JJNY : เสดตะกิดดี๊ดี..ซี๊จุกสูญ ธุรกิจลดน้ำหนักขาลง บอดี้เชพยกเครื่องตั้งศูนย์ชะลอวัย‘บีดีเอส เซลเธอราฯ’

กระทู้คำถาม
ตลาดลดนํ้าหนักขาลง “บอดี้เชพ” ปรับแผนยกเครื่องธุรกิจใหม่ ผุดศูนย์ชะลอวัยรับสังคมสูงอายุ เตรียมเผยโฉม “บีดีเอส เซลเธอรา เซ็นเตอร์” หลังมิ.ย. นี้

"บอดี้เชพ" ถือเป็นผู้บุกเบิกตลาดลดน้ำหนักเมืองไทยเมื่อกว่า 20 ปีก่อนจนสามารถครองความเป็นผู้นำธุรกิจ ทำให้สาวไทยรู้จักกับการลดน้ำหนัก ดูแลหุ่นให้สวยเพียว กระแสนิยมมาพร้อมกับแบรนด์ต่างๆ ที่ทยอยเกิดขึ้นทั้งจากผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ ตลาดลดน้ำหนักบูมสุดขีดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ก่อให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรง ทั้งการใช้พรีเซนเตอร์เป็นจุดขาย นวัตกรรมกระชับรูปร่างแบบล้ำๆ รวมไปถึงการจัดโปรโมชัน เพื่อช่วงชิงลูกค้า จนกลายเป็นสงครามราคา (Price War) ซึ่งนอกจากจะทำให้เสียตลาด ยังคุณภาพลดลง และเมื่อต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจซบเซา ณ วันนี้ ธุรกิจลดน้ำหนักจึงอยู่ในภาวะขาลงอย่างแท้จริง

โดยนางปราณี อ.พงษากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บอดี้เชพคอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารสถาบันลดน้ำหนัก "บอดี้เชพ" และศูนย์สุขภาพ ความงามและชะลอวัย "บีดีเอส เซลเธอรา เซ็นเตอร์" (BDS Celthera Center) เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจลดน้ำหนักปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจไปจากอดีต จากเดิมที่เน้นการโฆษณา การทำตลาด นวัตกรรมด้านการลดน้ำหนัก หันมาเป็นการออกบูธ การสร้างกระแสในโลกโซเชียล รวมถึงการแข่งขันด้านราคา และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ลดความสำคัญเรื่องของคุณภาพ ขณะเดียวกันจะเห็นว่าพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคนี้ที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย จะให้ความสำคัญกับการป้องกันมากกว่าการรักษา การนำเสนอนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า เพื่อให้สุขภาพแข็งแรง จึงเป็นอีกทางเลือกและเชื่อว่าจะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายต่อไปในอนาคต

ดังนั้นบริษัทจึงปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจจากเดิมที่เป็นธุรกิจลดน้ำหนักภายใต้ชื่อ "บอดี้เชพ" เป็น "บีดีเอส ปราณลี คลินิกเวชกรรม" พร้อมให้บริการศูนย์ชะลอวัย ภายใต้ชื่อ บีดีเอส เซลเธอรา เซ็นเตอร์ สาขาแรก ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน

"ปราณี" กล่าวถึงการรีโพสิชันนิงครั้งนี้ว่า เมื่อทิศทางของธุรกิจเปลี่ยน จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนตาม ครั้งนี้ถือเป็น Change ครั้งใหญ่ในรอบกว่า 20 ปีที่ตั้งบอดี้เชพขึ้นมา และเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจลดน้ำหนักจนเป็นที่รู้จัก และได้รับความนิยม เป็นผู้นำตลาดและเปิดให้บริการสาขาทั่วประเทศเกือบ 30 แห่ง แต่เมื่อธุรกิจอยู่ในช่วงขาลง ผู้ประกอบการต้องรู้จักปรับตัวให้ทัน นับจากนี้จะทยอยปิดสาขาลงหรือบางสาขาจะปล่อยเช่าพื้นที่ ส่วนในทำเลที่ดีมีศักยภาพจะปรับเปลี่ยนเป็นศูนย์บีดีเอส เซลเธอรา เซ็นเตอร์ เช่นสาขาสยามพารากอน ซึ่งเป็นโฉมใหม่สาขาแรก

โดยบีดีเอส สยามพารากอนมีพื้นที่กว่า 300 ตารางเมตร เป็นช็อปบอดี้เชพที่มีพื้นที่มากสุด ซึ่งบริษัทใช้งบรีโนเวต พร้อมซื้ออุปกรณ์เครื่องมือใหม่ทั้งหมดราว 10 ล้านบาท โดยจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายนนี้ และมีแผนขยายสาขาอีก 3 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัล ลาดพร้าว (เปิดในปีนี้) และในย่านบางนา และบางแค เพื่อให้บริการครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศ

"กลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ และสมาชิกของบอดี้เชพเดิมที่ต้องการจะเสริมบริการด้านสุขภาพ ซึ่งปัจจุบันมีส่วนหนึ่งทยอยย้ายมาใช้บริการที่นี่ หลังจากที่เปิดให้บริการตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา พบว่าได้รับกระแสตอบรับที่ดี เพราะไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันจะเน้นการป้องกันโรคภัยมากกว่า การรักษา"

สำหรับรูปแบบการให้บริการของบีดีเอสฯ จะเน้นการให้คำปรึกษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ในเรื่องของการดูแลสุขภาพ การใช้เซลล์บำบัด , บริการ IntraVenous Nutrition Therapy , การดูแลผิวหน้า , Botox , Filler , Rejuvenation เป็นต้น ธุรกิจลดน้ำหนักขาลง บอดี้เชพยกเครื่องตั้งศูนย์ชะลอวัย‘บีดีเอส เซลเธอราฯ

นางปราณี กล่าวอีกว่า ด้านกลยุทธ์การทำตลาด บริษัทจะเน้นสร้างแบรนด์ใหม่ คือ บีดีเอส เซลเธอรา เซ็นเตอร์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และให้ความรู้ในเรื่องของการดูแลสุขภาพ แทนการใช้ยา โดยบริษัทมีแผนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการหลังเดือนมิถุนายนนี้ พร้อมกับแผนการทำตลาดที่ชัดเจนขึ้น นอกจากนี้บริษัทมีแผนต่อยอดธุรกิจด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ความงามออกวางจำหน่าย อาทิ เซรั่ม, Growth factor เป็นต้น โดยรูปแบบการให้บริการจะขึ้นอยู่กับสุขภาพและความต้องการในการดูแลของแต่ละบุคคล โดยสามารถเลือกซื้อคอร์สได้ โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้การดูแลเป็นรายบุคคล ซึ่งรูปแบบการให้บริการจะแตกต่างกับโรงพยาบาล รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ที่นำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด ขณะที่ราคาไม่แตกต่างกันและให้ความรู้สึกที่ดีกว่า เมื่อไปโรงพยาบาลที่เหมือนเป็นผู้ป่วย

"เมื่อลูกค้าเริ่มรู้จักแบรนด์ และรู้ว่าเป็นของบอดี้เชพ จะทำให้เข้าใจและมีความเชื่อถือมากขึ้น อีกทั้งจากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มกลับมาคึกคัก ทำให้เชื่อว่า กำลังซื้อและบรรยากาศโดยรวมจะเริ่มกลับมา โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคระดับบน และผู้สูงวัย"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่