ความรู้สึก...เมื่อพ่อของเราถูกตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง!!

สวัสดีค่ะ ขอเกริ่นก่อนนะคะว่าเราสมัครเป็นสมาชิกพันทิปมาได้ซักระยะหนึ่งแล้ว... แต่ไม่เคยล็อกอินมาตั้งกระทู้เลย วันๆเราได้แต่สิงอ่านกระทู้คนอื่นๆ จนในที่สุดเราก็ได้มีโอกาสมาตั้งกระทู้จนได้...ซึ่งหากเป็นไปได้ ก็ไม่อยากให้มีเหตุการณ์ จนต้องมีโอกาสมาตั้งกระทู้เลยค่ะ แต่เราก็อยากระบาย แชร์ประสบการณ์ และสอบถามข้อมูลกับท่านผู้รู้ทั้งหลายในพันทิปเพิ่มเติมด้วยค่ะ

9/3/2560
วันนั้นเราก็ตื่นนอน แต่งตัว ออกจากบ้าน เพื่อไปทำงานที่บริษัทตามปกติ และเมื่อตอนช่วงสายๆของวัน แม่ก็โทรศัพท์มาหาเรา เพื่อจะบอกว่าพ่อมีอาการปวดท้องมากจนทนไม่ไหวจะพาไปโรงพยาบาล ซึ่งเราต้องขอแจ้งก่อนว่า พ่อเรามีอาการปวดท้องมาราวๆอาทิตย์กว่า ถึงสองอาทิตย์แล้ว และก่อนหน้าที่แม่จะพาพ่อไปโรงพยาบาล พ่อก็ได้ไปหาคุณหมอที่คลินิกแถวบ้าน คุณหมอท่านเช็คอาการคร่าวๆ ก็เกรงว่าอาจเป็นพังผืดในท้อง เนื่องด้วยพ่อของเราเคยทำการผ่าตัดที่กระเพาะและลำไส้มาก่อน คุณหมอจึงให้ยามาทานและแนะนำให้ออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย แต่อาการของพ่อก็ไม่ดีขึ้น พ่อก็ไปหาคุณหมอที่คลินิกเดิม ท่านก็ให้ยามาทาน พร้อมแนะนำว่าหากไม่ดีขึ้น ให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลดีกว่า เรากับแม่ก็นัดแนะกันว่าในวันหยุดสุดสัปดาห์ จะพาพ่อไปตรวจกับคุณหมอที่เคยรักษาอาการลำไส้แปรปรวนให้กับคุณแม่ แต่ปรากฏว่าพ่อปวดท้องมาก จนไม่สามารถนั่งรถไปถึงโรงพยาบาลที่แม่เคยทำการรักษาได้ เพราะบ้านเราอยู่แถวสมุทรปราการ แต่โรงพยาบาลที่แม่เคยรักษาตัวจะอยู่ที่กรุงเทพฯ ย่านบางรัก แม่จึงพาพ่อไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนที่เราเคยมารักษาประจำ โรงพยาบาลอยู่แถวบางนาใกล้ๆกับห้างเซ็นทรัลบางนา

พอซักช่วงเที่ยงกว่าๆ แม่เราก็โทรเข้ามาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงสั่นๆ แม่บอกว่าพ่อได้ทำการ X-Ray คอมพิวเตอร์ และคุณหมอพบว่าตับของพ่อนั้นมีก้อนเนื้อนาดใหญ่ปรากฏอยู่ เราก็แนะนำว่าให้ใจเย็นๆก่อนเพราะคุณหมอยังไม่ระบุเลยว่ามันเป็นเนื้องอก หรืออะไร ซึ่งในใจเราก็ได้แต่ภาวนาว่าขอให้เป็นแค่เนื้องอกเฉยๆ ขอให้ไม่ใช่เนื้อร้าย แต่ความหวังของเราก็พังลง เมื่อแม่เราโทรมาหาเราอีกครั้งตอนเที่ยงกว่าๆเกือบจะบ่ายโมง แม่บอกว่าคุณหมอระบุแล้วว่าเป็นเนื้อร้าย และอาจไม่สามารถทำการผ่าตัดได้ แต่คุณหมอท่านที่คุยกับแม่ก็ได้แนะนำว่าให้ลองติดต่อคุณหมออีกท่านหนึ่ง ซึ่งเชี่ยวชาญในด้านนี้โดยเฉพาะ หากคุณหมอท่านนี้มองว่าสามารถผ่าตัดได้ ก็สามารถผ่าเพื่อยืดชีวิตพ่อได้ โดยคุณหมอท่านนี้จะเข้ามาช่วงบ่ายสามโมง และแม่ก็บอกเราว่าแม่ไม่ไหวแล้ว ไม่สามารถที่จะอยู่คนเดียวได้ เมื่อเราทราบข้อมูลจากแม่ เราก็ขออนุญาตพี่ที่บริษัทลาครึ่งวันทันที และรีบไปที่โรงพยาบาลเพื่อจะไปอยู่เป็นเพื่อนแม่ และพบกับคุณหมอเพื่อฟังข้อมูลด้วยค่ะ

เดี๋ยวเรามาต่อนะคะ พอดีต้องขอไปเฝ้าดูอาการของคุณพ่อก่อนค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่