สอบถามผู้รู้เรื่องญี่ปุ่นครับ...เรื่องการห้ามผู้มีรอยสักเข้าออนเซน และเรื่องการเช็คบิลค่าอาหารเข้าห้องพัก...

คือเพิ่งกลับจากไปดูฟูจิที่ฮาโกเน่ สองคืนแรกนอนที่เรียวกัง
เหมือนที่นี่มีพนง.หรือผจก. มีอาวุโสแล้วพูดไทยได้ บอกว่ามีภรรยาเป็นคนไทย
ปีที่แล้วผมไปคาวากูจิโกะ ผจก.เรียวกังที่นั่นก็มีภรรยาเป็นคนไทยครับ
ที่นี่มีป้ายว่าห้ามคนมีรอยสักเข้าออนเซน

สองวันถัดมาย้ายมาพักที่โรงแรมตามในรูป
ที่โรงแรมนี้ติดป้ายชัดเจนว่า ห้ามคนมีรอยสักเข้าพัก และห้ามคนมีรอยสักใช้ออนเซน
โรงแรมนี้มีออนเซนบนชั้น 7 ชั้นบนสุด เปิดโล่งแบบพานอราม่า วิวสวยมาก

แต่ตอนเชคเอ้าท์มีปัญหาเรื่องการเช็คบิลค่าอาหารเข้าห้องพักครับ
คือคิดเหล้าสาเกเกินมาสองแก้ว ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้กินในห้องอาหารของรร.เลย
คือกินข้าวหมูทอด ปลาหมึก ชาเขียวแถมฟรี
ตอนให้พนง.ห้องอาหารเช็คบิลก็กลัว ๆ ว่า จะคิดผิดหรือมีคนมั่วไหม เพราะแค่ขอเบอร์ห้องเฉย ๆ ครับ
ขอใบบิลดู น้องพนง.สาวก็พูดกันไม่เข้าใจ เลยตรวจสอบไม่ได้
พอเช็คเอ้าท์มีปัญหาจริง ๆ คิดเกินมา แต่พอเรายืนยันว่าไม่ได้กินจริง ๆ เขาก็ตัดออกให้ครับ
คหสต. ว่าระบบน่าจะใช้บัตรคีย์การ์ดไปรูดนะครับ ถามแค่เบอร์ห้องแบบนี้อาจมีคนมั่วบอกเบอร์ห้องเราก็ได้นะครับ

เลยสงสัย อยากถามผู้รู้เรื่องประเทศญี่ปุ่นว่า

- ผู้ชายญี่ปุ่นชอบสาวไทยหรือครับ
- การห้ามคนมีรอยสักเข้าออนเซนนี่เป็นกฏทั่วไป หรือแค่ที่ฮาโกเน่ครับ
- มีท่านใดเคยโดนชาร์จค่าอาหารเกินจากที่กินไหมครับ ไม่ทราบว่าพนง.ลงผิด หรือมีคนมั่วบอกเบอร์ห้องเรา
- ทำไมออนเซนที่นี่แนะนำว่าควรลงจุ่มทั้งตัวแค่ 3 นาที แล้วขึ้นมาพัก แล้วค่อยลงจุ่มทั้งตัวใหม่
  เหมือนจะเคยเห็นที่อื่นบอกไม่เกิน 10 นาทีครับ
- เห็นคนญี่ปุ่นบางคนใช้ผ้าขนหนูที่ให้ไว้ขัดตัว เวลาเดินออกมาออนเซน outdoor ด้านนอกจะใช้ผ้านี้ปิดอวัยวะเพศ
  แต่พอมาแช่น้ำจะเอาผ้าวางบนหัว ดูแปลก ๆ แต่ธรรมเนียมเขาคงไม่คิดมากใช่ไหมครับ

ขอบคุณครับหัวใจ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่