สวัสผู้อ่านเราทำงานอยู่สถานที่หนึ่งขอไม่บอกสถานที่นะเผื่อคนที่ทำที่เดียวกันจะเข้ามาอ่านแล้วรู้ 555555
คือว่าเป็นแค่พนักงานธรรมดาตำแหน่งล่างสุดก็ว่าได้แอบชอบมาได้ครึ่งเดือนแล้ว ตอนนั้นมันเป็นช่วงเป็นช่วงเปลี่ยนหัวหน้าใหม่ก็มีหัวหน้าคนใหม่เข้ามาศึกษาดูงานก่อนเริ่มงานมันก็เลยทำให้เราได้เห็นเขา แต่เราก็เป็นคนที่คลั่งไคล้คนญี่ปุ่นอยู่แล้วอะ แล้วพอมาเห็นใกล้ๆได้ร่วมงานได้ใกล้ชิดมันก็รู้สึกอยากรู้จักมากขึ้นแล้วก็คิดถึงเขาทุกวันถ้าเห็นเขาก็จะแอบถ่ายรูปเขา แต่ในที่ทำงานนั้นไม่มีคนรู้นะเพราะเราไม่กล้าบอกใครเพราะเขาเป็นถึงระดับหัวหน้า แล้วคือตอนนั้นมันชอบไปแล้วแต่ก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าคนญี่ปุ่นเป็นคนชาตินิยมแล้วก็มีโรคส่วนตัวสูงด้วย การเดินเข้าไปในชีวิตเขาคงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็บอกตัวเองเสมอนะว่าแค่แอบชอบก็พอแล้ว เราก็เลยไปค้นหาเฟสบุคของเขา ตอนแรกจะตัดใจแล้วเพราะว่าชื่อเฟสบุคที่เหมือนกับเขามีเป็นสิบเฟส เข้าไปส่องไปดูรูปทุกเฟสทำไมไม่ใช่รูปเขาเลย สงสัยเขาคงไม่เล่นแต่เพื่อความแน่ใจเลยแอดไปทุกเฟสเลย แต่ก็ทำใจก็เลยปลง เฮ้อ...!! ชั่งเถอะสงสัยเราคงทำบุญมาแค่นี้ ผ่านไปสัก 5 นาทีแจ้งเตือนขึ้น คุณ......รับคุณเป็นเพื่อนแล้ว ก็เลยเข้าไปส่อง มันเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก คือความรู้สึกตอนนั้น "เห้ย...ทำไมเช็คอินที่เดียวกันกับที่ทำงานเรา" ความหวังก็มาทันทีแล้วก็เข้าไปดูรูป ที่รูปไม่เหมือนกันเพราะทรงผมขอเขามันเป็นทรงใหม่ แบบดีใจมากตั้งเป็นเพื่อนสนิทตั้งเห็นโพสแรกตลอด แล้วทุกครั้งที่เขาลงรูปเขาลงไอจีด้วย ก็เลยหาไอจีเขาเจอ แล้วก็กดติดตามไป ผ่านไปสักพัก แจ้งเตือนขึ้น .....ได้กดติดตามคุณแล้ว ความรู้สึกตอนนั้นคนที่แอบชอบน่าจะรู้แค่นิดๆหน่อยก็ดีใจแบบเหมือนคนบ้าคือดีใจมาก "เขาติดตามชั้น" แต่ก็ทำได้แค่ส่องไม่กล้าทักไป55555. แล้วก็ไปเอารูปจากในเฟสเขามาตั้งหน้าจอโทรศัพท์ เวลาเปิดโทรศัพท์ก็ยิ้มไม่หุบ แล้วเวลาผ่านไปไม่นานรอก แค่สองสามวัน เขาก็เดินมาแล้วก็ทักทุกคน "สวัสดีครับ" แล้วเขาก็ยิ้ม แล้วความ มโนก็เกิดขึ้น เขาทักชั้นเขายิ้มให้ชั้นเขาชอบชั้น โอ๊ยยย มันฟินมากก แต่เขาชอบไปคุยกับผู้หญิงคนนึง เขาคุยกันนานมากจนคิดว่าเขาชอบคนนั้นหรือป่าว เห็นคุยกันตลอดเลย แต่ทุกครั้งที่คุยก็ยิ้มหัวเราะมีความสุขมันทำให้เรารู้สึกว่ายังไงเรากับเขากเป็นไปไม่ได้ แล้วก็มีวันหนึ่งเขาเดินมาคุยกับเรา สถานการณ์ตอนนั้นควบคุมอารมณ์ตัวเองแทบไม่อยู่ ดีใจอะเขาคุยกะเราแต่คุยแปปๆเขาก็เดินไป แล้วก็เป็นแบบนี้ทุกวัน แล้วไม่รู้ว่าวันนั้นบังเอินหรืออะไรเดินออกประตูกำลังจะกลับบ้านแล้วก็หันหลังไปเจอเห้ย แล้วก็เลยเผลอปากทักไป อ้าวคุณ....เลิกงานแล้วหรอแล้วก็เดินไปคุยไปแบบเนียนๆ แล้วเขาก็ถามว่า"บ้านคุณอยู่ไหน" กเลยตอบว่า "อยู่......." ในใจคิดบ้านอยู่คนละทางแต่ด้วยความอยากคุยนานๆเลยเดินไปกับนางจนถึงสกายวอกด้วยการโกหกนางว่าไปขึ้นบีทีเอส..... เขาก็พูดว่า"ทางเดียวกัน"ในใจคิดขอโทษที่ฉันโกหกแต่ฉันอยากจะคุยกับคุณ เดินไปถึงสกายวอกแล้วก็แยกกันเขาก็ยกมือบายๆ แล้วเราก็เดินย้อนกลับทางเดิม มันมีความสุขมากเลยนะ555555. วันต่อมาก็เลยรอนางอีกเผื่อจะได้เดินกลับพร้อมนางแต่ฝันก็สลายเมื่อนางเดินมาพร้อมเพื่อน แล้วก็เร็วมากจนตามไม่ทัน แต่ก็ไม่เข้าใจตัวเองนะว่าทำไมต้องเดินตามจนถึงสถานี พอนางเข้าไปเราก้เดินกลับบ้านคนเดียว555 แค่มองอยู่ข้างหลังก็มีความสุขแล้ว ก็เลยรวบรวมความกล้าทั้งหมดแล้วก็ทักนางไป คิดว่านางจะไม่ตอบ แต่นางก็ตอบแล้วก็คุยดีมาก มันเหมือนฝันแต่มันก็เป็นความจริง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะหยุดความรู้สึกตัวเองได้หรือแต่ก็พยายามหยุดอยู่นะ
**ถ้ามีคนเข้ามาอ่านมาคอมเม้นท์ก็จะมาเล่าต่อนะ 555555555
**ขอบคุณพื้นที่ตรงนี้ที่ทำให้ฉันได้ระบายความรู้สึก มันโล่งมากจริงๆ
-ถ้าไม่ถูกใจใครก็ต้องขอโทษด้วยนะคะขอบคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ 😂😣
แอบชอบคนญี่ปุ่นทำยังไงดี?
คือว่าเป็นแค่พนักงานธรรมดาตำแหน่งล่างสุดก็ว่าได้แอบชอบมาได้ครึ่งเดือนแล้ว ตอนนั้นมันเป็นช่วงเป็นช่วงเปลี่ยนหัวหน้าใหม่ก็มีหัวหน้าคนใหม่เข้ามาศึกษาดูงานก่อนเริ่มงานมันก็เลยทำให้เราได้เห็นเขา แต่เราก็เป็นคนที่คลั่งไคล้คนญี่ปุ่นอยู่แล้วอะ แล้วพอมาเห็นใกล้ๆได้ร่วมงานได้ใกล้ชิดมันก็รู้สึกอยากรู้จักมากขึ้นแล้วก็คิดถึงเขาทุกวันถ้าเห็นเขาก็จะแอบถ่ายรูปเขา แต่ในที่ทำงานนั้นไม่มีคนรู้นะเพราะเราไม่กล้าบอกใครเพราะเขาเป็นถึงระดับหัวหน้า แล้วคือตอนนั้นมันชอบไปแล้วแต่ก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าคนญี่ปุ่นเป็นคนชาตินิยมแล้วก็มีโรคส่วนตัวสูงด้วย การเดินเข้าไปในชีวิตเขาคงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็บอกตัวเองเสมอนะว่าแค่แอบชอบก็พอแล้ว เราก็เลยไปค้นหาเฟสบุคของเขา ตอนแรกจะตัดใจแล้วเพราะว่าชื่อเฟสบุคที่เหมือนกับเขามีเป็นสิบเฟส เข้าไปส่องไปดูรูปทุกเฟสทำไมไม่ใช่รูปเขาเลย สงสัยเขาคงไม่เล่นแต่เพื่อความแน่ใจเลยแอดไปทุกเฟสเลย แต่ก็ทำใจก็เลยปลง เฮ้อ...!! ชั่งเถอะสงสัยเราคงทำบุญมาแค่นี้ ผ่านไปสัก 5 นาทีแจ้งเตือนขึ้น คุณ......รับคุณเป็นเพื่อนแล้ว ก็เลยเข้าไปส่อง มันเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก คือความรู้สึกตอนนั้น "เห้ย...ทำไมเช็คอินที่เดียวกันกับที่ทำงานเรา" ความหวังก็มาทันทีแล้วก็เข้าไปดูรูป ที่รูปไม่เหมือนกันเพราะทรงผมขอเขามันเป็นทรงใหม่ แบบดีใจมากตั้งเป็นเพื่อนสนิทตั้งเห็นโพสแรกตลอด แล้วทุกครั้งที่เขาลงรูปเขาลงไอจีด้วย ก็เลยหาไอจีเขาเจอ แล้วก็กดติดตามไป ผ่านไปสักพัก แจ้งเตือนขึ้น .....ได้กดติดตามคุณแล้ว ความรู้สึกตอนนั้นคนที่แอบชอบน่าจะรู้แค่นิดๆหน่อยก็ดีใจแบบเหมือนคนบ้าคือดีใจมาก "เขาติดตามชั้น" แต่ก็ทำได้แค่ส่องไม่กล้าทักไป55555. แล้วก็ไปเอารูปจากในเฟสเขามาตั้งหน้าจอโทรศัพท์ เวลาเปิดโทรศัพท์ก็ยิ้มไม่หุบ แล้วเวลาผ่านไปไม่นานรอก แค่สองสามวัน เขาก็เดินมาแล้วก็ทักทุกคน "สวัสดีครับ" แล้วเขาก็ยิ้ม แล้วความ มโนก็เกิดขึ้น เขาทักชั้นเขายิ้มให้ชั้นเขาชอบชั้น โอ๊ยยย มันฟินมากก แต่เขาชอบไปคุยกับผู้หญิงคนนึง เขาคุยกันนานมากจนคิดว่าเขาชอบคนนั้นหรือป่าว เห็นคุยกันตลอดเลย แต่ทุกครั้งที่คุยก็ยิ้มหัวเราะมีความสุขมันทำให้เรารู้สึกว่ายังไงเรากับเขากเป็นไปไม่ได้ แล้วก็มีวันหนึ่งเขาเดินมาคุยกับเรา สถานการณ์ตอนนั้นควบคุมอารมณ์ตัวเองแทบไม่อยู่ ดีใจอะเขาคุยกะเราแต่คุยแปปๆเขาก็เดินไป แล้วก็เป็นแบบนี้ทุกวัน แล้วไม่รู้ว่าวันนั้นบังเอินหรืออะไรเดินออกประตูกำลังจะกลับบ้านแล้วก็หันหลังไปเจอเห้ย แล้วก็เลยเผลอปากทักไป อ้าวคุณ....เลิกงานแล้วหรอแล้วก็เดินไปคุยไปแบบเนียนๆ แล้วเขาก็ถามว่า"บ้านคุณอยู่ไหน" กเลยตอบว่า "อยู่......." ในใจคิดบ้านอยู่คนละทางแต่ด้วยความอยากคุยนานๆเลยเดินไปกับนางจนถึงสกายวอกด้วยการโกหกนางว่าไปขึ้นบีทีเอส..... เขาก็พูดว่า"ทางเดียวกัน"ในใจคิดขอโทษที่ฉันโกหกแต่ฉันอยากจะคุยกับคุณ เดินไปถึงสกายวอกแล้วก็แยกกันเขาก็ยกมือบายๆ แล้วเราก็เดินย้อนกลับทางเดิม มันมีความสุขมากเลยนะ555555. วันต่อมาก็เลยรอนางอีกเผื่อจะได้เดินกลับพร้อมนางแต่ฝันก็สลายเมื่อนางเดินมาพร้อมเพื่อน แล้วก็เร็วมากจนตามไม่ทัน แต่ก็ไม่เข้าใจตัวเองนะว่าทำไมต้องเดินตามจนถึงสถานี พอนางเข้าไปเราก้เดินกลับบ้านคนเดียว555 แค่มองอยู่ข้างหลังก็มีความสุขแล้ว ก็เลยรวบรวมความกล้าทั้งหมดแล้วก็ทักนางไป คิดว่านางจะไม่ตอบ แต่นางก็ตอบแล้วก็คุยดีมาก มันเหมือนฝันแต่มันก็เป็นความจริง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะหยุดความรู้สึกตัวเองได้หรือแต่ก็พยายามหยุดอยู่นะ
**ถ้ามีคนเข้ามาอ่านมาคอมเม้นท์ก็จะมาเล่าต่อนะ 555555555
**ขอบคุณพื้นที่ตรงนี้ที่ทำให้ฉันได้ระบายความรู้สึก มันโล่งมากจริงๆ
-ถ้าไม่ถูกใจใครก็ต้องขอโทษด้วยนะคะขอบคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ 😂😣