โอเวอร์ไซส์ ทลายพุง - ฮาใช้ได้เลย เจ๋งที่เป็นหนังมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ถ้าคุณเคยต้อง diet ต้องลดน้ำหนัก (อ้วนนั่นเอง) หนังจะโดนมาก

สวัสดีครับ เมื่อวานนี้ ผมก็ได้มีโอกาสชมหนังไทยเรื่อง "โอเวอร์ไซส์ ทลายพุง" ในรอบสื่อมวลชน ขอขอบคุณทางค่าย T Moment และคุณเอิร์ทCDBD มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
"โอเวอร์ไซส์ ทลายพุง" หนังไทยเรื่องแรกของค่ายใหม่เอี่ยม เจ้าของตัวอักษร T ใน "GTH" เดิม นั่นคือค่าย T Moment ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของตัวอักษรตัว T ดั้งเดิม ที่ มาจาก "ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์" ค่ายหนังไทยที่ประสบความสำเร็จสูงสุด ด้วยหนังอย่าง "2499 อันธพาลครองเมือง" และ "นางนาก" แค่ 2 เรื่องนี้ก็รับประกันได้ถึงความสุดยอด และ Mono Film ค่ายหนังในเครือ Mono เครือบันเทิงรายใหญ่ เจ้าของช่อง Mono29 นั่นเอง
"โอเวอร์ไซส์ ทลายพุง" จึงเป็นหนังเปิดหัวค่าย T Moment ที่เชื่อว่าบอสใหญ่อย่างคุณวิสูตร พูลวรลักษณ์ จะไม่ยอมให้เกิดความผิดพลาดอย่างแน่นอน แต่ยอมรับว่าในตอนแรกที่ผมได้ข่าวเกี่ยวกับการ casting นักแสดงเรื่องนี้ ที่เฟ้นหานักแสดง Oversize ตัวใหญ่พิเศษ ผมก็สนใจที่จะไปแคสบ้าง เอ๊ย.. ผมแปลกใจมากว่าหนังเปิดหัวค่ายแบบนี้ ทำไมคุณวิสูตรถึงกล้าเสี่ยงแคสนักแสดงใหม่ แทนที่จะใช้นักแสดงชื่อดังเพื่อที่จะรับประกันความเสี่ยงในด้านรายได้ของหนัง แต่ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่า ไม่มีของดี ไม่เจ๋ง ไม่มีทางผ่านปรมาจารย์หนังไทยคนนี้ไปได้ แต่พอได้ยินชื่อหนัง ผมก็แอบคิดว่า จะรอดหรือ?
จากตัวอย่าง ผมเปลี่ยนความคิดทันที เพราะหนังมีแววสนุกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ตัวอย่างเรื่องนี้เล่าเรื่องอย่างง่ายๆ แต่มีเหตุผล เพราะตำรวจย่อมไม่ควรอ้วน และมุกที่อยู่ในตัวอย่างก็ดูลื่นไหล แต่ก็ยังหวั่นใจอยู่ดีว่า นักแสดงนำทั้งหมด ผมก็แค่คุ้นๆหน้าบางคนเท่านั้น เรียกว่าระดับ "สตาร์" ไม่มีเลย พอดูชื่อผู้กำกับ "ชานนท์ ยิ่งยง และ ภูวนิตย์ ผลดี" ก็ยอมรับว่าผมไม่คุ้นเคยกับชื่อและผลงานของทั้งสองคน แต่ของอย่างนี้ คงต้องวัดกันที่ตัวหนังแล้วล่ะ
ช่วงแรก หนังเริ่มทำงานด้านความตลกทันที ยิงมุกกราดอุตลุด โดนบ้าง ไม่โดนบ้าง แต่ผมชอบตรงความลื่นไหนของหนัง ตรงนี้นักแสดงทำหน้าที่กันได้ดี และการตัดต่อที่ดี ช่วยเสริมความลื่นไหลนี้ได้ หนังจึงดูได้สนุกอย่างต่อเนื่อง เมื่อหนังเริ่มเจาะเข้าสู่เส้นหลักคือการลดความอว้น หนังก็ได้นำเอาปัญหาทั้งหลาย ข้ออ้างทั้งมวล ที่คนที่เคยลดน้ำหนักจต้องพบเจอมาบอกเล่าให้ฟังแบบจริงใจ ผมชอบครับ การไม่เสียดมี ไม่ล้อ และไม่อวย มันดูเป็นความจริงดีทีเดียว
ช่วงกลาง เมื่อเริ่มมีประเด็นตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง หนังก็ไม่ได้ทำตัวให้น่ากังวลอะไรว่าจะทำให้โดนห้ามฉาย55 คือพูดถึงตำรวจในมุมกลางๆ และยังแทรกความตลกและยิ่งมุกอย่างต่อเนื่องมาเรื่อยๆ ยิงเยอะก็เลยไม่กร่อย ไม่เบื่อ หนังยังสนุกได้ดี และหนังก็ไม่ได้พยายามลงลึกไปในอะไรสักอย่าง พวกอุดมการณ์ เกียรติยศ ความฝัน ความรัก ฯลฯ หนังไม่ลงไป และยังคงยิงมุกต่อเนื่องไป สมกับความเป็นหนังที่ดูง่าย อย่างที่ทาง T Moment ต้องการ
ช่วงท้าย ผมชอบวิธีที่เรื่องนี้ทำบทสรุป เพราะมันแสดงให้เห็นถึงความเป็นจริงของคนไทยทั่วไป ยอมรับได้ ไม่ต้องคลั่ง ภาพลักษ์ ชาติ อุดมการณ์ เพศ สถาบัน อาชีพ คนทุกคนดูธรรมดาดี ทั้งที่ผมเชื่อว่า หนังมีเชื้อและวัตถุดิบพอที่จะขยี้ลงไปประเด็นแรงๆในจุดไหนก็ได้ แต่หนังก็ไม่ได้เน้นแต่อย่างใด หนังยังคงไว้ซึ่งความเป็นหนังตลก บันเทิง สนุกสนาน เพลิดเพลิน แต่ไม่ไร้สาระ ได้เป็นอย่างดี
การแสดงของนักแสดงทุกคนในหนังเรื่องนี้ อยู่ในระดับที่ พอดี ไม่เล่นใหญ่เป็นละครเวที ไม่ขยี้ดราม่าจนน้ำตาท่วมโรง เสมอๆกันไปหมด มันพอดีทีเดียว ซึ่งทำให้ผมหวนนึกถึงในยุคที่ค่ายหนังทั้งอย่าง GTH ใช้นักแสดงหน้าใหม่เข้ามาแสดง มันจะดูใสซื่อ และทำให้เชื่อว่าเขาเหล่านั้นทำอาชีพนั้นจริงๆ เป็นข้อดีที่สุดของการใช้นักแสดงหน้าใหม่ที่ทำให้คนดูเชื่อได้มากกว่า
งานด้าน Production หนักก็ทำได้ดีเลยครับ งานภาพดี มุมภาพถือว่าเด่นเลยทีเดียว และคิวบู๊ที่ผมไม่คิดว่าหนังจะมี จริงๆมีพอสมควรเลย ทุกคนทำได้ดีเลยครับ และแน่นอนว่าแสดงเอง เพราะคงหาสตันด์แมนหุ่นแบบนี้ไม่ได้อยู่แล้ว55
สิ่งที่ดีที่สุดที่หนังเรื่องนี้ที่ผมเห็น มากกว่าความตลกฮาที่ให้ นั่นคือประเด็นเรื่องความอ้วน สุขภาพ และการลดความอ้วน ผมชอบมากครับที่หนังทำออกมาได้ครอบคลุมและลงตัว มันบอกแทนถึงทุกปัญหาที่คนอ้วนต้องเผชิญ บอกถึงความในใจ ความรู้สึก มุมมองของคนรอบข้าง ครบมากครับ ดูแล้วย้ำสติได้ดี ว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ อะไรเป็นปัญหา หรือไม่ใช่ปัญหา เชื่อว่าคนที่อ้วน ถ้าได้ดูหนังเรื่องนี้ จะไม่หลงผิดกับการพยายามลดความอ้วนผิดวิธี หรือการกินแบบไม่รักษาสุขภาพ ไม่แคร์ความอ้วนที่เพิ่มจนอันตราย ตรงนี้ดีมากจริงๆ แต่มันจะรู้สึกได้เฉพาะคนอ้วน คนเคยอ้วน คนมีคนรอบตัวอ้วนเท่านั้นจริงๆนะครับ ใครไม่เคยอ้วน ไม่เข้าใจหรอก ฮือ... ขอโทษครับ อินไปหน่อย55 ใครไม่เข้าใจข้อดีที่ผมบอก อย่าได้แปลกใจไปครับ คุณอาจขาดประสบการณ์ร่วมเท่านั้น โชคดีแล้วครับ55
สรุป - หนังเรื่องนี้มีความสี่ยงพอสมควรซึ่งผมเชื่อว่าผู้สร้างนั้นทราบอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ประสบการณ์ร่วมของคนดูจะมีผลมากมาย อาจเป็นหนังเรื่องแรกที่น้ำหนักและหุ่นของผู้ชมมีผลต่อความเข้าใจในหนัง ถ้าคุณผอม หุ่นดี และไม่เคยอ้วน หนังเรื่องนี้อาจเป็นแค่หนังตลกธรรมดาที่สนุกได้พอประมาณ เชื่อผมเถอะว่าคุณไม่มีทางเข้าใจ แต่ถ้าคุณอ้วน เคยอ้วน เคยผ่านการลดน้ำหนัก ความรู้สึกคุณจะเปลี่ยนไปครับ หนังเรื่องนี้จะฝังลงไปในใจ ย้ำเตือนเวลาคุณจะกินอะไร จะเปิดตู้เย็นหาของกินยามดึก เลือกร้าน Buffet กินไม่อั้นแทนร้านธรรมดา ภาพหนังอาจจะลอยขึ้นมา เพื่อเตือนคุณว่า เพื่อสุขภาพที่ดีควรทำอย่างไร ผมขอเสนอให้ทางค่ายจัดโปรโมชั่นไปเลยครับ "เกิน100กิโล ดูฟรี" ประมาณนี้ ถ้าจะให้เปรียบเทียบ หนังเรื่องนี้ฝังลงไปในใจคนอ้วน แนวเดียวกับที่มนุษย์เงินเดือนที่ได้ดูหนัง "ยอดมนุษย์เงินเดือน" หรือฟรีแลนซ์ที่ได้ดู "ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ" นั่นแหล่ะครับ
ความคาดหวังก่อนชม / หลังชม – คาดหวังค่อนข้างสูง / ดีกว่าที่หวังไว้เยอะ
เกรดหนัง – ความน่าดูแปรตามน้ำหนักผู้ดู
คะแนนเฉลี่ย 7.75/10
****รีวิว เกรดหนัง และคะแนน อยู่บนพื้นฐานของหนังไทยเท่านั้น ไม่นำหนังเทศมารวมแต่อย่างใด***
[SR] [Mr. Coffee รีวิว 3/2560] โอเวอร์ไซส์ ทลายพุง (ไม่สปอยล์)
สวัสดีครับ เมื่อวานนี้ ผมก็ได้มีโอกาสชมหนังไทยเรื่อง "โอเวอร์ไซส์ ทลายพุง" ในรอบสื่อมวลชน ขอขอบคุณทางค่าย T Moment และคุณเอิร์ทCDBD มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
"โอเวอร์ไซส์ ทลายพุง" หนังไทยเรื่องแรกของค่ายใหม่เอี่ยม เจ้าของตัวอักษร T ใน "GTH" เดิม นั่นคือค่าย T Moment ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของตัวอักษรตัว T ดั้งเดิม ที่ มาจาก "ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์" ค่ายหนังไทยที่ประสบความสำเร็จสูงสุด ด้วยหนังอย่าง "2499 อันธพาลครองเมือง" และ "นางนาก" แค่ 2 เรื่องนี้ก็รับประกันได้ถึงความสุดยอด และ Mono Film ค่ายหนังในเครือ Mono เครือบันเทิงรายใหญ่ เจ้าของช่อง Mono29 นั่นเอง
"โอเวอร์ไซส์ ทลายพุง" จึงเป็นหนังเปิดหัวค่าย T Moment ที่เชื่อว่าบอสใหญ่อย่างคุณวิสูตร พูลวรลักษณ์ จะไม่ยอมให้เกิดความผิดพลาดอย่างแน่นอน แต่ยอมรับว่าในตอนแรกที่ผมได้ข่าวเกี่ยวกับการ casting นักแสดงเรื่องนี้ ที่เฟ้นหานักแสดง Oversize ตัวใหญ่พิเศษ ผมก็สนใจที่จะไปแคสบ้าง เอ๊ย.. ผมแปลกใจมากว่าหนังเปิดหัวค่ายแบบนี้ ทำไมคุณวิสูตรถึงกล้าเสี่ยงแคสนักแสดงใหม่ แทนที่จะใช้นักแสดงชื่อดังเพื่อที่จะรับประกันความเสี่ยงในด้านรายได้ของหนัง แต่ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่า ไม่มีของดี ไม่เจ๋ง ไม่มีทางผ่านปรมาจารย์หนังไทยคนนี้ไปได้ แต่พอได้ยินชื่อหนัง ผมก็แอบคิดว่า จะรอดหรือ?
จากตัวอย่าง ผมเปลี่ยนความคิดทันที เพราะหนังมีแววสนุกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ตัวอย่างเรื่องนี้เล่าเรื่องอย่างง่ายๆ แต่มีเหตุผล เพราะตำรวจย่อมไม่ควรอ้วน และมุกที่อยู่ในตัวอย่างก็ดูลื่นไหล แต่ก็ยังหวั่นใจอยู่ดีว่า นักแสดงนำทั้งหมด ผมก็แค่คุ้นๆหน้าบางคนเท่านั้น เรียกว่าระดับ "สตาร์" ไม่มีเลย พอดูชื่อผู้กำกับ "ชานนท์ ยิ่งยง และ ภูวนิตย์ ผลดี" ก็ยอมรับว่าผมไม่คุ้นเคยกับชื่อและผลงานของทั้งสองคน แต่ของอย่างนี้ คงต้องวัดกันที่ตัวหนังแล้วล่ะ
ช่วงแรก หนังเริ่มทำงานด้านความตลกทันที ยิงมุกกราดอุตลุด โดนบ้าง ไม่โดนบ้าง แต่ผมชอบตรงความลื่นไหนของหนัง ตรงนี้นักแสดงทำหน้าที่กันได้ดี และการตัดต่อที่ดี ช่วยเสริมความลื่นไหลนี้ได้ หนังจึงดูได้สนุกอย่างต่อเนื่อง เมื่อหนังเริ่มเจาะเข้าสู่เส้นหลักคือการลดความอว้น หนังก็ได้นำเอาปัญหาทั้งหลาย ข้ออ้างทั้งมวล ที่คนที่เคยลดน้ำหนักจต้องพบเจอมาบอกเล่าให้ฟังแบบจริงใจ ผมชอบครับ การไม่เสียดมี ไม่ล้อ และไม่อวย มันดูเป็นความจริงดีทีเดียว
ช่วงกลาง เมื่อเริ่มมีประเด็นตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง หนังก็ไม่ได้ทำตัวให้น่ากังวลอะไรว่าจะทำให้โดนห้ามฉาย55 คือพูดถึงตำรวจในมุมกลางๆ และยังแทรกความตลกและยิ่งมุกอย่างต่อเนื่องมาเรื่อยๆ ยิงเยอะก็เลยไม่กร่อย ไม่เบื่อ หนังยังสนุกได้ดี และหนังก็ไม่ได้พยายามลงลึกไปในอะไรสักอย่าง พวกอุดมการณ์ เกียรติยศ ความฝัน ความรัก ฯลฯ หนังไม่ลงไป และยังคงยิงมุกต่อเนื่องไป สมกับความเป็นหนังที่ดูง่าย อย่างที่ทาง T Moment ต้องการ
ช่วงท้าย ผมชอบวิธีที่เรื่องนี้ทำบทสรุป เพราะมันแสดงให้เห็นถึงความเป็นจริงของคนไทยทั่วไป ยอมรับได้ ไม่ต้องคลั่ง ภาพลักษ์ ชาติ อุดมการณ์ เพศ สถาบัน อาชีพ คนทุกคนดูธรรมดาดี ทั้งที่ผมเชื่อว่า หนังมีเชื้อและวัตถุดิบพอที่จะขยี้ลงไปประเด็นแรงๆในจุดไหนก็ได้ แต่หนังก็ไม่ได้เน้นแต่อย่างใด หนังยังคงไว้ซึ่งความเป็นหนังตลก บันเทิง สนุกสนาน เพลิดเพลิน แต่ไม่ไร้สาระ ได้เป็นอย่างดี
การแสดงของนักแสดงทุกคนในหนังเรื่องนี้ อยู่ในระดับที่ พอดี ไม่เล่นใหญ่เป็นละครเวที ไม่ขยี้ดราม่าจนน้ำตาท่วมโรง เสมอๆกันไปหมด มันพอดีทีเดียว ซึ่งทำให้ผมหวนนึกถึงในยุคที่ค่ายหนังทั้งอย่าง GTH ใช้นักแสดงหน้าใหม่เข้ามาแสดง มันจะดูใสซื่อ และทำให้เชื่อว่าเขาเหล่านั้นทำอาชีพนั้นจริงๆ เป็นข้อดีที่สุดของการใช้นักแสดงหน้าใหม่ที่ทำให้คนดูเชื่อได้มากกว่า
งานด้าน Production หนักก็ทำได้ดีเลยครับ งานภาพดี มุมภาพถือว่าเด่นเลยทีเดียว และคิวบู๊ที่ผมไม่คิดว่าหนังจะมี จริงๆมีพอสมควรเลย ทุกคนทำได้ดีเลยครับ และแน่นอนว่าแสดงเอง เพราะคงหาสตันด์แมนหุ่นแบบนี้ไม่ได้อยู่แล้ว55
สิ่งที่ดีที่สุดที่หนังเรื่องนี้ที่ผมเห็น มากกว่าความตลกฮาที่ให้ นั่นคือประเด็นเรื่องความอ้วน สุขภาพ และการลดความอ้วน ผมชอบมากครับที่หนังทำออกมาได้ครอบคลุมและลงตัว มันบอกแทนถึงทุกปัญหาที่คนอ้วนต้องเผชิญ บอกถึงความในใจ ความรู้สึก มุมมองของคนรอบข้าง ครบมากครับ ดูแล้วย้ำสติได้ดี ว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ อะไรเป็นปัญหา หรือไม่ใช่ปัญหา เชื่อว่าคนที่อ้วน ถ้าได้ดูหนังเรื่องนี้ จะไม่หลงผิดกับการพยายามลดความอ้วนผิดวิธี หรือการกินแบบไม่รักษาสุขภาพ ไม่แคร์ความอ้วนที่เพิ่มจนอันตราย ตรงนี้ดีมากจริงๆ แต่มันจะรู้สึกได้เฉพาะคนอ้วน คนเคยอ้วน คนมีคนรอบตัวอ้วนเท่านั้นจริงๆนะครับ ใครไม่เคยอ้วน ไม่เข้าใจหรอก ฮือ... ขอโทษครับ อินไปหน่อย55 ใครไม่เข้าใจข้อดีที่ผมบอก อย่าได้แปลกใจไปครับ คุณอาจขาดประสบการณ์ร่วมเท่านั้น โชคดีแล้วครับ55
สรุป - หนังเรื่องนี้มีความสี่ยงพอสมควรซึ่งผมเชื่อว่าผู้สร้างนั้นทราบอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ประสบการณ์ร่วมของคนดูจะมีผลมากมาย อาจเป็นหนังเรื่องแรกที่น้ำหนักและหุ่นของผู้ชมมีผลต่อความเข้าใจในหนัง ถ้าคุณผอม หุ่นดี และไม่เคยอ้วน หนังเรื่องนี้อาจเป็นแค่หนังตลกธรรมดาที่สนุกได้พอประมาณ เชื่อผมเถอะว่าคุณไม่มีทางเข้าใจ แต่ถ้าคุณอ้วน เคยอ้วน เคยผ่านการลดน้ำหนัก ความรู้สึกคุณจะเปลี่ยนไปครับ หนังเรื่องนี้จะฝังลงไปในใจ ย้ำเตือนเวลาคุณจะกินอะไร จะเปิดตู้เย็นหาของกินยามดึก เลือกร้าน Buffet กินไม่อั้นแทนร้านธรรมดา ภาพหนังอาจจะลอยขึ้นมา เพื่อเตือนคุณว่า เพื่อสุขภาพที่ดีควรทำอย่างไร ผมขอเสนอให้ทางค่ายจัดโปรโมชั่นไปเลยครับ "เกิน100กิโล ดูฟรี" ประมาณนี้ ถ้าจะให้เปรียบเทียบ หนังเรื่องนี้ฝังลงไปในใจคนอ้วน แนวเดียวกับที่มนุษย์เงินเดือนที่ได้ดูหนัง "ยอดมนุษย์เงินเดือน" หรือฟรีแลนซ์ที่ได้ดู "ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ" นั่นแหล่ะครับ
ความคาดหวังก่อนชม / หลังชม – คาดหวังค่อนข้างสูง / ดีกว่าที่หวังไว้เยอะ
เกรดหนัง – ความน่าดูแปรตามน้ำหนักผู้ดู
คะแนนเฉลี่ย 7.75/10
****รีวิว เกรดหนัง และคะแนน อยู่บนพื้นฐานของหนังไทยเท่านั้น ไม่นำหนังเทศมารวมแต่อย่างใด***