เห็นข่าวอยากเปลี่ยนโค้ชที่กระเเสกดดันกันมากในช่วงนี้ ก็เลยเอาอีกแง่มุมมาให้ดูครับ คือมี2ประเด็นจะสรุปว่า
1.โค้ชต่างชาติไม่การันตีว่าผลงานจะต้องดีกว่าโค้ชในประเทศ..
2.ทีมที่เป็นรองอย่างญี่ปุ่นเวลาไปเตะบอลโลกรอบสุดท้าย ไม่ได้การันตีว่าต้องตกรอบแรกทุกครั้ง มันอยู่ที่โค้ชเป็นหลักครับ
และเวลาญี่ปุ่นตกรอบแรก คนที่โดนหนักสุดคือโค้ชเสมอ น้อยมากที่แฟนบอลจะบอกว่าทีมเรานักเตะสู้เขาไม่ได้ แพ้ไม่เป็นไร..
-ทีมชาติญี่ปุ่นไปบอลโลกครั้งแรกในปี1998ที่ฝรั่งเศสด้วยผลงานของทาเคชิ โอกาดะ
ถูกจับสลากอยู่กับอาเจนติน่า โครเอเซียอันดับ3บอลโลกครั้งนั้น และจาไมก้า ถูกมองว่าจะโดนถล่มเละแน่นอน
แต่ด้วยแท็คติคที่รัดกุม แม้ผู้เล่นจะด้อยประสิทธิภาพ แต่ก็สามารถสู้และเปิดเกมโต้กลับจนแจ้งเกิดนากาตะได้ในครั้งนั้น
และแพ้อย่างเฉียดฉิวด้วยผลต่าง1ลูกทั้งสามนัด ถือว่าเป็นผลงานที่น่าประทับใจ
-บอลโลก2002จัดที่ประเทศตัวเอง ทำให้ญี่ปุ่นสามารถใช้ความได้เปรียบในการจัดสายและเสียงเชียร์จนพาทีมทะลุเข้ารอบสองได้
ถึงอย่างไรก็ต้องให้เครดิตพ่อมดขาวฟิลิป ทรุสซิเย่ร์ ที่สร้างนักเตะยุคทองขึ้นมาในช่วง4ปีที่เขาคุมทีมชาติญี่ปุ่น
ทั้งนากาตะ โอโนะ อินาโมโตะ นากามูระ ทากาฮาร่า นากาซาว่า คือนักเตะที่ผ่านมือพ่อมดผู้นี้มา
แต่อย่างไรก็ตาม ในนัดที่แพ้ตุรกี0-1ตกรอบ16ทีม พ่อมดขาวผู้นี้ก็จัดตัวผู้เล่นแบบแปลกตาด้วยการเปลี่ยนคู่กองหน้าทั้ง2คน??
-บอลโลก2006ที่เยอรมัน ซิโก้ที่ไม่ได้มาจากขอนแก่นนำทีมชาติญี่ปุ่นที่ดูจะโชว์ฟอร์มในการเตะอุ่นเครื่องและคอนเฟดทั้งปี2003และ2005
ได้อย่างมีความหวัง เพราะสามารถต่อกรได้ทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส บราซิล เยอรมันอย่างเร้าใจ
แต่พอไปเตะรอบสุดท้าย แท็คติกการวางแผนของเขากับไม่สามารถโชว์อะไรออกมาได้เลย จนญี่ปุ่นตกรอบแรกอย่างหมดรูป
และเจ้าตัวก็ทิ้งวลีไว้ง่ายๆว่า 'นักเตะต้องเล่นทีมใหญ่ๆในยุโรปมากกว่านี้'
แต่ตอนคุมใหม่ๆแกบอกว่ามีนักเตะญี่ปุ่น3-4คนเล่นทีมชาติบราซิลสบาย ฮา..
-บอลโลก2010 ทีมชาติญี่ปุ่นไปบอลโลกในฟอร์มอุ่นเครื่องที่ดูไร้ความหวัง แพ้5นัดติดก่อนไปแอฟริกาใต้ โดนเซอร์เบียบุกมาอัด3เม็ดคาบ้าน
โดนเกาหลีใต้บุกมาอัดอีก2ดอก แพ้อังกฤษ ไอวอรี่โคตส์ตามลำดับ แฟนบอลไร้ความหวัง และตำหนิสมาคมว่าทำไมใช้โค้ชญี่ปุ่นที่น่าจะตกยุค
อย่างโอกาดะที่คุมปี98กลับมาอีกครั้ง แต่ทว่าพอเตะจริง โอกาดะเรียนรู้แล้วว่า ญี่ปุ่นไม่เหมาะจะเล่นเกมรุกถ้าอยากผ่านรอบแรก
เขาอัดกลางไปถึง5ตัว และเปลี่ยนระบบเดิมจาก4-4-2เป็น4-5-1 ตัดสตาร์นากามูระเป็นสำรอง ส่งฮอนดะดาวรุ่งลงมาเป็นหน้าเป้า
และมันก็เป็นการแจ้งเกิดของฮอนดะ รวมทั้งพาทีมตกรอบ16ทีมด้วยการแพ้จุดโทษปารากวัยอย่างน่าประทับใจ
เสียประตูเพียง2ลูกจากลูกยิงไกลของชไนเดอร์ และอีกลูกจากการซ้ำจุดโทษของโทมัสสัน
-บอลโลก2014 เป็นสถานการณ์ที่ดูจะเดจาวูคล้ายปี2006 พวกเขาไปบราซิลด้วยฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรงต่อเนื่องมาจากหลังปี2010
ด้วยกุนซืออิตาลีอย่างซัคเคโรนี่ที่รักเกมบุกเป็นชีวิต พวกเขาโชว์ติกาติก้าใส่ทีมชาติฮอลแลนด์ บุกอัดเบลเยี่ยมและฝรั่งเศสคาบ้าน
เปิดบ้านเชือดอาเจนติน่า ไล่บี้อิตาลีและยิงได้3ลูกแม้จะแพ้3-4ก็ตาม แต่รอบสุดท้ายก็ตามที่เห็น พวกเขาโดนไล่ถลุงไปอย่างยับเยิน
ด้วยการเปิดเกมรุกและทำให้กองหลังพวกเขามีช่องโหว่มากมายให้โจมตี และพละกำลังที่หมดลงหลังเน้นใช้แผนเพรสซิ่งตลอดเกม
สรุป5ครั้งบอลโลกญี่ปุ่น กุนซือญี่ปุ่นคุม2ครั้ง ได้ผลตามเป้าทั้ง2ครั้ง ส่วนโค้ชนอก3คนล้มเหลวไป2 รวมทั้งถ้านับอิวิก้าโอซิมที่คุมทีม
ในช่วงเอเชี่ยนคัพ2007และตกรอบรองชนะเลิศ หรือล่าสุดเอเชี่ยนคัพ2015ที่ตกรอบ8ทีมโดยอากีเร่กุนซือเม็กซิกัน
ในรอบ17-18ปีที่ผ่านมา โค้ชนอกญี่ปุ่น5คนมีผลงานเข้าตาแค่คนเดียวเท่านั้น...
ก็รอดูปีหน้าว่าสมาคมฟุตบอลไทยจะตัดสินใจอย่างไร และผลงานจะเป็นไปในรูปแบบไหนกันครับ...
ทีมอย่างญี่ปุ่นตอนเล่นในบอลโลกครั้งแรกจนถึงปัจจุบัน5ครั้ง โค้ชต่างชาติผลงานสู้โค้ชในประเทศไม่ได้ครับ...
1.โค้ชต่างชาติไม่การันตีว่าผลงานจะต้องดีกว่าโค้ชในประเทศ..
2.ทีมที่เป็นรองอย่างญี่ปุ่นเวลาไปเตะบอลโลกรอบสุดท้าย ไม่ได้การันตีว่าต้องตกรอบแรกทุกครั้ง มันอยู่ที่โค้ชเป็นหลักครับ
และเวลาญี่ปุ่นตกรอบแรก คนที่โดนหนักสุดคือโค้ชเสมอ น้อยมากที่แฟนบอลจะบอกว่าทีมเรานักเตะสู้เขาไม่ได้ แพ้ไม่เป็นไร..
-ทีมชาติญี่ปุ่นไปบอลโลกครั้งแรกในปี1998ที่ฝรั่งเศสด้วยผลงานของทาเคชิ โอกาดะ
ถูกจับสลากอยู่กับอาเจนติน่า โครเอเซียอันดับ3บอลโลกครั้งนั้น และจาไมก้า ถูกมองว่าจะโดนถล่มเละแน่นอน
แต่ด้วยแท็คติคที่รัดกุม แม้ผู้เล่นจะด้อยประสิทธิภาพ แต่ก็สามารถสู้และเปิดเกมโต้กลับจนแจ้งเกิดนากาตะได้ในครั้งนั้น
และแพ้อย่างเฉียดฉิวด้วยผลต่าง1ลูกทั้งสามนัด ถือว่าเป็นผลงานที่น่าประทับใจ
-บอลโลก2002จัดที่ประเทศตัวเอง ทำให้ญี่ปุ่นสามารถใช้ความได้เปรียบในการจัดสายและเสียงเชียร์จนพาทีมทะลุเข้ารอบสองได้
ถึงอย่างไรก็ต้องให้เครดิตพ่อมดขาวฟิลิป ทรุสซิเย่ร์ ที่สร้างนักเตะยุคทองขึ้นมาในช่วง4ปีที่เขาคุมทีมชาติญี่ปุ่น
ทั้งนากาตะ โอโนะ อินาโมโตะ นากามูระ ทากาฮาร่า นากาซาว่า คือนักเตะที่ผ่านมือพ่อมดผู้นี้มา
แต่อย่างไรก็ตาม ในนัดที่แพ้ตุรกี0-1ตกรอบ16ทีม พ่อมดขาวผู้นี้ก็จัดตัวผู้เล่นแบบแปลกตาด้วยการเปลี่ยนคู่กองหน้าทั้ง2คน??
-บอลโลก2006ที่เยอรมัน ซิโก้ที่ไม่ได้มาจากขอนแก่นนำทีมชาติญี่ปุ่นที่ดูจะโชว์ฟอร์มในการเตะอุ่นเครื่องและคอนเฟดทั้งปี2003และ2005
ได้อย่างมีความหวัง เพราะสามารถต่อกรได้ทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส บราซิล เยอรมันอย่างเร้าใจ
แต่พอไปเตะรอบสุดท้าย แท็คติกการวางแผนของเขากับไม่สามารถโชว์อะไรออกมาได้เลย จนญี่ปุ่นตกรอบแรกอย่างหมดรูป
และเจ้าตัวก็ทิ้งวลีไว้ง่ายๆว่า 'นักเตะต้องเล่นทีมใหญ่ๆในยุโรปมากกว่านี้'
แต่ตอนคุมใหม่ๆแกบอกว่ามีนักเตะญี่ปุ่น3-4คนเล่นทีมชาติบราซิลสบาย ฮา..
-บอลโลก2010 ทีมชาติญี่ปุ่นไปบอลโลกในฟอร์มอุ่นเครื่องที่ดูไร้ความหวัง แพ้5นัดติดก่อนไปแอฟริกาใต้ โดนเซอร์เบียบุกมาอัด3เม็ดคาบ้าน
โดนเกาหลีใต้บุกมาอัดอีก2ดอก แพ้อังกฤษ ไอวอรี่โคตส์ตามลำดับ แฟนบอลไร้ความหวัง และตำหนิสมาคมว่าทำไมใช้โค้ชญี่ปุ่นที่น่าจะตกยุค
อย่างโอกาดะที่คุมปี98กลับมาอีกครั้ง แต่ทว่าพอเตะจริง โอกาดะเรียนรู้แล้วว่า ญี่ปุ่นไม่เหมาะจะเล่นเกมรุกถ้าอยากผ่านรอบแรก
เขาอัดกลางไปถึง5ตัว และเปลี่ยนระบบเดิมจาก4-4-2เป็น4-5-1 ตัดสตาร์นากามูระเป็นสำรอง ส่งฮอนดะดาวรุ่งลงมาเป็นหน้าเป้า
และมันก็เป็นการแจ้งเกิดของฮอนดะ รวมทั้งพาทีมตกรอบ16ทีมด้วยการแพ้จุดโทษปารากวัยอย่างน่าประทับใจ
เสียประตูเพียง2ลูกจากลูกยิงไกลของชไนเดอร์ และอีกลูกจากการซ้ำจุดโทษของโทมัสสัน
-บอลโลก2014 เป็นสถานการณ์ที่ดูจะเดจาวูคล้ายปี2006 พวกเขาไปบราซิลด้วยฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรงต่อเนื่องมาจากหลังปี2010
ด้วยกุนซืออิตาลีอย่างซัคเคโรนี่ที่รักเกมบุกเป็นชีวิต พวกเขาโชว์ติกาติก้าใส่ทีมชาติฮอลแลนด์ บุกอัดเบลเยี่ยมและฝรั่งเศสคาบ้าน
เปิดบ้านเชือดอาเจนติน่า ไล่บี้อิตาลีและยิงได้3ลูกแม้จะแพ้3-4ก็ตาม แต่รอบสุดท้ายก็ตามที่เห็น พวกเขาโดนไล่ถลุงไปอย่างยับเยิน
ด้วยการเปิดเกมรุกและทำให้กองหลังพวกเขามีช่องโหว่มากมายให้โจมตี และพละกำลังที่หมดลงหลังเน้นใช้แผนเพรสซิ่งตลอดเกม
สรุป5ครั้งบอลโลกญี่ปุ่น กุนซือญี่ปุ่นคุม2ครั้ง ได้ผลตามเป้าทั้ง2ครั้ง ส่วนโค้ชนอก3คนล้มเหลวไป2 รวมทั้งถ้านับอิวิก้าโอซิมที่คุมทีม
ในช่วงเอเชี่ยนคัพ2007และตกรอบรองชนะเลิศ หรือล่าสุดเอเชี่ยนคัพ2015ที่ตกรอบ8ทีมโดยอากีเร่กุนซือเม็กซิกัน
ในรอบ17-18ปีที่ผ่านมา โค้ชนอกญี่ปุ่น5คนมีผลงานเข้าตาแค่คนเดียวเท่านั้น...
ก็รอดูปีหน้าว่าสมาคมฟุตบอลไทยจะตัดสินใจอย่างไร และผลงานจะเป็นไปในรูปแบบไหนกันครับ...