มีเรื่องอยากให้ทุกคนช่วยเป็นกระบอกเสียงแทนเราหน่อยค่ะ เราได้รับความเสียหายจากการเข้าพักที่นี่ค่ะ และไม่อยากให้ใครต้องโดนไปด้วย
เข้าเรื่องเลยละกันค่ะ
เราไปพักที่หัวหินมาค่ะ (เข้าพักวันที่ 11 กับเพื่อน รวมๆกันก็ 4-5 คน ด้วยความที่เพิ่งรู้ตัวว่าว่างตรงกัน ก็สรุปว่าโอเคไปกัน
พวกเราดูที่พักจากรีวิว PANTIP ค่ะ
เราจบเรื่องการหาที่พักโดยให้เพื่อนจัดการทั้งหมด แล้วรอเคลียร์เงินกันทีเดียว
ก่อนวันเดินทาง 1 วัน ด้วยความตื่นเต้นก็เข้าไปดูรีวิวกันค่ะ แล้วเจอเรื่องแย่ๆที่หลายๆคนมารีวิวกันในหน้าของการเสนอขายทีพักผ่านเน็ต
เราก็เริ่มกังวล พออ่านก็รู้สึกอยากเปลี่ยนที่พักเลย แต่ด้วยความที่โอนเงินแล้ว ยกเลิกคงยากและด้วยความที่เกรงใจเพื่อนที่โอนตัง ก็เลยแอบคุยกันเองไม่บอกเพื่อนที่โอน ว่าเดี๋ยวไปดูสถานที่จริงก่อนละกัน อาจไม่หนัก รึอาจไม่เจออย่างที่คนอื่นโดนกันก็ได้
เมื่อถึงที่พัก ตกใจนิดนึง แบบว่า 750.-
ถ้าเป็นในกรุงเทพที่เคยเข้าพัก คือ เรานอน รร. ดีๆได้เลยนะ
จบที่โอเค ชั่งมัน นอนได้ อยู่กับเพื่อน ไม่ซีเรียส
ที่พักแย่แต่ทำไงได้ เพื่อนสบายใจ คือ จบ
เสียเงิน 750.- ไม่คุ้มค่าที่พัก
แต่ได้รักษาน้ำใจเพื่อนนี่คือคุ้มค่ามากสุดละ
เราเล่นน้ำ หาข้าวทานกันจนเริ่มมืด เข้าที่พักช่วงทุ่มกว่าๆ เพื่อนที่เล่นน้ำเดินแยกย้ายกันไปอาบน้ำค่ะ ส่วนตัวเรา ไม่ได้เล่นน้ำ เลยมารอด้านนอกถ่ายรูปเก็บภาพไว้อัพสเตตัสว่ามาเที่ยว บลาๆ (จุดถ่ายภาพที่ดีที่สุด จุดเดียวในที่พัก)
หลังจากเพื่อนจัดการตัวเองเรียบร้อย เราแวะเข้าห้องเปลี่ยนใจเอาของไปเก็บไว้ แล้วเลือกเอาแค่ไม่กี่อย่าง ติดตัวเพื่อจะไปทานข้าวแล้วเดินตลาดโต้รุ่งกัน
พอเข้าห้องไปเท่านั้น พีคสุด

กระเป๋าลากโดนหนูแทะ กัดซิบขาดแทะไปยันขอบกระเป๋าค่ะ

ตกใจมาก แต่มีสติสุด อย่างแรกที่ทำคือ ถ่ายรายละเอียดให้ครบทุกจุด ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง หลังจากนั้นก็แจ้งไปที่คนรักษาการหน้าจุดเช็คอินค่ะ (ตอนนี้อัดเสียงไว้ด้วย)
พี่ที่รับแจ้งเรื่อง พูดดีค่ะ แจ้งว่าจะรับเรื่องให้ รับทราบถึงความเสียหายชัดเจนว่าเราเดือดร้อนไม่สามารถขนของกลับบ้านได้ และจะประสานเจ้าของต่อไป ตอนเชคเอ้าท์ให้มาแจ้งเรื่องที่เกิดอีกทีค่ะ
คุยเสร็จก็กลับมาเก็บกวาดทำความสะอาด
เห็นใจพี่ที่ดูแลเพราะมีคนเดียว ก็จัดการเองค่ะแล้วเอาถุงขยะออกมาทิ้งด้วยเลยทีเดียว
ก่อนออกเจอพี่เค้าก็ยังขอถุงขยะใบใหม่ ขอไว้เลยเพราะจะไปทานข้าว เดินช๊อบ และหาซื้อกระเป๋าใหม่ค่ะ เพราะเราไม่สามารถใช้งานต่อได้จริงๆ (ขอถุงเพื่อขากลับมาจะเอามาเปลี่ยนเองเลยทีเดียวค่ะ ไม่ต้องเดือดร้อน เพราะทำอาชีพการให้บริการเหมือนกันค่ะ เข้าใจในหัวอก ไม่ใช่ จ่ายเงินแล้วลูกค้าคือพระเจ้า เราไม่ใช่แบบนั้นค่ะ)
กลับมาด้วยความสบายใจเลยมานั่งเล่นรวมอยู่ห้องเดียว ยันดึกค่ะ ก่อนออกก็รวบรวมของกินกันเตรียมเม้ามอย กินขนมกันไปชิลด์ๆค่ะ
แต่...พบว่าขนมในกระเป๋าเพื่อนก็โดนเจาะอีกค่ะ จนหมด ตรวจสอบดูไม่พบความเสียหายของทรัพย์สินอื่นค่ะ นอกจากทาโร่ 2 ห่อใหญ่
ก็เลยจบไป เพื่อไม่แย่งซีนใบแรกที่โดนกัดค่ะ
แยกย้ายมานอนตอนประมาณตี 2 กว่าๆราวๆนี้ค่ะ (ห้องข้างกัน) และตัดสินใจ เอาของกินไว้ห้องเพื่อนหมดเลย จะได้ไม่เกิดเรื่องอีก
ราวๆประมาณตี 3 ใกล้ๆจะ ตี 4 ตกใจตื่นด้วยอาการสะดุ้ง เห็นเงารางๆ มั่นใจมากว่าคือหนูตัวดีที่ทำข้าวของเสียหาย (ตัวใหญ่มาก)
"วิ่งลงจากเตียงที่เรานอน" นี่ก็แบบเฮ้ย ใกล้ตัวไปรึเปล่า นอนไม่หลับละ ไม่กลัวนะคะ แต่รู้สึกว่าโดนคุกคามเกินไป นี่ไปอาบน้ำใหม่ (เริ่มรู้สึกไม่สะอาดเกินกว่าที่จะรับไหว ปกติทำงาน เครือรพ.เอกชนชื่อดังที่นึงค่ะ เรื่องความสะอาดและความปลอดภัยที่จะรับ หรือ ส่งต่อถึงผู้ป่วยคือสำคัญที่สุดค่ะ) และไม่กล้าหลับตาลงอีก พร้อมๆกับสงสัยว่า มันมาจากตรงไหน เลยเริ่มดูจากทางที่หนูวิ่งไป ไปเจอดีตรงหลังตู้ พบว่ามีรูขนาดใหญ่ประมาณนึง เริ่มรู้สึกไม่โอเคมากขึ้นว่าราคาประมาณนี้ ทำไมถึงต้องมาเจออะไรแบบนี้
ในช่วงที่นอนไม่หลับ เลยเข้าไปในเพจค่ะ ว่าเค้ามีแจ้งรายละเอียดการชดใช้ค่าเสียหายหากเกิดจากการเข้าพักรึเปล่า ระหว่างที่ดูยังหาไม่เจอค่ะ แต่เจอหนักกว่านั้น คือที่พักแห่งนี้โดนฟ้องร้อง และกำลังปรับปรุงที่พัก
ในใจคิด
1.โทษตัวเองเรื่องที่ดูรีวิวไม่มากพอ เจอแค่อันดี (อันเดียวนั่น)
2.ถ้าเค้ารู้ว่าห้องพักไม่พร้อมให้บริการและผู้เข้าพักอาจได้รับความเสียหายจากการเข้าพัก ทำไมถึงยังเปิดบริการอีก
จบข้อสงสัยด้วยการเผลอหลับไปช่วงเวลาประมาณ 6 โมงกว่าๆค่ะ (เวลาที่เห็นล่าสุดก่อนภาพตัด) และตื่นมาอีกที่ช่วง 10 โมงกว่าเพราะเพื่อนปลุก จึงรีบอาบน้ำเก็บของ เตรียมตัวเชคเอ้าท์ให้ทันเวลา 11:00 โมงค่ะ
เราคืนกุญแจห้อง แจ้งเช็คเอ้าท์เรียบร้อยค่ะ
พร้อมแจ้งเรื่องและเอาหลักฐานให้ดูถึงความเสียหายที่เกิดค่ะ
ได้รับคำตอบสวนกลับมาด้วยคำสุภาพที่ว่า
"พี่ก็ไม่รู้จะทำยังไง มันเป็นเหตุสุดวิสัย น้องเป็นเคสแรกเลยที่เจออะไรไม่ดีแบบนี้"
กำลังเริ่มรู้สึกว่าเฟคสุด เพราะก่อนเผลอหลับ ยังเห็นโพสต์ที่ว่ากำลังโดนฟ้องร้อง และรีวิวที่มีตั้งแต่ก่อนปี 2013 (ไล่อ่านดูแค่นั้น) ถึง ปัจจุบัน (อัพเดทล่าสุดวันที่ 22 ก.พ. 2017)
ยังคงสงบสติต่อไป แจ้งว่าเราแก้ปัญหาขั้นต้นแบบไหนบ้าง แจ้งว่าเราเดือดร้อน และด้วยความรู้สึกที่ว่า ยอมมามากเกินไปแล้ว เราจะไม่ยอมจบเรื่องนี้ง่ายๆแน่ เพราะดูทางที่พักน่าจะเชี่ยวชาญเรื่องการเจรจาให้จบเรื่อง พอเห็นว่าเราไม่ยอมไป จึงแจ้งเพิ่มเติมว่า "พี่ต้องขอโทดด้วยจริงๆนะ มันเป็นเหตุสุดวิสัยที่ไม่อยากให้เกิด
แต่เอาเป็นว่าถ้าน้องมาคราวหน้า แจ้งพี่นิดนึงว่าตอนมาพัก เคยเจอเรื่องแบบนี้ พี่จะจำได้ว่าคือน้อง แล้วพี่จะดูห้องดีๆให้ ไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก "
นี่โมโหมาก ได้แน่ยิ้มแล้วทำหน้าแห้งๆ
พูดแค่ว่า "ไม่น่าจะมีรอบหน้าค่ะพี่ หนูมั่นใจเลย ถ้าพี่พูดแบบนี้มา หนูก็ไม่รู้จะเอ่ยคำไหนดีค่ะ ถ้าไงหนูขอตัวละกันค่ะ ถ้าพี่จะไม่ชดใช้อะไร"
ไหว้ลา เดินออกมา ในขณะเดียวกัน เพื่อนเดินเข้ามาถามว่าเป็นไงบ้างเคลียร์จบไม๊ เราก็บอกไปว่า อ่อ คุยจบละ แต่เรื่องยังไม่จบ
เล่าเหตุการณ์ให้เพื่อนฟัง และบอกไปว่าจะไม่ยอมแน่ๆ ทำไมเห็นแก่ได้ ค่าห้องราคาเต็ม ห้องไม่ได้มาตราฐาน เกิดความเสียหายไม่รับผิดชอบ
สุดท้ายจบแบบใสๆถ้ามาใหม่จะหาห้องดีๆให้
มีใครจะมาอีกหรอ ? รึเพราะคิดว่าเค้าคงไม่มาอีกแน่ เลยพูดออกมาแบบนี้ ? (บอกว่าจะดูแลอย่างดี แต่ไม่ได้บอกว่าจะให้พักฟรีนะคะ ดูก็รู้ว่าคำพูดอย่างคนมีประสบการณ์สุดๆ)
ตัดสินใจว่าจะไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน
ระหว่างทางเดินผ่านศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
จึงเข้าไปขอคำปรึกษาเบื้องต้น ทางทีม ศูนย์ TAC ให้คำแนะนำดีมากค่ะ เพราะทราบว่าเรามีเวลาไม่มาก และไม่อยากปล่อยเรื่องนี้แล้วเดินทางกลับไป ด้วยความรู้สึกที่โดนเอาเปรียบทุกทางโดยไม่ลุกขึ้นมาทำอะไรเลย แนะนำให้ไปที่พัก ทางศูนย์จะประสานสายตรวจให้รีบตามไป
เราถึงที่พักอีกครั้ง และเดินเข้าไปยกมือไหว้ แจ้งพี่เค้าว่าซักครู่จะมีสายตรวจเข้ามาคุยนะคะ เพราะแจ้งเรื่องความเสียหายไว้ พี่เค้าเริ่มแสดงพฤติกรรมชัดเจนว่าไม่พอใจ มองแล้วถอนหายใจดังชัดมากเหมือนๆรำคาญ แล้วโทรตามใครซักคน ให้ออกมา บอกว่า มีเรื่อง พร้อมกับบอกว่า เนี่ยไปแจ้งความ ไม่นานนักสายตรวจก็เข้ามาพูดคุยเจรจา (เรื่องยาวมากค่ะตรงนี้ ไว้จะเล่ารายละเอียดเพิ่มเติมนะคะ)
จบลงตรงที่นางยืนตรงหน้าแล้วพูดว่า
" ไหนพูดมาจะเรียกร้องเท่าไหร่ ถึงจะจบ ???"
เราที่ไม่ซีเรียสเรื่องเงินอยู่แล้วนั้น พูดได้แค่ว่า "พี่คะ พูดมาเลยค่ะ ว่าจะชดใช้อะไรยังไง ตามที่พี่จะรับผิดชอบ"
ทางนั้นตอบกลับมา "งั้นจะคืนค่าห้องที่เกิดเรื่องให้" พูดจบเดินเข้าไปหยิบเงินมาวาง
แล้วพูดขึ้นมาอย่างดังว่า
"รับเงินจบก็จบตรงนี้นะ คุณตำรวจเป็นพยานอย่าได้มาเห็นว่าโพสต์ด่าให้เกิดความเสียหายนะ"
สติค่ะพี่ !!!!! หนูรึเปล่าคะที่เสียหาย
หนูสวนกลับทันทีค่ะ "พี่คะ เงิน 750 ที่พี่ให้มาเนี่ย ยังไม่ได้ครึ่งค่ากระเป๋าที่หนูซื้อเลยค่ะ หนูไม่ได้หวังจะได้เงินในส่วนนี้อยู่แล้ว เพราะถ้าพี่ไม่รับผิดชอบ หนูต้องซื้อใบใหม่อยู่ดีค่ะ เพราะต้องใช้ขนของกลับ แต่ที่หนูยังอยู่ตรงนี้ เพราะหนูเห็นพี่มีแต่ได้ค่ะ ค่าห้องราคาเต็ม แต่ห้องไม่พร้อมให้บริการ ผู้รับบริการเกิดความเสียหายจากการเข้ารับบริการ แต่นิ่งดูดาย พร้อมแสดงพฤติกรรมแย่ พร้อมกลับอ้าง พรบ.คอมฯ ถ้าเสียหายจะแจ้งความกลับ เกินไปรึเปล่าคะ "
เราพูดสวนกลับไปต่อหน้าเจ้าหน้าที่พนักงาน ด้วยความรู้สึกเสียใจกับการมาเที่ยวในครั้งนี้ล้วนๆ ไม่ได้รู้สึกอยากเอาชนะ รึท้าทายแต่อย่างใดเลยจริงๆ
มองพี่เค้าแล้วพูดอีกว่า "พี่คะ หนูทำแน่ค่ะ แต่พี่ไม่ต้องกลัวนะคะ ไม่มีการเอ่ยชื่อที่พักแน่นอนค่ะ
แค่อยากเตือนสติทุกคนว่า การดูรึได้เห็นที่พักอย่างชัดเจนก่อนเข้าพัก เป็นเรื่องที่ดีที่สุด เตือนสติทุกคนและตัวเองค่ะ ว่ารีวิวดีๆบางรีวิวที่ได้อ่าน ไม่สามารถรับประกันได้ว่ามันดีจริงแบบที่เค้าไปพบเจอมา" ในตอนที่เราพูดเค้าก็ไม่สนใจนะคะ สวนกลับมาทุกคำ จบที่ส่งตัวแทนมาถ่ายรูปรับเงินเพื่อนำไปประกอบการเจรจาไกล่เกลี่ยในครั้งนี้ เรายกมือไหว้ทุกฝ่าย แล้วเดินทางกลับ
สิ่งที่รู้สึกแย่คือ หลังจากเราเช็คเอาท์แล้วนั่น
เค้าให้คนเอาไม้ไปตีปิดรู และพูดชี้นำสายตรวจว่าให้ไปดูที่พักได้เลย ว่าพยายามปรับปรุงอยู่เพราะเราเถียงกันตอนเจรจา มีคำนึงที่เราพูดว่า "พี่คะ ถ้าเหตุผลที่พี่ให้มาและมันสมเหตุสมผลจริง หนูจะไม่โมโหเลยนะคะ พี่พูดแค่ว่าเหตุสุดวิสัย ห้องพี่ไม่พร้อมแต่เปิดให้เข้าพัก โอเคไม่เป็นไร เพราะจ่ายตังแล้วไม่น่าจะได้คืน แต่นี่หนูเสียหาย พี่พูดแค่สุดวิสัย สุดวิสัยจริงๆน่าจะเป็นการ รู้ว่าบกพร่องแล้วแก้ไข ถ้าแก้ไขแล้วยังเกิดขึ้นอีก หนูจะไม่ว่าพี่เลยนะคะ อย่าใช้คำว่าสุดวิสัยค่ะ มันไม่ใช่ !!!! "
เลยเกิดการชี้นำไปดูรูต้นเหตุที่ว่านั้น ว่าได้พยายามแก้ไขแล้ว คดีพลิกค่ะ หนูหันไปหาเพื่อน บอกเพื่อนว่าเปิดรูปหน่อย พร้อมหันมาว่า "ไม่ค่ะ การแก้ปัญหา หลังจากเกิดเรื่อง และพูดให้ไปดูห้องพักว่าทางทีมไม่มีเจตนาละเลยจริงๆ เป็นเหตุสุดวิสัย แบบนี้ไม่โอเคค่ะ"
เปิดภาพมา เป็นรูปรูหลังห้องที่ถ่ายไว้ตอนนึกขึ้นได้ว่าต้องถ่ายรูนั้นเก็บไว้ โชคดีที่ฉุกคิดขึ้นมาได้ ไม่งั้นสิ่งที่ทำให้เค้าไหวตัวทัน คงช่วยเค้าไว้อีกครั้ง


และยังมี อีกหลายคำที่โทษ และโยนความผิดค่ะ
เราเห็นว่า คนแบบนี้ ไม่ควรจะได้รับการเห็นใจจากใครอีกค่ะ และไม่อยากให้ใครต้องมาเจออะไรแบบที่เราเจอมาด้วย
ภายหลัง ตำรวจสายตรวจเดินตามมาเจรจาเพิ่มเติมค่ะ เราก็ได้แต่ขอบคุณ (แอบเม้า 1 ใน 2 สายตรวจที่มา งานดีมากค่ะ ดีจริงๆ งานละเอียด คอนเฟิร์มค่ะ)
ขอบคุณที่รับฟัง และฝากแชร์ประสบการณ์เลวร้ายในครั้งนี้เพื่อเป็นการเตือนสตินักเดินทางทุกท่านด้วยค่ะ หวังว่าจะมีประโยชน์ในการตัดสินใจก่อนเข้าพัก และไม่เกิดความเสียหายอย่างที่เราได้เจอมาค่ะ
จุดจบของใบเก่าที่ไม่สามารถซ่อมได้ ทิ้งไว้หน้าที่พักนั่นแหละคะ (พี่สาวเราให้ และเสียใจมากที่ต้องเป็นแบบนี้)

และนี่คือใบใหม่ จำเป็นต้องซื้อไม๊ ? ถามใจดู ??

นี่เป็นกระทู้แรกของเรา และไม่คิดว่าจะได้มาตั้งเรื่องแบบนี้
ขออนุญาตไม่กล่าวถึงชื่อที่พัก แต่มั่นใจมากว่าใครที่เคยไปพักที่นี่.... ไม่มีทางลืมง่ายๆ ได้อย่างแน่นอนค่ะ
[CR] รีวิวหลักร้อย ที่พักหัวหิน แต่.... "หัวหินไม่ฟิน...อย่างเคย" !!!!!!!
เข้าเรื่องเลยละกันค่ะ
เราไปพักที่หัวหินมาค่ะ (เข้าพักวันที่ 11 กับเพื่อน รวมๆกันก็ 4-5 คน ด้วยความที่เพิ่งรู้ตัวว่าว่างตรงกัน ก็สรุปว่าโอเคไปกัน
พวกเราดูที่พักจากรีวิว PANTIP ค่ะ
เราจบเรื่องการหาที่พักโดยให้เพื่อนจัดการทั้งหมด แล้วรอเคลียร์เงินกันทีเดียว
ก่อนวันเดินทาง 1 วัน ด้วยความตื่นเต้นก็เข้าไปดูรีวิวกันค่ะ แล้วเจอเรื่องแย่ๆที่หลายๆคนมารีวิวกันในหน้าของการเสนอขายทีพักผ่านเน็ต
เราก็เริ่มกังวล พออ่านก็รู้สึกอยากเปลี่ยนที่พักเลย แต่ด้วยความที่โอนเงินแล้ว ยกเลิกคงยากและด้วยความที่เกรงใจเพื่อนที่โอนตัง ก็เลยแอบคุยกันเองไม่บอกเพื่อนที่โอน ว่าเดี๋ยวไปดูสถานที่จริงก่อนละกัน อาจไม่หนัก รึอาจไม่เจออย่างที่คนอื่นโดนกันก็ได้
เมื่อถึงที่พัก ตกใจนิดนึง แบบว่า 750.-
ถ้าเป็นในกรุงเทพที่เคยเข้าพัก คือ เรานอน รร. ดีๆได้เลยนะ
จบที่โอเค ชั่งมัน นอนได้ อยู่กับเพื่อน ไม่ซีเรียส
ที่พักแย่แต่ทำไงได้ เพื่อนสบายใจ คือ จบ
เสียเงิน 750.- ไม่คุ้มค่าที่พัก
แต่ได้รักษาน้ำใจเพื่อนนี่คือคุ้มค่ามากสุดละ
เราเล่นน้ำ หาข้าวทานกันจนเริ่มมืด เข้าที่พักช่วงทุ่มกว่าๆ เพื่อนที่เล่นน้ำเดินแยกย้ายกันไปอาบน้ำค่ะ ส่วนตัวเรา ไม่ได้เล่นน้ำ เลยมารอด้านนอกถ่ายรูปเก็บภาพไว้อัพสเตตัสว่ามาเที่ยว บลาๆ (จุดถ่ายภาพที่ดีที่สุด จุดเดียวในที่พัก)
หลังจากเพื่อนจัดการตัวเองเรียบร้อย เราแวะเข้าห้องเปลี่ยนใจเอาของไปเก็บไว้ แล้วเลือกเอาแค่ไม่กี่อย่าง ติดตัวเพื่อจะไปทานข้าวแล้วเดินตลาดโต้รุ่งกัน
พอเข้าห้องไปเท่านั้น พีคสุด
พี่ที่รับแจ้งเรื่อง พูดดีค่ะ แจ้งว่าจะรับเรื่องให้ รับทราบถึงความเสียหายชัดเจนว่าเราเดือดร้อนไม่สามารถขนของกลับบ้านได้ และจะประสานเจ้าของต่อไป ตอนเชคเอ้าท์ให้มาแจ้งเรื่องที่เกิดอีกทีค่ะ
คุยเสร็จก็กลับมาเก็บกวาดทำความสะอาด
เห็นใจพี่ที่ดูแลเพราะมีคนเดียว ก็จัดการเองค่ะแล้วเอาถุงขยะออกมาทิ้งด้วยเลยทีเดียว
ก่อนออกเจอพี่เค้าก็ยังขอถุงขยะใบใหม่ ขอไว้เลยเพราะจะไปทานข้าว เดินช๊อบ และหาซื้อกระเป๋าใหม่ค่ะ เพราะเราไม่สามารถใช้งานต่อได้จริงๆ (ขอถุงเพื่อขากลับมาจะเอามาเปลี่ยนเองเลยทีเดียวค่ะ ไม่ต้องเดือดร้อน เพราะทำอาชีพการให้บริการเหมือนกันค่ะ เข้าใจในหัวอก ไม่ใช่ จ่ายเงินแล้วลูกค้าคือพระเจ้า เราไม่ใช่แบบนั้นค่ะ)
กลับมาด้วยความสบายใจเลยมานั่งเล่นรวมอยู่ห้องเดียว ยันดึกค่ะ ก่อนออกก็รวบรวมของกินกันเตรียมเม้ามอย กินขนมกันไปชิลด์ๆค่ะ
แต่...พบว่าขนมในกระเป๋าเพื่อนก็โดนเจาะอีกค่ะ จนหมด ตรวจสอบดูไม่พบความเสียหายของทรัพย์สินอื่นค่ะ นอกจากทาโร่ 2 ห่อใหญ่
ก็เลยจบไป เพื่อไม่แย่งซีนใบแรกที่โดนกัดค่ะ
แยกย้ายมานอนตอนประมาณตี 2 กว่าๆราวๆนี้ค่ะ (ห้องข้างกัน) และตัดสินใจ เอาของกินไว้ห้องเพื่อนหมดเลย จะได้ไม่เกิดเรื่องอีก
ราวๆประมาณตี 3 ใกล้ๆจะ ตี 4 ตกใจตื่นด้วยอาการสะดุ้ง เห็นเงารางๆ มั่นใจมากว่าคือหนูตัวดีที่ทำข้าวของเสียหาย (ตัวใหญ่มาก)
"วิ่งลงจากเตียงที่เรานอน" นี่ก็แบบเฮ้ย ใกล้ตัวไปรึเปล่า นอนไม่หลับละ ไม่กลัวนะคะ แต่รู้สึกว่าโดนคุกคามเกินไป นี่ไปอาบน้ำใหม่ (เริ่มรู้สึกไม่สะอาดเกินกว่าที่จะรับไหว ปกติทำงาน เครือรพ.เอกชนชื่อดังที่นึงค่ะ เรื่องความสะอาดและความปลอดภัยที่จะรับ หรือ ส่งต่อถึงผู้ป่วยคือสำคัญที่สุดค่ะ) และไม่กล้าหลับตาลงอีก พร้อมๆกับสงสัยว่า มันมาจากตรงไหน เลยเริ่มดูจากทางที่หนูวิ่งไป ไปเจอดีตรงหลังตู้ พบว่ามีรูขนาดใหญ่ประมาณนึง เริ่มรู้สึกไม่โอเคมากขึ้นว่าราคาประมาณนี้ ทำไมถึงต้องมาเจออะไรแบบนี้
ในช่วงที่นอนไม่หลับ เลยเข้าไปในเพจค่ะ ว่าเค้ามีแจ้งรายละเอียดการชดใช้ค่าเสียหายหากเกิดจากการเข้าพักรึเปล่า ระหว่างที่ดูยังหาไม่เจอค่ะ แต่เจอหนักกว่านั้น คือที่พักแห่งนี้โดนฟ้องร้อง และกำลังปรับปรุงที่พัก
ในใจคิด
1.โทษตัวเองเรื่องที่ดูรีวิวไม่มากพอ เจอแค่อันดี (อันเดียวนั่น)
2.ถ้าเค้ารู้ว่าห้องพักไม่พร้อมให้บริการและผู้เข้าพักอาจได้รับความเสียหายจากการเข้าพัก ทำไมถึงยังเปิดบริการอีก
จบข้อสงสัยด้วยการเผลอหลับไปช่วงเวลาประมาณ 6 โมงกว่าๆค่ะ (เวลาที่เห็นล่าสุดก่อนภาพตัด) และตื่นมาอีกที่ช่วง 10 โมงกว่าเพราะเพื่อนปลุก จึงรีบอาบน้ำเก็บของ เตรียมตัวเชคเอ้าท์ให้ทันเวลา 11:00 โมงค่ะ
เราคืนกุญแจห้อง แจ้งเช็คเอ้าท์เรียบร้อยค่ะ
พร้อมแจ้งเรื่องและเอาหลักฐานให้ดูถึงความเสียหายที่เกิดค่ะ
ได้รับคำตอบสวนกลับมาด้วยคำสุภาพที่ว่า
"พี่ก็ไม่รู้จะทำยังไง มันเป็นเหตุสุดวิสัย น้องเป็นเคสแรกเลยที่เจออะไรไม่ดีแบบนี้"
กำลังเริ่มรู้สึกว่าเฟคสุด เพราะก่อนเผลอหลับ ยังเห็นโพสต์ที่ว่ากำลังโดนฟ้องร้อง และรีวิวที่มีตั้งแต่ก่อนปี 2013 (ไล่อ่านดูแค่นั้น) ถึง ปัจจุบัน (อัพเดทล่าสุดวันที่ 22 ก.พ. 2017)
ยังคงสงบสติต่อไป แจ้งว่าเราแก้ปัญหาขั้นต้นแบบไหนบ้าง แจ้งว่าเราเดือดร้อน และด้วยความรู้สึกที่ว่า ยอมมามากเกินไปแล้ว เราจะไม่ยอมจบเรื่องนี้ง่ายๆแน่ เพราะดูทางที่พักน่าจะเชี่ยวชาญเรื่องการเจรจาให้จบเรื่อง พอเห็นว่าเราไม่ยอมไป จึงแจ้งเพิ่มเติมว่า "พี่ต้องขอโทดด้วยจริงๆนะ มันเป็นเหตุสุดวิสัยที่ไม่อยากให้เกิด
แต่เอาเป็นว่าถ้าน้องมาคราวหน้า แจ้งพี่นิดนึงว่าตอนมาพัก เคยเจอเรื่องแบบนี้ พี่จะจำได้ว่าคือน้อง แล้วพี่จะดูห้องดีๆให้ ไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก "
นี่โมโหมาก ได้แน่ยิ้มแล้วทำหน้าแห้งๆ
พูดแค่ว่า "ไม่น่าจะมีรอบหน้าค่ะพี่ หนูมั่นใจเลย ถ้าพี่พูดแบบนี้มา หนูก็ไม่รู้จะเอ่ยคำไหนดีค่ะ ถ้าไงหนูขอตัวละกันค่ะ ถ้าพี่จะไม่ชดใช้อะไร"
ไหว้ลา เดินออกมา ในขณะเดียวกัน เพื่อนเดินเข้ามาถามว่าเป็นไงบ้างเคลียร์จบไม๊ เราก็บอกไปว่า อ่อ คุยจบละ แต่เรื่องยังไม่จบ
เล่าเหตุการณ์ให้เพื่อนฟัง และบอกไปว่าจะไม่ยอมแน่ๆ ทำไมเห็นแก่ได้ ค่าห้องราคาเต็ม ห้องไม่ได้มาตราฐาน เกิดความเสียหายไม่รับผิดชอบ
สุดท้ายจบแบบใสๆถ้ามาใหม่จะหาห้องดีๆให้
มีใครจะมาอีกหรอ ? รึเพราะคิดว่าเค้าคงไม่มาอีกแน่ เลยพูดออกมาแบบนี้ ? (บอกว่าจะดูแลอย่างดี แต่ไม่ได้บอกว่าจะให้พักฟรีนะคะ ดูก็รู้ว่าคำพูดอย่างคนมีประสบการณ์สุดๆ)
ตัดสินใจว่าจะไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน
ระหว่างทางเดินผ่านศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
จึงเข้าไปขอคำปรึกษาเบื้องต้น ทางทีม ศูนย์ TAC ให้คำแนะนำดีมากค่ะ เพราะทราบว่าเรามีเวลาไม่มาก และไม่อยากปล่อยเรื่องนี้แล้วเดินทางกลับไป ด้วยความรู้สึกที่โดนเอาเปรียบทุกทางโดยไม่ลุกขึ้นมาทำอะไรเลย แนะนำให้ไปที่พัก ทางศูนย์จะประสานสายตรวจให้รีบตามไป
เราถึงที่พักอีกครั้ง และเดินเข้าไปยกมือไหว้ แจ้งพี่เค้าว่าซักครู่จะมีสายตรวจเข้ามาคุยนะคะ เพราะแจ้งเรื่องความเสียหายไว้ พี่เค้าเริ่มแสดงพฤติกรรมชัดเจนว่าไม่พอใจ มองแล้วถอนหายใจดังชัดมากเหมือนๆรำคาญ แล้วโทรตามใครซักคน ให้ออกมา บอกว่า มีเรื่อง พร้อมกับบอกว่า เนี่ยไปแจ้งความ ไม่นานนักสายตรวจก็เข้ามาพูดคุยเจรจา (เรื่องยาวมากค่ะตรงนี้ ไว้จะเล่ารายละเอียดเพิ่มเติมนะคะ)
จบลงตรงที่นางยืนตรงหน้าแล้วพูดว่า
" ไหนพูดมาจะเรียกร้องเท่าไหร่ ถึงจะจบ ???"
เราที่ไม่ซีเรียสเรื่องเงินอยู่แล้วนั้น พูดได้แค่ว่า "พี่คะ พูดมาเลยค่ะ ว่าจะชดใช้อะไรยังไง ตามที่พี่จะรับผิดชอบ"
ทางนั้นตอบกลับมา "งั้นจะคืนค่าห้องที่เกิดเรื่องให้" พูดจบเดินเข้าไปหยิบเงินมาวาง
แล้วพูดขึ้นมาอย่างดังว่า
"รับเงินจบก็จบตรงนี้นะ คุณตำรวจเป็นพยานอย่าได้มาเห็นว่าโพสต์ด่าให้เกิดความเสียหายนะ"
สติค่ะพี่ !!!!! หนูรึเปล่าคะที่เสียหาย
หนูสวนกลับทันทีค่ะ "พี่คะ เงิน 750 ที่พี่ให้มาเนี่ย ยังไม่ได้ครึ่งค่ากระเป๋าที่หนูซื้อเลยค่ะ หนูไม่ได้หวังจะได้เงินในส่วนนี้อยู่แล้ว เพราะถ้าพี่ไม่รับผิดชอบ หนูต้องซื้อใบใหม่อยู่ดีค่ะ เพราะต้องใช้ขนของกลับ แต่ที่หนูยังอยู่ตรงนี้ เพราะหนูเห็นพี่มีแต่ได้ค่ะ ค่าห้องราคาเต็ม แต่ห้องไม่พร้อมให้บริการ ผู้รับบริการเกิดความเสียหายจากการเข้ารับบริการ แต่นิ่งดูดาย พร้อมแสดงพฤติกรรมแย่ พร้อมกลับอ้าง พรบ.คอมฯ ถ้าเสียหายจะแจ้งความกลับ เกินไปรึเปล่าคะ "
เราพูดสวนกลับไปต่อหน้าเจ้าหน้าที่พนักงาน ด้วยความรู้สึกเสียใจกับการมาเที่ยวในครั้งนี้ล้วนๆ ไม่ได้รู้สึกอยากเอาชนะ รึท้าทายแต่อย่างใดเลยจริงๆ
มองพี่เค้าแล้วพูดอีกว่า "พี่คะ หนูทำแน่ค่ะ แต่พี่ไม่ต้องกลัวนะคะ ไม่มีการเอ่ยชื่อที่พักแน่นอนค่ะ
แค่อยากเตือนสติทุกคนว่า การดูรึได้เห็นที่พักอย่างชัดเจนก่อนเข้าพัก เป็นเรื่องที่ดีที่สุด เตือนสติทุกคนและตัวเองค่ะ ว่ารีวิวดีๆบางรีวิวที่ได้อ่าน ไม่สามารถรับประกันได้ว่ามันดีจริงแบบที่เค้าไปพบเจอมา" ในตอนที่เราพูดเค้าก็ไม่สนใจนะคะ สวนกลับมาทุกคำ จบที่ส่งตัวแทนมาถ่ายรูปรับเงินเพื่อนำไปประกอบการเจรจาไกล่เกลี่ยในครั้งนี้ เรายกมือไหว้ทุกฝ่าย แล้วเดินทางกลับ
สิ่งที่รู้สึกแย่คือ หลังจากเราเช็คเอาท์แล้วนั่น
เค้าให้คนเอาไม้ไปตีปิดรู และพูดชี้นำสายตรวจว่าให้ไปดูที่พักได้เลย ว่าพยายามปรับปรุงอยู่เพราะเราเถียงกันตอนเจรจา มีคำนึงที่เราพูดว่า "พี่คะ ถ้าเหตุผลที่พี่ให้มาและมันสมเหตุสมผลจริง หนูจะไม่โมโหเลยนะคะ พี่พูดแค่ว่าเหตุสุดวิสัย ห้องพี่ไม่พร้อมแต่เปิดให้เข้าพัก โอเคไม่เป็นไร เพราะจ่ายตังแล้วไม่น่าจะได้คืน แต่นี่หนูเสียหาย พี่พูดแค่สุดวิสัย สุดวิสัยจริงๆน่าจะเป็นการ รู้ว่าบกพร่องแล้วแก้ไข ถ้าแก้ไขแล้วยังเกิดขึ้นอีก หนูจะไม่ว่าพี่เลยนะคะ อย่าใช้คำว่าสุดวิสัยค่ะ มันไม่ใช่ !!!! "
เลยเกิดการชี้นำไปดูรูต้นเหตุที่ว่านั้น ว่าได้พยายามแก้ไขแล้ว คดีพลิกค่ะ หนูหันไปหาเพื่อน บอกเพื่อนว่าเปิดรูปหน่อย พร้อมหันมาว่า "ไม่ค่ะ การแก้ปัญหา หลังจากเกิดเรื่อง และพูดให้ไปดูห้องพักว่าทางทีมไม่มีเจตนาละเลยจริงๆ เป็นเหตุสุดวิสัย แบบนี้ไม่โอเคค่ะ"
เปิดภาพมา เป็นรูปรูหลังห้องที่ถ่ายไว้ตอนนึกขึ้นได้ว่าต้องถ่ายรูนั้นเก็บไว้ โชคดีที่ฉุกคิดขึ้นมาได้ ไม่งั้นสิ่งที่ทำให้เค้าไหวตัวทัน คงช่วยเค้าไว้อีกครั้ง
เราเห็นว่า คนแบบนี้ ไม่ควรจะได้รับการเห็นใจจากใครอีกค่ะ และไม่อยากให้ใครต้องมาเจออะไรแบบที่เราเจอมาด้วย
ภายหลัง ตำรวจสายตรวจเดินตามมาเจรจาเพิ่มเติมค่ะ เราก็ได้แต่ขอบคุณ (แอบเม้า 1 ใน 2 สายตรวจที่มา งานดีมากค่ะ ดีจริงๆ งานละเอียด คอนเฟิร์มค่ะ)
ขอบคุณที่รับฟัง และฝากแชร์ประสบการณ์เลวร้ายในครั้งนี้เพื่อเป็นการเตือนสตินักเดินทางทุกท่านด้วยค่ะ หวังว่าจะมีประโยชน์ในการตัดสินใจก่อนเข้าพัก และไม่เกิดความเสียหายอย่างที่เราได้เจอมาค่ะ
จุดจบของใบเก่าที่ไม่สามารถซ่อมได้ ทิ้งไว้หน้าที่พักนั่นแหละคะ (พี่สาวเราให้ และเสียใจมากที่ต้องเป็นแบบนี้)
และนี่คือใบใหม่ จำเป็นต้องซื้อไม๊ ? ถามใจดู ??
นี่เป็นกระทู้แรกของเรา และไม่คิดว่าจะได้มาตั้งเรื่องแบบนี้
ขออนุญาตไม่กล่าวถึงชื่อที่พัก แต่มั่นใจมากว่าใครที่เคยไปพักที่นี่.... ไม่มีทางลืมง่ายๆ ได้อย่างแน่นอนค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น