กระทู้ระบาย ผมแอบชอบเพื่อนเก่าสมัยมหาลัยครับ

นี้เป็นกระทู้แรกในชวิตผม เพราะเป็นความรู้สึกจริงๆที่เก็บไว้คนเดียวมานาน ขออภัยนะครับเพราะเรื่องราวอาจจะเหมือนละครและอาจจะน้ำเน่าไปหน่อย
เรื่องมันมีอยู่ว่า..... สมัยปี1 พศ.2553 ผมเจอกับเพื่อนผู้หญิงคนนี้ เราเรียนคณะสาขาเดียวกันอยู่ที่มหาวิทยาในภาคอิสานแห่งหนึ่ง เธอในสมัยนั้นเป็นผู้หญิงค่อนข้างรูปร่างอวบนิดๆผิวขาว หน้าอวบๆ คิ้วหนาแบบธรรมชาติ ค่อนข้างน่ารัก (ทุกวันนี้หุ่นดี)... ตอนแรกๆที่เจอกันแบบไม่รู้จักกันผมรู้สึกเฉยๆ แต่พอได้รู้จักกันระยะหนึ่ง ทำให้ผมรู้ว่าเขามีสนิสัยน่ารัก ดูเฟรนรี่มาก ตลก ไม่ถือตัว (มันก็สเปกของผู้ชายส่วนใหญ่) จึงเป็นจุดที่ผมเริ่มชอบเธอ ผมเป็นคนผิวคล้ำ ส่วนหน้าตาออกไปทางขี้เหร่ ฮ่าๆๆ ด้วยความที่ผมเป็นคนค่อนข้างดูซื่อๆ ผสมกับความที่มีนิสัย กวนบาทาตลกๆ ไม่นานเราก็สนิดกัน ตอนนั้นกลุ่มเพื่อน มีกันประมาณ 4-5 คน และในกลุ่มนั้นมีผมกับเธอรวมอยู่ด้วย ช่วงนั้นผมมีความสุขมากๆที่ได้อยู่ในที่ๆมีเธออยู่ ทุกครั้งทำกิจกรรมมหาลัย กิจกรรมไหนที่เธอเข้าร่วม ผมก็เข้าร่วมทุกครั้ง นับวันผมก็ยิ่งชอบมากขึ้น บางครั้งเราก็ขับมอไซต์ไปเรียนด้วยบ้าง จนรุ่นพี่หรือเพื่อนบางคนคิดว่าเราแฟนกัน แต่เนื่องจากเธอเป็นคนนิสัยน่ารัก บวกกับเป็นคนที่หน้าตาจิ้มลิ้ม จึงมีคนมีจีบเธอบ่อยๆ น้อยมากผมอันนี้ไม่รู้ เธอบอกว่าเธอเป็นคนค่อนข้างจะรักอิสระ ไม่ชอบให้ใครมาผูกมัด

.....จนกระทั้งมีวันหนึ่ง มีผู้ชายคนหนึ่งมาบอกว่าชอบเธอ เขาเข้าหาเพื่อนทุกคนในกลุ่ม รวมทั้งผมด้วย และส่วนใหญ่ทุกคนรวมทั้งผมด้วย(ในถ้าสถานะเพื่อน)ก็ต่างพากันเชียร์เขากับเธอ จนกระทั้งคบกันจริงๆ ช่วงนั้นเป็นช่วงเทอม2ของปี1(อันนี้ผมไม่แน่ใจ) ไม่กี่เดือน เธอกับแฟนก็พักอยู่ด้วยกัน T_T

.....ความรู้สึกในตอนนั้น ผมรู้สึกสับสนกับตัวเองมาก ทำไมคนๆนั้นถึงไม่เป็นผม ทำไหมผมต้องเชียร์ให้เขาคบกันด้วย ทำไมนายถึงเข้ามา แต่ถ้าเราบอกความรู้สึกตัวเองไปล่ะ อะไรจะเกิดขึ้น อาจจะเสียเธอ เสียความเป็นเพื่อน อาจไม่ใช่แค่เธอแต่เป็นคนอื่นๆด้วย หลายๆความคิดหลายๆคำถามพุ่งเขามาในหัวผม น้ำตาซึมออกมาเลยล่ะ แต่ในที่สุด สิ่งที่ผมพอจะทำได้คือ ยอมรับความจริง และเผชิญกับมัน ผมกับแฟนเธอก็เป็นเพื่อนกันในที่สุด เพราะแชร์เรื่องเกมกับการ์ตูนกันได้ แต่สิ่งนี้ก็ไม่ทำให้ผมหยุดชอบเธอไม่ได้ ช่วงที่เธอกับเขามีปัญหากัน เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเธอน้ำตาไหลออกมา ผมแทบอยากจะเอามือไปปาดน้ำตาที่แก้มเธอ ถ้าเป็นMVคงทำไปแล้ว แต่ชีวิตจริงมันไม่สามารถทำได้ใช่ป่ะ ก็ได้แค่ส่งกล่องทิชชู่ และพูดปลอบใจก็เท่านั้น

......มีช่วงเวลาหนึ่ง ที่พ่อแม่ของเธอมาจากต่างจังหวัด เพื่อที่จะทำบุญประจำปีแถววัดใกล้ๆมหาลัย ตอนนั้นแฟนเธอไม่ไปกับเธอด้วย(ด้วยความขี้เกียจตื่นหรือ ไม่สบายนี่แหละ) ผมเลยอาสาตื่นเช้าไปเป็นเพื่อนเธอ (วันนั้นพูดตรงๆว่าไม่ได้นอนทั้งคืน) และผมได้เจอแม่กับพ่อเธอ ผมไม่แปลกใจเลยทำไมเธอถึงมีนิสัยน่ารัก เพราะแม่ของเธอมีนิสัยคล้ายๆกัน แถมใจดีด้วย แต่พ่อเธอค่อนข้างพูดจาฉะฉานระเบียบนิดๆ มีจังหวะหนึ่ง แม่เธอก็พูดว่า ช่วยดูลูกสาวแม่ด้วยนะ บอกตรงๆเลยว่าผมเขินมาก ผมก็เลยพูดเบาๆว่าลูกแม่มีคนดูแลอยู่แล้วครับ (คิดอยู่ว่าตรูจะพูดทำเพื่อ....) แต่ก็อย่างว่าความจริงก็คือความจริง วันนั้นผมรู้สึกมีความสุขที่ได้ทำบุญกับเธอ แต่สุขก็อยู่ได้ไม่นาน พอทำบุญเสร็จก็ต้องไปส่งเธอที่หอพักแฟน แยกย้ายกัน

.....สองสามปีผ่านไป เราก็ต่างเจอกันน้อยลง เพื่อนๆที่เคยอยู่กลุ่มเดียวกันต่างแยกย้าย บางคนย้ายม. บางคนก็มีปัญหากัน ส่วนผมก็ไม่อยากเสนอหน้ากับเธอมากนัก แต่เราก็ยังเป็นเพื่อนสนิทกันอยู่ ผมกับแฟนเธอก็เล่นเกมด้วยกันบ่อยๆ ก็มีบ้างที่นัดกันไปกินข้าวตามประสาเพื่อน แต่น้อยครั้ง จนผมคิดแล้วว่าเขา2คนช่างเหมาะกันเหลือเกิน เธอกับเขายังคบกันอยู่ จนกระทั้งเรียนจบ ผมคิดว่าคงต้องหักใจแล้วแระ นับวันผมก็ยิ่งชินชากับความรู้สึกนี้ (บอกตรงๆว่าผมท้อ และถดถ้อยมากกับการแอบรัก) แต่ผมก็ยังรู้สึกดีๆกับเธอเหมือนเดิม
.....จนกระทั่ง 2 ปี ต่อมาเกิดเหตุไม่คาจฝันกับเธอขึ้น เธอแชทfacebook บอกว่าพ่อของเธอได้เสียชีวิตแล้ว ผมรู้สึกใจหายมาก ผมเป็นห่วงเธอมาก ผมถึงขั้นโทรหาเธอ และลางานตอนบ่ายเพื่อที่จะขับมอไซต์ข้ามจังหวัดไปหาเธอเลย เพราะจังหวัดเราห่างกันแค่50กว่ากิโล (เนื่องจากต้องมาดูแลย่า ผมเลยต้องย้ายมาทำงานที่บ้านต่างจังหวัด) รู้ทีหลังว่าตัวเองพึ่งได้รู้หลังวันฌาปณกิจ อาทิตย์เดียว ผมก็เข้าใจนะ ว่าช่วงเวลานั้นไม่มีใครจะมีอารมณ์ที่จะบอกหรอกว่าพ่อเสีย
ผมชื้อขอไปฝากเธอและแม่ และก็ได้พูดคุยกันอยู่พอประมาณตามประสาเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันเป็นปี ผมเป็นคนค่อนข้างพูดมาก ส่วนเธอค่อนข้างเป็นผู้ฟังที่ดี เรื่องที่คุยกัน ก็เรื่องหลังจากเรียนจบบ้าง ความรักบ้าง เรื่องงานบ้าง บ้างทีผมก็ระบายเรื่องงานที่ตัวเองทำ ฮ่าๆๆ ถามเรื่องเพื่อนอีกคน(แฟนเธอ)เธอกับเขาก็ยังคบกันอยู่ ตอนนั้นเธอต้องย้ายจากกรุงเทพมาทำงานที่บ้านเพราะต้องอยู่ดูแลแม่ แต่ก็แปลกใจ ไม่ว่ากี่ปี ผมก็รู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่เจอและได้คุยกับเธอ จนตกเย็นผมก็ขอตัวกลับ แม่เธอก็ไม่วายให้ของกินตัวกลับบ้าน ผมบอกตรงๆเลย ระหว่างขับรถกลับบ้านตอนนั้นผมคิดถึงเธอมากๆ อยากมีช่วงเวลานั้นทุกวันจริงๆ จากนั้นผมก็ทักไปคุยบ้าง เจอกันบ้างนิดหน่อย

.......ปีต่อมาผมก็ได้ย้ายมาทำงานที่กรุงเทพ เราก็ไม่ค่อยได้พูดคุยกันมากเท่าไหร่ ต่างคนต่างทำงานของตัวเอง จนกระทั่งเมื่อไม่นานนี้ ผมพึ่งรู้เธอกับแฟนพึงเลิกกัน น่าจะเลิกกันจริงๆ เพราะเธอกับแฟนเธอ ไม่ค่อยอยู่ด้วยกัน อีกทั้งแฟนเธอคิดว่าเธอน่าจะมีคนอื่น แต่ผมว่าไม่หรอก เธอไม่น่าเป็นคนขี้เหงาขนาดนั้น ผมว่าเธอน่าจะอยากให้เวลากับครอบครัวมากกว่า จริงหรือป่าวอันนี้ผมไม่รู้นัก แต่ความจริงคือ เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้ผมรู้ว่า จะรักใคร ไม่จำเป็นต้องครอบครองให้เป็นของตัวเอง ต่อให้เขาเป็นยังไง หรืออยู่กับใคร คุณก็ยังรักเขาอยู่เสมอ

......อาจจะฟังดูน้ำเน่า หรือยืดเยื้อไปหน่อย แต่เรื่องราวทุกอย่างที่ผมพิมพ์ เป็ความจริง และผมได้ระบายทุกอย่างที่อยู่ในนี้หมดแล้ว ทุกวันนี้ก็ทักไปคุยกับเธอบ้างเป็นครั้งคราว

สุดท้าย.....เลยอยากจะถามหรือปรึกษาพี่ๆน้องๆ
ผมควรจะเริ่มต้นคุยกับเธออีกครั้งจะดีไหมครับ ถ้าได้จะเริ่มต้นยังควรยังไงดีครับ (ผมไม่มีทุนทางหน้าตาอยู่แล้ว) หรือควรจะเก็บไว้เหมือนเดิม

ปล. อาจจะคิดว่าช่วงเรียน ผมมีแต่เรื่องนี้ แต่ไม่เลยครับ เรียนก็ส่วนเรียนครับ พอถึงวัยทำงานก็ตั้งใจทำงานครับ แต่วัยอาจจะหาแฟนยากหน่อย ฮ่าๆๆ
ขอบคุณครับรับฟัง หรืออ่านจนจบ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่