วีรกรรมสุดแสบสมัยเด็ก
Part1
เชื่อว่าหลายๆคนต้องผ่านช่วงวัยเด็กสุดแสบมาก่อนวันนี้จขกท.จะมาเล่าเรื่องราวสุดแสบ(มั้ง)ของตัวจขกท.เอง
จขกท.เกิดที่จังหวัดนึงในภาคอีสาน แม่ของจขกท.เอาไปฝากให้ยายเลี้ยงตั้งแต่เด็กๆในอีกจังหวัดนึง จขกท.อาศัยอยู่กับตายายในหมู่บ้านเล็กๆมีไม่ถึง30หลังคาเรือน เด็กๆในหมู่บ้านมีน้อย หมู่บ้านจะแบ่งออกเป็นคุ้มตะวันออกกับคุ้มตะวันตก ตัวจขกท.เองอยู่คุ้มตะวันตก เด็กๆทั้งสองคุ้มจะไม่ค่อยมาเล่นด้วยกันเท่าไหร่ เพราะอะไรนั้นก็ไม่มีใครบอกได้เหมือนกัน ในpartนี้จขกท.ขอเล่าเรื่องราวสุดแสบของจขกท.กับเด็กคุ้มตะวันตกก่อน
ต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่าเรื่องราวพวกนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นสมัยจขกท.อยู่อนุบาลถึงป.1 จนตอนนี้อายุ18ปีแล้ว ชื่อบุคคลบางชื่ออาจไม่มีอยู่จริง เนื่องจากจขกท.ไม่อยากพาดพิงบุคคลนั้น จึงได้ทำการตั้งชื่อปลอมๆขึ้นมา ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าบุคคลที่ได้เป็นหนึ่งในความทรงจำสุดแสบของจขกท.แล้วได้แวะเวียนเข้ามาอ่านก็ขอให้เข้าใจว่า จขกท.ไม่ได้มีเจตนาจะประจานหรือทำให้เสียหายหรืออย่างไร แต่จขกท.ให้ความสำคัญว่ามันคือความทรงจำที่อยากจดจำ บางช่วงบางตอน บางประโยคอาจมีการใส่สีตีไข่เพื่ออรรถรสบ้าง
เรื่องมีอยู่ว่า....
ยายอั้วเป็นยายแก่ๆที่อยู่บ้านฝั่งตรงข้ามกับบ้านของจขกท. ยายอั้วเลี้ยงวัว มีคอกวัวอยู่ติดบ้านซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่จะมียุงมากัดมาตอมวัวของชาวบ้านในตอนกลางคืน ชาวบานก็จะจุดไฟให้มันมีควันเยอะๆเพื่อไล่ยุงให้วัว เอ่อ...คนก็เกือบตายด้วย555 วันหนึ่งจขกท.กำลังเล่นกับเด็กๆซึ่งจขกท.เองนั้นเป็นหัวโจก เล่นไปเล่นมายายอั้วก็บอกว่า “ให้ไปหาขุดตอไม้มา ยายจะให้เงิน จะเอาตอไม้ไปจุดไฟไล่ยุง”
ขึ้นชื่อว่าเด็ก เห็นอะไรก็สนุกไปหมด บวกกับความโลภและหิวกระหาย...รึเปล่า เลยพากกันแบกจอบแบกเสียมเดินตามหมู่บ้านหาตอไม้ใหญ่น้อยตามแต่จะหาเจอ และดูเหมือนโชคชะตาจะเข้าข้างหรือเป็นการกลั่นแกล้งของโชคชะตาก็ไม่ทราบได้ จขกท.และเพื่อนรุ่นเด็กนั้นไปเจอเข้ากับตอไม้ใหญ่ที่อยู่ติดกับต้นอะไรสักอย่างอยู่บนที่ดินของยายคนหนึ่ง
ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรมาก พวกเราลงมือขุดตอไม้นั้นทันที เสียมของจขกท.พลาดโดนต้นไม้ข้างๆเป็นแผลใหญ่ แต่ก็ไม่ได้สนใจ ขุดๆกันไปสักพักตอไม้ก็หลุดออกมาจากดินแถมรอยแผลไว้บนต้นไม้ข้างๆอีกมากมาย ยายเจ้าของที่ผืนนั้นเดินมาเห็นพอดี!!! ร้องตะโกนด่าว่า “เด็กน้อยหมู่นี่มาลักขุดอิหยัง!!!” “ลักไม้กู กูสิแจ้งตำรวจจับเด้” เท่านั้นแหละค่ะ ทั้งก๊กก็แตกกระเจิง แบกจอบแบกเสียมวิ่งหนีกันคนละทาง ตกเย็นเราก็โดนชุดใหญ่ ข่าวแพร่สะพัดไปไวปานเพลี้ยกระโดด ยายของจขกท. ยายอั้ว รวมถึงผู้ปกครองของเด็กคนอื่นโดนยายเจ้าของที่และตอไม้เอาเรื่องไปเล่าให้ฟังว่าพวกเราเป็นโขมย ขโมยตอไม้แถมทำต้นไม่เค้าเกือบตายอีก เป็นเรื่องที่จขกท.จำไม่เคยลืม เพราะตอนที่พากันวงแตกวิ่งหนีนั้นมันระทึกมาก ประหนึ่งโจรวิ่งหนีตำรวจ ต่างคนต่างตกใจคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ตามประสาเด็กน้อย แต่จริงๆแล้วยายคนนั้นคงคิดว่าเป็นเรื่องตลกๆที่เด็กมันทำไว้เฉยๆ ขอโทษยายเจ้าของตอไม้ ที่จขกท.ได้ไปลักขุด และขอโทษวัวของยายอั้วด้วยจ้าที่ต้องโดนยุงกัดในคืนนั้น อดได้ตังค์ค่าจ้าแต่ได้ความทรงจำ ก็คุ้มดี
ปัจจุบันยายอั้วและยายเจ้าของที่และตอไม้คนนั้นได้ลาลับจากโลกนี้ไปแล้ว เหลือไว้แต่คว่มทรงจำต่างๆมากมาย ทั้งสองล้วนเป็นผู้มีพระคุณที่เคยป้อนข้าวป้อนน้ำจขกท.ตอนที่ยังเป็นเด็กทารกทั้งสิ้น ด้วยรักและคิดถึงจ้า
แชร์วีรกรรมความทรงจำสุดแสบฉบับเด็กภูธร
Part1
เชื่อว่าหลายๆคนต้องผ่านช่วงวัยเด็กสุดแสบมาก่อนวันนี้จขกท.จะมาเล่าเรื่องราวสุดแสบ(มั้ง)ของตัวจขกท.เอง
จขกท.เกิดที่จังหวัดนึงในภาคอีสาน แม่ของจขกท.เอาไปฝากให้ยายเลี้ยงตั้งแต่เด็กๆในอีกจังหวัดนึง จขกท.อาศัยอยู่กับตายายในหมู่บ้านเล็กๆมีไม่ถึง30หลังคาเรือน เด็กๆในหมู่บ้านมีน้อย หมู่บ้านจะแบ่งออกเป็นคุ้มตะวันออกกับคุ้มตะวันตก ตัวจขกท.เองอยู่คุ้มตะวันตก เด็กๆทั้งสองคุ้มจะไม่ค่อยมาเล่นด้วยกันเท่าไหร่ เพราะอะไรนั้นก็ไม่มีใครบอกได้เหมือนกัน ในpartนี้จขกท.ขอเล่าเรื่องราวสุดแสบของจขกท.กับเด็กคุ้มตะวันตกก่อน
ต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่าเรื่องราวพวกนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นสมัยจขกท.อยู่อนุบาลถึงป.1 จนตอนนี้อายุ18ปีแล้ว ชื่อบุคคลบางชื่ออาจไม่มีอยู่จริง เนื่องจากจขกท.ไม่อยากพาดพิงบุคคลนั้น จึงได้ทำการตั้งชื่อปลอมๆขึ้นมา ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าบุคคลที่ได้เป็นหนึ่งในความทรงจำสุดแสบของจขกท.แล้วได้แวะเวียนเข้ามาอ่านก็ขอให้เข้าใจว่า จขกท.ไม่ได้มีเจตนาจะประจานหรือทำให้เสียหายหรืออย่างไร แต่จขกท.ให้ความสำคัญว่ามันคือความทรงจำที่อยากจดจำ บางช่วงบางตอน บางประโยคอาจมีการใส่สีตีไข่เพื่ออรรถรสบ้าง
เรื่องมีอยู่ว่า....
ยายอั้วเป็นยายแก่ๆที่อยู่บ้านฝั่งตรงข้ามกับบ้านของจขกท. ยายอั้วเลี้ยงวัว มีคอกวัวอยู่ติดบ้านซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่จะมียุงมากัดมาตอมวัวของชาวบ้านในตอนกลางคืน ชาวบานก็จะจุดไฟให้มันมีควันเยอะๆเพื่อไล่ยุงให้วัว เอ่อ...คนก็เกือบตายด้วย555 วันหนึ่งจขกท.กำลังเล่นกับเด็กๆซึ่งจขกท.เองนั้นเป็นหัวโจก เล่นไปเล่นมายายอั้วก็บอกว่า “ให้ไปหาขุดตอไม้มา ยายจะให้เงิน จะเอาตอไม้ไปจุดไฟไล่ยุง”
ขึ้นชื่อว่าเด็ก เห็นอะไรก็สนุกไปหมด บวกกับความโลภและหิวกระหาย...รึเปล่า เลยพากกันแบกจอบแบกเสียมเดินตามหมู่บ้านหาตอไม้ใหญ่น้อยตามแต่จะหาเจอ และดูเหมือนโชคชะตาจะเข้าข้างหรือเป็นการกลั่นแกล้งของโชคชะตาก็ไม่ทราบได้ จขกท.และเพื่อนรุ่นเด็กนั้นไปเจอเข้ากับตอไม้ใหญ่ที่อยู่ติดกับต้นอะไรสักอย่างอยู่บนที่ดินของยายคนหนึ่ง
ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรมาก พวกเราลงมือขุดตอไม้นั้นทันที เสียมของจขกท.พลาดโดนต้นไม้ข้างๆเป็นแผลใหญ่ แต่ก็ไม่ได้สนใจ ขุดๆกันไปสักพักตอไม้ก็หลุดออกมาจากดินแถมรอยแผลไว้บนต้นไม้ข้างๆอีกมากมาย ยายเจ้าของที่ผืนนั้นเดินมาเห็นพอดี!!! ร้องตะโกนด่าว่า “เด็กน้อยหมู่นี่มาลักขุดอิหยัง!!!” “ลักไม้กู กูสิแจ้งตำรวจจับเด้” เท่านั้นแหละค่ะ ทั้งก๊กก็แตกกระเจิง แบกจอบแบกเสียมวิ่งหนีกันคนละทาง ตกเย็นเราก็โดนชุดใหญ่ ข่าวแพร่สะพัดไปไวปานเพลี้ยกระโดด ยายของจขกท. ยายอั้ว รวมถึงผู้ปกครองของเด็กคนอื่นโดนยายเจ้าของที่และตอไม้เอาเรื่องไปเล่าให้ฟังว่าพวกเราเป็นโขมย ขโมยตอไม้แถมทำต้นไม่เค้าเกือบตายอีก เป็นเรื่องที่จขกท.จำไม่เคยลืม เพราะตอนที่พากันวงแตกวิ่งหนีนั้นมันระทึกมาก ประหนึ่งโจรวิ่งหนีตำรวจ ต่างคนต่างตกใจคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ตามประสาเด็กน้อย แต่จริงๆแล้วยายคนนั้นคงคิดว่าเป็นเรื่องตลกๆที่เด็กมันทำไว้เฉยๆ ขอโทษยายเจ้าของตอไม้ ที่จขกท.ได้ไปลักขุด และขอโทษวัวของยายอั้วด้วยจ้าที่ต้องโดนยุงกัดในคืนนั้น อดได้ตังค์ค่าจ้าแต่ได้ความทรงจำ ก็คุ้มดี
ปัจจุบันยายอั้วและยายเจ้าของที่และตอไม้คนนั้นได้ลาลับจากโลกนี้ไปแล้ว เหลือไว้แต่คว่มทรงจำต่างๆมากมาย ทั้งสองล้วนเป็นผู้มีพระคุณที่เคยป้อนข้าวป้อนน้ำจขกท.ตอนที่ยังเป็นเด็กทารกทั้งสิ้น ด้วยรักและคิดถึงจ้า