ผู้หญิงที่ไม่ได้มองหาผู้ชายรวย หล่อ ก็มีนะคะ แต่จะชอบผู้ชายที่ความคิด ทัศนคติ ประเภทว่า Sapiosexuals

ตามหัวข้อเลยค่ะ
ด้วยอายุ วัย สังคม หน้าที่การงาน รสนิยม ทำให้ชีวิตมีความรับผิดชอบต่อสิ่งต่างๆเพิ่มขึ้น
งานและการหาเงินคือ สิ่งสำคัญหลักๆ ที่เราให้ความสำคัญ
จากเด็กๆ ชอบผู้ชายหล่อๆ ขาว สาวกรี๊ด ก็กรี๊ดตาม

ด้วยข้อจำกัด และข้ออ้างขององค์ประกอบชีวิต
ทำให้ความชอบในตัวผู้ชายสักคนสำหรับเราเปลี่ยนไปมาก

คือ...เป็นคนแบบ Sapiosexuals อธิบายได้ง่ายๆ ว่าเป็นคนที่ชอบคนฉลาด ความคิด ทัศนคติมาก่อน อันดับแรก
คิดว่าระดับความคิดที่ใกล้เคียงกัน ความชอบ บทสนทนา อารมณ์ขันที่ใกล้เคียงกัน
มันกลับน่าหลงใหลมากกว่า หน้าตา ฐานะ

จากประสบการณ์ และหนุ่มๆที่แอบมอง เราไม่เคยมีเป้าหมายเดียวกับเพื่อน
เช่นว่า ไม่ชอบคนหล่อ คนรวย  เราจะชอบใครสักคนก็ต่อเมื่อได้พูดคุย ทัศนคติ มุมมองชีวิต
หรือได้ติดตาม คนๆนั้นในระดับนึง และเขาคนนั้นเป็นคนที่มีความคิดน่าค้นหา น่าติดตาม ปลื้ม ประทับใจ
ซึ่งที่ผ่านๆ ผู้ชายที่ฉลาด(ฉลาดในมุมมองเรา) จะหน้าตากลางๆไปถึงแย่มาก แต่เราก็ชอบ


ในขณะเดียวกัน ผู้ชายที่มีความคิด ทัศนคติ มุมมองที่เราสนใจ
เขาคนนั้นก็เป็นคนที่ทำงานเก่ง ดูมีอนาคต

บางคนบอกว่า เลือกผู้ชายสักคน ให้เลือกคนรวย เพราะถ้าวันนึงเขายิ้ม อย่างน้อยเขารวยมีเงินให้เรา
ถ้าเลือกคนรากหญ้า ถ้าวันนึงยิ้ม เราจะยิ่งล่มจม
( พื้นฐาน สันดาน มนุษย์ทุกคนจะมีด้านมืด มีกิเลส เพราะฉะนั้นเราไม่รู้หรอกว่าเขาจะ ขาดสติระงับกิเลสได้เมื่อไหร่ ต้องมียิ้มกันทุกคน)
มันก็ถูกนะคะ

แต่เราชอบผู้ชายที่ทัศนคติบวก ฉลาด คนประเภทนี้จะทำงานหาเงินเก่ง โดยพื้นฐานความคิดที่ดีอยู่แล้ว
สำหรับเรา มันมีเสน่ห์มากเหลือเกิน

คิดว่าคงจะมีผู้หญิงคิดแบบเราไม่น้อย
และอยากจะฝากถึงคุณผู้ชายว่า อย่าตัดพ้อ น้อยใจตัวเอง ว่า จน ขี้เหล่ บลาๆ
ถ้าคุณมีความคิดดี ทัศนคติบวก เก่ง และขยันทำงาน คุณจะมีเสน่ห์มากขึ้นแน่นอน
มีเราคนนึง ที่ชอบแบบนี้มากค่ะ

ถ้าได้ผู้ชายฉลาดมันก็เหมือนกับการลงทุนธุรกิจ หนึ่งที่มีผู้บริหารฉลาด วิสัยทัศน์ดี บริษัทหรือชีวิตคู่ ก็จะดีไปด้วย
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 62
ผญ ที่คิดแบบนี้


ส่วนใหญ เค้าจะพร้อมอยู่แล้ว มีการงานทำ มีเงินทองพร้อม และ สามารถเอาตัวรอดคนเดียวได้



ไม่แปลกที่จะมอง ผช ที่หน้าตา หรือ เงินทอง เป็นปัจจัยข้อหลังๆ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ค่อนข้างเป็นเชิงอุดมคตินะครับ

แต่ในความเป็นจริงสิ่งที่คนเราจะเห็นได้ชัดก่อนก็มักจะเป็นหน้าตา การแต่งตัว ฐานะ คารมคำพูด
คนแบบที่คุณว่าถ้าด้อยทั้ง 4 เรื่องนี้ คุณก็อาจมองข้ามไปได้ง่ายๆโดยไม่ได้ให้โอกาสเขาพิสูจน์
ความดีในข้อที่คุณว่ามาเลย ซึ่งมันก็ต้องใช้เวลาและการได้รับโอกาสมากพอสมควร

แต่ก็นั่นล่ะ คนเรามักจะมีลักษณะเด่น-ด้อยผสมผสานกันไป เราก็คงไม่ขนาดจะต้องเลือกคบกับคน
ที่มีข้อเด่นด้านเดียวแล้วอย่างอื่นด้อยไปเสียหมด แบบที่มีคนมักจะกำหนดมาตั้งกระทู้คำถามในนี้
เช่นว่า ระหว่างคนรวยกับคนดี ควรจะเลือกใคร ซึ่งในความเป็นจริงก็มีคนที่ทั้งรวยและดีไปพร้อมๆ
กันให้ได้พบกันได้แน่
ความคิดเห็นที่ 6
อยากจะฝากถึงคุณผู้ชายว่า อย่าตัดพ้อ น้อยใจตัวเอง ว่า จน ขี้เหล่ บลาๆ ผู้ชายที่คิดแบบนี้ก็ไม่ฉลาดแล้วค่ะ คนที่ฉลาดจะไม่ตัดพ้อตัวเอง แต่จะพยายามทำตัวเองให้ดีขึ้น บางคนบอกไปก็คิดได้แค่ว่าตัวเองทำได้แค่นี้

อ่านมาทั้งหมด จริงๆจะกล่าวว่าไม่ได้มองที่รวย หล่อ แต่ก่อนที่คุณจะมองทัศนคติของผู้ชายคนหนึ่ง คงมองคนที่ระดับเดียวกันก่อนใช่ไหมคะ ใช่ค่ะเค้าไม่ใช่คนที่หล่อและสะดุดตา แต่คือคนที่อยู่ในระดับเดียวกัน ^^ นั่นคือก้าวแรกก่อนจะได้เรียนรู้ทัศนคติกับคนที่คุณคิดว่าไม่หล่อ ไม่รวยนั่นแหละค่ะ ^^
ความคิดเห็นที่ 42
หน้าตา ท่าทาง เป็นองค์ประกอบแรกที่ได้เห็นค่ะ
แต่การพูดคุย และทัศนคติสำหรับเราแล้วสำคัญที่สุด

เราชอบคนที่จิตใจดี ฉลาด รู้ทันการเอาเปรียบ แต่ไม่เอาเปรียบคนอื่น
ใจกว้าง มีความรับผิดชอบ ลุยไหนลุยกัน ขยัน ชอบอ่านหนังสือ

ฐานะไม่ใช่ปัจจัยหลักแรกที่มองค่ะ
กาลเวลาพิสูจน์ว่า เราคิดไม่ผิด

จากวันแรก ๆ ที่เริ่มชีวิตกันจนถึงวันนี้
ผ่านวันเวลาสารพัดแบบมาด้วยกัน
มีวันที่ต้องทุบกระปุกจ่ายค่าจ้างลูกน้อง  วันที่ต้องปูผ้านวมนอนพื้นด้วยกันเพราะบ้านซ่อมหลังคา
วันที่สองคนต้องผลัดกันใช้รถคันเดียวกัน  วันที่ไปเที่ยวได้แค่ต่างจังหวัดนอนเกสต์เฮ้าส์ยันนอนกระท่อมหลังคามุงจาก
จนถึง วันที่ครอบครัวมีรถยุโรป ได้พักพูลวิลล่า ได้เที่ยวต่างประเทศ

เรายังเจอรอยยิ้มแบบเดิม สายตาแบบเดิม
ที่มองประสบการณ์ร่วมกันต่าง ๆ เหล่านี้อย่างคนที่พร้อมร่วมทุกข์สุขกันไป

สิ่งที่มีร่วมกันและมีค่า ไม่ได้อยู่ที่รูปร่างหน้าตาหรือของใช้เครื่องประดับราคาแพงเสมอไป
ถ้าคุณใช้ชีวิตร่วมกับคนที่มีแนวคิดทัศนคติที่ดีและสอดคล้องกับของคุณ และต่างคนต่างยอมรับกันได้เป็นอย่างดี
ไม่ว่า คุณจะสวม casio หรือ omega ความสุขมันไม่ได้ต่างกันหรอกค่ะ
เรารับรองได้

เราเคยซื้อนาฬิกาหลักพันให้สามี เค้าก็ขอบคุณเราและใส่ทุกวัน
วันนึง เราซื้อ omega ให้ เค้าก็ขอบคุณเราและใส่ทุกวันอีกเช่นกัน
โดยไม่รู้รายละเอียดอะไรเลย
มาวันนึง เค้าไปประชุม เพื่อนรุ่นน้องที่นั่งติดกันถามว่า "นี่พี่ใส่รุ่นนี้เหรอ ราคา ****** ใช่มั้ย ?"
สามีถึงกลับมาถามว่า ซื้อมาราคาเท่าไร
เรายิ้ม ๆ แล้วตอบไปว่า "ช่างมันเถอะ" เราซื้อแบบไม่เบียดเบียนตัวเอง และไม่เบียดเบียนใครก็แล้วกัน
ถือเป็นการซื้อประสบการณ์นะ
ครอบครัวเราก็ผ่านอะไร ๆ กันมาหลายแบบ ใช้ของมาทุกประเภทแล้ว
ลองอะไร high-end บ้าง สลับๆกันไป

ส่วนเราตอนนี้ ใช้นาฬิกาอะไรน่ะเหรอ
Citizen ที่น้องแม่บ้านให้เป็นของขวัญปีใหม่ค่ะ เราไม่รู้ราคาเหมือนกัน
แต่ใช้เพราะซาบซึ้งที่น้องอุตส่าห์ซื้อให้ ใส่มาในกล่องกระดาษแข็งผูกโบว์น่ารักเชียว

ชีวิตเป็นเรื่องไม่แน่นอน เราก็สอนลูกเสมอว่า วันนี้เรามีแบบนี้
ต่อไปวันข้างหน้า ก็ไม่รู้จะเพิ่มขึ้นหรือลดลง
แต่ขอให้มีทัศนคติที่ดี สู้ชีวิต และอยู่ให้มีความสุขในทุกสภาพการณ์นะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่