* เงินที่ทางรัฐกำหนดน้อยไป
* ไม่อยากเปลี่ยนสีรถ
* มีความยุ่งยาก
* เสียค่าใช้จ่ายสูง
* ป้ายทะเบียนสีเหลือง เวลาใช้ส่วนตัว ดูไม่เท่
ขอบอกก่อนว่า กระทู้นี้ไม่ได้จะพิพากษาว่า คนขับ Uber-Grab ป้ายดำทำถูกหรือทำผิด
เพียงแค่อยากทราบเหตุผลว่า ทำไมถึงไม่ยอมลงทะเบียนการทางรัฐ เผื่อรัฐได้มาเห็นกระทู้นี้ จะได้แก้ไขกฎหมายให้ทันสมัยมากขึ้น
โดยส่วนตัว การลงทะเบียนกับทางรัฐ มันมีข้อดีก็คือ คนรับลงทะเบียนคือรัฐ ซึ่งไม่ได้มีส่วนได้เสียกับ คนขับ ฉะนั้น ถ้าคนขับกระทำผิด มีความเป็นได้อย่างมากที่รัฐจะไม่เข้าข้างคนขับ เพราะ รัฐก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรในการที่จะเข้าข้างคนขับ และถ้ารัฐทำแบบนั้น โดนด่าเช็ดแน่ๆ และอาจถูกฟ้องข้อหาไม่ทำหน้าที่ที่ควรทำ (ปัจจุบันก็โดนด่ามากอยู่แล้ว ๕๕๕)
ในขณะที่ Uberและ Grab อ้างว่ามีการลงทะเบียนคนขับ แต่ ผู้รับลงทะเบียนและคนขับ คือ คนในบริษัทเดียวกัน มีส่วนได้เสีย หากคนขับกระทำผิด ก็มีความเป็นไปได้ ที่บริษัทจะมีการตกลงกับคนขับ เพื่อไม่ให้บริษัทเสียชื่อเสียง หรือ ถ้าบริษัทจะปัดความรับผิดชอบ ชื่อในทะเบียนก็อาจจะหายไปเฉยๆได้ แล้วปล่อยให้คนขับรับกรรมแต่เพียงผู้เดียว
ถามว่า ถ้าเช่นนั้น จะยอมใช้แท็กซี่บริการแย่ พูดจาหยาบคาย ไม่ยอมรับผู้โดยสาร คิดมิเตอร์บ้าง ไม่คิดบ้าง รวมถึง มิเตอร์เร็วกว่านรก อย่างนั้นฤา ขอตอบว่า ไม่ ส่วนตัวผมจะไม่ใช่บริการแท็กซี่เลยถ้าไม่จำเป็น ผมยินดีรอรถบริการสาธารณะ หรือ เดิน ถ้าเดินไได้ (โชคดีผมชอบเดิน และ ทนอากาศร้อนบ้านเราได้) ตัวผมเองก็ต้องยอมรับว่า เคยใช้บริการ Uber และ Grab ป้ายดำ ต้องขอบอกว่า ประทับใจโคตร มันคือแท็กซี่ที่ผมใฝ่หา มันคือสวรรค์ของคนใช้บริการแท็กซี่
แต่ถึงแม้จะดีปานนั้น ผมก็ยังเห็น จุดอ่อน ในระบบ ที่ผมกลัวว่ามันอาจจะเกิดขึ้นในอนาคต แค่อยากจะหาจุดที่ทุกคนได้ประโยชน์ร่วมกัน และ ปิดจุดอ่อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้เพียงเท่านั้น
ขอบคุณที่ร่วมแสดงความคิดเห็นครับ
Uber-Grab ป้ายดำ ทำไมถึงไม่ยอมลงทะเบียนกับทางรัฐ
* ไม่อยากเปลี่ยนสีรถ
* มีความยุ่งยาก
* เสียค่าใช้จ่ายสูง
* ป้ายทะเบียนสีเหลือง เวลาใช้ส่วนตัว ดูไม่เท่
ขอบอกก่อนว่า กระทู้นี้ไม่ได้จะพิพากษาว่า คนขับ Uber-Grab ป้ายดำทำถูกหรือทำผิด
เพียงแค่อยากทราบเหตุผลว่า ทำไมถึงไม่ยอมลงทะเบียนการทางรัฐ เผื่อรัฐได้มาเห็นกระทู้นี้ จะได้แก้ไขกฎหมายให้ทันสมัยมากขึ้น
โดยส่วนตัว การลงทะเบียนกับทางรัฐ มันมีข้อดีก็คือ คนรับลงทะเบียนคือรัฐ ซึ่งไม่ได้มีส่วนได้เสียกับ คนขับ ฉะนั้น ถ้าคนขับกระทำผิด มีความเป็นได้อย่างมากที่รัฐจะไม่เข้าข้างคนขับ เพราะ รัฐก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรในการที่จะเข้าข้างคนขับ และถ้ารัฐทำแบบนั้น โดนด่าเช็ดแน่ๆ และอาจถูกฟ้องข้อหาไม่ทำหน้าที่ที่ควรทำ (ปัจจุบันก็โดนด่ามากอยู่แล้ว ๕๕๕)
ในขณะที่ Uberและ Grab อ้างว่ามีการลงทะเบียนคนขับ แต่ ผู้รับลงทะเบียนและคนขับ คือ คนในบริษัทเดียวกัน มีส่วนได้เสีย หากคนขับกระทำผิด ก็มีความเป็นไปได้ ที่บริษัทจะมีการตกลงกับคนขับ เพื่อไม่ให้บริษัทเสียชื่อเสียง หรือ ถ้าบริษัทจะปัดความรับผิดชอบ ชื่อในทะเบียนก็อาจจะหายไปเฉยๆได้ แล้วปล่อยให้คนขับรับกรรมแต่เพียงผู้เดียว
ถามว่า ถ้าเช่นนั้น จะยอมใช้แท็กซี่บริการแย่ พูดจาหยาบคาย ไม่ยอมรับผู้โดยสาร คิดมิเตอร์บ้าง ไม่คิดบ้าง รวมถึง มิเตอร์เร็วกว่านรก อย่างนั้นฤา ขอตอบว่า ไม่ ส่วนตัวผมจะไม่ใช่บริการแท็กซี่เลยถ้าไม่จำเป็น ผมยินดีรอรถบริการสาธารณะ หรือ เดิน ถ้าเดินไได้ (โชคดีผมชอบเดิน และ ทนอากาศร้อนบ้านเราได้) ตัวผมเองก็ต้องยอมรับว่า เคยใช้บริการ Uber และ Grab ป้ายดำ ต้องขอบอกว่า ประทับใจโคตร มันคือแท็กซี่ที่ผมใฝ่หา มันคือสวรรค์ของคนใช้บริการแท็กซี่
แต่ถึงแม้จะดีปานนั้น ผมก็ยังเห็น จุดอ่อน ในระบบ ที่ผมกลัวว่ามันอาจจะเกิดขึ้นในอนาคต แค่อยากจะหาจุดที่ทุกคนได้ประโยชน์ร่วมกัน และ ปิดจุดอ่อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้เพียงเท่านั้น
ขอบคุณที่ร่วมแสดงความคิดเห็นครับ