เกือบโดนจับที่ดูไบ เพราะช่วยเหลือคนไทยที่ไม่รู้จัก [ทำให้ได้บทเรียนว่า อย่าขี้สงสาร และ หลีกเลี่ยงการคุยกับคนแปลกหน้า]

สองอาทิตย์ก่อนเรากับแฟนเดินทางไปเที่ยวประเทศอังกฤษเป็นครั้งแรกและเป็นการเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกของเราทั้งคู่ค่ะ
เราเป็นคนชอบพกสมุดและปากกาหลายๆด้าม หลายๆสี เผื่อเอาไว้จดอะไรที่มันจำเป็นหรือวาดรูปเล่นตอนอยู่บนเครื่องบินนานๆ
และพอไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนผ่านเข้าไปในเกท ก็ไปเขียนใบตมไทย

ตอนเรากำลังยืนกรอกรายละเอียดอยู่ตรงเคาท์เตอร์กับแฟนสองคน มีผู้หญิงไทย 3 คน เดินจะเข้ามากรอกเหมือนกัน
ระหว่างที่ต่างคนต่างกรอก เราก็ไม่ได้สังเกตุอะไรมาก แต่มีพี่ผู้หญิง 1 คนในนั้น บอกว่า ปากกาตรงเคาท์เตอร์ เขียนไม่ค่อยติดเลย
เค้าขอยืมต่อจากเราได้มั้ย เราเลยเอาปากกาที่พกมาหลายๆด้าม ยื่นให้เค้าไปค่ะ พอเค้าหยิบไป ก็ยังยืนนิ่งๆมองเรากรอก
เหมือนจะไม่แน่ใจว่าต้องกรอกยังไงบ้าง แล้วจากนั้นพี่ผู้หญิงอีก 2 คนที่เค้ามาด้วยกัน ก็มายืนออ ข้างๆเรา และขอยืมปากกาเราทั้ง 2 คน
สรุปว่าทั้งสามคนขอยืมปากกาจากเราทุกคน

พอเราหยิบปากกาเราให้ พี่ๆเหล่านี้บอกว่า ไม่เอา จะขอยืมต่อด้ามที่เราเขียน (ทั้งที่ด้ามที่เรายื่นให้ ก็เป็นปากกาสีเหมือนกัน)
แล้วพวกเค้าก็ยืนเหมือนรอปากกาเราอยู่อย่างนั้น แฟนเราที่กรอกๆอยู่ ลองเอาปากกาที่เค้ามีไว้ให้ที่เคาท์เตอร์ลองกดๆ และเขียนดู
มันก็เขียนติดนะคะ แต่พวกเขากลับบอกว่าเขียนไม่ติด พอเรากรอกเสร็จ เราเลยยื่นปากกาที่เคาท์เตอร์ให้เค้า
และขอปากกาจากพี่คนแรกคืน แต่เค้าดึงมือเราไว้ และบอกว่า กรอกให้พี่พวกพี่หน่อย พวกพี่ไม่เข้าใจว่าต้องกรอกยังไง
เลยไม่กล้ากรอก กลัวมันจะผิด (ทำเสียงอ้อนกันมากๆ) เราเลยชี้ให้ดูใบตัวอย่างการกรอกที่แปะอยู่ตรงนั้น บอกให้เค้ากรอกตามนั้นได้เลย
เค้าก็บอกว่า ลอกตามนี้เลยหรอ เราก็บอกว่าไม่ใช่ลอก แต่ให้กรอกที่เป็นข้อมูลเค้า ชื่อภาษาอังกฤษ ชื่อเที่ยวบิน ฯลฯ
ดูตามตัวอย่างนี้เลย ภาษาไทยมันก็มีบอกอยู่ เราก็ชี้ๆบอก

แต่สรุปว่า พวกเค้าเขียนตัวอักษรภาษาอังกฤษกันไม่เป็นเลยค่ะ แม้กระทั่งชื่อของตัวเอง และไม่รู้แม้กระทั่งไฟล์ทบินของตัวเอง
เราก็ งงๆ อยู่เหมือนกัน แต่ตอนนั้นคิดว่า พวกพี่ๆกลุ่มนี้เค้าคงไปเที่ยวกับทัวร์หล่ะมั้ง
แต่ทำไมไม่มีหัวหน้าทัวร์หรืออะไรมาช่วยจัดการเรื่องนี้ให้หล่ะ ฯลฯ ไอ้เราก็ไม่เคยไปเที่ยวกับทัวร์เลยไม่รู้
ตอนนั้นคิดว่าพวกเค้าคงอยากเข้ามารอในเกทกันก่อนรึเปล่าหว่า
แฟนเราเลยถามไปว่า พวกพี่ไปเที่ยวกับทัวร์กันหรอ แต่เค้าบอกว่าไม่ใช่ค่ะ เค้าจะไปเที่ยวกันเองที่ประเทศบาห์เรน หืมมมม
เรากับแฟนก็ อึ้งๆ คือถ้าไปเที่ยวกันเองจริงๆ มันจะต้องรู้ข้อมูลพื้นฐานของตัวเองแล้วก็น่าจะต้องเตรียมตัวกันมาบ้างหล่ะนะ

แล้วพี่เหล่านั้น ก็พูดเชิงขอร้องเราว่า กรอกใบ ตม ให้เค้าหน่อย เค้าเขียนไม่ได้เลย เค้าบอกว่า เพื่อนเค้าที่อยู่ที่บาห์เรนตอนนี้
ก็เคยให้คนอื่นกรอกให้ได้ ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ไอ้เราก็แบบ เฮ้ออ จะเดินหนีก็ช่างกระไร
แฟนเราเลยบอกว่า กรอกไปให้เค้าเถอะ แป็บเดียว สงสารเค้า  ***ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่งค่ะ***

แล้วเค้าก็เหมือนจะแย่งกันให้เรากรอก แต่ละคนหยิบพาสปอร์ตและตั๋วเครื่องบินขึ้นมาให้เรา ทับกันไปมา
เราก็งงว่า แย่งกันทำไมเนี่ย แปลกจัง เราเลยกรอกให้ทั้งสามคนค่ะ เลยจำข้อมูลได้แม่นมาจนถึงวันนี้ค่ะ
และดีหน่อยที่พี่คนแรก ยังกรอกชื่อตัวเองได้บ้าง แต่ช้ามาก กว่าจะเขียนได้แต่ละตัว
และตอนเรากรอกให้ เค้าก็เล่าโน่นเล่านี่ให้เราฟัง ว่าทำไร่มันเสร็จ เลยมีตังค์ไปเที่ยวกัน ถามเราว่าไปเที่ยวไหน เราก็ตอบเค้าไป บลาๆๆๆ
คนที่ 1 มาจากนครราชสีมา อายุ 48 ปี
คนที่ 2 มาจากสุรินทร์ อายุ 45 ปี
คนที่ 3 มาจากศรีสะเกษ อายุ 43 ปี
เห็นข้อมูลแล้วแปลกๆไหมคะ เราก็รู้สึกแปลกๆค่ะ เค้าบอกว่าเป็นเพื่อนกัน ไปเที่ยวด้วยกัน
แต่เลือกไปเที่ยวประเทศบาห์เรนเป็นประเทศแรกเนี่ยนะ แล้วตอนเค้าคุยกัน ก็ดูเหมือนคนไม่สนิทกันเลยค่ะ เรียกกันดูห่างเหิน
เรียกกันว่าคุณ ก็ทำอย่างนั้นสิ อย่างนี้สิ คุณเตรียมมารึเปล่า ฯลฯ ตอนเรากรอกเอกสารให้ ก็ดูแย่งๆกันยื่นมาให้เรา
และในมือทุกคนถือกระดาษปริ๊น a4 สีขาวค่ะ เราเห็นคร่าวๆว่าเป้นข้อมูลในการแนะนำตัวเอง และการตอบคำถามทั่วๆไป
ภาษาอังกฤษที่เป็นคำอ่านไทยค่ะ เช่น มาย เนม อิส บลาๆๆ
แล้วมาแจ็คพอร์ตตอนเห็นไฟล์ทบินค่ะ เค้าขึ้นไฟล์ทเดียวกันเรา (EK) ไปเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบเหมือนกัน
พอเขียนให้เสร็จ เราก็รีบเดินไปต่อแถวผ่านตม เข้าเกท

ตัดมาถึงตอนอยู่บนเครื่อง เค้านั่งแถวถัดจากด้านหลังเราไปสองแถว ตอนเราเดินไปเข้าห้องน้ำ เค้าก็ยิ้มและพยายามจะทักเราค่ะ
เราก็ยิ้มให้ปกติ พอเราเดินไปห้องน้ำอีกรอบ พี่คนนึงเค้าก็ตามเรามา และถามว่าใช้ยังไง ให้สอนเค้าหน่อย

พอมาถึงสนามบินดูไบ ที่ความซวยบังเกิดค่ะ T_________________T
เราต้องรอเปลี่ยนเครื่องที่นี่ประมาณ 4 ชั่วโมง พอผ่าน security check ก็เข้ามานั่งรอในเกท
นั่งอยู่สักพักใหญ่ๆ ก็มีเจ้าหน้าที่เดินเข้ามาหา เราโค-ตร ตกใจเลยค่ะ ว่าเกิดอะไรขึ้น เราทำอะไรผิดกฎระเบียบวินัยของเค้ารึเปล่านะ
เค้าบอกว่าขอเชิญคุณทั้งคู่ไปสอบสวนหน่อย เราก็พยายามถามเค้าว่าเกิดอะไรขึ้น
พอเข้าไปในห้อง มีเจ้าหน้าที่หุ่นกำยำตัวใหญ่ ผิวเข้ม ยืนคุมอยู่ 2 คน คนสอบสวน 1 คน พูดภาษาอังกฤษ ล่าม 1 คน พูดอังกฤษและไทยได้
และยังไม่พอ พี่คนไทย 3 คนนั้นก็นั่งอยู่ในห้องนี้ด้วยค่า หึหึ
พอเค้าเห็นเรา เค้าก็พูดว่า น้องๆ น้องคะ ช่วยด้วย พี่ฟังไม่รู้เรื่อง ฟังไม่ออก ฯลฯ เอะอะโวยวาย เสียงดังมาก
ทั้งสบถเป็นภาษาอีสาน อีกคนก็ร้องไห้  เฮ้อออออ เจ้าหน้าที่เลยบอกให้ 3 คนนั้นเงียบๆ
เค้าถามเรากับแฟนว่า พูดภาษาอังกฤษได้มั้ย ต้องใช้ล่ามภาษาไทยมั้ย เรากับแฟนก็บอกว่า พูดได้
เค้าก็ถามเราเป็นชุดๆ ถามเยอะมาก ใน 1 คำถามที่เป็น yes or no จะถามซ้ำ 2 รอบ เราจะย่อรวมๆคร่าวๆนะคะ
หลักๆเลยคือ รู้จักคนไทย 3 คนนั้นมั้ย เป็นญาติกันมั้ย เราก็ปฏิเสธไปทุกอย่าง เค้าขอพาสปอร์ตเราไปดู ในนั้นมีใบ ตม ไทยขาเข้าแนบอยู่
เค้าก็เอาไปเทียบกับของ 3 คนนั้นค่ะ เค้าบอกว่า ลายมือเหมือนกันมาก ไม่รู้จักกันแล้วทำไมต้องเขียนให้กัน
เราก็ตอบไปตามความจริงค่ะ ว่า 3 คนนั้นเขียนไม่ได้ เลยวานให้เราเขียนให้ ก็พยายามยืนยัน ว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง ไม่ได้รู้จักกัน

แต่เจ้าหน้าที่บอกเราว่า ทั้ง 3 คนนั้น ให้ข้อมูลว่า รู้จักเรา เค้าบอกกับล่ามว่า เราอ่ะเป็นหลานเค้า อยู่หมู่บ้านเดียวกัน เวรแท้!
แล้วเจ้าหน้าที่คนที่สอบสวนแจ้งว่า หญิงไทย 3 คนนั้น ถูกต้องสงสัยว่าจะแอบไปขายบริการทางเพศ
มีการตรวจพบสิ่งของต้องสงสัยที่บ่งชี้ว่าจะมาทำเรื่องอย่างว่า ในกระเป๋าหลายอย่าง แต่ไม่มีเอกสารยืนยันความถูกต้องที่เชื่อถือได้
แต่เราก็ไม่ได้ถามเค้านะคะว่ามันคืออะไร เค้าก็ถามย้ำกับเราอีกหลายๆรอบว่า คุณแน่ใจนะ ว่าไม่รู้จักกัน
รู้รึเปล่า ว่าเรื่องอย่างนี้มันผิดกฎหมายบ้านเค้า แม้จะเป็นการแวะ transit ก็ตาม แต่ของบางอย่างก็เอาผ่านไปไม่ได้  ฯลฯ

พอคุยกันเสร็จ แฟนก็เราเข้าไปต่อว่าพวกพี่ๆเหล่านั้นนิดนึง ว่า ทำไมไปพูดแบบนั้นอ่ะ ไปโกหกเค้าทำไม เกือบจะซวยไปด้วยเลย
เค้าก็ร้องห่มร้องไห้กัน ขอให้เราช่วยหน่อย โห จะให้พวกตูโกหกเจ้าหน้าที่หรอเนี่ย นี่ก็ยังเกือบจะเอาตัวเองไม่รอดเลยนะ
แต่เราก็ไม่รู้ว่า ที่พวกพี่ 3 คนนั้นโดนคุมตัว เค้าพกอะไรมา ถึงถูกรวบสามขนาดนี้ จากนั้นเรากับแฟนก็ถูกปล่อยตัวออกมาจากห้องนั้น
เกือบซวยเพราะคนอื่นจริงๆ ดีที่รอดมาได้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
จริงๆแล้ว เรื่องการกรอกใบ ต.ม. ให้ บุคคลอื่น ไม่ใช่เรื่องแปลก หรือ ผิดอะไรนะครับ

เพราะบนเครื่อง ผู้โดยสารที่กรอก ภาษาอังกฤษ ใน immigration form เข้าในต่างประเทศไม่เป็น/ไม่ได้...  แอร์-สจ๊วตบนflight ก็ช่วยเหลือกรอกให้ทั้งหมด เป็นเรื่องปกตินะครับ

ตามบริษัท รถทัวร์ รถตู้ ไปมาเลย์ ไปเขมร เจ้าหน้าที่ บ.รถ ก็กรอกใบ ต.ม ให้ผู้โดยสารทั้งหมด เหมือนกัน

ที่เจ้าหน้าที่ต.ม ของทาง UAE มาเชิญ คุณ จขกท ไป น่าจะเป็นเพราะ ทางคุณป้า3ท่านนั้น พูดซี้ซั้ว "ทู-เก-เต้อ ๆ ๆ"  (together) ทาง จนท เลยนึกว่า มาด้วยกัน รู้จักกัน อะไรแบบนั้น เลยเรียกไปสอบถาม สอบสวนซะมากกว่านะครับ

เรื่องการเขียนใบ ต.ม ให้กัน ไม่ใช่ประเด็นหลักหรอกครับ
ความคิดเห็นที่ 22
ก็คงมีอยู่สองอย่างคือคำกล่าวอ้างว่าเป็นหลานกับลายมือที่เหมือนกัน มันเลยดูมีน้ำหนัก ผมนั่งนึกถ้าจขกท.ไปคนเดียวไม่ได้มีแฟนไปด้วย เรื่องอาจจะยาวกว่านี้ก็เป็นได้
ความคิดเห็นที่ 15
ไม่ต้องไปสงสาร สามคนนั้นสมควรโดนแล้วละ คุณคิดดูเค้าไม่สนใจว่าลากคุณเข้ามาประวัติคุณจะเสียหรือไม่ หรือคุณจะโดนอะไรคนเห็นแก่ตัวอ่ะครับ เลว.. ปล่อยสามตัวนั้นไปเหอะครับ คนพวกนี้ไม่ไช่หรอที่ทำให้วีซ่าขอยากขอเย็น
ความคิดเห็นที่ 59
พ่อเราเวลาเจอคนแบบนี้ก็ชอบไปช่วยเค้า เราบอกว่าอย่าไปยุ่งก็ว่าเราไม่มีน้ำใจ
คือเราไม่อยากมีปัญหา พ่อเราก็ประเภทไม่รู้เหนือรู้ใต้ บางทีเราก็รำคาญมาก
ถ้าพ่อบอกให้ช่วย เราก็เทพ่อเลย พาแม่เดินหนี พ่อทำไรไม่ได้เพราะพูดอิ้งไม่ได้ก็ต้องตามเรามาเอง
เบื่อคนพวกนี้มาก ทำผิดกฎหมายเองไม่พอ ยังจะลากคนอื่นให้ซวยไปด้วยอีก โคดน่ารังเกียจเลย
ความคิดเห็นที่ 84
น่าเศร้าว่า บางคนั้งเป็นเรื่องที่คนไทยตาดำๆ เหมือนกันกับเรา ต้องการความช่วยเหลือจริงๆ แต่เพราะการที่เราต้องป้องกันตัวเอง เลยทำให้เราเหมือนคนแล้งน้ำใจ เย่อหยิ่ง มองข้ามหัวคนไทยด้วยกัน
แต่ตัวดิฉันเองก็ระวังแต่เรื่องที่ไม่รับฝากถือของ เคยเจอคนไทยที่ต้องเดินทางคนเดียว และ Transit ที่ Frankfurt เพราะสนามบินมันใหญ่มาก และภาศาอังกฤษเค้าไม่แข็งแรง แถมอาจจะตกเครื่อง เค้าจะร้องไห้อยู่แล้ว เราพอมีเวลา ก็เลยช่วยพาไปแจ้งพนักงาน อธิบายวิธีเดินไป Gate และขอให้พนักงานช่วยพาไปผ่าน ตม และไป Gate เพราะหากให้เค้างมไปเอง คงตกเครื่องแน่นอน

บางครั้งเราก็ต้องพิจารณาเอาเอง ว่าเราจะสามารถช่วยเหลือเต้าได้แค่ไหน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่