"ทำไมช้านักล่ะหาา!...มัวซุกหัวอยู่ที่ไหน..แค่ไปเข้าห้องนํ้านานชะมัด"เอตะพูดขึ้นทันทีเมื่อผมเดินกลับไปที่โรงอาหารรวมถึงโต๊ะที่นั่งทานอาหารอยู่นั่นด้วย
"เกิดเรื่องนิดหน่อย.....จะบ่นอะไรนักหนาล่ะ...เป็นพ่อรึไง" ประโยคหลังผมหันไปมองด้วยสายตาน่าหวาดกลัวและมีท่าทีจะหาเรื่องนิดหน่อยอีกด้วย
"เอ่อ....อะ..เอาเถอะๆ...มากินข้าวกันดีกว่าาา แหะๆ"เอตะหงอยทันทีและนั่งลงที่เก้าอี้ดังเดิม แหงล่ะถ้าผมทำหน้าแบบนั้นเจ้าพวกนี้ก็กลัวกันไปหมด...น่ากลัวขนาดนั้นเลยรึไง สงสัยต้องไปส่องกระจกมองหน้าตัวเองแล้วแฮะ
ผมมองพวกเอตะก่อนจะเดินไปซื้ออาหารทานตามปกติและกลับมานั่งที่เดิมของผม
"จะว่าไปทำไมนายต้องยึดติดกับเอวาริ มิยูโนะขนาดนั้นด้วย...รู้ทั้งรู้ว่านายสองคนยังไงก็ไม่มีอนาคตที่สวยงามแล้วทำไมยังคิดจะชอบต่อไปอีก..."คินชิโร่ถามขึ้น
".......คนเราก็มีเหตุผลของตนเอง...และก็มีความลับเช่นกัน...บอกไม่ได้หรอก..ไม่ควรมีใครได้รับรู้ด้วยซํ้า..เฉพาะฉนั้นฉันขอไม่พูดก็แล้วกันนะ"ผมบอกกับทุกคนด้วยสีหน้าจริงจังเรื่องบางเรื่องก็ไม่ควรจะต้องรับรู้ใครๆต่างมีความลับของตนเองถึงจะเป็นเพื่อนสนิทหรือเพื่อนรักก็ต่างมีความลับที่บอกไม่ได้ต่อกัน
"ก็ได้ๆ..ไม่ตื้อก็ได้"ทามากะพูดด้วยท่าทางเนือยๆ อะไรกันจำเป็นต้องทำหน้าแบบนั้นด้วยรึไง..
ปึงงงง!!!
."อะ...เกิดอะไรขึ้นน่ะ"ทุกคนหันไปทางต้นตอเสียงทันที เป็นเสียงเรียกได้ว่าโต๊ะล้มอะไรทำนองนั้นละนะในโรงอาหารยังจะมีเรื่องอีกงั้นหรอเนี่ยย
"แกคิดว่าจะทำอะไรได้หาา!!!...ฉันเป็นรุ่นพี่น้ะเฟ้ยย!!...พวกเด็กปีนเกลียวอย่างพวกแกจะทำอะไรพวกฉันงั้นเรอะ"ชายคนนึงผมสีนํ้าตาลลุกขึ้นยืนและมีท่าทางหาเรื่องกับผู้ชาย 2-3 คนที่มีท่าทางไม่ตอบโต้เรียกว่าฝ่ายคนดีก็ได้
"แล้วรุ่นพี่น่ะ....ถ้าทำแบบนั้นถือเป็นกบฏเลยนะ..รุ่นพี่คิดว่าความสามารถของตนเองจะทำร้ายกลุ่มรักษาความปลอดภัยของโรงเรียนให้กระจุยทั้งหมดได้งั้นหรอ...อีกอย่างยังมีรุ่นพี่เอวาริ มิยูโนะที่เป็นอันดับ 1 จะล้มเธอคนนั้นได้รึยังไงครับ!!!"รุ่นน้องที่ว่าคนแรกพูดออกมาเป็นการคัดค้าน พวกเขาคุยอะไรกันนะ หรือว่าคิดจะก่อการร้าย
"แล้วยังไงห้ะ!!!...เก่งแล้วยังไง!!!...เอาชนะกิเลศของฉันกับแก๊งฉันไม่ได้หรอกเว้ยยย!!!ไอ้กระจอกเอ้ยยย!!! แกคิดจะหักหลังพวกฉันรึไง...ฉันคือผู้มีพระคุณของแกนะ.." ชายคนนั้นขึ้นเสียงดังจนคนที่อยู่ระแวกนั้นถอยห่าง พูดอย่างไม่เกรงกลัวใคร ใหญ่มาจากไหน และปี 2 หรือ ปี3 แต่ที่รู้ๆ พวกที่คัดค้านพวกนั้นอยู่ปี1 แน่นอน
"แต่ว่า....แบบนั้นมันไม่ถูกนี่ครับ!!!..ทำเกินไปแล้วว!!!...คิดจะขโมยทรัพย์สินเวทย์มนต์แบบนั้น คุกอย่างเดียวนะครับ!!!!"ผู้ชายคนแรกพูดเสียงดังประกาศให้คนในโรงอาหารู้ว่าชายคนนี้คิดทำการอะไรอยู่งั้นสินะ
"หุบปากซะแก!!!!!"ชายคนนั้นดึงคอเสื้อของรุ่นน้องคนแรกขึ้นยกขึ้นสูงแต่ทำไม ถึงไม่มีใครเข้าไปห้ามเลยล่ะ กลัวงั้นหรอ.....กบฏแบบนี้เนี่ยนะจะกลัวอะไรกันเล่าหาา!!
"อึ้กก...ป-ปล่อยผมนะ!"รุ่นน้องคนนั้นพยายามดิ้นและเพื่อนของรุ่นน้องคนนั้นก็ตรงเข้ามาทำร้ายแต่ถูกชายคนนั้นสวนกลับกันจนราบคาบกันหมด
"เห้ยย!!!...ทำอะไรฟร้ะ!!!...."ในที่สุดผมก็ทนไม่ได้และเข้าไปยุ่ง
"เห?...มีตัวสาระแนว่ะ...มาจากไหนไม่ทราบใครรับเชิญ"ชายคนนั้นมองมาด้วยสายตาที่คล้ยกับผมตอนนั้นที่มองพวกเอตะเล่นๆแต่ว่าเนี้ยของจริงเลยล่ะ...
"เล่นงานผู้ที่อ่อนแอกว่า...ทุเรศว่ะ..."ผมทำท่าทางกวนประสาทยั่วโมโหใส่...ผมน่ะรักกฎหมายจะตาย โรงอาหารก็มีเซ็นต์เซอร์...ถ้ายั่วโมโหและหมอนี่ใช้เวทย์ทำร้ายผมล่ะก็...เสร็จแน่..
"เห่ยย...อะไรกันนน...ตอบไม่ตรงคำถามเลยนาา...กวนประสาทแบบนี้ฉันชอบเหลือเกินนะคนแบบแกเนี่ย...ไม่พอสาระแนเรื่องชาวบ้านอีกด้วย....อยากตายก่อนวัยอันควรรึยังไง"ชายคนนั้นปล่อยรุ่นน้องลงและเดินมาทางผม
"ฮ่าฮ่าา...นั่นสิน้าาา...คงจะเป็นแบบนั้น...ถ้าจะช่วยสงเคราะห์ให้ไวๆจะขอบใจมากเลยล่ะนะ..."ผมมองด้วยสายตาเดียวกันกลับไปบ้าง
"ทำอะไรของนายน่ะทาคุ!!"คินจิโร่เดินเข้ามาและถามด้วยความตกใจ
"นั่นสิ....ทำอะไรอยู่..ทำอะไร...ทำอะไรน้าาา"ตอนนี้ผมเหมือนตัวร้ายมากๆเลยล่ะแถมท่าทางกวนประสาทยั่วยวนให้ใช้พลังเวทย์อีกด้วย
ตึบบบบ!!
"อั่กก...."ผมโดนชกเต็มๆทันทีแต่ว่าไม่ได้มีพลังเวทย์อยู่ด้วยแต่ก็ถือว่าสำเร็จไป 40 เปอร์เซนต์แล้วผมตัวกระเด็นนิดหน่อยทันทีถือว่าหมัดหนักหน่วงมากเลยทีเดียว
"อึ่ก..."ผมหันกลับไปมองที่ชายคนนั้นและยิ้มออกมาหน่อยนึง
"เพื่ออะไรล่ะ....ถ้าให้ถามตรงๆ...ทำไปเพื่ออะไรขโมยทรัพย์สินน่ะ...เพื่ออะไรกันรู้ทั้งรู้ว่าจะกลายเป็นกบฏแต่ก็คิดจะทำอีกงั้นหรอ....มีเหตุผลที่สำคัญมากขนาดนั้นเลยรึไง....สำคัญเหมือนกับฉันเลยงั้นเรอะ"จู่ๆตอนโดนชกก็ฉุดคิดขึ้นมาได้ว่ามันคล้ายกับผมหน่อยนึงเหมือนกันรู้ทั้งรู้ว่าจะเป็นกบฏแต่ก็คิดจะทำเหมือนกับ
iojihgfuu
"เกิดเรื่องนิดหน่อย.....จะบ่นอะไรนักหนาล่ะ...เป็นพ่อรึไง" ประโยคหลังผมหันไปมองด้วยสายตาน่าหวาดกลัวและมีท่าทีจะหาเรื่องนิดหน่อยอีกด้วย
"เอ่อ....อะ..เอาเถอะๆ...มากินข้าวกันดีกว่าาา แหะๆ"เอตะหงอยทันทีและนั่งลงที่เก้าอี้ดังเดิม แหงล่ะถ้าผมทำหน้าแบบนั้นเจ้าพวกนี้ก็กลัวกันไปหมด...น่ากลัวขนาดนั้นเลยรึไง สงสัยต้องไปส่องกระจกมองหน้าตัวเองแล้วแฮะ
ผมมองพวกเอตะก่อนจะเดินไปซื้ออาหารทานตามปกติและกลับมานั่งที่เดิมของผม
"จะว่าไปทำไมนายต้องยึดติดกับเอวาริ มิยูโนะขนาดนั้นด้วย...รู้ทั้งรู้ว่านายสองคนยังไงก็ไม่มีอนาคตที่สวยงามแล้วทำไมยังคิดจะชอบต่อไปอีก..."คินชิโร่ถามขึ้น
".......คนเราก็มีเหตุผลของตนเอง...และก็มีความลับเช่นกัน...บอกไม่ได้หรอก..ไม่ควรมีใครได้รับรู้ด้วยซํ้า..เฉพาะฉนั้นฉันขอไม่พูดก็แล้วกันนะ"ผมบอกกับทุกคนด้วยสีหน้าจริงจังเรื่องบางเรื่องก็ไม่ควรจะต้องรับรู้ใครๆต่างมีความลับของตนเองถึงจะเป็นเพื่อนสนิทหรือเพื่อนรักก็ต่างมีความลับที่บอกไม่ได้ต่อกัน
"ก็ได้ๆ..ไม่ตื้อก็ได้"ทามากะพูดด้วยท่าทางเนือยๆ อะไรกันจำเป็นต้องทำหน้าแบบนั้นด้วยรึไง..
ปึงงงง!!!
."อะ...เกิดอะไรขึ้นน่ะ"ทุกคนหันไปทางต้นตอเสียงทันที เป็นเสียงเรียกได้ว่าโต๊ะล้มอะไรทำนองนั้นละนะในโรงอาหารยังจะมีเรื่องอีกงั้นหรอเนี่ยย
"แกคิดว่าจะทำอะไรได้หาา!!!...ฉันเป็นรุ่นพี่น้ะเฟ้ยย!!...พวกเด็กปีนเกลียวอย่างพวกแกจะทำอะไรพวกฉันงั้นเรอะ"ชายคนนึงผมสีนํ้าตาลลุกขึ้นยืนและมีท่าทางหาเรื่องกับผู้ชาย 2-3 คนที่มีท่าทางไม่ตอบโต้เรียกว่าฝ่ายคนดีก็ได้
"แล้วรุ่นพี่น่ะ....ถ้าทำแบบนั้นถือเป็นกบฏเลยนะ..รุ่นพี่คิดว่าความสามารถของตนเองจะทำร้ายกลุ่มรักษาความปลอดภัยของโรงเรียนให้กระจุยทั้งหมดได้งั้นหรอ...อีกอย่างยังมีรุ่นพี่เอวาริ มิยูโนะที่เป็นอันดับ 1 จะล้มเธอคนนั้นได้รึยังไงครับ!!!"รุ่นน้องที่ว่าคนแรกพูดออกมาเป็นการคัดค้าน พวกเขาคุยอะไรกันนะ หรือว่าคิดจะก่อการร้าย
"แล้วยังไงห้ะ!!!...เก่งแล้วยังไง!!!...เอาชนะกิเลศของฉันกับแก๊งฉันไม่ได้หรอกเว้ยยย!!!ไอ้กระจอกเอ้ยยย!!! แกคิดจะหักหลังพวกฉันรึไง...ฉันคือผู้มีพระคุณของแกนะ.." ชายคนนั้นขึ้นเสียงดังจนคนที่อยู่ระแวกนั้นถอยห่าง พูดอย่างไม่เกรงกลัวใคร ใหญ่มาจากไหน และปี 2 หรือ ปี3 แต่ที่รู้ๆ พวกที่คัดค้านพวกนั้นอยู่ปี1 แน่นอน
"แต่ว่า....แบบนั้นมันไม่ถูกนี่ครับ!!!..ทำเกินไปแล้วว!!!...คิดจะขโมยทรัพย์สินเวทย์มนต์แบบนั้น คุกอย่างเดียวนะครับ!!!!"ผู้ชายคนแรกพูดเสียงดังประกาศให้คนในโรงอาหารู้ว่าชายคนนี้คิดทำการอะไรอยู่งั้นสินะ
"หุบปากซะแก!!!!!"ชายคนนั้นดึงคอเสื้อของรุ่นน้องคนแรกขึ้นยกขึ้นสูงแต่ทำไม ถึงไม่มีใครเข้าไปห้ามเลยล่ะ กลัวงั้นหรอ.....กบฏแบบนี้เนี่ยนะจะกลัวอะไรกันเล่าหาา!!
"อึ้กก...ป-ปล่อยผมนะ!"รุ่นน้องคนนั้นพยายามดิ้นและเพื่อนของรุ่นน้องคนนั้นก็ตรงเข้ามาทำร้ายแต่ถูกชายคนนั้นสวนกลับกันจนราบคาบกันหมด
"เห้ยย!!!...ทำอะไรฟร้ะ!!!...."ในที่สุดผมก็ทนไม่ได้และเข้าไปยุ่ง
"เห?...มีตัวสาระแนว่ะ...มาจากไหนไม่ทราบใครรับเชิญ"ชายคนนั้นมองมาด้วยสายตาที่คล้ยกับผมตอนนั้นที่มองพวกเอตะเล่นๆแต่ว่าเนี้ยของจริงเลยล่ะ...
"เล่นงานผู้ที่อ่อนแอกว่า...ทุเรศว่ะ..."ผมทำท่าทางกวนประสาทยั่วโมโหใส่...ผมน่ะรักกฎหมายจะตาย โรงอาหารก็มีเซ็นต์เซอร์...ถ้ายั่วโมโหและหมอนี่ใช้เวทย์ทำร้ายผมล่ะก็...เสร็จแน่..
"เห่ยย...อะไรกันนน...ตอบไม่ตรงคำถามเลยนาา...กวนประสาทแบบนี้ฉันชอบเหลือเกินนะคนแบบแกเนี่ย...ไม่พอสาระแนเรื่องชาวบ้านอีกด้วย....อยากตายก่อนวัยอันควรรึยังไง"ชายคนนั้นปล่อยรุ่นน้องลงและเดินมาทางผม
"ฮ่าฮ่าา...นั่นสิน้าาา...คงจะเป็นแบบนั้น...ถ้าจะช่วยสงเคราะห์ให้ไวๆจะขอบใจมากเลยล่ะนะ..."ผมมองด้วยสายตาเดียวกันกลับไปบ้าง
"ทำอะไรของนายน่ะทาคุ!!"คินจิโร่เดินเข้ามาและถามด้วยความตกใจ
"นั่นสิ....ทำอะไรอยู่..ทำอะไร...ทำอะไรน้าาา"ตอนนี้ผมเหมือนตัวร้ายมากๆเลยล่ะแถมท่าทางกวนประสาทยั่วยวนให้ใช้พลังเวทย์อีกด้วย
ตึบบบบ!!
"อั่กก...."ผมโดนชกเต็มๆทันทีแต่ว่าไม่ได้มีพลังเวทย์อยู่ด้วยแต่ก็ถือว่าสำเร็จไป 40 เปอร์เซนต์แล้วผมตัวกระเด็นนิดหน่อยทันทีถือว่าหมัดหนักหน่วงมากเลยทีเดียว
"อึ่ก..."ผมหันกลับไปมองที่ชายคนนั้นและยิ้มออกมาหน่อยนึง
"เพื่ออะไรล่ะ....ถ้าให้ถามตรงๆ...ทำไปเพื่ออะไรขโมยทรัพย์สินน่ะ...เพื่ออะไรกันรู้ทั้งรู้ว่าจะกลายเป็นกบฏแต่ก็คิดจะทำอีกงั้นหรอ....มีเหตุผลที่สำคัญมากขนาดนั้นเลยรึไง....สำคัญเหมือนกับฉันเลยงั้นเรอะ"จู่ๆตอนโดนชกก็ฉุดคิดขึ้นมาได้ว่ามันคล้ายกับผมหน่อยนึงเหมือนกันรู้ทั้งรู้ว่าจะเป็นกบฏแต่ก็คิดจะทำเหมือนกับ