คิดถึง 2 บทที่ 50

กระทู้สนทนา

.

                 ไดอารี่ความคิดถึง

               หลังสงกรานต์บอสกับน้องบีมไม่ได้ตามพ่อกับแม่ไปกรุงเทพด้วย อยู่บ้านรอเปิดเทอมกับตายา ส่วนพี่แป้งนั้นตามลุงกับป้ากลับไปกรุงเทพอีกรอบ เปิดเทอมถึงจะกลับมา

                เดือนเมษายนอากาศร้อนอบอ้าว ประกอบกับมีพายุฤดูร้อนด้วย ทำให้ยุงชุกชุมยิ่งนัก แต่ก็ไม่มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของพวกเธอ ในตอนเช้า ๆ บางวันก็พากันไปหากุดจี่ที่นา ฝนตกโรยหน้าดินแบบนี้กุดจี่เยอะเพราะดินไม่แข็ง

                นอกจากกุดจี่แล้วยังมีแหนงหน่อไม้ให้ได้เก็บอีกด้วย หน้าแล้งไฟไหม้ทำให้ต้นไผ่แตกหน่อหรือแหนงออกมาในเวลาที่โดนฝนใหม่ฟ้าใหม่ ชนิดที่ว่าออกไปหาของกินตอนเช้า ต้องได้อย่างใดอย่างหนึ่งติดไม้ติดมือกลับมาแน่นอน การยอมเหนื่อยและตื่นเช้าไม่เสียเปล่า เช้าวันนี้ก็เช่นกัน

                เช้าที่สดใสท้องฟ้าปลอดโปร่งและอยู่สูงมาก ๆ แดดเริ่มออกแล้ว แม้จะยังเช้าอยู่ สมคำล่ำลือว่าหน้าร้อนเสียจริง บอสชวนน้องบีมไปหาของกินดีกว่า ไปกันสองคนพี่ปาวกับพี่ชายทั้งสองไม่ตามไปด้วย บอสก็ไม่หวั่น เพราะไปนาตัวเอง อีกอย่างอยู่มาตั้งแต่เด็กจนโตผืนนาแห่งนี้จึงไม่น่ากลัว และตาก็พาวัวไปทุ่งแต่เช้าแล้วด้วย

                 หกโมงเช้าบอสกับน้องบีมเตรียมกระแป๋งหรือคุถังใบขนาดเล็กที่ใช้สาดน้ำสงกรานต์นั่นแหละ  นำไปหากุดจี่ กับเสียมด้ามเล็ก ๆ ที่ตาทำให้คนละอันออกไปล่ากุดจี่ในเช้าวันนี้ ก่อนไปไม่ลืมแวะชวนพี่สาวสองฝาแฝดไปด้วย เผื่อได้เพื่อนไปสมทบจะได้ไม่เหงากัน

                 บอสกับน้องบีมได้อุปกรณ์ครบมือก็พากันออกเดินทางได้ “บอสหักแหนงหน่อไม้ที่นามาด้วยนะ ยายจะแกงใส่กุดจี่ ตาอยู่นานั่นแหละ ตาบอกว่าเมื่อวานเจอกองขี้ควายของป้าเดือนอยู่ต้นมะขามนาป้านั่นล่ะ อย่าลืมไปดูด้วย” ยายบอกพวกเธอ

                  ส่วนมากแล้วกุดจี่จะชอบอยู่ในกองขี้ควายมากกว่าขี้วัว ถ้าใครเจอกองขี้ควายนี่ถือว่าสุดยอดแห่งประชากรกุดจี่มาก ๆ มันกองใหญ่กว่ากองขี้วัวมาก กองขี้วัวมันจะเล็ก ๆ “บอสอย่าหาไปไกลนะ หาถึงนายายสามก็พอ หน่อไม้น่ะหากอที่นาเราเด้อล่ะ”

               “จ้า ถ้าแหนงหน่อไม้มีนะยาย บอสจะเก็บมาด้วย” บอสตอบก่อนจะเดินมุ่งหน้าไปบ้านของลุงวิทย์แวะชวนพี่สาวไปด้วยสักหน่อย

               มาถึงเห็นป้าแพงนั่งอยู่ที่เตาไฟข้างบ้าน กำลังทำอาหารเช้าอยู่ “ป้าไอ้แฝดตื่นยัง”

               “ไปหากุดจี่บ่ มีมั้ยล่ะนาง คือแล้งแถะ ป๊าด ! น้อย ๆ หนิคือตื่นเช้าแท้ ไปกับเค้าด้วย” ป้าแพงแซวน้องบีม ส่วนเจ้าตัวหัวเราะ

                “น้องบีมก็หาเป็น ตอนนั้นหาได้ตั้งเยอะ ไม่เชื่อถามพี่บอสดูเลย” น้องบีมอวดอ้างตัวเองที่โดนป้าแพงแซว ป้าแพงยิ้มให้อย่างเอ็นดูในคำพูดของหลานสาวสามี

               “บอสบังคับมันไปเป็นเพื่อนเอง ฮา ไม่รู้เหมือนกันป้า บอสอยากไปอ่ะ อยากกิน ตาว่ามีกองขี้ควายอยู่นะ อี่แฝดตื่นยังหนิ”

                “เดี๋ยวป้าไปปลุกก่อน” ป้าแพงเดินหายเข้าไปในบ้าน สักพักเดินออกมาพร้อมแพรว “พิมพ์ไม่ไป ปลุกให้ตื่นลืมตาแล้วหลับต่อเฉย” ป้าแพงพูดติดตลกนินทาลูกสาวฝาแฝดอีกคน บอสกับน้องบีมก็หัวเราะตาม นึกขำท่าทางของป้าแพงต่างหาก มิใช่ขำพิมพ์

                  แพรวเดินหาอุปกรณ์เสียมและคุถัง ใช้เวลาไม่ถึงสามนาที พวกเธอสามคนพี่น้องก็ออกเดินทางได้ มุ่งหน้าสู่นายายเรือง ระหว่างทางก็หาไปเรื่อย ๆ เจอขี้วัวก็ขุด ทว่าเป้าหมายที่แท้จริงคือนาของเธอ เนื่องจากตาเลี้ยงวัว กองขี้วัวก็ต้องมี และนาคนอื่น ๆ ทางฝั่งโน้นคนนำวัวไปเลี้ยงเยอะ ข้ามลำห้วยไปก็ถึงแล้ว

                  พวกเธอสามคนพี่น้องเดินหาอย่างเร็ว เพราะนายายเรืองกับนาพ่อคมไม่ค่อยมีขี้วัวเลย ผู้คนไม่ค่อยนำวัวมาเลี้ยงโซนนี้กัน จุดหมายปลายทางคือมุ่งหน้าไปยังนาของเธอกันเลย

                “บีมขุดเสร็จยัง !” บอสหันไปถามน้องสาวที่กำลังนั่งขุดกุดจี่อยู่อีกฟาก ตอนนี้เจ็ดโมงแดดก็เริ่มจะแรงขึ้นเรื่อย ๆ รู้สึกอุ่นนิดหน่อย “ขุดให้หมดนะไม่ต้องรีบ อย่าให้เหลือรอดแม้แต่ตัวเดียว แต่ว่าตัวเล็ก ๆ ไม่ต้องเอา ปล่อยให้มันโตก่อน” บอสสั่งน้องสาว ส่วนตนเองเดินหาบริเวณโดยรอบไปพลาง ๆ แพรวก็เหมือนกัน กำลังนั่งขุดกุดจี่อยู่ใต้ต้นมะขามหวานนาพ่อคม

                “ปะบอสเสร็จแล้ว น้องบีมเสร็จยัง เอาให้หมดนะนั่น” แพรวขุดเสร็จลุกขึ้นปัดดินออกจากตัว หิ้วคุถังถือเสียมเตรียมพร้อมออกเดินทางต่อ หันไปถามน้องบีมเสร็จหรือยัง

               “เสร็จแล้ว ปะไปได้”

                น้องบีมลุกขึ้นปัดดินออกจากตัวเช่นกัน แล้วพวกเธอก็ออกเดินทางกันต่อไป พวกเธอสามคนพี่น้องเดินไปตามทางเท้าเล็ก ๆ ที่ผู้คนเหยียบย่ำจนเป็นทางเล็ก ๆ เป็นเส้นยาวตรงไปยังห้วยเพื่อข้ามฟาก ที่ลำห้วยมีสะพานไม้ไผ่ตาทำเอาไว้ น้ำในลำห้วยเหือดแห้งเห็นสันดอนโผล่ขึ้นมาบางจุด บางจุดก็มีน้ำขัง ทว่าตรงที่สะพานข้ามมีน้ำขังอยู่ระดับหัวเข่าได้ จึงปลอดภัยในการข้าม

               “บีมเดินไปก่อนเลย จับราวไม้ไผ่ดี ๆ นะ เดี๋ยวตก” บอสบอกน้องสาว “เอาเสียมมานี่พี่ถือให้”

               “บีมเอากระแป๋งมา เดี๋ยวกุดจี่คว่ำลงน้ำหมดพอดี” แพรวให้น้องบีมนำกระแป๋งมาให้ตนช่วยถือ อีกอย่างกลัวน้องบีมตกสะพานด้วย น้ำไม่ลึกแต่ถ้าตกลงไปก็เจ็บตัวได้เหมือนกัน ป้องกันไว้ก่อนง่ายกว่า ให้น้องบีมเดินตัวเปล่าข้ามไปแบบสบาย ๆ

              “ไป ข้ามไปก่อนเลยบีม จับดี ๆ ล่ะ” แพรวเดินมาต่อคิวน้องบีมข้ามสะพาน ถัดมาก็เป็นเธอเองที่ข้ามคนสุดท้าย เสียงดังเอี๊ยดอ๊าดของไม้ไผ่ขณะเดินก็ไม่ได้ทำให้พวกเธอตกใจ ตาทำสะพานแข็งแรงพอควร ประกอบกับน้ำตื้นเขินพวกเธอจึงไม่กลัว ลมพัดกอไผ่ดังซู่ซ่าในตอนเช้า ๆ แบบนี้แดดยังไม่แรงมากทำให้รู้สึกเย็นสบายดี อีกหน่อยก็คงต้องพากันกลับถ้าแดดแรงกว่านี้ ดังนั้นต้องรีบหาให้มันได้เยอะ ๆ ที่สุด

               ทุกคนข้ามลำห้วยมาถึงนากันแล้ว ก็แยกตัวกันหาเลย แต่ก็ไม่ห่างกันมาก เดินหากองขี้ควายไปเป็นแถว เป็นแนวเดียวกัน ตอฟางก็แห้งกรังหมด แห้งนอนราบไปกับพื้นไม่ตั้งชี้โด่เด่ให้เป็นอุปสรรคในการหากุดจี่

               เจอกองขี้วัวเป็นกลุ่มใหญ่หลายกองพวกเธอก็ไม่หวง แบ่งให้กันและกัน โดยเฉพาะเธอกับน้องบีม เพราะหาถึงสองคนรวมกันได้เยอะอยู่แล้ว พอเจอกลุ่มขี้วัวหลาย ๆ กองก็จะแบ่งให้แพรวด้วยเสมอ ๆ บางครั้งหาเจอก็ไม่เอา เรียกแพรวให้มาขุดแทน แต่ ! จะเป็นเฉพาะจังหวะที่เธอเจออีกกองที่ใหญ่กว่าเท่านั้น

                 พวกเธอสามคนพี่น้องหาไปเรื่อย เจอตาอยู่กลางทุ่งนา กำลังพาวัวหากินฟางแถว ๆ นี้อยู่ ตานั่งดูวัวอยู่ใต้ต้นแดง ถัดไปเป็นต้นสะแบงออกดอกสีส้มปนแดงสวยงาม ตาบอกให้ไปหาที่นาป้าเดือนเพราะป้าเดือนเลี้ยงควายฝูงใหญ่

                ก่อนไปบอสขอเดินหาแหนงหน่อไม้ที่กอไผ่ใกล้ ๆ เถียงนาของตนเองก่อน แพรวเองก็เดินหาช่วยเธอ กอไผ่ยายปลูกไว้สามสี่กอที่เถียงนา เป็นกอเล็ก ๆ ปานกลางก็มี

                แหนงหน่อไม้คือกิ่งหน่อไม้อ่อน ๆ นั่นแหละ หักเอากิ่งอ่อน ๆ หรือยอดอ่อน ๆ ที่ขึ้นตามตาไผ่ ไม่ได้ขุดเอาจากดิน ส่วนที่ขุดจากดินเรียกว่าหน่อ ส่วนที่หักเอาจากตาไผ่เรียกว่าแหนง

                 บอสเดินหาหน่อไม้อย่างตั้งใจ เพราะเมนูแกงหน่อไม้ใส่กุดจี่เป็นอะไรที่อร่อยมาก ส่วนมากเธอจะเจอแค่แหนง หน่อในดินไม่เจอเลย

               “พี่บอส ! น้องบีมเจอหน่อไม้แล้ว “ น้องบีมตะโกนเรียกเธอ เป็นหน่อไม้ขนาดใหญ่ อ้วนมาก รอดหูรอดตาคนนาใกล้ ๆ ได้อย่างไร บอสดีใจมากรีบเดินไปหาน้องสาว

               “บีมไม่ต้องขุด เดี๋ยวพี่ขุดเอง “ บอสกลัวว่าน้องบีมจะทำเสียของน่ะสิ เธอจะเป็นคนขุดเอง

               บอสเดินไปยังกอไผ่ที่น้องบีมเจอ กอไผ่มีหนามเล็ก ๆ เยอะแยะมากมาย บอสใช้เสียมเขี่ยออก แหวกทางให้ตัวเองพอเอาตัวเข้าไปได้ แล้วใช้เสียมเขี่ยใบไผ่ออก จากนั้นก็ลงมือขุดมีน้องบีมยืนดูให้กำลังใจอยู่ไม่ห่าง ขุดเสร็จบอสเดินอ้อมกอไผ่หาเพื่อนของมันสองรอบ และแล้วสายตาก็ไปเจออีกหนึ่งหน่อ ใหญ่อวบอ้วนพอ ๆ กันเลย

                “อ่ะบอส แหนงมัน” แพรวเดินถือแหนงหน่อไม้สี่ห้าแหนงมาให้ มีแต่แหนงอวบ ๆ ทั้งนั้น

                   “มีหน่อมั้ยแพรว มืงหาดูดี ๆ ยัง”

               “หาดีแล้วมืง ไม่มี!” แพรวทิ้งแหนงหน่อไม้ลงในกระแป๋งกุดจี่ของเธอ จากนั้นก็ชวนกันไปหาขุดกุดจี่ต่อ สิบโมงค่อยกลับ

              “กินน้ำมั้ยพวกเรา ! น้ำกินนะเนี่ย” หลังหาหน่อไม้เสร็จบอสก็เดินมาหาน้ำกิน เป็นโอ่งแดงขนาดใหญ่ สูงเท่า ๆ เธอเลย เป็นโอ่งเก็บน้ำฝนของตา หน้านามาถึงจะได้มีน้ำดื่มกิน มีขันสังกะสีวางอยู่บนเถียงนา บอสขึ้นไปเอาขันมาตักน้ำดื่มแก้กระหาย โอ่งน้ำใช้ก็มีต่างหาก พวกเธอสามคนล้างมือให้สะอาดก่อนที่จะดื่มน้ำ

               “กินด้วยบอส กระหายน้ำเหมือนกัน”

              “พี่บอสน้องบีมกินด้วย”

             “ได้ ! “ บอสปีนขึ้นไปบนโอ่งแดง ตักน้ำมาให้พี่สาวกับน้องสาวกิน ตนเองก็กินด้วย แก้กระหายสักหน่อย

               เมื่อได้หน่อไม้และดื่มน้ำเสร็จแล้วก็พากันออกเดินทางหากุดจี่กันต่อ เป้าหมายคือนาของป้าเดือน พี่สาวคนโตของแม่ ทีแรกว่าจะไปนายายสามด้วย รู้สึกเหนื่อย ร้อน แดดก็ออกแรงแล้วด้วยตอนนี้เก้าโมงเช้าได้ พวกเธอจึงตกลงกันว่าไปนาป้าเดือนแล้วกลับเลย สาย ๆ ของเดือนเมษาแบบนี้ถึงยังไม่เที่ยงก็ร้อนใช่ย่อย

             มาถึงนาป้าเดือนพวกเธอทั้งสามคนต้องตื่นตาตื่นใจไปกับกองขี้ควายของป้าเดือน ยิ่งตรงไหนมีบวกน้ำ กองขี้ควายยิ่งเยอะ ถึงจะเจอแค่คนละกองสองกอง ทว่าประชากรกุดจี่ก็มีไม่ใช่น้อย เจอกองขี้ควายห่าม ๆ กองหนึ่งเท่ากับเจอกองขี้วัวรวมกันถึงสามเกือบสี่กองกันเลย สำหรับประชากรกุดจี่ที่อยู่ในนั้น บางกองใหญ่เท่าถาดก็มี ใหญ่กว่าถาดก็มี แม้กลิ่นมันจะไม่พิศวาสนักก็ตาม พวกเธอโตมากับกองขี้ควายขี้วัว กลิ่นแค่นี้สบายจมูกมาก

                จุดนี้จุดเดียวทำให้ได้กุดจี่เยอะที่สุด พอแก่การนำไปประกอบอาหาร มันไต่ยั้วเยี้ยในคุถังน่ามั่นเขี้ยวนัก กลับไปถึงบ้านก่อไฟตั้งกระทะร้อน ๆ คั่วใส่เกลือได้เลย เป็นกับข้าวที่อร่อยที่สุดอย่าบอกใคร

             “หาอีกสักหน่อยมั้ยบอสค่อยกลับ น้องบีมเหนื่อยยัง” แพรวติดใจ อยากหาต่อสักหน่อยเผื่อได้รวม ๆ กัน

              “ก็ได้มืง แพรวหากลับทางฝายตาสมบูรณ์น้อ ไม่ต้องกลับทางนาพ่อคมยายเรืองหรอก เผื่อได้รวม ๆ กันไงมืง”

               “เอาไงก็เอากันพี่แพรว พี่บอส” น้องบีมไม่เคยปฏิเสธ

               พวกเธอสามคนพี่น้องพากันเดินหากุดจี่อยู่กลางทุ่งนา เสียงกระดิ่งวัวดังให้ได้ยินเป็นระยะ ๆ ทำให้นาผืนนี้ไม่เงียบเหงา มีผู้คนในหมู่บ้านมาเลี้ยงวัวที่นี่มากมาย ทำให้ท้องทุ่งนาไม่น่ากลัว พวกเธอเดินลัดเลาะมายังนาของตาสมบูรณ์ อยู่ติดเขตแดนกับนาของเธออีกฝั่ง กั้นด้วยลำห้วยเหมือนกัน

                เมื่อหาจนหมดแล้ว ก็มุ่งหน้าเดินกลับกันเลย ไม่หาต่อเพราะรู้สึกเหนื่อย อยากกลับบ้านไปชำระร่างกายเต็มทน แค่นี้ก็พอที่จะทำกินได้แล้ว พวกเธอเดินตามกันมาสามคนพี่น้อง

                พอมาถึงนาตาสมบูรณ์บรรยากาศมันเงียบยิ่งนัก น่าวังเวงในความรู้สึก แต่ก็ต้องข่มใจไว้ โตมากับลำห้วยสายนี้ มาเล่นน้ำที่ฝายตาสมบูรณ์ตั้งแต่เด็ก มางมหอยอยู่ร่ำไป ถึงจะกลัวแต่ก็ไม่กลัว ตาสมบูรณ์เสียไปนานแล้ว มีข่าวว่าคนที่ผ่านมาทางนี้เห็นตานั่งดูดบุหรี่อยู่ แต่กลางวันแสก ๆ เช้า ๆ แบบนี้ตาไม่น่าจะมาให้เห็นหรอก

                  เมื่อมาถึงลำห้วย พวกเธอเดินข้ามฝายดินของตามาอีกฝั่ง แอบหย่องขโมยหาหน่อไม้ของตาสมบูรณ์ด้วย ลุงคลองลูกของตาก็ไม่อยู่ ป้ารัตน์ก็ไม่อยู่ ทางสะดวกละ บอสยิ้มกริ่ม มีแผนเกิดขึ้นในใจ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่