แบบนี้ทำกับหลานผมเกินไปไหม ขอคำแนะนำหน่อยครับ

ขออนุญาตใช้ ผปค. แทนคำว่า ผู้ปกครอง นะครับ

ผมมีหลานสาว อายุ 4 ขวบ กำลังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 ก็เรียนมาด้วยดี เป็นเด็กร่าเริง จนเกิดเรื่องขึ้น

เมื่อเดือนก่อน ทาง ร.ร.มีเชื้อไข้หวัดอีสุกอีใสระบาด หลานผมก็ติดมาด้วย จึงได้พักการเรียนไปเป็นเวลา 1 เดือนเศษ

ทำไมถึงนาน เรื่องของเรื่องมันมาจาก มี ผปค.ของเด็ก 2 ท่าน เขากลัวว่าลูกของเขาจะติดไข้จากเด็กคนอื่น เลยกำชับครูว่า เด็กคนไหนแผลยังไม่หายดี ให้ไล่กลับบ้าน

ซึ่งหลานผมและเด็กคนอื่นที่เป็น สะเก็ดหลุดหมดแล้ว และ มีใบรับรองแพทย์ว่าสามารถมาเรียนได้ แต่ก็ถูกครูไล่กลับบ้าน เพราะ ผปค. 2 ท่านนี้กลัวมาก

1 ใน 2 ท่านนี้มีคนหนึ่งท้อง และเขาได้เข้ามาคุยในไลน์กลุ่ม ผปค.ว่า "เขากลัวลูกในท้องของเขาจะพิการ เพราะเชื้ออีสุกอีใส"
.
.
.

พอหลานผมเริ่มไป ร.ร. ได้ 2-3 วัน อยู่ดี ๆ หลานผมก็พูดขึ้นมาว่า " น้อง ม.(เพื่อนร่วมชั้น) ไม่รักหนูแล้ว"

พี่สาวผมก็ถามว่า ทำไมถึงคิดแบบนั้น

หลานผมตอบว่า "ก็น้อง ม.ผลักหนูที่ตรงล้างหน้า" (โดนผลักตอนกำลังล้างหน้า)

พี่สาวผมถามต่อว่า แล้วหนูทำยังไง

หลานผมตอบว่า "หนูก็ไปยืนที่ใหม่"

พี่สาวถาม แล้วหนูบอกครูหรือยัง

หลาน "คุณครูยุ่งอยู่"

ถ้ามองว่าเด็กแกล้งกัน มันก็คือเรื่องปกติสามัญ ที่เจอได้ทั่วไป แต่ประเด็นคือ น้อง ม. เป็นลูกสาวของ ผปค.คนที่แอนตี้เด็กที่เป็นอีสุกอีใส และก่อนหน้านี้ น้อง ม. กับหลานผมเล่นด้วยกันตลอด ไม่เคยทะเลาะกัน

และผมยังรู้ จาก ผปค.ท่านอื่น ๆ อีกว่า แม่ของน้อง ม.เอารูปหลานผมและเด็กที่เป็นไข้ ไปประจานหน้าเฟซบุ๊คส่วนตัว และไลน์กลุ่มลับ ๆ อีกด้วย ประมาณว่า "พวกไม่สำนึก เป็นโรคยังจะให้ลูกมาแพร่เชื้ออีก สงสารลูกคนอื่นมั่งเถอะ"

เลยอยากขอความเห็นครับ ว่าทางผมควรจะไปคุยกับคุณครูหรือไม่ เพราะมี ผปค.อีก 4-5 คนที่คิดเหมือน ๆ กัน

ปล.บ้านผมไม่สอนให้ตอบโต้ด้วยกำลัง แต่ให้เดินหนี

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่