เฉียดตาย..

เป็นเรื่องที่คิดแล้วไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องที่จะเรียกว่าสุดวิสัยและต้องยอมรับว่าตัวเองผิดเต็มๆ ด้วยความที่ลังเลตัดสินใจแบบไม่คิดหน้าคิดหลังเพียงอย่างเดียว ที่ทำให้เกิดความเสียหายและบาดเจ็บสงสารคู่กรณีเหมือนกันโชคร้ายต้องมาเจอเหตุแบบนี้ ดีที่เค้าไม่เอาเรื่องไม่เช่นนั้นคงแย่กว่านี้อีก จะขอจำเป็นบทเรียนชีวิตที่เฉียดตายและรอดมาได้ ส่วนอาการบาดเจ็บก็ไม่มากเท่ากับคู่กรณี ขอเล่าเป็นอุทาหรณ์ว่าในขณะเกิดเหตุเราได้ตัดสินใจที่จะเลี้ยวรถมอไซด์ไปอีกฝั่งเพียงเพื่อจะไปร้านกาแฟเพื่อนโดยไม่ได้มองเลยว่ามีรถมอไซด์ที่วิ่งตามมาข้างหลังคือในวินาทีที่เราหักเลี้ยวจากฝากที่จอดรอข้างทางและมองเห็นรถยนต์ที่กำลังวิ่งสวนมาด้วยการตัดสินใจที่จะเลี้ยวเพื่อให้รถไปฝั่งตรงข้ามในระยะที่กะว่าจะให้ทันพ้นรถยนต์ที่จะสวนมา ทำให้รถมอไซด์ที่วิ่งมาตามด้วยความเร็วพอประมาณชนเข้ากับรถมอไซด์เราอย่างแรงผลคือรถทั้งสองคันล้มกระแทกพื้นได้รับบาดเจ็บกันทั้งสองฝ่าย ขอยอมรับว่าวินาทีนั้นเราตกใจสุดขีดไม่คาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้ หลังจากที่ตั้งสติได้ได้เข้าช่วยเหลือนำคนเจ็บทั้งสองคนและรถที่ล้มอยู่กลางถนนให้พ้นจากที่ขวางทางอยู่เรียบร้อยแล้ว ความรู้สึกตอนนั้นมันเป็นเหมือนฝันร้ายเห็นคู่กรณีทั้งสองคนที่เราทำให้เค้าต้องมาประสบกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดและต้องมาบาดเจ็บจากการกระทำของเรา รู้สึกเสียใจและไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป ได้ยินคำพูดของเค้าที่พูดว่ายังไงก็หลบไม่ทันเพราะเราหักเลี้ยวในระยะกระชั้นชิดแบบนั้น หลังจากที่ตั้งสติได้เรายอมรับว่าเราผิดเต็มๆสิ่งที่คิดได้ตอนนั้นคือยกมือไห้วขอโทษเค้าและอยากจะตอบแทนให้ค่าทำขวัญที่ทำให้เค้าต้องมาเจ็บตัวและรถเสียหาย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือคำปฏิเสธที่จะรับเงินค่าทำขวัญโดยบอกว่าเค้าไม่ต้องการเค้าก็มีเงินและเตือนให้เราระมัดระวังในการขับขี่รถให้มากกว่านี้ ในขณะนั้นมีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ก็แนะนำให้ตกลงกันว่าจะทำยังไงกันต่อไป โดยที่ทางฝ่ายเสียหายไม่เอาเรื่องก็ให้ต่างคนไปทำการรักษาพยาบาลกันไป ในส่วนของเราขณะนั้นเห็นว่าที่หลังมือขวาปูดบวมช้ำและมี่บาดแผลถลอกที่ขาทั้งสองข้างเล็กน้อยในส่วนของคู่กรณีเราสังเกตุว่าน่าจะได้รับบาดเจ็บมากกว่าแต่ในเมื่อเค้าไม่เอาเรื่องเราก็ไปทำแผลที่โรงพยาบาลโดยไม่มีอาการบาดเจ็บรุนแรงเพียงรอยฝกช้ำและบาดแผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เราคิดว่าเหตุการณ์นี้จะเตือนสติเราให้ระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนให้มากยิ่งขึ้นและนอกเหนือไปจากนี้ก็คือความลังเลในการตัดสินใจ ให้คิดไตร่ตรองให้รอบคอบกว่าที่ผ่านมา ลองคิดดูเล่นๆว่าถ้าในกรณีที่รถที่ชนเราไม่ใช่รถมอไซด์แต่เป็นรถยนต์เราคงจะเจ็บตัวกว่านี้ และถ้าคู่กรณีเอาเรื่องขึ้นมาเราคงเดือดร้อนกว่านี้อีกหลายเท่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่