เรื่องเกิดเมื่อสองเดือนก่อนครับ
พอดี จขกท พาครอบครัวไปเที่ยวทะเล ผมกับภรรยาก็ชวนลูกวิ่งเล่นกันบนหาดตามประสา วันนั้นน้ำลงครับ หาดจึงกว้างมาก ระหว่างที่เล่นกันอยู่ก็สังเกตเห็นเด็กคนนึงทำท่ายึกๆยักๆอยู่ จะออกไปวิ่งเล่นตรงน้ำทะเลก็ไม่กล้า จะวิ่งกลับไปหาพ่อแม่ที่เก้าอี้อาบแดดที่วางเรียงอยู่ชิดฝั่งก็ไม่อยากกลับ เธอก็ตะโกนเรียกพ่อแม่ แต่ก็ไม่มีใครได้ยิน คือดูแล้วแกคงอยากให้พ่อแม่พาไปลงทะเลอะครับ แต่อีพ่ออีแม่ก็มัวแต่แอคท่าถ่ายรูปอยู่ที่เก้าอี้อาบแดดของ รร. แบบโนสนโนแคร์ ผมยืนท้าวเอวดูอยู่เป็นนาทีก็ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจลูกมัน นี่ถ้ามีตัวอะไรมาคาบลูกมันไปก็คงไม่รู้เรื่อง
ที่นึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้เพราะบังเอินว่ากำลังอ่านเรื่อง Conspicuous consumption อยู่ครับ เลยมาลองคิดๆดู เดี๋ยวนี้ตั้งแต่มีเฟสบุค อินสตาแกรม การไปเที่ยวของเรานี่ก็เป็น conspicuous consumption อย่างหนึ่งเหมือนกันนะครับ (เหมือนซื้อกระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า แบรนเนม อวดคน) คือถูกใช้เป็นเครื่องมือ "โปรโมท" สถานะทางสังคมหรืออะไรก็ตามแต่ของผู้ใช้ไปในตัว ซึ่งตัว จขกท ก็เป็นครับ
มานึกๆดูบางทีก็น่ากลัวเหมือนกันนะครับ ว่าถูกกลืนไปโดยไม่รู้ตัว .. จนกลายเป็นเรื่องอัตโนมัตไปแล้ว ว่าไปไหนต้องอัพลงเฟส จนบางทีเราก็ง่วนอยู่กับการอัพรูปจนลืมอะไรบางอย่างไป ยิ่งไปต่างประเทศ ไปที่แพงๆ ที่สวยๆ นี่ยิ่งแล้วใหญ่ โลกยิ่งต้องรู้ .. เลยเริ่มรู้สึกว่าเส้นแบ่งระหว่าง แชร์ กับ โชว์ออฟ นี่มันบางมากจริงๆครับ ไม่รู้มองโลกในแง่ร้ายเกินรึเปล่า
##ขออีดิทหน่อยครับ ตื่นเช้ามาเปิดกระทู้ดูโดนด่าเละเลย จริงๆไม่ได้ต้องการชี้นิ้วด่าคนอื่นนะครับ อย่างที่บอกว่าอ่านงานของ Veblen เรื่อง The Theory of the Leisure Class อยู่ เลยนึกถึงเหตุการณ์ที่เจอมา อีกอย่าง จขกท ก็เดินทางบ่อยคนนึงครับ ทั้งพาครอบครัวเที่ยวและหน้าที่การงาน และก็ชอบอัพรูปมากเหมือนกัน ถ้าด่าก็ด่าตัวเองดด้วยครับ ในเนื้อหากระทู้จึงใช้คำว่า "เรา" แค่อยากลองชวนคุยดูครับ แลกเปลี่ยนมุมมองกันครับ
ยุคนี้ยังมีอยู่มั้ยครับ ที่ไปเที่ยว ตปท/ตจว แล้วไม่อัพรูปลงเฟส ลงอินสตาแกรม ?
พอดี จขกท พาครอบครัวไปเที่ยวทะเล ผมกับภรรยาก็ชวนลูกวิ่งเล่นกันบนหาดตามประสา วันนั้นน้ำลงครับ หาดจึงกว้างมาก ระหว่างที่เล่นกันอยู่ก็สังเกตเห็นเด็กคนนึงทำท่ายึกๆยักๆอยู่ จะออกไปวิ่งเล่นตรงน้ำทะเลก็ไม่กล้า จะวิ่งกลับไปหาพ่อแม่ที่เก้าอี้อาบแดดที่วางเรียงอยู่ชิดฝั่งก็ไม่อยากกลับ เธอก็ตะโกนเรียกพ่อแม่ แต่ก็ไม่มีใครได้ยิน คือดูแล้วแกคงอยากให้พ่อแม่พาไปลงทะเลอะครับ แต่อีพ่ออีแม่ก็มัวแต่แอคท่าถ่ายรูปอยู่ที่เก้าอี้อาบแดดของ รร. แบบโนสนโนแคร์ ผมยืนท้าวเอวดูอยู่เป็นนาทีก็ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจลูกมัน นี่ถ้ามีตัวอะไรมาคาบลูกมันไปก็คงไม่รู้เรื่อง
ที่นึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้เพราะบังเอินว่ากำลังอ่านเรื่อง Conspicuous consumption อยู่ครับ เลยมาลองคิดๆดู เดี๋ยวนี้ตั้งแต่มีเฟสบุค อินสตาแกรม การไปเที่ยวของเรานี่ก็เป็น conspicuous consumption อย่างหนึ่งเหมือนกันนะครับ (เหมือนซื้อกระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า แบรนเนม อวดคน) คือถูกใช้เป็นเครื่องมือ "โปรโมท" สถานะทางสังคมหรืออะไรก็ตามแต่ของผู้ใช้ไปในตัว ซึ่งตัว จขกท ก็เป็นครับ
มานึกๆดูบางทีก็น่ากลัวเหมือนกันนะครับ ว่าถูกกลืนไปโดยไม่รู้ตัว .. จนกลายเป็นเรื่องอัตโนมัตไปแล้ว ว่าไปไหนต้องอัพลงเฟส จนบางทีเราก็ง่วนอยู่กับการอัพรูปจนลืมอะไรบางอย่างไป ยิ่งไปต่างประเทศ ไปที่แพงๆ ที่สวยๆ นี่ยิ่งแล้วใหญ่ โลกยิ่งต้องรู้ .. เลยเริ่มรู้สึกว่าเส้นแบ่งระหว่าง แชร์ กับ โชว์ออฟ นี่มันบางมากจริงๆครับ ไม่รู้มองโลกในแง่ร้ายเกินรึเปล่า
##ขออีดิทหน่อยครับ ตื่นเช้ามาเปิดกระทู้ดูโดนด่าเละเลย จริงๆไม่ได้ต้องการชี้นิ้วด่าคนอื่นนะครับ อย่างที่บอกว่าอ่านงานของ Veblen เรื่อง The Theory of the Leisure Class อยู่ เลยนึกถึงเหตุการณ์ที่เจอมา อีกอย่าง จขกท ก็เดินทางบ่อยคนนึงครับ ทั้งพาครอบครัวเที่ยวและหน้าที่การงาน และก็ชอบอัพรูปมากเหมือนกัน ถ้าด่าก็ด่าตัวเองดด้วยครับ ในเนื้อหากระทู้จึงใช้คำว่า "เรา" แค่อยากลองชวนคุยดูครับ แลกเปลี่ยนมุมมองกันครับ