จากประสบการณ์ตรงครับ
1. หากโทรหาคอลเซ็นเตอร์ให้ถามชื่อคอลเซ็นเตอร์ผู้รับสายแล้วจดชื่อไว้ด้วย
เพราะ : คอลเซ็นเตอร์แต่ละท่านที่ให้ข้อมูลเราแตกต่างกันสิ้นเชิง ยกตัวอย่างที่ผมเจอมา ผมสอบถาม
ขั้นตอนการเครมหากลูกค้าไปซ่อมเอง (รถผมตกหลุมแม็กแตกยางระเบิดเรียกประกัน ได้ใบเครมเรียบร้อย)
โทรหาคอลเซ็นเตอร์คนที่ 1 แนะนำให้เราไปขอใบสเนอราคาจากร้านมาแล้วแฟกซ์หรือเมลมาเพื่อคุมราคาซ่อมก่อน
ผมไปติดต่อร้านและได้ใบเสนอราคามาจากร้านเรียบร้อย โทรหาธนชาตอีกครั้งเพื่อจะขอ เบอร์ fax หรือ Email
แล้วโทรหาคอลเซ็นเตอร์คนที่ 2 แต่กลับบอกผมว่าต้องให้ผมมายื่นคุมราคาด้วยตัวเอง.....เอิ่ม!! ยังไงกัน
OK.. ลางานสักครึ่งวันไปละกัน
2. เงื่อนไขความคุ้มครองซับซ้อนเหนือความคาดหมาย
เพราะ : พอไปถึงสำนักงานใหญ่ตรงเดอะไนน์พระรามเก้า ยื่นใบเสนอราคาให้ จนท.
เค้าดูๆแล้วกดๆเครื่องคิดเลขอยู่แปปนึง แล้วบอกว่า "ราคาเกินทุนที่คุ้มครอง"
ขอเกริ่นนิดนึงครับ เนื่องจากรถผมมีชุดตกแต่งเพิ่มคือ ล้อแม็กซ์ สเกิร์ตรอบคัน สปอยเลอร์
ซึ่งได้คุยเงื่อนก่อนทำประกันกับธนชาตแล้ว เงื่อนไขคือคุ้มครองอุปกรณ์ ตกแต่งเพิ่มไม่เกิน 20,000 บาท
แต่ จนท.ท่านนี้นำเงินที่คุ้มครองชุดแต่ง 20,000 มาหารจำนวนล้อแม็กซ์ 4 วง = 5000 บาท
และผมเครมยางที่ระเบิดไปด้วย ซึ่งเครมได้ 50% คิดเป็นเงินประมาณ 3000 บาท
จนท. เค้าคิดแบบนี้ครับ (ทุน20000 / แม็กซ์4) - ยาง3000 = 2,000 บาท ซึ่งไม่พอราคาแม็กซ์ที่ผมเครม
ผมเลยงงว่า คำว่า "คุ้มครองความเสียหายของอุปกณณ์ตกแต่ง 20,000 บาท" คือคุณเล่นเอาจำนวนชิ้น
มาหารแล้วตีมูลค่าการซ่อมของแต่ละชิ้นแบบนี้เหรอ? แล้วถ้าคิดชุดแต่งรอบคันผมเข้าไปอีก
แบบนี้จะเหลือชิ้นละเท่าไหร่กันครับ มันใช่เหรอ? จนท.ก็นิ่งไปแปปนึง แล้วก็ถามว่าคนขายประกันผมชื่อไร
อยากให้เค้ารับรองว่ามันคุ้มครองแบบไหนกันแน่ ผมนี่...เง้อ...
ผมเลยบอกไปว่าผมจำชื่อไม่ได้ แต่ผมเมมเบอร์ไว้ว่า "ประกันธนชาต" ซึ่งนี่ผมก็เพิ่งต่อปีที่ 3 กับธนชาตไป
เมื่อไม่กี่วัน คุณเอาเบอร์ไปเครียร์กันเองมั้ย ผลยังไงก็ตามนั้น เค้าก็เงียบแล้วก็ยอมรับเครมไป เล่นเอาเหนื่อย
3. ต้องมีร่างกายที่แข็งแรง
เพราะ : เมื่อทำการเปลี่ยนอะไหล่เรียบร้อยแล้ว ก็เอาอะไหล่เก่าและรถที่ซ่อมแล้วพร้อมบิล vat.
ไปให้ธนชาตดู ที่เดิมครับ สำนักงานใหญ่เดอะไนน์พระรามเก้า ขึ้นไปรับบัตรคิว นั่งรออยู่หน้าโต๊ะ
รับเรื่องที่ว่างเปล่า 2 โต๊ะ อยู่ไม่ต่ำกว่า 40 นาที ในมือก็ถือบัตรคิว แล้วมี จนท.ผู้ชายเดินมาจากด้านหลังผม
ผ่านไป พร้อมยื่นมือมากวักเรียกโดยไม่ได้หันหน้ามาหาแต่อย่างใด ผมถึงกับงง แล้วหันไปหาแฟนพร้อมกับถามว่า
"นั่นเค้าเรียกเราเหรอ?" แฟนก็งงแล้วหันดูรอบๆ ก็คงเป็นเรานะเพราะเรามาก่อนใครคนอื่นที่รออยู่
แล้วผมก็ลุกขึ้นไป พอทำเรื่องเสร็จ จนท.ผู้ชายท่านนี้ เค้าก็บอกให้วนรถไปรอด้านล่างตึก ทำการเช็ครถ
ดูอะไหล่เดิมที่อยู่ท้ายรถผมเสร็จ จนท.ผู้ชายท่านนี้ก็เดินไปเปิดประตูโกดัง แล้วหันมาพูดกันผมพร้อมชี้นิ้ว
"เอาไปเก็บบนชั้นวางตรงนั้น" ผมนี้อึ้งไป 3 วิ แล้วถามเค้าไปว่า "นี่คุณใช้ลูกค้ายกเลยเหรอ คุณคิดดีแล้วนะ"
เค้าก็ยิ้มๆ ผมนี่ตัวเล็กกว่าคุณอีก โอเคได้!.. ผมก็อุ้มล้อแม็กซ์ที่อยู่ในลังไปวางบนชั้นในโกดังให้เค้าตามที่เค้าสั่ง
คือเค้าไม่คิดจะเดินมาช่วยยกหรือประคองอะไรเลย มันไม่ได้หนักมากจนเกินกำลัง แต่มันก็ชิ้นใหญ่
แล้วนี่ผมก็เป็นลูกค้าทำไมถึงไม่มี จนท.บริการ กลับให้ลูกค้าทำซะเอง บอกตรงๆเคืองมากครับ นี่คืออะไร
บริการแบบนี้เหรอที่เราได้รับ พร้อมกับบอกกับพนักงานคนนั้นไปว่า "พอกันที ธนชาต"
ผมผ่อนรถกับธนชาต บช.ธนาคาร บัตรเครดิต นี่ก็ทำประกันรถยนต์อีก หลายอย่างเลยที่ผมทำกับธนชาต
ส่วนเรื่องเครมมาไวดีไม่มีปัญหาทุกฝ่ายโอเคหมด นี่ผมต่อประกันมาปีที่ 3 แล้ว แต่มาเจอ จนท.
ที่สาขาเดอะไนน์นี่จบเลย ผมโทรยกเลิกประกันทันทีที่ออกมาจากที่นั่น
ฝ่ายน้องคนที่ขายประกันผมก็รับเรื่องไว้และถามสาเหตุ ผมจึงเล่าให้ฟัง เค้าเลยให้เบอร์ที่ผมจะร้องเรียนมา
ผมก็โทรไป จนท. บอกว่า "เดี๋ยวจะให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องโทรมาขอโทษลูกค้านะคะ เคสนี้เราต้องขอโทษจริงๆค่ะ"
เรื่องนี้ก็ตั้งแต่ปลายเดือน มีนาคม 60 นี่ปลาย เมษายน 60 เดือนนึงเต็มๆ ไม่มีแม้แต่สายเดียว
มันก็คงเป็นแค่เคสนึงที่เกิดขึ้นแล้วธนชาตปล่อยผ่าน
ถ้าธนชาตได้อ่านหรือ จนท.ที่รับเรื่องผมได้อ่านผมคิดว่าเค้าน่าจะยังคงจำผมได้ กระทู้นี้ไม่ได้ต้องการ
ที่จะให้ธนชาตโทรมาขอโทษผมนะครับ เพียงแค่อยากเล่าเหตุการจริงที่ลูกค้าคนนึงของธนชาตเจอมา
และอยากให้ธนชาตปรับปรุงการบริการให้ดีขึ้น เพราะที่ผมเจอนี่มันแย่มากๆ แต่ผมเชื่อว่าผู้บริหารเอง
อยากทำทุกอย่างให้ออกมาดีแหละครับ แต่ว่าจะมาเสียเพราะพนักงานไม่กี่คนอันนี้ก็น่าเห็นใจครับ
คุณสมบัติที่พึงมี ถ้าจะทำประกันภัยกับ ธนชาต
1. หากโทรหาคอลเซ็นเตอร์ให้ถามชื่อคอลเซ็นเตอร์ผู้รับสายแล้วจดชื่อไว้ด้วย
เพราะ : คอลเซ็นเตอร์แต่ละท่านที่ให้ข้อมูลเราแตกต่างกันสิ้นเชิง ยกตัวอย่างที่ผมเจอมา ผมสอบถาม
ขั้นตอนการเครมหากลูกค้าไปซ่อมเอง (รถผมตกหลุมแม็กแตกยางระเบิดเรียกประกัน ได้ใบเครมเรียบร้อย)
โทรหาคอลเซ็นเตอร์คนที่ 1 แนะนำให้เราไปขอใบสเนอราคาจากร้านมาแล้วแฟกซ์หรือเมลมาเพื่อคุมราคาซ่อมก่อน
ผมไปติดต่อร้านและได้ใบเสนอราคามาจากร้านเรียบร้อย โทรหาธนชาตอีกครั้งเพื่อจะขอ เบอร์ fax หรือ Email
แล้วโทรหาคอลเซ็นเตอร์คนที่ 2 แต่กลับบอกผมว่าต้องให้ผมมายื่นคุมราคาด้วยตัวเอง.....เอิ่ม!! ยังไงกัน
OK.. ลางานสักครึ่งวันไปละกัน
2. เงื่อนไขความคุ้มครองซับซ้อนเหนือความคาดหมาย
เพราะ : พอไปถึงสำนักงานใหญ่ตรงเดอะไนน์พระรามเก้า ยื่นใบเสนอราคาให้ จนท.
เค้าดูๆแล้วกดๆเครื่องคิดเลขอยู่แปปนึง แล้วบอกว่า "ราคาเกินทุนที่คุ้มครอง"
ขอเกริ่นนิดนึงครับ เนื่องจากรถผมมีชุดตกแต่งเพิ่มคือ ล้อแม็กซ์ สเกิร์ตรอบคัน สปอยเลอร์
ซึ่งได้คุยเงื่อนก่อนทำประกันกับธนชาตแล้ว เงื่อนไขคือคุ้มครองอุปกรณ์ ตกแต่งเพิ่มไม่เกิน 20,000 บาท
แต่ จนท.ท่านนี้นำเงินที่คุ้มครองชุดแต่ง 20,000 มาหารจำนวนล้อแม็กซ์ 4 วง = 5000 บาท
และผมเครมยางที่ระเบิดไปด้วย ซึ่งเครมได้ 50% คิดเป็นเงินประมาณ 3000 บาท
จนท. เค้าคิดแบบนี้ครับ (ทุน20000 / แม็กซ์4) - ยาง3000 = 2,000 บาท ซึ่งไม่พอราคาแม็กซ์ที่ผมเครม
ผมเลยงงว่า คำว่า "คุ้มครองความเสียหายของอุปกณณ์ตกแต่ง 20,000 บาท" คือคุณเล่นเอาจำนวนชิ้น
มาหารแล้วตีมูลค่าการซ่อมของแต่ละชิ้นแบบนี้เหรอ? แล้วถ้าคิดชุดแต่งรอบคันผมเข้าไปอีก
แบบนี้จะเหลือชิ้นละเท่าไหร่กันครับ มันใช่เหรอ? จนท.ก็นิ่งไปแปปนึง แล้วก็ถามว่าคนขายประกันผมชื่อไร
อยากให้เค้ารับรองว่ามันคุ้มครองแบบไหนกันแน่ ผมนี่...เง้อ...
ผมเลยบอกไปว่าผมจำชื่อไม่ได้ แต่ผมเมมเบอร์ไว้ว่า "ประกันธนชาต" ซึ่งนี่ผมก็เพิ่งต่อปีที่ 3 กับธนชาตไป
เมื่อไม่กี่วัน คุณเอาเบอร์ไปเครียร์กันเองมั้ย ผลยังไงก็ตามนั้น เค้าก็เงียบแล้วก็ยอมรับเครมไป เล่นเอาเหนื่อย
3. ต้องมีร่างกายที่แข็งแรง
เพราะ : เมื่อทำการเปลี่ยนอะไหล่เรียบร้อยแล้ว ก็เอาอะไหล่เก่าและรถที่ซ่อมแล้วพร้อมบิล vat.
ไปให้ธนชาตดู ที่เดิมครับ สำนักงานใหญ่เดอะไนน์พระรามเก้า ขึ้นไปรับบัตรคิว นั่งรออยู่หน้าโต๊ะ
รับเรื่องที่ว่างเปล่า 2 โต๊ะ อยู่ไม่ต่ำกว่า 40 นาที ในมือก็ถือบัตรคิว แล้วมี จนท.ผู้ชายเดินมาจากด้านหลังผม
ผ่านไป พร้อมยื่นมือมากวักเรียกโดยไม่ได้หันหน้ามาหาแต่อย่างใด ผมถึงกับงง แล้วหันไปหาแฟนพร้อมกับถามว่า
"นั่นเค้าเรียกเราเหรอ?" แฟนก็งงแล้วหันดูรอบๆ ก็คงเป็นเรานะเพราะเรามาก่อนใครคนอื่นที่รออยู่
แล้วผมก็ลุกขึ้นไป พอทำเรื่องเสร็จ จนท.ผู้ชายท่านนี้ เค้าก็บอกให้วนรถไปรอด้านล่างตึก ทำการเช็ครถ
ดูอะไหล่เดิมที่อยู่ท้ายรถผมเสร็จ จนท.ผู้ชายท่านนี้ก็เดินไปเปิดประตูโกดัง แล้วหันมาพูดกันผมพร้อมชี้นิ้ว
"เอาไปเก็บบนชั้นวางตรงนั้น" ผมนี้อึ้งไป 3 วิ แล้วถามเค้าไปว่า "นี่คุณใช้ลูกค้ายกเลยเหรอ คุณคิดดีแล้วนะ"
เค้าก็ยิ้มๆ ผมนี่ตัวเล็กกว่าคุณอีก โอเคได้!.. ผมก็อุ้มล้อแม็กซ์ที่อยู่ในลังไปวางบนชั้นในโกดังให้เค้าตามที่เค้าสั่ง
คือเค้าไม่คิดจะเดินมาช่วยยกหรือประคองอะไรเลย มันไม่ได้หนักมากจนเกินกำลัง แต่มันก็ชิ้นใหญ่
แล้วนี่ผมก็เป็นลูกค้าทำไมถึงไม่มี จนท.บริการ กลับให้ลูกค้าทำซะเอง บอกตรงๆเคืองมากครับ นี่คืออะไร
บริการแบบนี้เหรอที่เราได้รับ พร้อมกับบอกกับพนักงานคนนั้นไปว่า "พอกันที ธนชาต"
ผมผ่อนรถกับธนชาต บช.ธนาคาร บัตรเครดิต นี่ก็ทำประกันรถยนต์อีก หลายอย่างเลยที่ผมทำกับธนชาต
ส่วนเรื่องเครมมาไวดีไม่มีปัญหาทุกฝ่ายโอเคหมด นี่ผมต่อประกันมาปีที่ 3 แล้ว แต่มาเจอ จนท.
ที่สาขาเดอะไนน์นี่จบเลย ผมโทรยกเลิกประกันทันทีที่ออกมาจากที่นั่น
ฝ่ายน้องคนที่ขายประกันผมก็รับเรื่องไว้และถามสาเหตุ ผมจึงเล่าให้ฟัง เค้าเลยให้เบอร์ที่ผมจะร้องเรียนมา
ผมก็โทรไป จนท. บอกว่า "เดี๋ยวจะให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องโทรมาขอโทษลูกค้านะคะ เคสนี้เราต้องขอโทษจริงๆค่ะ"
เรื่องนี้ก็ตั้งแต่ปลายเดือน มีนาคม 60 นี่ปลาย เมษายน 60 เดือนนึงเต็มๆ ไม่มีแม้แต่สายเดียว
มันก็คงเป็นแค่เคสนึงที่เกิดขึ้นแล้วธนชาตปล่อยผ่าน
ถ้าธนชาตได้อ่านหรือ จนท.ที่รับเรื่องผมได้อ่านผมคิดว่าเค้าน่าจะยังคงจำผมได้ กระทู้นี้ไม่ได้ต้องการ
ที่จะให้ธนชาตโทรมาขอโทษผมนะครับ เพียงแค่อยากเล่าเหตุการจริงที่ลูกค้าคนนึงของธนชาตเจอมา
และอยากให้ธนชาตปรับปรุงการบริการให้ดีขึ้น เพราะที่ผมเจอนี่มันแย่มากๆ แต่ผมเชื่อว่าผู้บริหารเอง
อยากทำทุกอย่างให้ออกมาดีแหละครับ แต่ว่าจะมาเสียเพราะพนักงานไม่กี่คนอันนี้ก็น่าเห็นใจครับ