แฟนมีชู้กับเพื่อนสนิท เจอแบบเดิมซ้ำๆ จนปัจจุบันกลัวการมีแฟน

ก่อนอื่นก็ต้องเล่าความหลังก่อนนะครับ ยาวหน่อยนะครับ
ตอนที่ผมเรียน ปวส. อยู่ปี 2. ก็ได้มีแฟนกะเค้า 1 คน โดยเริ่มจากผมจัดรายการวิทยุ แล้วเค้าก็มานิ่งฟังทุกๆ เย็นหน้าสถาณี หลังเลิกเรียน ก็เริมคุยกัน ผมก็เล่าเรื่องผมฟัง ผมไม่หล่อ ผมจน ผมเป้นคนบ้านนอก จนอิท่าไหนไม่รึ้ก็เริ่มเป็นแฟน กัน เราก็เหมือคู่รักทำมะดา คู่หนึ่ง  ไม่มีอะไรมาก ผมทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยเพราะบ้านไม่ได้รวย จนจบ ปวส ก็ต่อป.ตรี ผมก็บังเอิน ขี้เกียจผ่อนผัน ก็เลยไปวัดดวง จับ ติดทบ.1 ราชบุรี่ ก็ชิลๆ ติดปุ๊ปแม่จับบวชเลย สึกออกมาก็ไปทหารเลย 1 ปี ชาวงเวลานั้น เอง ที่ผมติดทหาร มันก็มีเรื่องตะหงิดๆใจเหมือนเป็นลางไม่ดี พอมารู้ที่หลังคือ เพื่อนแฟนผมเค้าบอกมา ว่าแฟนผมแอบชอบแฟนเค้าอยู่  คือรุ่นน้องเรานั่นเอง ซึ่งผู้ชายก็มีแฟนอยู่ คือเพื่อนแฟนผมนั่นเอง คนที่ไปบอกผมนั่นเเหละ ตอนผมลาพักมา ช่วงหลังฝึกเสร็จ เค้าคิดว่าแอบคบกันเฉยๆ ไม่คิดว่า2 คนนี้นอนด้วยกันเเล้ว ผมมารู้ทีหลังว่าเค้านอนด้วยกันผมโกรธมากเกือบเลิกกัน ตัวแฟนผม ก็บอกว่าผู้ชายเค้าเข้ามากอดเฉยๆโดยไม่ได้มีอะไรกัน คือนอนดูหนังอยู่ เค้าก็มาง้อผมพักหนึ่ง ผมก็ใจ่อ่อน เพราะคิดว่าไม่ใช่ความผิดเค้า ปลดประจำการทหารเราก็มา คบกันตามเดิม แล้วผมก็มาเรียนต่อ ที่เดิม โดยครั้งนั้นไม่ได้ดรอบไว้เลยได้เรียนใหม่ แต่ความรักก็เริ่มระหองละแหง ทะเลาะกันบ่อยมากแทบทุกวัน คงเพราะตอนนั้นเค้าไม่ได้รักผม แต่ก็คบกันอยู่ จนเริ่มดีกันคงเพราะความดีของผมมั๊ง จนมาวันหนึง เหมือนจะเริ่มไปได้ด้วยดี เราก็มีเรื่องอีกจนได้ เทอจบก่อนผม ไปทำงานที่บ้านเทอ เป็นครู ส่วนผมที่จบใหม่จบทีหลัง ก็ได้ที่งานอยู่อีกที่ จังหวัดเดียวกันคนละ อำเภอ ห่างกัน 100 กว่ากิโล ก็ได้เจอหน้ากันกับ คนที่แอบมีไรกับแฟนผมโดยบังเอินเราก็ได้คุยกัน เค้าถามว่าเรากับแฟนเรา เป็นยังไงผมก็เลยพูดหยังไปว่าเลิกกันแล้ว ก็ได้คุยกันต่อ ที่ร้านข้าวก็รู้ว่า เค้าอยู่ด้วยกันช่วงผมติดทหาร 4 เดือนนอนด้วยกันบ้านหลังเดียวกัน ผมนี่จุกเลยแต่ก็เก็บอารมไว้ แล้วแยกย้ายกันไป คือพึ่งรู้ว่าเค้านอกใจเราเค้าแอบมีชู้ตอนนี้ ผมนี่ทั้งโกรธทั้งเสียใจ ตอนนั้นคงจะเลิก แต่ก็เพราะ เธอก็มาง้ออีกที เธอบอกโดนปล้ำ ไม่ได้อยู่ด้วยกัน 4เดือนอย่างที่ว่า ผมก็ใจอ่อนเพราะไม่ใช่ความผิดเธอ ช่างมันเถอะเรื่องมันแล้วไปแล้ว เธอก็เลยย้ายที่ทำงานมาทำอำเภอเมือง อำเภอเดียวกัน แต่ด้วยอะไรก็ไม่รุ้ ผมก็ต้องย้ายไปอีก อำเภอหนึง เธอทำงานกับกลุ่มเพื่อนเธอ เพื่อนสมัยเรียน แต่ผมก็มาเล่นด้วยกับเธอทุกคืนวันอาทิต ส่วนมากก็ไปร้านเหล้าบ้าง ไปร้องเพลงบ้าง คือผมก็บอกเค้าอยู่นะว่าเค้า เปลี่ยนไปนะ คือเธอบอกคลายเคลียดคบเพื่อนฝูงพากินอืมผมก็โอเค เพราะรู้จักกันหมดในบรรดาเพื่อนของเค้า สนิทกันด้วยเพื่อนกลุ่มเค้า 5 6 คนผมก็รุ้จักหมดสนิททุกคนไปกันที่ไรผมก็ไปนอนเฝ้าเค้า อย่างไปร้องเพลง คือผมไม่กินเหล้า ผมไม่สูปบุหรี่ ผมคออ่อนมากๆๆ ถ้ากินนี่แค่ 2 แก้วผมก็หัวทิ่มและ ส่วนมากเลยไปนอนเฝ้า ที่โชฟา มากกว่า เค้าก็ร้องลำทำเพลงกับเพื่อนเค้าไป เค้าถามผมว่ามีความสุขไหม มานอนเฝ้าผมตอบว่ามีความสุขของผมคือการเห็นคนที่รักรักยิ้มได้และมีความสุขถ้าเธอชอบผมก็ไม่ว่า แล้วก็เกิดเรื่องจนได้ ครบรอบ 10 ปีที่เป็นแฟนกันมา เค้าก็แอบมีชู้อีกครั้งครั้งนี้ผมมาเยี่ยมแม่ 7 วัน วันที่ 7 มันตะหงิดๆ ผิดปรกติหลายอย่างจนมี โทรศัพลึกลับมาว่า แฟนผมไปเป็นชู่กับแฟนเค้า คนนั้น ก็คือเพื่อนกัน ในกลุ่มเค้านั่นเอง โดยฝ่ายหญิง ของผู้ชายก็เพื่อนกันในกลุ่มเค้านั่นเเหละ คือรุ้จักกันหมดสนิทกันด้วย ซึ่งผู้หญิงก็พึ่งคลอดลูก ตอนนั้น ผมนี่ก็เสียใจมากยอมรับว่ามากจริงๆ โดยคำที่เค้าบอกผม คือ เราห่างกัน ผมดีไม่พอ ผมบอกไปว่าเพราะผมจนสินะ เค้าบอกไม่เกี่ยว เค้าบอกว่าผู้ชายคนนั้นคุกเข่าให้เค้า  เค้าบอกผมไม่เคยทำอะไรให้เค้าเลย ผมบากบอกว่า ตอนที่เค้ากระเป๋าหาย เค้าไม่มีเงิน เราลำบาก ผมซื้อของให้เค้ากินอิ่มก่อนเสมอ โดยเค้าไม่เคยถามผมเลยว่าผมกินรึยัง เวลาเค้าไม่สบาย ผ้าอนามัยผมยังไปซื้อให้ ผมก็เลยรู้และว่า อย่าไปถามอะไรมากอย่าถามเหตุผล เพราะเค้าไม่ได้รักเราแล้วถามไปก็ไม่ได้อะไรรังจะทำให้ตัวเองเสียใจ ผมก็สงสารแต่เด็ก ซึ่งต้องกำพร้าพ่อ อีก 1 เดือนต่อมาเค้าก็โทรหาผม บอกว่าเลิกกันแล้วผู้ชายกลับไปหาแฟนเค้าแล้วผู้หญิงรู้เรื่อง ก็คือแฟนของฝ่ายชายคนนั้น เค้าก็ร้องให้หนักมาก ผมก็คุยเป็นเพื่อน จนอีก ประมาน เดือนหนึง เค้าก็เงียบไปอีกมารู้ว่าฝ่ายชายเลิกกับแฟน แล่วเค้าก็ไปอยู่ด้วยกัน ผมก็สงสารแต่เด็ก ทั้งสงสารตัวเอง คือ ผมคบเค้ามา 10 ปี ผมไม่เคยเจ้าชู้ไม่เคยหนีเที่ยว ไม่กินนเหล้า ไม่สูบบุหรี่ แต่คงเพราะผมจน อีกอย่าง ผมก็ไม่เคยให้หลักประกันอะไร มีแค่แผน ตอนนั้น เราตกลงกัน ปีหน้าแต่งแต่เรื่องก็มาเกิดขึ้นก่อน ทุกอย่างจบ ผมคบกับเค้าไม่เคยคิดว่าจะคบคนอื่น ตลอดเวลา 10 ปี ผมถามตัวเองทบทวนตัวเองหลายรอบ อืมเราพลาดไปหลายอย่าง เสียใจหนักมาก ทำไมเราไม่ได้มาเหมือนอย่างที่เราให้เค้าไป จนผมไม่เป็นอันทำอะไร สรุปหมดอาลัยตายหยาก ก็มาลำบากแม่ตัวเอง แม่ต้มผมไปบวช บอกบวชแก้บนให้แม่หน่อย 7 วัน แม่บนเรื่องน้องไว้ สรุป7 วันไม่ได้สึก เลยมา 1 ปีสึกออกมาเดือนมกราคม จนถึงตอนนี้ผมก็รับใช้หลวงปู่อยู่ รอเข้าพรรษา ละออกมาทำงาน ตามปรกติ สิ่งที่ได้คือ มีเวลาคิดเรื่องอดีต เหมือนผมรุ้สึกว่าผมดีขึ้นทางกายและใจ เพราะความเสียใจไม่ได้ทำให้ใครกลับมา ตอนนี้ผมก็ขอให้เค้ามีความสุข ดีใจกับเค้าที่เค้าที่ชีวิตดีขึ้นและขอให้เค้ามีความสุข
  ผมก็ได้เฟสไปหาเค้า บอกเราอโหสิกรรมให้ เราไม่ได้โกรธเธอเลย ถ้าเธอมีความสุขเราก็ดีใจด้วย นั่นคือผมพูดออกจากใจเลย เพราะตอนที่คบกันเธอดีกับผมมากนอกจากเรื่องที่เล่ามา ดีทุกๆอย่างคอยให้กำลังใจเวลาผมทุข คอยช่วยเหลือเวลาลำบาก เธอดีมาก มันจึงทำให้ผมไม่สามารถแค้นเธอได้ ผมได้แต่ภาวะนาขออย่าให้เธอเสียใจ มาตอนนี้ นะปัจจุบัน ผมก็รู้สึกดีขึ้นมาก แต่ก็แอบไปส่องเฟสเค้าบ้าง อะไรบ้าง 555 ตามประสาคนเคยรู้จักกัน แต่ก็ไม่ดูเยอะ แค่แว๊บๆ จนตอนนี้ หลัง มิถุนาคงกลับไปหางานทำเหมือนเริ่มชีวิตใหม่ ก็ยากจะคบกับใครสักคนเหมือนกันแต่รอยร้าวในอดีตคือ มันทำให้ผมกลัว คงกลัวที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนรวย กลัวที่ ผมก็จบแค่ ป.ตี กลัวโนทิ้งกลัวใครจะมารับชีวิตคนแบบผมได้ ก็เสียความมันใจตัวเองพอสมควร ตลอดเวลาที่คบกับเค้ามาผมไม่เคยจีบใครเลยจนลืมไปแล้วจีบสาวเค้าทำกันยังไง จะหาจีบเพื่อนในเฟสก็ไม่กล้า กลัวเค้าจะว่าเราคนไม่ดี คนที่ไหนจีบกันในเฟส หรือจะรอหาเอาตามที่ทำงาน ซึ่งเราก็อายุมากแล้ว  33 และ ก็เลยไม่รุ้จะทำไง  จะไปปรึกษาใครก็ไม่ได้
ทำใจมา3 ปี.

มีคนมาคุยอีกคน  สรุปเหมือนๆ. เดิม คุยมาเป็นปีมารู้ทีหลังเขามีสามี  มีลูกแล้ว. ผมทำใจครับ

ผมก็ว่าผมคนดีนะ ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่ชอบเที่ยวผับบาร์  อาจเป็นคนบ้านนอก ผมทำให้เธอได้ หมด ซื้อผ้าอนามัย  รีดผ้า รีดผม ตัดเล็บถอนขนรักแร้  ทำให้หมด อาจเต็มใจบ้างไม่เต็มใจบ้าง ที่ทำไม่ใช่เพราะรักมากหลงมากแต่คิดแค่ว่ามันคือหน้าที่ แฟนที่ต้องดูแลกัน แต่ดูสิ่งที่ได้มา มันเลยกลัวการมีแฟนไปเลย.

คิดในใจอีกแล้วเหรอ. จนตอนนี้กลัวการมีแฟนแล้ว. กลาย เป็นคนเงียบๆ ชอบอยู่คนเดียวไปเลย พูดน้อย  เหมือนตัวเองไม่ค่อยร่าเริง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่