
ย้อนไปในยุคราชวงศ์โกโคยอลสมัยพระเจ้าแทโจ
เกิดโรคระบาดขึ้นจากการรุกรามของต่างชาติ
พระราชาเลยมีคำสั่งให้ขับไล่ผู้นับถือคริสสสส!!!

ต่อมาเกิดข่าวลือว่ามีแวมไพร์บงการอยู่เบื้องหลังพระราชา
เลยมีกลุ่มต่อต้านชุดดำวางแผนขับไล่และกำจัดแวมไพร์
โดยบัณฑิตรัตติกาลกับอดีตองค์รัชทายาท

เมื่อซอจิน(นางเอก)รู้ว่าตัวเองเป็นหนึ่งในแผนลับ
ที่จะทำให้สามารถกำจัดแวมไพร์ได้...
(อ่านต่อหน้าถัดไป แต่บทความมีหน้าเดียว ฮ่าๆ)
อย่างแรก
-ดูหนัง มันเป็นการเพิ่มจินตนาการที่ดีมาก ผู้สร้างออกแบบทุกอย่างมาให้เราทั้ง ฉาก บรรยากาศ
เนื้อเรื่อง สื่ออารมณ์ มันเหมือนกับเราได้เดินทางไปในสถานที่นั้นเป็นการท่องโลกเสมือนจริง
อย่างที่สอง
-ไปทำอย่างอื่น พี่โน้ต อุดม เคยเล่าว่า..."เวลาที่คิดมุกไม่ออก เขาจะไม่มานั่งเครียด
หรือมานั่งเปิดตลกดู เขาจะไปวาดรูปทำงานศิลปะ เดินทางท่องโลก ทำนู้นทำนี่แล้วหยิบเรื่องนั้นมาเล่า"
อย่างที่สาม (ส่วนตัวชอบอันนี้ครับ)
-ล้อเล่นกับความฝัน เหตุที่เราหมดไฟเพราะเราไม่สนุก มันเหมือนกับนักกีฬาที่ต้องซ้อมๆๆ และลงแข่ง
พอเราจริงจังมากเกินไปเราเลยเครียด เพราะต้องพบกับความกดดันที่สนาม จากโค้ช จากคนดู
เลิกสนใจเสียงรอบข้างซะบ้าง แล้วทำตามใจตัวเอง "เราปิดเพื่อเปิดอะไรบางอย่าง" เครดิต.ทอม room39
(ใส่หน้ากากแบบ the mask singer นั่นแหละ)
และมั่นเติมความฝันเข้าไป ต้นไม้จะเติบโตต้องมีการรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย เรียกง่ายๆว่า "การเรียนรู้ในความฝัน"
เหมือนการพัฒนาสิ่งนั้นไปเรื่อยๆโดยวิธีอื่นหากเราอยากแต่งเพลงเก่ง เราฝึกแต่งอย่างเดียวไม่ได้
เราต้องฟังด้วยว่าเพลงแบบไหนเพราะ แบบไหนคนชอบ
จะเขียนให้ดีก็ต้องอ่านหนังสือด้วย
จะพัฒนาเพจก็ต้องอ่านเพจคนอื่นด้วย
จะวาดภาพก็ต้องดูรูปวาดคนอื่นด้วย
จะทำการบ้านก็ต้องลอกเพื่อน(เอ้ย!!!ศึกษาจากเพื่อนด้วย)
สุดท้ายลองคิดว่าการเติมไฟเหมือนการชาร์จแบตมือถือ
เมื่อก่อนเราต้องหาปลั๊กไฟ แต่เดี๋ยวนี้เรามี power bank
เรียกอีกอย่างคือ "ที่เก็บไฟสำรอง!!!"
การทำอย่างต่อเนื่องจะทำให้เราไม่ค่อยหมดไฟ
มันเหมือนการขับรถขึ้นภูเขาถ้าเราจอดบ่อย (หยุดทำบ่อย)
มันต้องใช้แรงส่งในการออกตัวเยอะยิ่งเปลืองน้ำมัน
(ใช้ไฟในการทำเยอะ เปลืองพลังงาน และหมดง่าย)
ดังนั้นให้ทำอย่างสม่ำเสมอ พักได้แต่อย่านาน
ถ้า...เราล้มแล้วรีบลุกเราจะวิ่งต่อได้
ถ้า...เราล้มแล้วพักแปปนึงเราจะใช้แรงเยอะตอนลุก
ถ้า...เราล้มแล้วนอนยาวร่างกายจะเริ่มเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย ปวดตามข้อลุกไม่ขึ้น เราต้องให้คนอื่นมาช่วยดึง
แต่ถ้าไม่มีใครผ่านมาก็จะได้แต่นอนอยู่ตรงนั้น
มาเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ไปด้วยกัน
เพื่อปลุกไฟแห่งการเรียนรู้และความฝันของชีวิต
"แล้วไปเผาแวมไพร์ตัวนั้นกัน"
ปล.หากชอบกด
+ ให้ด้วยครับ หากแชร์ด้วยจะขอบคุณมาก
สำหรับคนอยากอ่านเพิ่มเติม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เรามีเพจชื่อ "นอกห้อง" เขียนเกี่ยวกับ "การเรียนรู้ชีวิต ค้นหาสิ่งที่ชอบ เริ่มทำสิ่งที่ฝัน"
วิธีทำยังไงไม่ให้หมดไฟ
ย้อนไปในยุคราชวงศ์โกโคยอลสมัยพระเจ้าแทโจ
เกิดโรคระบาดขึ้นจากการรุกรามของต่างชาติ
พระราชาเลยมีคำสั่งให้ขับไล่ผู้นับถือคริสสสส!!!
ต่อมาเกิดข่าวลือว่ามีแวมไพร์บงการอยู่เบื้องหลังพระราชา
เลยมีกลุ่มต่อต้านชุดดำวางแผนขับไล่และกำจัดแวมไพร์
โดยบัณฑิตรัตติกาลกับอดีตองค์รัชทายาท
เมื่อซอจิน(นางเอก)รู้ว่าตัวเองเป็นหนึ่งในแผนลับ
ที่จะทำให้สามารถกำจัดแวมไพร์ได้...
(อ่านต่อหน้าถัดไป แต่บทความมีหน้าเดียว ฮ่าๆ)
อย่างแรก
-ดูหนัง มันเป็นการเพิ่มจินตนาการที่ดีมาก ผู้สร้างออกแบบทุกอย่างมาให้เราทั้ง ฉาก บรรยากาศ
เนื้อเรื่อง สื่ออารมณ์ มันเหมือนกับเราได้เดินทางไปในสถานที่นั้นเป็นการท่องโลกเสมือนจริง
อย่างที่สอง
-ไปทำอย่างอื่น พี่โน้ต อุดม เคยเล่าว่า..."เวลาที่คิดมุกไม่ออก เขาจะไม่มานั่งเครียด
หรือมานั่งเปิดตลกดู เขาจะไปวาดรูปทำงานศิลปะ เดินทางท่องโลก ทำนู้นทำนี่แล้วหยิบเรื่องนั้นมาเล่า"
อย่างที่สาม (ส่วนตัวชอบอันนี้ครับ)
-ล้อเล่นกับความฝัน เหตุที่เราหมดไฟเพราะเราไม่สนุก มันเหมือนกับนักกีฬาที่ต้องซ้อมๆๆ และลงแข่ง
พอเราจริงจังมากเกินไปเราเลยเครียด เพราะต้องพบกับความกดดันที่สนาม จากโค้ช จากคนดู
เลิกสนใจเสียงรอบข้างซะบ้าง แล้วทำตามใจตัวเอง "เราปิดเพื่อเปิดอะไรบางอย่าง" เครดิต.ทอม room39
(ใส่หน้ากากแบบ the mask singer นั่นแหละ)
และมั่นเติมความฝันเข้าไป ต้นไม้จะเติบโตต้องมีการรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย เรียกง่ายๆว่า "การเรียนรู้ในความฝัน"
เหมือนการพัฒนาสิ่งนั้นไปเรื่อยๆโดยวิธีอื่นหากเราอยากแต่งเพลงเก่ง เราฝึกแต่งอย่างเดียวไม่ได้
เราต้องฟังด้วยว่าเพลงแบบไหนเพราะ แบบไหนคนชอบ
จะเขียนให้ดีก็ต้องอ่านหนังสือด้วย
จะพัฒนาเพจก็ต้องอ่านเพจคนอื่นด้วย
จะวาดภาพก็ต้องดูรูปวาดคนอื่นด้วย
จะทำการบ้านก็ต้องลอกเพื่อน(เอ้ย!!!ศึกษาจากเพื่อนด้วย)
สุดท้ายลองคิดว่าการเติมไฟเหมือนการชาร์จแบตมือถือ
เมื่อก่อนเราต้องหาปลั๊กไฟ แต่เดี๋ยวนี้เรามี power bank
เรียกอีกอย่างคือ "ที่เก็บไฟสำรอง!!!"
การทำอย่างต่อเนื่องจะทำให้เราไม่ค่อยหมดไฟ
มันเหมือนการขับรถขึ้นภูเขาถ้าเราจอดบ่อย (หยุดทำบ่อย)
มันต้องใช้แรงส่งในการออกตัวเยอะยิ่งเปลืองน้ำมัน
(ใช้ไฟในการทำเยอะ เปลืองพลังงาน และหมดง่าย)
ดังนั้นให้ทำอย่างสม่ำเสมอ พักได้แต่อย่านาน
ถ้า...เราล้มแล้วรีบลุกเราจะวิ่งต่อได้
ถ้า...เราล้มแล้วพักแปปนึงเราจะใช้แรงเยอะตอนลุก
ถ้า...เราล้มแล้วนอนยาวร่างกายจะเริ่มเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย ปวดตามข้อลุกไม่ขึ้น เราต้องให้คนอื่นมาช่วยดึง
แต่ถ้าไม่มีใครผ่านมาก็จะได้แต่นอนอยู่ตรงนั้น
มาเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ไปด้วยกัน
เพื่อปลุกไฟแห่งการเรียนรู้และความฝันของชีวิต
"แล้วไปเผาแวมไพร์ตัวนั้นกัน"
ปล.หากชอบกด + ให้ด้วยครับ หากแชร์ด้วยจะขอบคุณมาก
สำหรับคนอยากอ่านเพิ่มเติม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้