย์บริการ ช่างก็ดูแล้วบอกว่า "ปกติครับพี่ ยางยังดีมาก ดอกเหลือเยอะขนาดนี้ใช้ได้อีกเป็น 20,000 โลสบายๆ"
คำตอบนี้มันทำให้ผมคาใจมากครับ! ในแง่ความปลอดภัยน่ะใช่ แต่ในแง่ฟีลลิ่งการขับขี่มันไม่ใช่เลย ความสุขในการขับรถ EV ที่เคยเงียบๆ มันหายไปไหน? ผมเลยตัดสินใจไปศึกษาข้อมูลเรื่องนี้อย่างจริงจัง จนได้เจอ "ความจริง" บางอย่างที่อยากเอามาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันครับ
ทำไมยางดอกเต็ม แต่เสียงดังสนั่น?
หลังจากที่ไปค้นคว้ามา สรุป "ผู้ร้ายตัวจริง" ไม่ใช่ดอกยางที่สึกหรอครับ แต่เป็นสิ่งเหล่านี้ต่างหาก:
1. "ยางตาย" หรือ "การแข็งตัวของเนื้อยาง" (Tire Hardening) นี่คือพระเอกของเรื่องเลยครับ ยางรถเราทุกเส้นต้องเจอสิ่งที่เรียกว่า "วัฏจักรความร้อน" (Heat Cycle) คือตอนวิ่งยางก็ร้อน ตอนจอดก็เย็น สลับไปมาเป็นพันๆ ครั้งตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ผลคือสารเคมีกับน้ำมันที่ทำให้ยางนุ่มนวล มันค่อยๆ ระเหยออกไปครับ เนื้อยางที่เคยนิ่มๆ ซับเสียงดีๆ ก็เลยค่อยๆ แข็งกระด้างขึ้นเรื่อยๆ พอยางแข็ง มันก็ซับแรงสะเทือนและเสียงจากการบดถนนได้ไม่ดีเหมือนเดิม เสียงก็เลยดังเข้าห้องโดยสารเต็มๆ
2. "การสึกแบบฟันเลื่อย" (Saw-tooth Wear) อันนี้คือตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดเสียง "หึ่งๆ" ที่ความเร็วคงที่เลยครับ มันคือการสึกของขอบดอกยางแต่ละก้อนที่ไม่เท่ากัน (ด้านหน้ากับหลังของบล็อกดอกยาง) เกิดจากแรงบิดมหาศาลของรถ EV การเบรก และการตั้งศูนย์ที่ไม่เป๊ะ 100% พอดอกยางมันมีลักษณะเหมือนฟันเลื่อยเล็กๆ วิ่งบดไปบนถนน มันเลยสร้างเสียงและความสั่นสะเทือนน่ารำคาญขึ้นมา ซึ่งมองด้วยตาเปล่าแทบไม่เห็น!
3. รถ EV เงียบเกินไป! ใช่ครับ ความเงียบของรถ EV คือดาบสองคม พอไม่มีเสียงเครื่องยนต์มากลบ เสียงยางที่เคยเป็นแค่เสียงรองในรถสันดาป ก็กลายเป็นเสียงที่ดังที่สุดและชัดเจนที่สุดในรถ EV นั่นเอง
ยางรถ EV ไม่ใช่ยางธรรมดา
ยางติดรถ Tesla (หรือ EV รุ่นใหม่ๆ) มักจะมีเทคโนโลยีพิเศษซ่อนอยู่ครับ คือ "แผ่นโฟมดูดซับเสียง" ที่บุอยู่ด้านในของยาง เพื่อช่วยลดเสียงลมที่ก้องอยู่ในล้อโดยเฉพาะ ซึ่งช่วยให้รถเงียบมากตอนเป็นยางใหม่ แต่พอเนื้อยางภายนอกเริ่มแข็งขึ้น ประสิทธิภาพของโฟมอย่างเดียวก็เอาไม่อยู่ครับ
สรุปและสิ่งที่ผมได้เรียนรู้
ดอกยางเหลือเยอะ ไม่ได้แปลว่ายางยังดีเสมอไป ในเชิง "คุณภาพการขับขี่"
อายุการใช้งานของยางในแง่ "ความนุ่มเงียบ" อาจจะสั้นกว่าอายุในแง่ "ความปลอดภัย" มาก โดยเฉพาะกับรถ EV
การจอดรถตากแดดบ่อยๆ ยิ่งเร่งให้ยางแข็งตัวเร็วขึ้นไปอีก
การสลับยางและตั้งศูนย์ล้ออย่างสม่ำเสมอ คือสิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยยืดอายุ "ความเงียบ" ของยางได้
สุดท้ายนี้ ถ้าเพื่อนๆ คนไหนเจออาการแบบเดียวกับผม คือรถเริ่มเสียงดังขึ้นทั้งที่ยางยังดูใหม่ ก็สบายใจได้ครับว่ารถไม่ได้ผิดปกติ แต่เป็นธรรมชาติของยางที่เสื่อมสภาพตามการใช้งานจริง ถ้าเสียงมันดังจนรบกวนความสุขในการขับขี่แล้ว แม้ดอกจะเหลือเยอะ การเปลี่ยนยางชุดใหม่ที่เน้นเรื่องความนุ่มเงียบและมีเทคโนโลยีสำหรับ EV โดยเฉพาะ ก็อาจจะเป็นคำตอบที่คุ้มค่าครับ
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ นะครับ ใครมีประสบการณ์คล้ายๆ กัน หรือมียางรุ่นไหนแนะนำสำหรับ EV มาแชร์กันได้เลยนะครับ!
ขอบคุณครับ