เเม่อยากให้รับผิดชอบค่าเรียนน้องหลังผมเรียนจบ เเบบนี้ผมไม่เสียโอกาสหรือ

ที่จริงนี่เป็นปัญหาของอนาคตเเต่รู้สึกเครียดไม่น้อย
เเม่บอกว่าคงมีเงินส่งเราเเค่ถึงเรียนจบปริญญาตรีเพราะธุรกิจเริ่มมีปัญหา เเต่ตอนนี้ฐานะที่บ้านไม่ได้ลำบากอะไร
น้องผมอายุห่างกับผมมาก ทั้งผมเเละน้องต่างก็เรียนโรงเรียนนานาชาติมาตลอดค่าเทอมจึงเเพง
(เเต่ผมเคยเรียนโรงเรียนนานาชาติที่ถูกกว่าก่อนจะย้ายมาโรงเรียนของน้องชายซึ่งเเพงกว่าช่วงมอปลาย)
เเต่ผมคิดๆดูเเล้ว พอผมเรียนจบต่อให้ทำงานเเละเเทบไม่ใช้เงินก็ยังไม่มีปัญญาจ่ายค่าเทอมโรงเรียนนานาชาติของน้องชาย
พอถามเเม่ว่า ถ้าไม่มีเงินเเล้วจะส่งน้องไปเรียนโรงเรียนที่ถูกลงไหมล่ะ ก็บอกว่าไม่
เเล้วเเบบนี้จะไม่เป็นผมที่ลำบากเหรอ
เงินเดือนของผมในช่วงเเรกของการทำงานพวกนั้นเเทนที่จะเป็นเงินเก็บเเต่เนิ่นๆ หรือเอาไว้ลงทุนต่างๆ กระทั่งใช้สอย
เเบบนี้จะไม่ทำให้อนาคตผมเสียโอกาสเหรอ เเล้วมันเเฟร์ไหม
ขอไม่เอาเรื่องศีลธรรม เป็นพี่ต้องเสียสละอะไรพวกนั้นนะครับ
เเค่อยากให้ช่วยวิเคราะห์ว่ามันเเย่อย่างที่ผมคิดไหม
อมยิ้ม03
-----------------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเติมนะครับ เห็นมีข้อเข้าใจผิดบ้างผมเองเขียนไม่เคลียร์
ผมอยู่ระหว่างช่วงเริ่มมหาลัยครับดังนั้นคือที่ดูเหมือนผมอยากจะจบนานาชาติคนเดียวไม่สนน้องนั้นไม่ใช่นะครับ จบเเล้ว ปัญหาเพิ่งมาครับ
มหาลัยเองก็ไม่ใช่จะออกเเล้วย้ายไปที่อื่นได้ง่ายๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เผื่อๆอนาคตไว้ครับ
ที่เขียนงงๆขอโทษนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ถ้ามองเฉพาะแง่ของผลประโยชน์อย่างเดียวถือว่าเสียโอกาสมากครับ มีโอกาสสูงที่เราจะขาดทุน และน้องไม่คิดที่จะตอบแทนเราในอนาคต

ไม่เชื่อดูอย่างที่แม่คุณลงทุนกับคุณสิ
ความคิดเห็นที่ 44
ขออนุญาตอัพเดทค่ะ รูปจาก คุณ คุณไม่สามารถใช้นามแฝงนี้ได้ ที่คห. 3-30
รบกวน จขกท. ออกมาชี้แจงความบริสุทธิ์ใจของตนเองด้วยค่ะ
ไม่อย่างนั้นแสดงว่านี่เป็นกระทู้แต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงของ จขกท. เพื่อดูคนตีกัน










เราแปลกใจ ที่เห็นคนในนี้มองว่า จขกท. เห็นแก่ตัว

อย่าลืมว่า จขกท. ไม่ได้ขอที่จะเกิดมา และไม่ได้ขอที่จะมีน้องชายด้วย
ดังนั้น ทั้งค่าใช้จ่ายในส่วนของ จขกท. และน้องชาย จึงควรเป็นความรับผิดชอบของพ่อแม่ที่ "เลือก" ที่จะให้ทั้งคู่ได้เกิดมา
แล้ว แม่ จขกท. ก็ดันจะเลือกแบบแพงด้วย
เราเห็นว่าช่วงหลังคนในพันทิปมักไม่เห็นด้วยกับการที่พ่อแม่บางคนมีลูกเพื่อไว้ใช้งาน+เลี้ยงดูตอนแก่ มักสนับสนุนให้มีเพราะความรัก และไม่คาดหวังสิ่งตอบแทนจากลูก
นี่มันก็เหมือนกันเลยไม่ใช่เหรอคะ? ทำไม จขกท. จะต้องถูกด่าด้วย ก็ไหนสมัยนี้คนพันทิปไม่คาดหวังว่าลูกจะต้องตอบแทนแล้วไง ไหนว่าการส่งเขาไปให้ตลอดรอดฝั่งคือความสุขของพ่อแม่แล้วไง น้องเป็นภาระของแม่ค่ะ ไม่ใช่ของ จขกท.

อย่าลืมว่า การเป็นลูก มันเป็น one-sided contract ค่ะ (สัญญาแต่ฝ่ายเดียว) คือพ่อแม่ตั้งใจจะมีลูก แต่ถามว่าลูกได้เลือกที่จะเกิดมาไหม ก็เปล่า เป็นการตัดสินใจของฝั่งพ่อแม่แต่เพียงฝ่ายเดียวค่ะ ลูกไม่ได้มีส่วนในการตัดสินใจด้วย ไม่เคยได้เซ็นสัญญาที่มองไม่เห็นนี้ เพราะฉะนั้นลูกไม่ควรต้องได้รับ liability (พันธะ) นะคะ

เราว่าระบบพี่ช่วยน้อง แบบส่งกันเรียน (ไม่นับช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆ) ถือเป็นระบบที่ทำร้ายชีวิตของคนเป็นพี่มาก ถ้ารู้ว่าไม่มีปัญญาหาเลี้ยงลูกหลายคนแบบสบายๆ ทำไมไม่มีแค่ 1 พอ จะได้ให้การศึกษาและทรัพยากรอย่างเต็มที่ ไม่มีใครต้องเอาชีวิตไปแบ่งใคร

ยิ่งแบบสมัยก่อน ที่ครอบครัวหนึ่งมีลูกเกือบสิบคน เราสงสารพวกพี่คนโตมากที่จะได้เรียนน้อยสุด เพื่อส่งเสียให้น้องๆได้เรียนสูงๆ ไม่เคยได้ถามว่าคนพี่ อยากเรียนไหม อยากเป็นอะไร แต่มักถูกบังคับให้ออกมาทำงาน
ความคิดเห็นที่ 49
ถ้าอ่านแค่หัวกระทู้ อาจจะอยากพูดเหมือน คห ที่กล่าว

แต่พอดูรายละเอียด
ส่งน้องเรียนโรงเรียนนานาชาติ ปีละเกือบล้าน!?

ขอแม่ให้น้องเรียนโรงเรียนที่ค่าเทอมถูกลงได้ไหม แม่ไม่ยอม

ถามจริง พวกที่ด่าเขามีปัญญาส่งหรอ ? ต่อให้จบนอก เงินเดือนเมืองไทยอย่างมากก็แค่30,000 ปีนึงรายได้ 360,000 แต่จะต้องส่งน้องเรียนปีละล้าน

คือมันคงมีเงื่อนไขอื่นๆ หรือรายละเอียดที่เขาเล่าไม่หมด แต่โดนด่าเรียบละว่าไม่กตัญญู คนเรานี่เอาแต่ด่าไว้ก่อนเนาะ

คำแนะนำ ให้ลองทำ Budget แพลนกับแม่เลย รายรับรายจ่าย ที่อาจจะเกิดขึ้น คือถ้าพูดกันปากเปล่ามันยาก แต่ถ้ามีตัวเลขประกอบ มันจะเห็นภาพมากกว่า หรือจริงๆ แม่กะให้คุณมาสายต่อธุรกิจ แล้วพอมองว่ามันมีรายได้และกำไรพอที่จะส่งได้จริงๆ ถ้าแบบนั้นก็ควรส่งน้อง เพราะแม่ก็ใช้ธุรกิจนี้แหละส่งคุณมา แต่ถ้าคุณเป็นแค่พนักงานบริษัทเงินเดือน 30,000 ทำงานทั้งปียังไม่ได้ค่าเทอมเลย ก็ต้องคุยกับแม่แบบละเอียดๆ แล้วค่ะ
ความคิดเห็นที่ 47
เป็นอีกกระทู้หนึ่งที่ควรจะอ่านให้จบ และตีความก่อนตอบ

สำหรับเรา การมีลูกหมายถึงพ่อแม่ต้องมีความพร้อมในระดับหนึ่ง
หรือถ้าไม่พร้อมแล้วก็ต้องรู้จัก "ประมาณตนเอง"

คุณแม่คุณต้องกลับไปคิดค่ะ ว่าจะทำอย่างไร ไม่ใช่ผลักภาระของตนเองในฐานะแม่ มาให้คุณในฐานะพี่ทั้งหมด
ต่อให้คุณโปรไฟล์ มีความรู้ ทำงานบริษัทใหญ่ มันก็ยากที่จะได้รับรายได้เป็นล้านตั้งแต่ปีแรกๆที่ทำงาน
มันต้องใช้เวลาในการสร้างเนื้อสร้างตัว ซึ่งแม่คุณต้องเข้าใจในส่วนนี้ด้วย

แต่เราก็มองว่าจขกท. จะต้องปูทางให้น้องระดับหนึ่งนะคะ
อาจไม่ใช่ในรูปแบบการส่งเรียนทั้งหมด แต่อาจเป็นการติว การพูดคุย การดูแลที่พี่จะให้น้องได้
เมื่อไม่มองเรื่องบุญคุณ บลาๆ
ในอนาคตถ้าพ่อแม่คุณไม่อยู่แล้ว และน้องคุณยังเด็ก/ยังไม่มีอะไรดีพอ
น้องคุณนี่แหละจะกลายเป็นภาระของคุณ

สู้ๆ ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 14
จะให้แฟร์ก็อย่าง คคห 4 อ่ะค่ะ เอาเงินทั้งที่ส่งคุณส่งน้องไปในอดีต บวกเงินที่คิดว่าแม่จะหามาส่งเรียนได้ในอนาคต เอามาหาร 2 แล้วเลือกที่เรียนกันตามงบที่เหลืออยู่เลยค่ะ เงินอนาคต คุณต้องได้น้อยกว่าน้องนะเพราะคุณได้ใช้เงินในอดีตมามากกว่าเค้า เราว่านี่แหละแฟร์

ให้คุณส่งน้องเรียน เราว่ามันก็ไม่แฟร์กับคุณ เพราะนั่นลูกแม่ ไม่ใช่ลูกคุณ ถึงจะเป็นน้อง แต่คิดว่าคุณคงไม่ได้ตัดสินใจเรื่องจะให้เค้าเกิดมา

หรือจะให้น้องเรียนด้อยลงมากว่าคุณ ตามงบที่คุณคิดว่าจะไหว เราว่านี่ก็ไม่แฟร์กับน้องเช่นกัน ทีคุณยังได้เรียนนานาชาติชั้นหนึ่ง ซึ่งนั่นจริงๆเป็นงบของแม่ ซึ่งน้องก็มีส่วนในงบนั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่