ขออนุญาตเล่าปัญหาความรักของผมครับ อยากได้เพื่อนคุยเพื่อนคิด
เพราะผมไม่เคยเสียใจขนาดนี้มาก่อนเลย
ผมอายุ 30 ปี เป็นพนักงานบริษัทเอกชน เป็นคนธรรมดาๆคนนึง อยู่กรุงเทพฯ
ส่วนแฟนผมเป็นคุณหมอ เป็นคนกรุงเทพฯเหมือนกัน แต่กำลังเรียนต่อเฉพาะทางอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนึงในต่างจังหวัด อายุอ่อนกว่าผม 5 ปี
จุดเริ่มต้นมีอยู่ว่า สามปีก่อนหน้านี้ เรามีโอกาสได้เจอกันครั้งแรก ทำความรู้จักกัน คุยกันทุกวัน มีความสุขดี ทุกอย่างเหมือนจะไปได้สวย แต่ผ่านไปไม่นาน เค้าก็หายไป ติดต่อไม่ได้อีกเลย ซึ่งครั้งนั้นทำให้ผมเสียใจมาก แม้ว่าหลังจากนั้นเค้าจะส่งข้อความมาขอโทษ พูดคุยกันสั้นๆ แต่ก็ไม่ได้คุยกันอีก (ทราบภายหลังว่าเค้าคบคนอื่นอยู่แล้ว)
จนกระทั่งเมื่อกลางปีที่แล้ว เราบังเอิญเจอกันอีกครั้ง เริ่มคุยกัน ทำความรู้จักกันใหม่อย่างรวดเร็ว ก็รู้สึกมีความสุขดี แต่ในใจลึกๆ ผมเองก็ไม่มั่นใจในตัวเค้าเท่าไหร่นัก เพราะเค้าเคยทิ้งผมไปแล้วครั้งนึง ผมเองยอมรับว่ายังไม่ได้ทุ่มเทให้เค้าเท่าที่ควร เพราะกลัวจะผิดหวังซ้ำอีก เราคุยกันมาซักพัก มีช่วงที่งานเค้าเริ่มหนักขึ้น จนวันนึงเค้าขับรถชน รู้สึกเฟลมาก แล้วเหมือนวันนั้นผมทำธุระยุ่งๆทั้งวันก็ไม่ได้คุยด้วย พอมาทราบตอนเย็นก็ปลอบไปแค่ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว เค้าเลยบอกว่าเค้าไม่มีความสุขอีกแล้ว ซึ่งผมก็ทำใจไว้แต่แรก แล้วก็คิดว่าคงต้องจบแบบนี้ ก็เลยไม่รั้งไว้เลย แต่วันต่อมา เค้าก็มาเริ่มง้อผม ไลน์มา ผมเห็นทุกครั้ง แต่นานๆจะเข้าไปอ่านที โทรมาผมก็ไม่รับสายเลย แต่ก็มีตอบข้อความไปบอกว่าให้พอ ให้กลับไปดูแลตัวเอง เพราะผมก็เสียใจกับการถูกทิ้งเป็นครั้งที่สอง
เวลาผ่านไปสองอาทิตย์ เค้ายังไลน์และโทรมาทุกวัน จนมาถึงเย็นวันนึง ผมกำลังจะเลิกงาน เค้าไลน์มาเรียกชื่อผม สองสามครั้ง ผมเห็น แต่ไม่เข้าไปอ่าน เพราะคิดว่าก็คงเหมือนกับทุกๆวัน จนลงมาใต้อาคารสำนักงานซึ่งเป็นตึกใหญ่ มีอยู่หลายบริษัท ภาพแรกที่ผมเห็นหลังจากเดินออกมาจากลิฟท์คือ เค้ายืนรอผมอยู่ตรงนั้น...สภาพอิดโรย ยิ้มแห้งๆ ในมือถือกระเป๋าเดินทาง เหมือนเพิ่งเดินทางมาจากสนามบิน ใส่ชุดคุณหมอ รีบบินมารอผมเพื่อขอโทษ ทั้งๆที่ไม่เคยรู้เลยว่าผมทำงานตรงไหนในตึกนี้ เลิกงานกี่โมงหรือจะติดต่อผมได้จากที่ไหน ผมใจอ่อนในทันที เพราะไม่เคยคิดว่าในชีวิตนี้จะได้พบคนที่ทำเพื่อผมขนาดนั้น ผมคิดว่าการที่เราบังเอิญเดินมาเจอกันวันนั้น เป็นโชคชะตาจริงๆ เพราะถ้าผมไม่เจอเค้า ผมก็คงไม่ได้คุยับเค้าต่อ วันต่อมาเราไปดูหนัง ไปเดินเล่นกันทั้งวันจนดึก ถ่ายรูปด้วยกัน เค้า Print รูป ออกมาให้ผมเก็บไว้ติดตัว เรามีความสุขกันมาก เป็นวันดีๆวันนึงในชีวิต แล้ววันต่อมาเค้าก็บินกลับไปทำงานตามปกติ
ทุกอย่างไปได้ดีมากๆ เราคุยกันทุกวัน หัวเราะ ให้กำลังใจ ส่งของให้กันตลอดหลายเดือน ผมมีความสุขมาก และก็สัมผัสได้ว่าเค้าเองก็มีความสุข เค้าโพสท์รูปบนไทม์ไลน์ของเราสองคน บอกว่ารักผมทุกวัน ผมเริ่มตัดสินใจบินไปหาเค้าครั้งแรก ไปใช้ชีวิตด้วยกัน กิน นอนด้วยกัน เค้าเป็นคนแรกที่ผมมองเห็นอนาคตด้วย ทุกอย่างดูดี ดีมากๆ มีความสุขมากจริงๆครับ
แต่เหตุการณ์แย่ๆเกิดขึ้น เพราะผมป่วยด้วยโรคมะเร็งชนิดนึง ไม่ได้ร้ายแรงมาก แต่ต้องกินยาทุกวัน รักษามาประมาณ 10 ปี วันนึงหมอที่รักษาอยู่บอกว่า ให้หยุดยา เพื่อจะตรวจร่างกายว่าตอนนี้ทุกอย่างยังปกติดีหรือไม่ (เพราะถ้ากินยาอยู่ ยาจะไปกดเซลลไม่ดีไว้) เมื่อเริ่มหยุดยา ผมก็จะไม่มีแรง และก็จะซึมเศร้า ฟุ้งซ่าน ซึ่งแฟนผมเดินทางมาหาในช่วงวันที่ผมหยุดยาพอดี ผมนั่งรถไปเป็นเพื่อนแฟนที่จะไปทำธุระแถบชานเมือง แต่ด้วยความที่แฟนมาสาย แล้วก็มาเร่งๆผมตอนผมกำลังซื้อน้ำให้เค้าอยู่ ประกอบกับตัวเองที่อารมณ์ที่แปรปรวน วันนั้นผมเลยอาการไม่ดีนัก ช่วงบ่ายจะไปหาข้าวกินก็มาโดนรถอื่นชนอีก สถานการณ์วันนั้นยิ่งเลวร้ายไปกันใหญ่ เค้าก็ถามผมว่าผมเป็นอะไร ทำไมดูไม่มีความสุข อุตส่าห์ได้เจอกันทั้งที .... ผมเอง กลับบ้านมาก็รู้สึกไม่ดีเลยที่เป็นแบบนั้น แต่คืนนั้นเค้าก้ไลน์มาขอโทษที่วันนี้ทำอะไรไม่ดีไป ผมก็ขอโทษเค้าเช่นกัน แต่ผมวันรุ่งขึ้น ผมควบคุมสติไม่ได้เลย พยายามไลน์ไป พิมพ์อะไรไปมากมาย เพื่อขอโทษ เค้าเองก็บอกให้ผมใจเย็นๆแล้วก็บอกว่าไม่เป็นอะไร ผมคิดมากไปเอง....
อาทิตย์ต่อมา ผมหยุดยามาในช่วงสุดท้าย ต้องหยุดงานอยู่กับบ้าน ยิ่งฟุ้งซ่าน เค้าก็ทำงานยุ่งๆ คุยกันดีบ้างไม่ดีบ้างสลับกันไป ก็น้อยใจที่เค้าน่าจะเข้าใจผมบ้าง ในฐานะหมอก็ได้ ไม่ใช่ฐานะแฟน แต่ก็ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก คืนนึง...ผมเห็นว่าเค้าออนไลน์ในเฟซบุ๊คเมื่อไม่กี่นาทีก่อนแต่ไม่คุยกับผมเลย ผมก็เลยโทรไปถามว่าเค้าเป็นอะไร ทำไมไม่คุย เค้าบอกว่าเค้ายุ่งอยู่แล้วอย่าหาเรื่องเค้าเลย ผมก็พูดตัดพ้อต่อไปอีก เค้าก็ถามว่าแล้วไหวมั้ย? ด้วยความโมโห ก็เลยบอกไปเลยว่า ไม่ไหวแล้ว เค้าก็บอกว่าไม่ไหวก็หยุด พอแล้ว อย่าเกลียดกันไปมากกว่านี้เลย แล้วเค้าก็ไม่คุยกับผมอีก ตอนนั้นยังไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่ แต่ผ่านมาถึงเช้าอีกวัน ผมรู้สึกว่า ผมไม่ควรปล่อยเค้าไปง่ายๆแบบนี้ ด้วยเรื่องราวดีๆที่มันเคยเกิดขึ้นมาก่อน ผมจีงตัดสินใจซื้อตั๋วไปหาเค้าในคืนนั้นเลย
ตอนที่ไปถึงโรงพยาบาล โดยที่ผมเองก็ไม่รู้หมือนกันว่าเค้าอยู่ตรงไหน เดินไปมาหลายตึก ถามพยาบาล ถามคุณหมอ จนเจอเค้า แล้วก็นั่งรอสองสามชั่วโมงจนกว่าเค้าจะว่าง(เค้าเข้าเวรคืนนั้น) เค้าเรียกผมไปที่ห้อง พาผมไปนอนพัก เรากอดกันร้องไห้ เค้าบอกว่าเป็นแบบนี้ต่อไปผมเองที่จะไม่มีความสุข อีกหน่อยงานจะหนักกว่านี้ ผมถามว่าอยากอยู่ด้วยกันไปตลอดไม่ใช่หรอ พยายามกันใหม่นะ และเราก็คืนดีกันได้ในที่สุด วันวาเลนไทน์เราส่งของให้กันและกัน ผ่านมาจนวันเกิดเค้าผมก็บินไปหาอีกครั้ง เอาของขวัญไปให้ ไปกินข้าวดูหนังด้วยกัน ระหว่างที่เราคุยกันก็มีงอนกันบ้างเล็กๆน้อยๆ ส่วนใหญ่จะเป็นผม ซึ่งผมก็ยอมรับผิดจริงๆที่คิดมากเกินไป ด้วยความที่ผมรักเค้ามากจริงๆ
จนเดินทางมาถึงสุดท้าย เค้าเปลี่ยนวอร์ดใหม่ งานหนัก ได้นอนน้อย ไม่ได้พัก มีสอบเยอะแยะ เราคุยกันน้อยมาก บางวันก็ไม่ได้คุย (ผมเองเห็นเค้าหายไปก็รู้สึกเสียใจด้วย แล้วก็กลัวว่าจะไปรบกวนงานเค้าด้วย) ผมก็พูดดีๆกับเค้า ให้เค้าทักทายมาบ้าง คำสองคำก็ดี ผมเป็นห่วง เค้าก็บอกว่าเค้าขอโทษ ผมก็บอกไม่เป็นไร แค่คิดถึง ผ่านไปสามสี่วัน ผมก็พูดอีกว่า เสียใจจังเลย เข้าใจแต่ก็เสียใจ เค้าบอกว่าเป็นแบบนี้ผมจะไม่มีความสุขนะ จนคืนนั้นผมคุยกับเค้า ถามเค้าตรงๆ พูดดีๆกับเค้าว่า เค้ายังรู้สึกกับผมเหมือนเดิมมั้ย เค้าเงียบไป และพูดว่า...คงไม่เท่าที่ผมรู้สึก ผมเสียใจมาก ถามเค้าว่าแล้วเอายังไง เค้าก็เงียบไปอีก ผมถามว่าเค้ามีคนอื่นหรอ เค้าบอกว่าเห็นเค้าเป็นคนยังไง เค้าเงียบไปอีกสักพัก บอกให้ผมดูแลตัวเองดีๆ แล้วก็วางสายไป
ผมเศร้า เสียใจ เพราะตั้งใจจะคุยกันดีๆเพื่อรักษาความสัมพันธ์ เค้าไม่อ่านไลน์ผมเลยจากนั้นมา ผมพยายามง้อเค้าผ่านทางไทม์ไลน์รูปของเราที่เค้าเป็นคนโพสต์ แต่เค้ายืนยันว่า เค้าตัดสินใจแล้ว เค้าอยากอยู่คนเดียว มีเรื่องที่เค้าต้องโฟกัส(ก็คือเรื่องเรียน) และก็ไม่อยากให้ใครมาเหนื่อยเพราะเค้าอีก ไม่ได้โกรธไม่ได้เกลียดผมเลย ขอโทษและก็ให้ผมดูแลตัวเองดีๆ
จากนั้น ผมเองพยายามติดต่อเค้าทุกทาง บอกทุกๆอย่างที่จะบอกได้ ขอโอกาสที่เค้าเคยขอกับผม บอกว่าจะให้ก้มลงไปกราบก็ได้ จะวันเกืดผมแล้ว ขอโอกาสได้มั้ย ครั้งสุดท้ายแล้ว ถ้ามันไม่ดีขึ้นผมจะยินดีปล่อยเค้าไป เค้าตอบกลับมาว่า เค้าตัดสินใจไปแล้ว พอได้แล้ว ผมไปหาก็ทำให้เค้ารู้สึกแย่มากกว่าเดิม อย่าให้รู้สึกเกลียดกันเลย ไม่งั้นเค้าต้องบล๊อกผมแล้วนะ (เหมือนเป็นกรรมที่ผมทำกับเค้าไว้เลยนะครับ) ผมเลยบอกให้เค้าบล๊อกผมไป เพราะผมทำใจไม่ได้ ยังไงก็ต้องไปรบกวนเค้าอีก ให้เค้าเก็บของที่ผมให้ไว้ ให้ความรู้สึกผมยังอยู่รอบๆตัวเค้า ผมเหมือนจะหมดหนทางแล้ว เลยบอกให้เค้าโชคดี คิดถึงผมบ้าง แล้วเราก็ไม่ได้คุยกันอีกจนถึงตอนนี้
ตอนนี้ ผมแทบไม่ได้กินไม่ได้นอน จนต้องไปโรงพยาบาล ไปเอายานอนหลับ พอได้นอนก็เริ่มจะกลับมาตั้งสติ ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนนี้ผมยังเข้าไปดูไลน์เค้าทุกวัน เค้าก็ยังไม่อ่าน แต่ก็ยังไม่บล๊อก ยังไม่ลบเรื่องราวดีๆที่มีต่อกัน ผมเริ่มหักห้ามใจไม่ให้พิมพ์อะไรไปหาเค้าได้แล้ว แต่ก็ยังคิดถึงเค้าอยู่ตลอด
ผมเริ่มเข้าใจได้ว่า ผมเองที่เป็นคนผิด ที่คาดหวังและเรียกร้องกับเค้ามากเกินไป และผมก็ละอายใจเหลือเกิน
เล่ามายืดยาว อ่านรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างต้องขอโทษด้วยนะครับ
ผมควรทำยังไงดีครับ?
ผมอยากไปหาเค้ามาก แม้จะเตรียมใจไว้แล้วว่าอาจจะไม่ได้กลับไปเป็นเหมือนเดิม
แต่ผมอยากเห็นหน้าเค้าอีกครั้ง ถ้าไปต่อด้วยกันไม่ไหวแล้ว ให้ผมได้ลาต่อหน้าได้มั้ย
ลึกๆก็อยากได้โอกาสแก้ตัวใหม่ แต่ถ้าไม่ได้จริงๆผมก็จะยอมรับโดยดี
เพื่อนๆว่าผมควรตัดใจมั้ยคับ?
หรือผมควรลองอีกครั้ง? ให้เต็มที่เท่าที่คนๆนึงจะทำให้อีกคนได้
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านคับ
ผมควรทำยังไงดีครับ? รักระยะไกล กับหัวใจพังๆ
เพราะผมไม่เคยเสียใจขนาดนี้มาก่อนเลย
ผมอายุ 30 ปี เป็นพนักงานบริษัทเอกชน เป็นคนธรรมดาๆคนนึง อยู่กรุงเทพฯ
ส่วนแฟนผมเป็นคุณหมอ เป็นคนกรุงเทพฯเหมือนกัน แต่กำลังเรียนต่อเฉพาะทางอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนึงในต่างจังหวัด อายุอ่อนกว่าผม 5 ปี
จุดเริ่มต้นมีอยู่ว่า สามปีก่อนหน้านี้ เรามีโอกาสได้เจอกันครั้งแรก ทำความรู้จักกัน คุยกันทุกวัน มีความสุขดี ทุกอย่างเหมือนจะไปได้สวย แต่ผ่านไปไม่นาน เค้าก็หายไป ติดต่อไม่ได้อีกเลย ซึ่งครั้งนั้นทำให้ผมเสียใจมาก แม้ว่าหลังจากนั้นเค้าจะส่งข้อความมาขอโทษ พูดคุยกันสั้นๆ แต่ก็ไม่ได้คุยกันอีก (ทราบภายหลังว่าเค้าคบคนอื่นอยู่แล้ว)
จนกระทั่งเมื่อกลางปีที่แล้ว เราบังเอิญเจอกันอีกครั้ง เริ่มคุยกัน ทำความรู้จักกันใหม่อย่างรวดเร็ว ก็รู้สึกมีความสุขดี แต่ในใจลึกๆ ผมเองก็ไม่มั่นใจในตัวเค้าเท่าไหร่นัก เพราะเค้าเคยทิ้งผมไปแล้วครั้งนึง ผมเองยอมรับว่ายังไม่ได้ทุ่มเทให้เค้าเท่าที่ควร เพราะกลัวจะผิดหวังซ้ำอีก เราคุยกันมาซักพัก มีช่วงที่งานเค้าเริ่มหนักขึ้น จนวันนึงเค้าขับรถชน รู้สึกเฟลมาก แล้วเหมือนวันนั้นผมทำธุระยุ่งๆทั้งวันก็ไม่ได้คุยด้วย พอมาทราบตอนเย็นก็ปลอบไปแค่ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว เค้าเลยบอกว่าเค้าไม่มีความสุขอีกแล้ว ซึ่งผมก็ทำใจไว้แต่แรก แล้วก็คิดว่าคงต้องจบแบบนี้ ก็เลยไม่รั้งไว้เลย แต่วันต่อมา เค้าก็มาเริ่มง้อผม ไลน์มา ผมเห็นทุกครั้ง แต่นานๆจะเข้าไปอ่านที โทรมาผมก็ไม่รับสายเลย แต่ก็มีตอบข้อความไปบอกว่าให้พอ ให้กลับไปดูแลตัวเอง เพราะผมก็เสียใจกับการถูกทิ้งเป็นครั้งที่สอง
เวลาผ่านไปสองอาทิตย์ เค้ายังไลน์และโทรมาทุกวัน จนมาถึงเย็นวันนึง ผมกำลังจะเลิกงาน เค้าไลน์มาเรียกชื่อผม สองสามครั้ง ผมเห็น แต่ไม่เข้าไปอ่าน เพราะคิดว่าก็คงเหมือนกับทุกๆวัน จนลงมาใต้อาคารสำนักงานซึ่งเป็นตึกใหญ่ มีอยู่หลายบริษัท ภาพแรกที่ผมเห็นหลังจากเดินออกมาจากลิฟท์คือ เค้ายืนรอผมอยู่ตรงนั้น...สภาพอิดโรย ยิ้มแห้งๆ ในมือถือกระเป๋าเดินทาง เหมือนเพิ่งเดินทางมาจากสนามบิน ใส่ชุดคุณหมอ รีบบินมารอผมเพื่อขอโทษ ทั้งๆที่ไม่เคยรู้เลยว่าผมทำงานตรงไหนในตึกนี้ เลิกงานกี่โมงหรือจะติดต่อผมได้จากที่ไหน ผมใจอ่อนในทันที เพราะไม่เคยคิดว่าในชีวิตนี้จะได้พบคนที่ทำเพื่อผมขนาดนั้น ผมคิดว่าการที่เราบังเอิญเดินมาเจอกันวันนั้น เป็นโชคชะตาจริงๆ เพราะถ้าผมไม่เจอเค้า ผมก็คงไม่ได้คุยับเค้าต่อ วันต่อมาเราไปดูหนัง ไปเดินเล่นกันทั้งวันจนดึก ถ่ายรูปด้วยกัน เค้า Print รูป ออกมาให้ผมเก็บไว้ติดตัว เรามีความสุขกันมาก เป็นวันดีๆวันนึงในชีวิต แล้ววันต่อมาเค้าก็บินกลับไปทำงานตามปกติ
ทุกอย่างไปได้ดีมากๆ เราคุยกันทุกวัน หัวเราะ ให้กำลังใจ ส่งของให้กันตลอดหลายเดือน ผมมีความสุขมาก และก็สัมผัสได้ว่าเค้าเองก็มีความสุข เค้าโพสท์รูปบนไทม์ไลน์ของเราสองคน บอกว่ารักผมทุกวัน ผมเริ่มตัดสินใจบินไปหาเค้าครั้งแรก ไปใช้ชีวิตด้วยกัน กิน นอนด้วยกัน เค้าเป็นคนแรกที่ผมมองเห็นอนาคตด้วย ทุกอย่างดูดี ดีมากๆ มีความสุขมากจริงๆครับ
แต่เหตุการณ์แย่ๆเกิดขึ้น เพราะผมป่วยด้วยโรคมะเร็งชนิดนึง ไม่ได้ร้ายแรงมาก แต่ต้องกินยาทุกวัน รักษามาประมาณ 10 ปี วันนึงหมอที่รักษาอยู่บอกว่า ให้หยุดยา เพื่อจะตรวจร่างกายว่าตอนนี้ทุกอย่างยังปกติดีหรือไม่ (เพราะถ้ากินยาอยู่ ยาจะไปกดเซลลไม่ดีไว้) เมื่อเริ่มหยุดยา ผมก็จะไม่มีแรง และก็จะซึมเศร้า ฟุ้งซ่าน ซึ่งแฟนผมเดินทางมาหาในช่วงวันที่ผมหยุดยาพอดี ผมนั่งรถไปเป็นเพื่อนแฟนที่จะไปทำธุระแถบชานเมือง แต่ด้วยความที่แฟนมาสาย แล้วก็มาเร่งๆผมตอนผมกำลังซื้อน้ำให้เค้าอยู่ ประกอบกับตัวเองที่อารมณ์ที่แปรปรวน วันนั้นผมเลยอาการไม่ดีนัก ช่วงบ่ายจะไปหาข้าวกินก็มาโดนรถอื่นชนอีก สถานการณ์วันนั้นยิ่งเลวร้ายไปกันใหญ่ เค้าก็ถามผมว่าผมเป็นอะไร ทำไมดูไม่มีความสุข อุตส่าห์ได้เจอกันทั้งที .... ผมเอง กลับบ้านมาก็รู้สึกไม่ดีเลยที่เป็นแบบนั้น แต่คืนนั้นเค้าก้ไลน์มาขอโทษที่วันนี้ทำอะไรไม่ดีไป ผมก็ขอโทษเค้าเช่นกัน แต่ผมวันรุ่งขึ้น ผมควบคุมสติไม่ได้เลย พยายามไลน์ไป พิมพ์อะไรไปมากมาย เพื่อขอโทษ เค้าเองก็บอกให้ผมใจเย็นๆแล้วก็บอกว่าไม่เป็นอะไร ผมคิดมากไปเอง....
อาทิตย์ต่อมา ผมหยุดยามาในช่วงสุดท้าย ต้องหยุดงานอยู่กับบ้าน ยิ่งฟุ้งซ่าน เค้าก็ทำงานยุ่งๆ คุยกันดีบ้างไม่ดีบ้างสลับกันไป ก็น้อยใจที่เค้าน่าจะเข้าใจผมบ้าง ในฐานะหมอก็ได้ ไม่ใช่ฐานะแฟน แต่ก็ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก คืนนึง...ผมเห็นว่าเค้าออนไลน์ในเฟซบุ๊คเมื่อไม่กี่นาทีก่อนแต่ไม่คุยกับผมเลย ผมก็เลยโทรไปถามว่าเค้าเป็นอะไร ทำไมไม่คุย เค้าบอกว่าเค้ายุ่งอยู่แล้วอย่าหาเรื่องเค้าเลย ผมก็พูดตัดพ้อต่อไปอีก เค้าก็ถามว่าแล้วไหวมั้ย? ด้วยความโมโห ก็เลยบอกไปเลยว่า ไม่ไหวแล้ว เค้าก็บอกว่าไม่ไหวก็หยุด พอแล้ว อย่าเกลียดกันไปมากกว่านี้เลย แล้วเค้าก็ไม่คุยกับผมอีก ตอนนั้นยังไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่ แต่ผ่านมาถึงเช้าอีกวัน ผมรู้สึกว่า ผมไม่ควรปล่อยเค้าไปง่ายๆแบบนี้ ด้วยเรื่องราวดีๆที่มันเคยเกิดขึ้นมาก่อน ผมจีงตัดสินใจซื้อตั๋วไปหาเค้าในคืนนั้นเลย
ตอนที่ไปถึงโรงพยาบาล โดยที่ผมเองก็ไม่รู้หมือนกันว่าเค้าอยู่ตรงไหน เดินไปมาหลายตึก ถามพยาบาล ถามคุณหมอ จนเจอเค้า แล้วก็นั่งรอสองสามชั่วโมงจนกว่าเค้าจะว่าง(เค้าเข้าเวรคืนนั้น) เค้าเรียกผมไปที่ห้อง พาผมไปนอนพัก เรากอดกันร้องไห้ เค้าบอกว่าเป็นแบบนี้ต่อไปผมเองที่จะไม่มีความสุข อีกหน่อยงานจะหนักกว่านี้ ผมถามว่าอยากอยู่ด้วยกันไปตลอดไม่ใช่หรอ พยายามกันใหม่นะ และเราก็คืนดีกันได้ในที่สุด วันวาเลนไทน์เราส่งของให้กันและกัน ผ่านมาจนวันเกิดเค้าผมก็บินไปหาอีกครั้ง เอาของขวัญไปให้ ไปกินข้าวดูหนังด้วยกัน ระหว่างที่เราคุยกันก็มีงอนกันบ้างเล็กๆน้อยๆ ส่วนใหญ่จะเป็นผม ซึ่งผมก็ยอมรับผิดจริงๆที่คิดมากเกินไป ด้วยความที่ผมรักเค้ามากจริงๆ
จนเดินทางมาถึงสุดท้าย เค้าเปลี่ยนวอร์ดใหม่ งานหนัก ได้นอนน้อย ไม่ได้พัก มีสอบเยอะแยะ เราคุยกันน้อยมาก บางวันก็ไม่ได้คุย (ผมเองเห็นเค้าหายไปก็รู้สึกเสียใจด้วย แล้วก็กลัวว่าจะไปรบกวนงานเค้าด้วย) ผมก็พูดดีๆกับเค้า ให้เค้าทักทายมาบ้าง คำสองคำก็ดี ผมเป็นห่วง เค้าก็บอกว่าเค้าขอโทษ ผมก็บอกไม่เป็นไร แค่คิดถึง ผ่านไปสามสี่วัน ผมก็พูดอีกว่า เสียใจจังเลย เข้าใจแต่ก็เสียใจ เค้าบอกว่าเป็นแบบนี้ผมจะไม่มีความสุขนะ จนคืนนั้นผมคุยกับเค้า ถามเค้าตรงๆ พูดดีๆกับเค้าว่า เค้ายังรู้สึกกับผมเหมือนเดิมมั้ย เค้าเงียบไป และพูดว่า...คงไม่เท่าที่ผมรู้สึก ผมเสียใจมาก ถามเค้าว่าแล้วเอายังไง เค้าก็เงียบไปอีก ผมถามว่าเค้ามีคนอื่นหรอ เค้าบอกว่าเห็นเค้าเป็นคนยังไง เค้าเงียบไปอีกสักพัก บอกให้ผมดูแลตัวเองดีๆ แล้วก็วางสายไป
ผมเศร้า เสียใจ เพราะตั้งใจจะคุยกันดีๆเพื่อรักษาความสัมพันธ์ เค้าไม่อ่านไลน์ผมเลยจากนั้นมา ผมพยายามง้อเค้าผ่านทางไทม์ไลน์รูปของเราที่เค้าเป็นคนโพสต์ แต่เค้ายืนยันว่า เค้าตัดสินใจแล้ว เค้าอยากอยู่คนเดียว มีเรื่องที่เค้าต้องโฟกัส(ก็คือเรื่องเรียน) และก็ไม่อยากให้ใครมาเหนื่อยเพราะเค้าอีก ไม่ได้โกรธไม่ได้เกลียดผมเลย ขอโทษและก็ให้ผมดูแลตัวเองดีๆ
จากนั้น ผมเองพยายามติดต่อเค้าทุกทาง บอกทุกๆอย่างที่จะบอกได้ ขอโอกาสที่เค้าเคยขอกับผม บอกว่าจะให้ก้มลงไปกราบก็ได้ จะวันเกืดผมแล้ว ขอโอกาสได้มั้ย ครั้งสุดท้ายแล้ว ถ้ามันไม่ดีขึ้นผมจะยินดีปล่อยเค้าไป เค้าตอบกลับมาว่า เค้าตัดสินใจไปแล้ว พอได้แล้ว ผมไปหาก็ทำให้เค้ารู้สึกแย่มากกว่าเดิม อย่าให้รู้สึกเกลียดกันเลย ไม่งั้นเค้าต้องบล๊อกผมแล้วนะ (เหมือนเป็นกรรมที่ผมทำกับเค้าไว้เลยนะครับ) ผมเลยบอกให้เค้าบล๊อกผมไป เพราะผมทำใจไม่ได้ ยังไงก็ต้องไปรบกวนเค้าอีก ให้เค้าเก็บของที่ผมให้ไว้ ให้ความรู้สึกผมยังอยู่รอบๆตัวเค้า ผมเหมือนจะหมดหนทางแล้ว เลยบอกให้เค้าโชคดี คิดถึงผมบ้าง แล้วเราก็ไม่ได้คุยกันอีกจนถึงตอนนี้
ตอนนี้ ผมแทบไม่ได้กินไม่ได้นอน จนต้องไปโรงพยาบาล ไปเอายานอนหลับ พอได้นอนก็เริ่มจะกลับมาตั้งสติ ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนนี้ผมยังเข้าไปดูไลน์เค้าทุกวัน เค้าก็ยังไม่อ่าน แต่ก็ยังไม่บล๊อก ยังไม่ลบเรื่องราวดีๆที่มีต่อกัน ผมเริ่มหักห้ามใจไม่ให้พิมพ์อะไรไปหาเค้าได้แล้ว แต่ก็ยังคิดถึงเค้าอยู่ตลอด
ผมเริ่มเข้าใจได้ว่า ผมเองที่เป็นคนผิด ที่คาดหวังและเรียกร้องกับเค้ามากเกินไป และผมก็ละอายใจเหลือเกิน
เล่ามายืดยาว อ่านรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างต้องขอโทษด้วยนะครับ
ผมควรทำยังไงดีครับ?
ผมอยากไปหาเค้ามาก แม้จะเตรียมใจไว้แล้วว่าอาจจะไม่ได้กลับไปเป็นเหมือนเดิม
แต่ผมอยากเห็นหน้าเค้าอีกครั้ง ถ้าไปต่อด้วยกันไม่ไหวแล้ว ให้ผมได้ลาต่อหน้าได้มั้ย
ลึกๆก็อยากได้โอกาสแก้ตัวใหม่ แต่ถ้าไม่ได้จริงๆผมก็จะยอมรับโดยดี
เพื่อนๆว่าผมควรตัดใจมั้ยคับ?
หรือผมควรลองอีกครั้ง? ให้เต็มที่เท่าที่คนๆนึงจะทำให้อีกคนได้
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านคับ