เมื่อฉันคิดว่าแม่ฉันเป็นบุคคลที่มีปัญหา

สวัสดีค่ะ.  
     ครั้งนี้เราตัดสินใจอยู่นานว่าจะตั้งกระทู้นี้ดีหรือไม่
เพราะเรื่องนี้มันเป็นเรื่องในครอบครัว...เราไม่กล้า
ปรึกษาเพื่อนปรึกษาคนรอบข้างเพราะสิ่งที่เขาเห็น
กับความเป็นจริงมันต่างกัน
     เราขอเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะคะ
ครอบครัวของเราทีกันอยู่ห้าคนมีพ่อแม่และน้องอีกสองคน
เราเป็นพี่คนโตและด้วยความที่อายุของเราห่างกันพอสำควร
น้องเรา14กับ4ขวบ  เราไม่รู้ว่าสิ่งที่เราคิดหรือถูก
เราคิดว่าแม่เราเป็นบุคคลทีปัญหากับชีวิตของพวกเรา
เราคิดว่าแม่เรามีปัญหาทางจิต. เราขอเล่ารายละเอียดให้ฟังดังนี้นะคะ
พ่อเรามีอาชีพรับเหมาก่อสร้างส่วนแม่เราเป็นแม่ค้า
แม่เราเป็นหนี้นอกระบบกู้เงินมาจากพวกหมวกกันน็อค
เพราะช่วงนั้นบ้านเราเกิดวิกฤตทางการเงินหนักมาก
เราโอเคครั้งนี้เรารับรู้และเราเป็นคนหาเงินมาปิดหนี้ก้อนนี้
นั้นคือครั้งแรกของการเข้าวงจรหนี้นอกระบบของแม่เรา
ครั้งที่สองคือแม่เราแอบกู้เงินนอกระบบโดยที่คนที่บ้าน
ไม่มีใครรู้แต่เรื่องแดงขึ้นเพราะว่าแม่ส่งไม่ไหวเจ้าหนี้มาที่บ้า
เราก็ครั้นถามความจริงว่าแม่เอามาทำไม แม่เราบอกเราว่า
ค่าใช้จ่ายไม่พอเราก็ถามทำไมไม่ขอเราเพิ่มแล้วทีเราให้
ทำไมไม่พอเพราะค่าใช่จ่ายทุกอย่างเราออก. เราก็โอเค
ครั้งนี้แม่อาจจะจำเป็นเราก็ไม่ว่าแม่หาเงินมาปิดให้แม่
เราคิดว่าแม่เราน่าจะเข็ดกับครั้งนี้เพราะเจ้าหนี้มาถ่วง
แต่ไม่ค่ะแม่เราแอบเอาอีกจากเจ้าหนี้รายอื่น.ก็เหมือนเดิมค่ะ
เจ้าหนี้มาบ้านจากนั้นก็มีครั้งที่456...ตามมาเรื่อยๆ
เอาเจ้านั้นมาเจ้านี้ทั้งที่เราก็งง ว่าเพราะอะไรทำไม
พอเราพูดเรื่องนี้มาแม่ก็ชอบพูดว่าต้องเลี้ยงทุกคนอ้าง
พ่อบ้างว่าพ่อไม่มีงานอ้างน้องบ้างทั้งๆที่ค่าใช้จ่ายพวกนี้
เราเป็นคนจ่ายทั้งหมดแม่มีหน้าที่แค่ขายของกับเก็บเงิน
จนครั้งนี้แม่เรามีหนี้ประมาน50,000 บาทส่งรายวัน
วันล่ะ2,500บาท เราเห็นแม่เราเหนื่อยเราตัดสินใจ
เอารถของเราจำนำได้เงินมาปิดให้แม่และตกลงว่า
ค่าดอกเดือนล่ะ5,000แม่ต้องจ่ายจนกว่าเราจะเก็บเงิน
ได้เพราะยังไงก็ดีกว่ากู้เงินรายวัน...แม่เราตกลง
เราเอารถไปจำเอาเงินมาปิดหนี้รายวันของแม่
ไม่ถึงสิบวันแม่เราแอบไปกู้เงินใหม่ครั้งนี้เราทะเลาะ
กับแม่หนักมากเราถามแม่เราเอามาทำไมเพราะอะไร
เหมือนเค้าไม่เคยเห็นเราเป็นแบบนี้สักพักเราขึ้นเสียงใส่เค้า
ว่าเอามาใช่อะไรจ่ายอะไรเค้าตอบเราไม่ได้
อยู่ๆเค้าก็ลุกพังข้าวของแล้วเดินำปเอาเชือกจะผูกคอตาย
เราก็ยังคงต่อว่าเขาอยู่ด้วยความที่เราโมโห
เราพยายามหาเหตุผลให้เขาว่าเค้าต้องใช่จ่ายเยอะ
แต่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเราก็เป็นคนจ่าย
ตั้งแต่ค่ากับข้าวรายอาทิตค่าเทมอค่าโรงเรียนน้องทั้งสอง
แถมตอนนี้เรายังต้องจ่ายงวดรถกับดอกรถที่จำนำ
แถมแม่ยังไปเอาเงินเพิ่มอีก...เราควรทำยังไง
ตอนนี้เราคิดว่าแม่เราเป็นบุคคลที่มีปัญหาเหมือนแม่เรา
ออกจากวงจรหนี้แบบนี้ไม่ได้เราไม่รู้ว่าเพราะอะไร
ทำไมแม่เราถึงเป็นแบบนี้ทำไมตอนแรกพูดรู้เรื่อง
แต่ก็ยังทำตลอด...จนบ้างทีเราแอบคิดถ้าไม่สนใจเค้า
ถ้าเราเดินออกมาจากตรงนั้นเค้าจะเปลี่ยนนิสัยมั้ย
หรือเราใจดีกับเค้าเกินไปหรือแม่เรามีปัญหาจากจิต
ตอนนี้เราคิดหนักมากกับเรื่องแม่เรา...เราควรจะทำยังไง
ต่อกับนิสัยแม่เราแบบนี้ยังไงดีค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่