คำเตือน : แพลนการเดินทางของ จขกท. ไม่ได้สมบูรณ์แบบและเหมาะสมกับทุกคนหรือทุกสถานการณ์ เพราะ จขกท. เองก็แพลนผิดพลาดในหลายจุด อีกทั้งหลงทาง เดินมั่ว จนไม่สามารถท่องเที่ยวได้ตามตั้งใจ รวมถึงมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นโดยไม่จำเป็น ซึ่งจะเล่าในเนื้อหาต่อไป ฉะนั้น จงอย่าคิดว่าสิ่งที่ จขกท. เล่าบอกนั้นถูกต้องทั้งหมด และ/หรืออย่าเชื่อทั้งหมดในเรื่องที่คนอื่นๆ บอกต่อมา หรือแม้แต่จะเชื่อเพียง GoogleMap, GPS ฯลฯ จงใช้ข้อมูลหลายๆ ด้านประกอบกัน แล้วจงออกแบบการเดินทางของคุณเอง จงเชื่อมั่นในวิถีการเดินทางของตนเอง จงพึ่งเข้าใจว่าว่า “การหลงทางเป็นประสบการณ์สำหรับนักเดินทางทั่วไป ฮ่าๆๆๆ"

ตอนที่ 1 ออกเดินทาง https://pantip.com/topic/36220857
ตอนที่ 2 ตะลุย Osaka https://pantip.com/topic/36455601
ตอนที่ 1 ออกเดินทาง
ย้อนไปราวๆ 6 เดือนก่อนเดินทาง ขณะที่นั่งเล่นเฟสบุ๊คไปมาอยู่นั้น สายตาก็ไปสะดุดโป๊ะ!! เข้าให้กับโปรสุดเด็ดที่เพจรวมโปรโมชั่นเพจหนึ่งเอามาโพสต์ไว้ “บินญี่ปุ่นแบบฟลูเซอร์วิสไป-กลับ ราคาเริ่มต้นที่ 8,200 บาท รวมทุกอย่างแล้ว สายการบินเวียดนามแอร์ไลน์.....” “เห้ยยยยย....ถูกว่ะ” จขกท. อุทานอย่างดัง (จริงๆ อุทานไพเราะกว่านี้ ฮ่าๆๆ) หลังจากตั้งสติพักหนึ่ง ก็กดเข้าไปดูข้อมูล....แต่ยัง....ยังไม่จองรอดูอีก 2-3 วันแล้วกัน เมื่อเวลาผ่านไปเข้าสู่วันที่ 3 จขกท. ยังนั่งหาข้อมูลต่อไป จนมารู้ตัวอีกทีก็เมื่อมีเมล์มาแจ้งการ Booking พร้อมยอดตัดบัตร มือมันลั่นกดจองไปเสียแล้ว....

ทำไงล่ะ ต้องดึงสติกลับมาก่อน อ้าวเฮ๊ย...ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่น่า...ไม่ใช่เพลง...!! นึกได้พาสสปอร์ตก็ยังไม่ทำ แพลนเที่ยวก็ไม่มี แต่จองตั๋วไปแล้ว ทำไงล่ะเริ่มตรงไหนดีฟร่ะ!!! ทำแพลนเที่ยว เอกสารประกอบการเดินทาง ค้นแผนที่เส้นทางรถไฟ Hyperdia จองพาสรถไฟ ตั๋วรถบัส จองที่พัก/ยกเลิกที่พัก/จองที่พักใหม่ ซื้อเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าเดินทาง รวมถึงไปเดินงานท่องเที่ยวญี่ปุ่นฯ ที่จัดตามห้างต่างๆ อ่านข้อมูลรีวิวในพันทิป กระทู้ บล็อก เว็บบอร์ด เพจเฟสบุ๊ค เช็คสภาพอากาศ ข้อมูลการต่อเครื่อง ข้อมูลฉุกเฉิน ฯลฯ เอาเป็นว่าเราจะข้ามช่วงวุ่นวายนี้ไปเลยแล้วกัน รู้แค่ว่า จขกท. วุ่นวาย ปวดหัว เครียด ตื่นเต้น กังวล กินไม่ได้นอนไม่หลับ กระส่ายกระสับ ตลอดช่วง 5 เดือนกว่าก็แล้วกัน........จริงๆ ต้องขอบคุณข้อมูลในกระทู้พันทิป เพจรวมพลคนไปญี่ปุ่น องค์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น (JNTO) และอีกหลายเพจท่องเที่ยวญี่ปุ่น (ถ้าจะเอ๋ยคงยาวมากมาย) ที่เป็นแหล่งข้อมูลให้ จขกท. สำหรับทริปนี้ครับ
เกริ่นมายาวแล้วเข้าเรื่องเลยดีกว่า....ตัดภาพมาที่วันแรกของการเดินทาง….

จขกท. เดินทางด้วย เวียดนามแอร์ไลน์ (VN) ฉะนั้นเราต้องต่อเครื่องที่โฮจิมินห์ เวียดนาม เส้นทางดังนี้ BKK (สุวรรณภูมิ) - SGN (Tân Sơn Nhất) - NGO (Chubu Centrair int’l Airport) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เรามา check in กันที่แถว L สำหรับการบริการภาคพื้นที่ของ VN จะให้การบินไทยจัดการให้ครับ ขั้นตอนตอนนี้ พนง. จะให้ Boarding Pass มา 2 ใบ ใบแรกสำหรับ BKK – SGN ใบที่สอง SGN – NGO ใบนี้เราต้องเก็บไว้ให้ดีนะครับ ย้ำว่าอย่าให้อันตธานไปไหน (เดี๋ยวเล่าเหตุให้ฟังตอนท้าย) จากนั้นเดินอาดๆ ไปเลยครับ เข้าสู่กระบวนการขั้นตอนของ ตม. ตรวจเอกสารเดินทาง บันทึกข้อมูลบุคคล ตามขั้นตอนปกติของการออกนอกประเทศ สำหรับสายการบินแห่งชาติเวียดนามนี้ เป็นแบบฟลูเซอร์วิส สัมภาระโหลดได้ 30 Kg. เลือกที่นั่งได้ และมาพร้อมอาหารบนเครื่อง สำหรับท่านที่ต้องการเดินเล่น เข้าเลานจ์ หรือหาของทาน ก็เผื่อเวลากันสักนิดนะครับ สำหรับเราใช้สิทธิ์แลกชุดอาหารฟรีจากบัตรทรูเรดการ์ดและบัตรเครดิตซิตี้ เพื่อรองท้องระหว่างรอขึ้นเครื่อง

19.20 น. พนง. ก็เชิญเราขึ้นเครื่อง Airbus A321 ที่นั่งแบบ 3-3 ต่อแถว สำหรับที่นั่งนั้น เราเป็นชายบอบบางร่างน้อย เลยไม่ได้รู้สึกอึดอัด อะไรมานัก แต่จะลำบากตอนลุกไปเข้าห้องน้ำนั่นแหละ ใครเข้าห้องน้ำบ่อยแนะนำเลือกริมทางเดินดีกว่าครับ ถ้าไม่เน้นต้องชมวิวแสงแรกยามเช้า จริงๆถือว่าที่นั่งไม่ได้สบายอะไรนักและก็ไม่ได้อึดอัดจนเกินไป สำหรับการนั่ง 4-5 ชั่วโมง

แวะมาหมวดอาหารบนเครื่องกันสักนิด เนื่องจากตอนจองเราสั่ง Special Meal ไปเป็นซีฟู้ด คุณแอร์ก็จะมาถามเราเพื่อยืนยันก่อน จากนั้นนำอาหารมาเสิร์ฟให้เราก่อนใครเพื่อน เมนูแรกของเราครั้งนี้เป็น เนื้อปลารมควันเสิร์ฟกับเลมอนและผักเคียง มีปลาอยู่ 2 ขนิด (ไม่รู้ปลาอะไร ใครรู้บอก จขกท. ด้วย) ผลไม้ และขนมปัง+เนย ขนมปังเสิร์ฟแบบอุ่นๆนะแต่แข็งไปหน่อย หากคาดหวังความอิ่มนั้นหามีไม่...ฮ่าๆ แต่ถ้าใครรับเมนูแบบปกติจะเสิร์ฟเป็น แฮม สลัด ขนมปัง+เนย และผลไม้

การเดินทางจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก็ถึงสนามบิน Tân Sơn Nhất โฮจิมินท์ ประเทศเวียดนาม การต่อเครื่องที่นี่เป็นแบบบัสเกท ที่จะมีรถบัสรับส่งเราไปที่เครื่องอีกต่อหนึ่ง สนามบินที่นี่เราจะเห็น จนท. ใส่ชุดคล้ายทหารตามจุดต่างๆ ส่วนการต่อเครื่องก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรครับ เดินตามป้าย “TRANSFER COUNTER” จะมีเคาน์เตอร์อยู่ด้านหน้าและเป็นประตูเล็กๆ ให้ผ่านเข้าไป สังเกตกันให้ดีนะครับ หรือพยายามเดินตามเกาะกลุ่มคนที่จะ Transfer ด้วยกันไปจะดีเลย เมื่อผ่านประตูเข้าไปจะพบเครื่องตรวจสแกนกระเป๋าและ จนท. (เหมือนทหาร) คอยตรวจเอกสาร



ภาพภายในอาคารสนามบิน Tân Sơn Nhất ซึ่งสะดวกสบายพอตัวนะครับ มีร้านค้าขายของเยอะเหมือนกัน และยังมีสลิปโซน (Z sleep zone) ด้วยนะครับ โดยจะอยู่ใกล้กับ Gate 26-27 สุดทางเดินของอาคารเลยครับ ขาไปมีเวลารอต่อเครื่องประมาณ 3 ชม. เลยไม่ได้ใช้บริการ แต่ตอนขากลับเรามาอาศัยนอนค้างที่นี่แหละครับ
นอนฟรี มีปลั๊กไฟให้ชาร์ตอุปกรณ์ เรานั่งๆ นอนๆ เล่นรอต่อเครื่องอยู่แถวบริเวณ Gate เลย เพื่อที่จะได้เห็นความเคลื่อนไหว ที่สนามบินนี้มี Wifi ให้ใช้บริการฟรี ซึ่งการใช้งานก็ง่ายๆ ไม่ต้องใส่รหัสอะไรให้วุ่นวาย เพียงเปิด wifi แล้วเชื่อมต่อก็ใช้งานได้ทันที ความเร็วใช้ได้เลยนะ ลอง Video Call ไปหาคนที่บ้านเพื่อรายงานความเคลื่อนไหวได้แบบสบายๆ

ได้เวลาออกเดินทางต่อแล้ว โดยออกเดินทางตรงเวลาครับและเป็นบัสเกทเช่นเดิม คราวนี้ยังคงเป็นเครื่อง Airbus A321 แบบ 3-3 ที่นั่ง เพิ่มหมอน ผ้าห่ม หูฟังไว้ให้ฟังเพลง จากนั้นเราก็นอนพักเอาแรงกันไป รอเจอแสงแรกที่นาโกย่ากันเลย แต่มันไม่เป็นเช่นนั้นครับคุณผู้อ่าน ช่วงเวลาแห่งการหลับใหลผ่านได้เพียง 3 ชั่วโมงกว่า พี่สจ๊วตแกก็เดินมาสะกิดหงึกๆ พร้อมพูดรั่วๆ ประมาณว่า “คุณสั่งสเปเชียลมีลไว้ใช่ไหม?? รับอาหารด้วย...พลีส” เรางัวเงีย ๆ มองนาฬิกา เชี๊ย!!! (อุทานในใจ) ตี 3 ครึ่ง ปลุกมากินข้าว (เข้าใจว่าตอนนั้นน่าจะข้ามเขตเวลาแล้วซึ่งก็คงประมาณตีห้าครึ่ง) พี่สจ๊วตแกยกถาดอาหารยื่นมาให้ หน้าตาเมนูดังภาพเลยจ้า

มื้อนี้น่าจะเป็น สปาเก็ตตี้เนื้อปลาผัดซอส รสชาติออกเค็มๆหน่อยแต่อร่อยดีนะ ผลไม้ ครัวซอง+เนย และ Nuti (ฝาสีเขียวๆ) ซึ่งมันคือโยเกิร์ตจืด ปล. ตอนแรกเคืองๆนะที่มาปลุกกินข้าว แต่ต้องบอกว่าสปาเก็ตตี้ปลานี้อร่อยใช้ได้เลย เลยหายโกรธ แถมมีเบียร์มีไวน์เสิร์ฟด้วยนะ แต่ไม่ได้กินอ่ะ พออิ่มหนำสำราญ ก็ขอหลับต่อสักงีบ ก่อนจะตื่นมาชื่นชมแสงแรกของแดนอาทิตย์อุทัย

วันแรก ถึงแล้ว....!! ญี่ปุ่น แต่ก่อนออกเที่ยวเราต้องหาทางออกจากสนามบินกันก่อนนะจ๊ะ จุดแรกที่เราจะต้องทำคือ กระบวนการทาง ตม. เริ่มจากการกรอกรายละเอียด DISEMBARKATION CARD (สายการบินแจกให้ตั้งแต่บนเครื่อง) แนบพร้อม Passport แล้วยืนต่อแถวได้เลยจร้า อ้อ...เตรียมเอกสารต่างไว้ให้พร้อมกรณี จนท.ตม. ขอดูนะจ๊ะ เช่น ใบจองตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก แผนการเดินทาง ของ จขกท. เนื่องด้วยออกนอกประเทศครั้งแรกเลยตื่นคนนิดหน่อย ฮ่าๆ เตรียมมันทุกอย่างเป็นแฟ้มเลยจ้า เอาเข้าจริงๆ ไม่ได้ใช้สักอย่าง อาศัยแค่หน้าตาหล่อๆและยิ้มสยาม ตอบคำถามนิดหน่อยก็ผ่านได้สบายครับ
ส่วนใบ CUSTOMS DECLARATION เราก็กรอกนะ แต่ไม่ได้ใช้ จากนั้นก็ออกมารับกระเป๋า แล้วก็เดินเท่ๆ ฉีกยิ้ม พร้อมโบกไม้โบกมือออกมาเลย (เฮ๊ย!! ไม่ใช่แหละ..) จากนั้นเราตรงดิ่งไปห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน เปลี่ยนชุดที่เน่ามาทั้งคืนออก และใช้เวลาชื่นชมห้องน้ำสักพัก (ขอบอกว่าชอบห้องน้ำที่ประเทศนี้จัง มันดีไปซะทุกที กรุณาลืมภาพห้องน้ำสาธารณะแบบในบ้านเราไปได้เลยคุณผู้อ่าน)

เงยหน้ามองนาฬิกาแล้วเห็นว่ายังพอมีลั้นลาอีกนิดหน่อย เลยคว้า Pocket Wi-Fi มาเปิดเน็ต VDO Call ไปหาม่ามี้รายงานสถานะ ตามด้วยเช็คเฟสบุ๊คอัพเดทโพสต์ไปให้ชาวบ้านได้รู้ว่าตูมาถึงญี่ปุ่นแล้วนะ... สำหรับ Pocket Wi-Fi จขกท. เล่นเกมส์จากเพจหนีนายเที่ยว ได้เป็นโค๊ตส่วนลดมา 1,000 บาท ตอนจองก็จ่ายแค่ค่ามัดจำ ค่าประกัน ส่วนค่าเช่าตกวันละ 90 บาท ซึ่งคูปองส่วนลดเราครอบคลุมอยู่แล้ว สำหรับการใช้งาน 6 วันที่ญี่ปุ่นของทริปเรา แชร์อุปกรณ์กัน 4 เครื่อง สามารถใช้งานได้ครอบคลุมเลยและเน็ตเร็วมาด้วย เราก็ใช้กันได้ทั้งวันนะครับ แต่ไม่ได้เช็คปริมาณข้อมูลต่อวัน เพราะหลักๆใช้ค้นข้อมูลทั่วไป ใช้ Google Map แอพแปลภาษา เฟสบุ๊ค ไลน์ ยกเว้นแค่เรื่องแบตที่ใช้ประมาณบ่าย 2-3 โมงก็หมด ต้องมีพาวเวอร์แบงค์ติดไปด้วยครับ


แอบไปมองป้าม่วง TG ด้วยนะ ^^
ในระหว่างที่อยู่สนามบินเราได้มิตรสหายใหม่ที่ร่วมทางอีก 2 ท่าน เป็นพี่ที่น่ารักมากมาย สไตล์แบกเป้ลากเป๋าเที่ยวเองแบบเดียวกับพวกเรา โดยเรานั่งรถไฟจากสนามบินเข้าเมืองนาโกย่าด้วยกันแล้วจะไปแยกกันอีกทีเพราะพี่เค้าจะไปอีกเมืองหนึ่งก่อน


สำหรับการขึ้นรถไฟจุกแรกของเราก็ไม่ได้ยากอะไรนะ จะว่าไปง่ายพอๆกับนั่งแอร์พอร์ตลิงค์ BTS MRT บ้านเรานั่นแหละ เราใช้บริการตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ หาจุกหมายปลายทางจากป้ายด้านบนแล้วดูที่ราคา จากนั้นก็กดจำนวนเงินที่ตู้ เลือกจำนวนเงิน แล้วก็ใส่เงินตามจำนวนได้เลย แล้วตั๋วก็จะออกมา ตั๋วชุดนี้เราเลือกเป็นแบบธรรมดาไม่ระบุที่นั่ง สนราคาที่ 870 เยน จากนั้นเราเดินมาที่ชาละวัน !! เอ๊ยไม่ใช่ ชานชาลา ซึ่งรถไฟเทียบจอดรอเราอยู่แล้ว อย่างที่บอกไปมันคล้ายแอร์พอร์ตลิงค์นั่นแหละครับ แต่ดูดีกว่า

ระหว่างทางที่เราเดินมาขึ้นรถไฟเจอนินจาฮาโตริ....!! ไม่ใช่ๆ คือพี่แกแต่งชุดคอสเพลย์นินจาแล้วถือป้ายอะไรสักอย่างอ่านไม่ออก แล้วตะโกนสะเสียงดัง เดาๆว่าคง “ยินดีต้อนรับสู่เจแปน” มั้ง ฮ่าๆๆ
[CR] Japan Story : เมื่อหลวมตัวไปทัวร์ญี่ปุ่น Part 1
ตอนที่ 1 ออกเดินทาง https://pantip.com/topic/36220857
ตอนที่ 2 ตะลุย Osaka https://pantip.com/topic/36455601
ตอนที่ 1 ออกเดินทาง
ย้อนไปราวๆ 6 เดือนก่อนเดินทาง ขณะที่นั่งเล่นเฟสบุ๊คไปมาอยู่นั้น สายตาก็ไปสะดุดโป๊ะ!! เข้าให้กับโปรสุดเด็ดที่เพจรวมโปรโมชั่นเพจหนึ่งเอามาโพสต์ไว้ “บินญี่ปุ่นแบบฟลูเซอร์วิสไป-กลับ ราคาเริ่มต้นที่ 8,200 บาท รวมทุกอย่างแล้ว สายการบินเวียดนามแอร์ไลน์.....” “เห้ยยยยย....ถูกว่ะ” จขกท. อุทานอย่างดัง (จริงๆ อุทานไพเราะกว่านี้ ฮ่าๆๆ) หลังจากตั้งสติพักหนึ่ง ก็กดเข้าไปดูข้อมูล....แต่ยัง....ยังไม่จองรอดูอีก 2-3 วันแล้วกัน เมื่อเวลาผ่านไปเข้าสู่วันที่ 3 จขกท. ยังนั่งหาข้อมูลต่อไป จนมารู้ตัวอีกทีก็เมื่อมีเมล์มาแจ้งการ Booking พร้อมยอดตัดบัตร มือมันลั่นกดจองไปเสียแล้ว....
เกริ่นมายาวแล้วเข้าเรื่องเลยดีกว่า....ตัดภาพมาที่วันแรกของการเดินทาง….
ภาพภายในอาคารสนามบิน Tân Sơn Nhất ซึ่งสะดวกสบายพอตัวนะครับ มีร้านค้าขายของเยอะเหมือนกัน และยังมีสลิปโซน (Z sleep zone) ด้วยนะครับ โดยจะอยู่ใกล้กับ Gate 26-27 สุดทางเดินของอาคารเลยครับ ขาไปมีเวลารอต่อเครื่องประมาณ 3 ชม. เลยไม่ได้ใช้บริการ แต่ตอนขากลับเรามาอาศัยนอนค้างที่นี่แหละครับ นอนฟรี มีปลั๊กไฟให้ชาร์ตอุปกรณ์ เรานั่งๆ นอนๆ เล่นรอต่อเครื่องอยู่แถวบริเวณ Gate เลย เพื่อที่จะได้เห็นความเคลื่อนไหว ที่สนามบินนี้มี Wifi ให้ใช้บริการฟรี ซึ่งการใช้งานก็ง่ายๆ ไม่ต้องใส่รหัสอะไรให้วุ่นวาย เพียงเปิด wifi แล้วเชื่อมต่อก็ใช้งานได้ทันที ความเร็วใช้ได้เลยนะ ลอง Video Call ไปหาคนที่บ้านเพื่อรายงานความเคลื่อนไหวได้แบบสบายๆ
ได้เวลาออกเดินทางต่อแล้ว โดยออกเดินทางตรงเวลาครับและเป็นบัสเกทเช่นเดิม คราวนี้ยังคงเป็นเครื่อง Airbus A321 แบบ 3-3 ที่นั่ง เพิ่มหมอน ผ้าห่ม หูฟังไว้ให้ฟังเพลง จากนั้นเราก็นอนพักเอาแรงกันไป รอเจอแสงแรกที่นาโกย่ากันเลย แต่มันไม่เป็นเช่นนั้นครับคุณผู้อ่าน ช่วงเวลาแห่งการหลับใหลผ่านได้เพียง 3 ชั่วโมงกว่า พี่สจ๊วตแกก็เดินมาสะกิดหงึกๆ พร้อมพูดรั่วๆ ประมาณว่า “คุณสั่งสเปเชียลมีลไว้ใช่ไหม?? รับอาหารด้วย...พลีส” เรางัวเงีย ๆ มองนาฬิกา เชี๊ย!!! (อุทานในใจ) ตี 3 ครึ่ง ปลุกมากินข้าว (เข้าใจว่าตอนนั้นน่าจะข้ามเขตเวลาแล้วซึ่งก็คงประมาณตีห้าครึ่ง) พี่สจ๊วตแกยกถาดอาหารยื่นมาให้ หน้าตาเมนูดังภาพเลยจ้า
มื้อนี้น่าจะเป็น สปาเก็ตตี้เนื้อปลาผัดซอส รสชาติออกเค็มๆหน่อยแต่อร่อยดีนะ ผลไม้ ครัวซอง+เนย และ Nuti (ฝาสีเขียวๆ) ซึ่งมันคือโยเกิร์ตจืด ปล. ตอนแรกเคืองๆนะที่มาปลุกกินข้าว แต่ต้องบอกว่าสปาเก็ตตี้ปลานี้อร่อยใช้ได้เลย เลยหายโกรธ แถมมีเบียร์มีไวน์เสิร์ฟด้วยนะ แต่ไม่ได้กินอ่ะ พออิ่มหนำสำราญ ก็ขอหลับต่อสักงีบ ก่อนจะตื่นมาชื่นชมแสงแรกของแดนอาทิตย์อุทัย
ส่วนใบ CUSTOMS DECLARATION เราก็กรอกนะ แต่ไม่ได้ใช้ จากนั้นก็ออกมารับกระเป๋า แล้วก็เดินเท่ๆ ฉีกยิ้ม พร้อมโบกไม้โบกมือออกมาเลย (เฮ๊ย!! ไม่ใช่แหละ..) จากนั้นเราตรงดิ่งไปห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน เปลี่ยนชุดที่เน่ามาทั้งคืนออก และใช้เวลาชื่นชมห้องน้ำสักพัก (ขอบอกว่าชอบห้องน้ำที่ประเทศนี้จัง มันดีไปซะทุกที กรุณาลืมภาพห้องน้ำสาธารณะแบบในบ้านเราไปได้เลยคุณผู้อ่าน)
เงยหน้ามองนาฬิกาแล้วเห็นว่ายังพอมีลั้นลาอีกนิดหน่อย เลยคว้า Pocket Wi-Fi มาเปิดเน็ต VDO Call ไปหาม่ามี้รายงานสถานะ ตามด้วยเช็คเฟสบุ๊คอัพเดทโพสต์ไปให้ชาวบ้านได้รู้ว่าตูมาถึงญี่ปุ่นแล้วนะ... สำหรับ Pocket Wi-Fi จขกท. เล่นเกมส์จากเพจหนีนายเที่ยว ได้เป็นโค๊ตส่วนลดมา 1,000 บาท ตอนจองก็จ่ายแค่ค่ามัดจำ ค่าประกัน ส่วนค่าเช่าตกวันละ 90 บาท ซึ่งคูปองส่วนลดเราครอบคลุมอยู่แล้ว สำหรับการใช้งาน 6 วันที่ญี่ปุ่นของทริปเรา แชร์อุปกรณ์กัน 4 เครื่อง สามารถใช้งานได้ครอบคลุมเลยและเน็ตเร็วมาด้วย เราก็ใช้กันได้ทั้งวันนะครับ แต่ไม่ได้เช็คปริมาณข้อมูลต่อวัน เพราะหลักๆใช้ค้นข้อมูลทั่วไป ใช้ Google Map แอพแปลภาษา เฟสบุ๊ค ไลน์ ยกเว้นแค่เรื่องแบตที่ใช้ประมาณบ่าย 2-3 โมงก็หมด ต้องมีพาวเวอร์แบงค์ติดไปด้วยครับ
แอบไปมองป้าม่วง TG ด้วยนะ ^^
ในระหว่างที่อยู่สนามบินเราได้มิตรสหายใหม่ที่ร่วมทางอีก 2 ท่าน เป็นพี่ที่น่ารักมากมาย สไตล์แบกเป้ลากเป๋าเที่ยวเองแบบเดียวกับพวกเรา โดยเรานั่งรถไฟจากสนามบินเข้าเมืองนาโกย่าด้วยกันแล้วจะไปแยกกันอีกทีเพราะพี่เค้าจะไปอีกเมืองหนึ่งก่อน
สำหรับการขึ้นรถไฟจุกแรกของเราก็ไม่ได้ยากอะไรนะ จะว่าไปง่ายพอๆกับนั่งแอร์พอร์ตลิงค์ BTS MRT บ้านเรานั่นแหละ เราใช้บริการตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ หาจุกหมายปลายทางจากป้ายด้านบนแล้วดูที่ราคา จากนั้นก็กดจำนวนเงินที่ตู้ เลือกจำนวนเงิน แล้วก็ใส่เงินตามจำนวนได้เลย แล้วตั๋วก็จะออกมา ตั๋วชุดนี้เราเลือกเป็นแบบธรรมดาไม่ระบุที่นั่ง สนราคาที่ 870 เยน จากนั้นเราเดินมาที่ชาละวัน !! เอ๊ยไม่ใช่ ชานชาลา ซึ่งรถไฟเทียบจอดรอเราอยู่แล้ว อย่างที่บอกไปมันคล้ายแอร์พอร์ตลิงค์นั่นแหละครับ แต่ดูดีกว่า
ระหว่างทางที่เราเดินมาขึ้นรถไฟเจอนินจาฮาโตริ....!! ไม่ใช่ๆ คือพี่แกแต่งชุดคอสเพลย์นินจาแล้วถือป้ายอะไรสักอย่างอ่านไม่ออก แล้วตะโกนสะเสียงดัง เดาๆว่าคง “ยินดีต้อนรับสู่เจแปน” มั้ง ฮ่าๆๆ