คิดถึง 2 บทที่ 18



.


               ครอบครัวของบอสเกี่ยวข้าวใหญ่ต้นเดือนธันวาคม พ่อกับแม่กลับจากกรุงเทพมาช่วยยายเกี่ยวข้าวเช่นทุกปี ช่วยคนงานไปในตัว จะได้เสร็จเร็ว ๆ ถ้าคนงานสิบคนขึ้นไปวันเดี๋ยวเสร็จ โชคดีที่ยายหาได้เกือบสิบคน ขาดแค่สองคนก็ถึงสิบ

               ทุก ๆ ปีนาของเธอเกี่ยวข้าวไม่เกิน 2 วัน ตากับพ่อมัดไม่เกินวันเดียวเสร็จ ขนข้าวขึ้นลานนวดวันเดียวเสร็จ นวดข้าวจ้างรถนวดวันเดียวเสร็จ ไม่เกินอาทิตย์ก็แล้วเสร็จทุกกระบวนการ รวมทั้งเอาข้าวใส่ยุ้งฉางด้วย

               เพื่อนของพี่ชายก็มาช่วยนวดข้าวหลายคน ค่าจ้างเป็นเหล้าขวดใหญ่พอ ช่วยแบกกระสอบข้าว ทำให้การทำงานเสร็จเร็ว นอกจากจ้างเกี่ยวข้าว ขั้นตอนที่เหลือช่วยกันด้วยใจทั้งนั้น และครอบครัวของเธอก็ไปช่วยคนอื่น ๆ ตอบแทนน้ำใจกัน

               กลิ่นข้าวใหม่ หรือข้าวที่เกี่ยวจากกอมาใหม่ ๆ กลิ่นของข้าวหอมมาก ขาวมาก และเม็ดอ่อนมาก ๆ ด้วย แม่กับป้าตกลงกันว่าจะทำข้าวหลามกัน ข้าวหลามข้าวใหม่อร่อยที่สุด บอสกับน้องบีมตื่นเต้นมาก ๆ ข้ามหลามเป็นของหวานที่บอสโปรดปรานมากที่สุด รองจากข้าวเม่า

               แม่กับป้าอรตกลงกันว่าจะทำข้าวหลามกิน หลังจากที่แม่เอาข้าวขึ้นยุ้งฉางเรียบร้อย ป้าอรเป็นลูกสาวของยายอีกคน อยู่อีกหมู่บ้านใกล้ ๆ กัน วันนี้ป้ากับพี่สาวลูกของป้ามานอนค้างที่บ้านใหญ่ สนุกครึกครื้นแน่นอนคืนนี้

               กลางวันพ่อเป็นคนทำหน้าที่ตัดลำไม้ไผ่มาให้แม่กับป้า ไม้ไผ่ก็ไม่ได้ไปเอาที่ไหนไกล ต้นไผ่ของเธอเอง ตาปลูกไว้ที่ลำห้วยปลายนา หลายกออยู่พอได้กินหน่อของมัน และได้ใช้ประโยชน์หลายอย่างจากลำไผ่ อย่างน้อย ๆ ก็ตอกมัดข้าวล่ะ ตะกร้าไม้ไผ่บ้าง ตาชอบสานตะกร้าเวลาว่าง ๆ พอได้ขายมีเงินซื้อเอ็มร้อยห้าสิบ ฮา เพราะยายไม่ให้!

                พ่อตัดลำไผ่เป็นท่อน ๆ ขนาดยาวพอดีมาประมาณสามสิบลำได้ แบ่งกันกับป้าด้วย เหลาทำความสะอาดออกให้เรียบร้อย ไม้ไผ่ต้องเป็นไผ่มีรู และเยื่อกระดาษ เยื่อไผ่เวลาข้าวสุกเยื่อไผ่จะได้ติดข้าว ทำให้เพิ่มอรรถรสของข้าวหลามไปด้วย

               กลางวันแม่กับพ่อกับป้าอรเตรียมวัตถุดิบพร้อม ข้าวเหนียวต้องเป็นข้าวสารเท่านั้น ล้างข้าวสารให้สะอาด หลาย ๆ น้ำ หลาย ๆ รอบจนน้ำใส จึงหยุดล้าง น้ำกะทิ น้ำตาลและอื่น ๆ เช่น ถั่วดำ เผือก ฟักทอง อะไรก็ได้ที่อยากใส่ อยากหวานมากก็ใส่น้ำตาลมาก หวานน้อยก็ใส่น้ำตาลน้อย ตามใจชอบ

               อุปกรณ์และวัตถุดิบพร้อมแล้ว ค่ำคืนนี้แม่จะเผาข้าวหลามที่บ้าน ป้ากับพี่อ้อมพี่อ้อลูกสาวของป้า ขับมอเตอร์ไซค์มาบ้านใหญ่ตั้งแต่บ่ายสาม คืนนี้กะจะนอนกันที่นี่ ครอบครัวของเธอทำอะไรทั้งทีต้องทำค่อนข้างอลังการงานสร้างหน่อย เนื่องจากญาติเยอะ ทำแบ่ง ๆ กันได้คนละไม่เท่าไหร่

               บอสกับน้องบีมอยู่ช่วยแม่ทั้งวันไม่ได้ไปเล่นที่ไหน วันนี้วันเสาร์แม่กับป้าพาทำข้าวหลามกิน แพรวกับพิมพ์ก็มาเล่นที่บ้านด้วย ช่วยแม่ล้างกระบอกไม้ไผ่คนละไม้คนละมือกับพวกพี่ ๆ และก็ซื้อของต่าง ๆ ก็สนุกดี เปล่าเลยแม่มาบ้านบอสไม่กล้าไปเล่นที่ไหน ฮา

                อุปกรณ์พร้อมแล้วทุกอย่าง กระบอกไม้ไผ่ที่ล้างไว้ก็แห้งแล้ว ลานหน้าบ้านของเธอค่อนข้างกว้าง แม่ทำไว้เผื่อจอดรถได้หลายคัน พ่อถอยรถออกไปฝากจอดไว้กับข้างบ้าน เพื่อจะใช้เป็นที่เผาข้าวหลามในคืนนี้ หกโมงเย็นแม่ก็เริ่มเผาข้าว อากาศหนาว ๆ ผิงไฟเผาข้าวหลามไปด้วย ได้บรรยากาศมาก ๆ

               หกโมงเย็นป้าแพงกับลุงวิทย์ก็มาที่บ้านของเธอ และญาติคนอื่น ๆ เหมือนรวมญาติไปในตัว ตอนนี้หกโมงเย็นก็มืดแล้ว ทุกบ้านเปิดไฟกันหมด อากาศหนาวแต่ไม่หนาวเพราะมีกองไฟตั้งสองกอง

               ลุงวิทย์มีหนูนามาให้พ่อด้วย หนูพุกตัวใหญ่มาก! แต่เธอไม่กิน ทั้งตระกูลมีเธอกับพิมพ์กับพี่ปาวไม่กินหนูนาและน้องวัว อีกทั้งหลาย ๆ อย่างที่เธอไม่กินอาหารพื้นบ้าน แม่ก็ไม่บังคับอีกทั้งยายกับตาด้วย ส่วนน้องบีมและคนอื่น ๆ กินเรียบ

               แม่ก่อไฟขึ้นสองกอง ไม่ต้องทำให้ไฟลุกโชน ไม่ต้องก่อไฟแรง เนื่องจากมันจะไหม้ราวก่อนข้าวหลามสุก ต้องทำราวไว้พิงบั้งข้าวหลามด้วย แม่ก่อไฟขึ้นสองกอง ถึงจะเพียงพอในการเผาข้าวหลามเกือบสามสิบบั้ง

               แม่กับป้าอรป้าแพง ช่วยกันกรอกข้าวสารลงในบั้งไม้ไผ่ แม่ไม่ค่อยอยากให้พวกเธอช่วยทำเท่าไหร่นัก กลัวสุกแล้วผ่าออกมาไม่สวย กลัวเยื่อไผ่ไม่ติด หรือกรอกข้าวไม่สม่ำเสมอกัน แต่เธอก็อยากช่วยแม่ทำ อยากทำเป็น แม่กับป้า ๆ ก็ไม่ขัด รวมทั้งสองฝาแฝดพี่ปาวพี่แป้งด้วย ช่วย ๆ กันทำ

               “แม่อันนี้ของบอส! อย่าเทน้ำตาลใส่เยอะ ฮ่วย” บอสตกใจกับการเทน้ำตาลใส่ชามกะทิของแม่ ที่แม่เทผสมให้เธอ “มันก็หวานนั่นแล่ว”

               “ไม่หวานมันก็ไม่อร่อยตั้วข้าวหลาม” ป้าอรหันมาคุยกับเธอ มองเธอกับแม่เถียงกัน แล้วก็หันไปตักข้าวกรอกใส่บั้งไม้ไผ่ต่อ

               “ป้าอรบอสไม่ชอบหวาน” เธอไม่เอาหรอกชามนี้ เปลี่ยนใหม่เลย แม่เทน้ำตาลไปตั้งเยอะ ใครจะทำก็ทำไปเลย ไม่กินแล้วก็ได้ บอสงอนแม่ตัวเองนิดหน่อย

               “เอามาชามนี้ให้แพรวก็ได้ บอสมันไม่กินหวาน “ สรุปแพรวเอาชามของเธอไปกรอก ส่วนเธอผสมใหม่ โดนแม่บ่นไปนิดหน่อย ก็ทำหูทวนลมเธอไม่กินหวานจะให้กินลงได้อย่างไรล่ะ

               พวกเธอทำของใครของมัน ตั้งใจบรรจงกรอกข้าวลงไปในรูไม้ไผ่มาก ๆ ป้า ๆ กับแม่ก็คอยสอน ทำอย่างไรให้มันแน่น ๆ น้องบีมก็ทำของตัวเองด้วย

               “เขย่า ๆ ด้วย ให้ข้าวมันลงไปเสมอกัน” ป้าแพงแนะนำ พี่ ๆ และพวกเธอต่างพากันตั้งใจทำมาก ๆ “เต็มแล้วใช่มั้ย ก็ใช้ใยมะพร้าวมัดเป็นก้อนปิดฝาไว้ ไปหั่นไปเผา ฮา” ป้าแพงคุยกับน้องบีม น้องบีมมีข้าวหลามเป็นของตัวเองแล้ว

               ในการปิดฝาข้าวหลาม ส่วนใหญ่จะนำเปลือกมะพร้าวแห้งมาปิด ดึงเอาใยสีน้ำตาลที่เปลือกของมัน ฉีก ๆ ให้เป็นฝอย ๆ เอาแค่เส้นฝอยเท่านั้นมาใช้ในการปิดปากข้าวหลาม

               ที่ลานหน้าบ้านแม่ ป้า ๆ และพวกเธอปูเสื่อล้อมกองไฟเผาข้าวหลามกัน มีเพื่อนบ้านเดินมาเล่นด้วย พ่อกับลุงวิทย์เผาหนูนา กลิ่นของมันหอมมาก ทว่าเธอไม่พิศวาสเลยสักนิด แต่คนที่ตาลุกวาวเห็นจะเป็นน้องบีม เที่ยวเดินไปหาพ่อกับลุงวิทย์อยู่บ่อย ๆ

               พี่ ๆ ก็ช่วยเผาข้าวหลามด้วย ช่วยพลิกไม่ให้ไหม้ก่อนสุก วันนี้กับข้าวมื้อเย็นก็เยอะกว่าทุกวัน ตากับยายนั่งดูลูก ๆ หลานทำข้าวหลามหน้าบ้าน ยายจัดแจงที่นอนให้พี่อ้อมกับพี่อ้อ หลานสาวทั้งสองคนของตนเรียบร้อย ทว่าพวกเธอก็ไม่มีใครทานข้าวเย็น เก็บท้องไว้ทานข้าวหลามกัน

               ข้าวหลามทั้งหมดถูกนำไปเผาในกองไฟเรียบร้อย แม่กับป้ากับพี่ ๆ และพวกเธอคอยดูคอยพลิกไม่ห่าง กลัวไหม้ก่อนข้าวสุก

                “อันนี้ของบอสนะ แม่ห้ามสลับ แม่เผาให้บอสด้วย” บอสทำเครื่องหมายเอาไว้ตามความคิดของตนนั่นแหละ เพราะของคนอื่นใส่น้ำตาลลงไปเยอะ แค่นึกก็หวานจนเลี่ยน

               “ใครจะไปสลับของมืงล่ะบอส” แม่ทำหน้าตาน่าเบื่อให้เธอ แล้วก็เลิกสนใจเธอหันไปสนทนากับป้า ๆ เหมือนเดิม

               “ไม่กินหวานถึงว่าทำไมมันอ้วนจัง” ป้าอรพูดประชดเธอ บอสยิ้มให้ป้า ก็เธอไม่ชอบมาแต่ไหนแต่ไร ไม่ใช่พึ่งมากระแดะไม่ชอบเอาตอนนี้ ไม่กินหวานมาตั้งแต่เด็ก ๆ ก็มันไม่ชอบของมันเองทำไงได้

               แม่กับป้า ๆ นั่งคุยกันไปเรื่อย ส่วนพวกเธอก็นั่งจับกลุ่มกันเล่นโดมิโน่ข้างกองไฟ เล่นพนันกันจริง ๆ ตาละหนึ่งบาท

              “เด็ก ๆ ใครจะกินหนูนา” พ่อเรียกพวกเธอเมื่อย่างหนูสุกแล้ว ลุงวิทย์เอามาสามตัว หามาเองทั้งนั้น ลุงวิทย์เซียนหาหนูประจำหมู่บ้าน

               หนูพุกสุกกลิ่นของมันหอมมาก น้องบีมวิ่งไปก่อนใคร บอสก็แค่มองเฉย ๆ น้องบีมกินมันลงไปได้อย่างไรกัน แค่คิดก็สยอง คอแข็งกลืนไม่ลงแล้ว พ่อเอามาให้พวกเธอหนึ่งตัว มีเพียงพี่ชายสองคนกับน้องบีมและพี่แป้งกินเท่านั้น ที่เหลือไม่กิน คนอื่นไม่อยาก ส่วนเธอกินไม่ลง

               “อ่ะบอสชิม แค่คำเดียว! คำเดียวพอ!” พี่บอลฉีกเนื้อหนูพุกยื่นให้เธอ คำเล็ก ๆ ทว่าเธอมองมันเยอะเหลือเกิน แค่นี้ก็เยอะมาก กินไม่ลง เป็นอันที่รู้กันของพี่ ๆ ว่าเธอไม่กินหนูนามาแต่ไหนแต่ไร

                บอสส่ายหัว ไม่รับเนื้อหนูนากับพี่ชาย “คำเดียวแล้วมืงจะติดใจ เนอะน้องบีม” พี่บอลหันไปหาน้องบีม เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้คำพูดของตน

               “เหมือนเนื้อไก่เลยพี่บอส อ่ะชิม!” น้องบีมยื่นให้เธออีกคน

              “ไม่! กินเลยพี่ขี้เดียดอ่ะ” บอสทำหน้าตาบ่งบอกว่าไม่อยากกิน ยังจะมายัดเยียดอีก

               “เอามาชิมหน่อยบีม” พี่อ้อขอหนูนากับน้องบีม น้องบีมก็ยื่นให้อย่างว่าง่าย ของหายากแบ่งกันกิน กินพอหายอยากไม่ได้กินให้อิ่ม เพราะมันมีน้อย

               “ไอ้แฝดเอามั้ย” พี่บอมถาม แพรวปฏิเสธ แพรวไม่กินเหมือนเธอ ส่วนพิมพ์ไม่อยากกินเฉย ๆ พวกเธอพากันเล่นโดมิโน่อยากสนุก และจริงจังมาก เนื่องจากพนันเงินกันด้วย

               “บอสกูจ้างมืงหนึ่งร้อยบาท กินหนูนาคำนึง” พี่บอลยังไม่หยุดเซ้าซี้เธอ

               “มืงเอาเงินมาวางตรงหน้ากูก่อน กูจะกินให้ดู โด่! ขี้คุยไม่มีตังค์ก็บอก” บอสจัดการท้าซะเลย อยากเซ้าซี้นัก พี่ ๆ กับน้องบีมหัวเราะพี่บอลกันใหญ่

                “มี! มืงกินก่อน” พี่บอลชูแบงค์ร้อยให้เธอดู ทว่าเธอก็ไม่กล้ากินอยู่ดี จ้างหนึ่งพันบาทก็กินไม่ลง กลัว! ใช่เธอกลัวเนื้อหนูนา อดได้เงินร้อยพี่บอลไปเลย และก็รู้ว่าพี่ชายไม่ได้จะให้จริงหรอก คนนี้เจ้าเล่ห์จะตาย

               “มันไม่กินน่ะดีแล้ว จะได้ไม่มีคนมาแย่งกินของอร่อย ของแซ่บเด้หนิบ่จักบ่” พี่บอมพูด ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเล่นโดมิโน่ต่อ

               และแล้วข้าวหลามของทุกคนก็สุก รอให้เย็นก่อนค่อยผ่า บอสจำของตนเองได้ เธอจัดการผ่าเอง ผ่าเอาเปลือกไผ่ที่แข็งออกก่อน แล้วค่อย ๆ เหลาส่วนที่เหลือ อย่าทำให้เยื่อไผ่ขาดเชียว เยื่อไผ่ห่อข้าวได้ดีมาก กลิ่นหอมของข้าวหลามยั่วยวนน่าทานมาก ๆ

               เมื่อเธอไม่กินหวาน แม่ก็ปรุงมัน ๆ ให้แทน ของเธอไม่หวาน ออกรสชาติมันกะทิ ผสมถั่วดำด้วย อร่อยมาก ถูกปากของเธอที่สุด ชอบรสชาติมัน ๆ แบบนี้ที่สุด ขอชิมของพี่ ๆ และน้องบีม มีแต่อันหวาน ๆ ทั้งนั้น สู้ของเธอก็ไม่ได้

               บอสกินแค่อันเดียวก็อิ่มแล้ว เวลาล่วงเลยไปถึงสี่ทุ่ม สองฝาแฝดก็ชวนป้าแพงกับลุงวิทย์กลับบ้าน เนื่องจากง่วงนอน มันก็ดึกมากแล้วด้วย บ้านนอกสามสี่ทุ่มก็ปิดไฟนอนกันแล้วล่ะ

               บอสกับพี่ ๆ ทั้งหกคนและน้องบีมนอนรวมกันที่หน้าทีวี ยายจัดแจงที่นอนให้เรียบร้อย จากอากาศหนาว ๆ พอนอนรวมกันเยอะ ๆ ก็กลายเป็นร้อนไม่รู้ตัว ไม่หนาวเช่นทุกวัน

               บอสหลับไปไม่รู้ว่าพ่อกับแม่ป้าอรและตากับยายเข้านอนตอนไหน ตื่นขึ้นมาข้าวหลามเหลือไม่กี่อัน ยายผ่าไปวัดอันนึง แบ่งให้ป้าอรหกอัน ป้าแพงด้วย ที่เหลือแจกญาติ ๆ คนละอันสองอัน สามสิบบั้งเหลือไม่กี่บั้งที่บ้าน

                บอสตื่นขึ้นมาตอนสาย ๆ งอนแม่นิดหน่อย ก่อนเข้านอนมีสามสิบบั้ง ตอนนี้เหลือไม่ถึงสิบบั้ง ป้าอรกับพี่อ้อมพี่อ้อกลับบ้านของตนไปแล้วตั้งแต่เช้าตรู่

               “แม่ทำให้กินใหม่ก็ได้ตั้วลูก แบ่ง ๆ กันกิน ญาติเราเยอะ อ่ะเอาไปให้ย่าด้วย” แม่ยื่นข้าวหลามสามบั้งให้เธอไปส่งย่าที่บ้าน บอสมองดูแล้วเหลืออยู่หกอัน คนละอันพอดีกับพี่ ๆ และน้องบีม

              บอสเดินถือข้าวหลามไปบ้านย่าสามบั้งแบบเซ็ง ๆ เธอพึ่งกินไปบั้งเดียวเองเมื่อคืน ตื่นขึ้นมาตอนเช้าหมดแล้ว “ย่าข้าวหลาม” บอสตะโกนหาย่าเมื่อมาถึง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่