ขอเล่าเรื่องคร่าวๆแล้วกันครับ
ปัจจุบันผมอายุเลขสามต้นๆ ทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่น
เงินเดือนปัจจุบันเทียบเป็นเงินไทยก็ประมาณ 70K แต่ถ้าหักลบกับค่าครองชีพที่นั่นก็เหมือนคนไทยได้เงินเดือน 23K ครับ
1.ปูมหลังการศึกษา
- จบโทกฎหมายสองใบ ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่ได้ชอบกฎหมายสักเท่าไร
- ตอนจบ ป ตรี ผลงานเรียนระดับกลางๆของชั้น ตอนนั้นยังเชื่อว่าเรียนมาแล้ว ก็ต้องหางานให้ตรงสาย
พอหางานไม่ได้ ก็คิดว่าตัวเองยังพยายามไม่พอ เลยไปต่อโทเพื่ออัพโพรไฟล์ ปรากฎว่าหลักสูตรที่เรียนเขี้ยวมาก กว่าจะจบได้ใช้เวลาสี่ปี
และรู้สึกว่าตัวเองไม่ชอบ และไม่น่าจะไปกับสายนี้ได้ แต่ก็ทนเรียนจนจบ เพราะทางบ้านเห็นว่าไหนๆก็เรียนมาแล้ว
- ระหว่างเรียนโทใบแรก ได้ทุนไปแลกเปลียนที่ญี่ปุ่นหนึ่งปี แล้วชอบมาก อยากไปอีก เลยสอบชิงทุนไปเรียนไปเรียนโทหลักสูตรหนึ่งปีที่ญี่ปุ่นหลังเรียนจบ
ที่ยังเลือกกฎหมายอยู่เพราะทุนให้เฉพาะคนไปเรียนตรงสาย
2.ประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันออกแนวจับฉ่าย ไม่ตรงสายครับ
ตอนเรียนโทที่ไทย ทำงานสายกึ่งๆวิชาการที่ NGO ระหว่างประเทศแห่งหนึ่ง - 2 ปี
ทำงานสายวารสาร - 9 เดือน
ทำงานสาย customer service - 2 ปี
ปัจจุบันทำงานสาย marketing มาเป็นเวลาเกือบครึ่งปีครับ
3. จุดอ่อนจุดแข็ง
ข้อดี
- ชอบภาษาต่างประเทศ ภาษาอังกฤษดีระดับทำงานกับฝรั่งได้ไม่มีปัญหา ภาษาญี่ปุ่นอ่านหนังสือได้ พูดได้ แต่เขียนไม่คล่อง
สามารถคบหาสมาคมเป็นเพื่อนกับคนทั้งสอง
- ชอบค้นคว้าข้อมูล ชอบเขียน ชอบงานแปล ชอบเล่าเรื่อง
- ถ้าเป็นงานประชุมในเรื่องที่ตัวเองมีความรู้และเปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นได้ ก็จะชอบมีส่วนร่วม
- ชอบช่วยคน ให้ความร่วมมือดี แต่ไม่ชอบบริการคน
ข้อเสีย
- ไม่ถูกกับงานสายบริการอย่างรุนแรง (แต่ที่ต้องเลือกทำเพราะตอนที่เรียนจบหางานไม่ได้)
- ถ้าเป็นงานที่อาศัยความไวมากๆ จะไม่ค่อยทันใจ หรือถ้าเป็นงานแนวหยุมหยิมๆ ก็จะมีผิดพลาด
4. เกี่ยวกับที่ทำงานปัจจุบัน
- บริษัทที่ทำเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านวิชาการครับ
- ตอนปีแรกทำงานเป็น Customer Service (ก่อนหน้านี้ทำกับ Customer Service อีกที่หนึ่งมาหนึ่งปี) ทำกับทีมคนญี่ปุ่น ช่วงนี้เครียดมาก
เพราะเนื้องานหยุมหยิมยิ่งไปกว่างาน Customer Service ที่แรก และหัวหน้าทีมย่อยที่คุมผมอยู่ก็ค่อนข้างออกแนวจิกไม่ปล่อย
- หลังทำไปได้หนึ่งปี สถานการณ์ไม่ดีขึ้น ตัวหัวหน้าพยายามเอาผมออก แต่ทางผู้บริหารตัดสินใจย้ายผมไปแผนก marketing แทน
แต่ว่าผมเองก็ถูกลดขั้นจากพนักงานประจำเป็นพนักงานสัญญาจ้าง และโดนลดเงินเดือนไปประมาณ 10% พร้อมถูกตักเตือนว่านี่เป็นโอกาสสุดท้าย
ในการปรับปรุง performance
- ในแผนกใหม่ผมได้ทำงานกับฝรั่ง สามารถทำงานได้ราบรื่น เพราะงานที่ทำเป็นแนวออกแบบ content ค้นหาข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล แปลภาษา
หัวหน้าใหม่ชม ดูแนวโน้มแล้วก็มีโอกาสได้ต่อสัญญาสูง
5. สาเหตุที่อยากย้ายงาน
- บริษัทถือว่าเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในตลาด ก็ตั้งมาเป็นสิบกว่าปี แต่ว่าดูจากยอดกำไรที่ได้นั้นไม่มากนัก (ไม่เกินสิบล้านเหรียญสหรัฐ) ไม่มีโบนัส
เลยมองว่าตลาดของธุรกิจสายนี้เล็กมาก
- อุตสาหกรรมกำลังกลายเป็น Red Ocean
- ผมเป็นคนต่างชาติคนเดียวในบริษัทที่ไม่ได้เป็นฝรั่ง เลยให้ความรู้สึกว่าเป็นพลเมืองชั้นรองอยู่กลายๆ ถึงจะไม่ได้โดนใครดูถูก แต่ก็รู้สึกว่าโอกาสโตยาก
- ที่ทำงานยังคงให้ทำงานสาย customer service ควบไปด้วย (แต่ลดเหลือประมาณ 30%) เพราะทีมเดินที่ผมทำอยู่มีกันแค่สามคน
และที่ทำงานก็ไม่มีแนวโน้มจ้างคนใหม่มาแทน เพื่อให้ผมไปทำงาน marketing แบบเต็มเวลาได้
- เร็วๆนี้ เห็นคนในที่ทำงานลาออกกันเป็นพักๆ ผมกลัวว่าถ้าคนในทีม Customer Service ลาออกไปอีก ผมก็จะถูกส่งกลับไปเป็น Customer service แบบเต็มเวลา
- หัวหน้าทีมคนที่เขม่นๆผมถูกย้ายให้มานั่งใกล้ๆ จากเดิมที่ถูกแยกกันคนละชั้นหลังจากที่ผมโดนย้ายไปฝ่าย marketing
6. บริษัทที่ตั้งใจย้ายไป
- บริษัท App ชื่อดัง ได้จดทะเบียนในตลาดหุ้น และมีไทย เป็นตลาดสำคัญ
- ตำแหน่งงานเป็นงานแปล /localization ภาษาไทย มีทีมคนไทยประจำอยู่ คนต่างชาติในบริษัทที่ไม่ใช่ฝรั่งก็มีพอสมควร
- ถ้าทำงานสาย marketing ต่อให้ย้ายไปที่ใหม่ คนก็จะมองว่าเป็นมือใหม่ แต่อายุมาก ส่วนถ้ามาทำงานสายนี้ เราได้เป็น specialist ทันที
- เงินเดือนสตาร์ทสูงกว่าเงินเดือนปัจจุบันพอสมควร เท่าที่สืบทราบมา มี Bonus ด้วย
7. สาเหตุที่ลังเล
- กลัวว่างานสายแปล พอเข้าไปสักพักเงินเดือนจะตัน ซึ่งจะต่างจากสาย marketing ที่เป็นสายหาเงินให้บริษัทได้โดยตรง
- เนื่องจากงานเป็นสายที่เน้นภาษา ถ้าสมมติว่าย้ายไปแล้วเกิดอะไรไม่ดีขึ้น ก็จะย้ายไปงานสายอื่นได้ยาก
(แต่ถ้าเป็นงานสาย marketing ก็หาที่ๆคนไทยมีโอกาสได้งาน ได้ยากเหมือนกัน เพราะส่วนมากงานที่เป็นสายต่างประเทศก็จะเน้นหาฝรั่งมากกว่า)
- เนื่องจากเป็นบริษัททำ app ผมแอบกลัวว่า อาจมีใครทำ app ที่ดีกว่ามาฆ่าในอนาคต (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าวันนั้นจะมาเมื่อไร)
ตอนนี้เลยไม่แน่ใจว่าจะย้ายไปสายแปลเลย หรือทนเก็บประสบการณ์สายmarketing ต่อไปสักพักดีครับ
ขอบคุณครับ
[เปลี่ยนงานตอนอายุเลขสาม] จะเปลี่ยนงานจากสาย marketing เป็น สายแปล/ localization ควรเสี่ยงดีไหม
ปัจจุบันผมอายุเลขสามต้นๆ ทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่น
เงินเดือนปัจจุบันเทียบเป็นเงินไทยก็ประมาณ 70K แต่ถ้าหักลบกับค่าครองชีพที่นั่นก็เหมือนคนไทยได้เงินเดือน 23K ครับ
1.ปูมหลังการศึกษา
- จบโทกฎหมายสองใบ ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่ได้ชอบกฎหมายสักเท่าไร
- ตอนจบ ป ตรี ผลงานเรียนระดับกลางๆของชั้น ตอนนั้นยังเชื่อว่าเรียนมาแล้ว ก็ต้องหางานให้ตรงสาย
พอหางานไม่ได้ ก็คิดว่าตัวเองยังพยายามไม่พอ เลยไปต่อโทเพื่ออัพโพรไฟล์ ปรากฎว่าหลักสูตรที่เรียนเขี้ยวมาก กว่าจะจบได้ใช้เวลาสี่ปี
และรู้สึกว่าตัวเองไม่ชอบ และไม่น่าจะไปกับสายนี้ได้ แต่ก็ทนเรียนจนจบ เพราะทางบ้านเห็นว่าไหนๆก็เรียนมาแล้ว
- ระหว่างเรียนโทใบแรก ได้ทุนไปแลกเปลียนที่ญี่ปุ่นหนึ่งปี แล้วชอบมาก อยากไปอีก เลยสอบชิงทุนไปเรียนไปเรียนโทหลักสูตรหนึ่งปีที่ญี่ปุ่นหลังเรียนจบ
ที่ยังเลือกกฎหมายอยู่เพราะทุนให้เฉพาะคนไปเรียนตรงสาย
2.ประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันออกแนวจับฉ่าย ไม่ตรงสายครับ
ตอนเรียนโทที่ไทย ทำงานสายกึ่งๆวิชาการที่ NGO ระหว่างประเทศแห่งหนึ่ง - 2 ปี
ทำงานสายวารสาร - 9 เดือน
ทำงานสาย customer service - 2 ปี
ปัจจุบันทำงานสาย marketing มาเป็นเวลาเกือบครึ่งปีครับ
3. จุดอ่อนจุดแข็ง
ข้อดี
- ชอบภาษาต่างประเทศ ภาษาอังกฤษดีระดับทำงานกับฝรั่งได้ไม่มีปัญหา ภาษาญี่ปุ่นอ่านหนังสือได้ พูดได้ แต่เขียนไม่คล่อง
สามารถคบหาสมาคมเป็นเพื่อนกับคนทั้งสอง
- ชอบค้นคว้าข้อมูล ชอบเขียน ชอบงานแปล ชอบเล่าเรื่อง
- ถ้าเป็นงานประชุมในเรื่องที่ตัวเองมีความรู้และเปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นได้ ก็จะชอบมีส่วนร่วม
- ชอบช่วยคน ให้ความร่วมมือดี แต่ไม่ชอบบริการคน
ข้อเสีย
- ไม่ถูกกับงานสายบริการอย่างรุนแรง (แต่ที่ต้องเลือกทำเพราะตอนที่เรียนจบหางานไม่ได้)
- ถ้าเป็นงานที่อาศัยความไวมากๆ จะไม่ค่อยทันใจ หรือถ้าเป็นงานแนวหยุมหยิมๆ ก็จะมีผิดพลาด
4. เกี่ยวกับที่ทำงานปัจจุบัน
- บริษัทที่ทำเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านวิชาการครับ
- ตอนปีแรกทำงานเป็น Customer Service (ก่อนหน้านี้ทำกับ Customer Service อีกที่หนึ่งมาหนึ่งปี) ทำกับทีมคนญี่ปุ่น ช่วงนี้เครียดมาก
เพราะเนื้องานหยุมหยิมยิ่งไปกว่างาน Customer Service ที่แรก และหัวหน้าทีมย่อยที่คุมผมอยู่ก็ค่อนข้างออกแนวจิกไม่ปล่อย
- หลังทำไปได้หนึ่งปี สถานการณ์ไม่ดีขึ้น ตัวหัวหน้าพยายามเอาผมออก แต่ทางผู้บริหารตัดสินใจย้ายผมไปแผนก marketing แทน
แต่ว่าผมเองก็ถูกลดขั้นจากพนักงานประจำเป็นพนักงานสัญญาจ้าง และโดนลดเงินเดือนไปประมาณ 10% พร้อมถูกตักเตือนว่านี่เป็นโอกาสสุดท้าย
ในการปรับปรุง performance
- ในแผนกใหม่ผมได้ทำงานกับฝรั่ง สามารถทำงานได้ราบรื่น เพราะงานที่ทำเป็นแนวออกแบบ content ค้นหาข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล แปลภาษา
หัวหน้าใหม่ชม ดูแนวโน้มแล้วก็มีโอกาสได้ต่อสัญญาสูง
5. สาเหตุที่อยากย้ายงาน
- บริษัทถือว่าเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในตลาด ก็ตั้งมาเป็นสิบกว่าปี แต่ว่าดูจากยอดกำไรที่ได้นั้นไม่มากนัก (ไม่เกินสิบล้านเหรียญสหรัฐ) ไม่มีโบนัส
เลยมองว่าตลาดของธุรกิจสายนี้เล็กมาก
- อุตสาหกรรมกำลังกลายเป็น Red Ocean
- ผมเป็นคนต่างชาติคนเดียวในบริษัทที่ไม่ได้เป็นฝรั่ง เลยให้ความรู้สึกว่าเป็นพลเมืองชั้นรองอยู่กลายๆ ถึงจะไม่ได้โดนใครดูถูก แต่ก็รู้สึกว่าโอกาสโตยาก
- ที่ทำงานยังคงให้ทำงานสาย customer service ควบไปด้วย (แต่ลดเหลือประมาณ 30%) เพราะทีมเดินที่ผมทำอยู่มีกันแค่สามคน
และที่ทำงานก็ไม่มีแนวโน้มจ้างคนใหม่มาแทน เพื่อให้ผมไปทำงาน marketing แบบเต็มเวลาได้
- เร็วๆนี้ เห็นคนในที่ทำงานลาออกกันเป็นพักๆ ผมกลัวว่าถ้าคนในทีม Customer Service ลาออกไปอีก ผมก็จะถูกส่งกลับไปเป็น Customer service แบบเต็มเวลา
- หัวหน้าทีมคนที่เขม่นๆผมถูกย้ายให้มานั่งใกล้ๆ จากเดิมที่ถูกแยกกันคนละชั้นหลังจากที่ผมโดนย้ายไปฝ่าย marketing
6. บริษัทที่ตั้งใจย้ายไป
- บริษัท App ชื่อดัง ได้จดทะเบียนในตลาดหุ้น และมีไทย เป็นตลาดสำคัญ
- ตำแหน่งงานเป็นงานแปล /localization ภาษาไทย มีทีมคนไทยประจำอยู่ คนต่างชาติในบริษัทที่ไม่ใช่ฝรั่งก็มีพอสมควร
- ถ้าทำงานสาย marketing ต่อให้ย้ายไปที่ใหม่ คนก็จะมองว่าเป็นมือใหม่ แต่อายุมาก ส่วนถ้ามาทำงานสายนี้ เราได้เป็น specialist ทันที
- เงินเดือนสตาร์ทสูงกว่าเงินเดือนปัจจุบันพอสมควร เท่าที่สืบทราบมา มี Bonus ด้วย
7. สาเหตุที่ลังเล
- กลัวว่างานสายแปล พอเข้าไปสักพักเงินเดือนจะตัน ซึ่งจะต่างจากสาย marketing ที่เป็นสายหาเงินให้บริษัทได้โดยตรง
- เนื่องจากงานเป็นสายที่เน้นภาษา ถ้าสมมติว่าย้ายไปแล้วเกิดอะไรไม่ดีขึ้น ก็จะย้ายไปงานสายอื่นได้ยาก
(แต่ถ้าเป็นงานสาย marketing ก็หาที่ๆคนไทยมีโอกาสได้งาน ได้ยากเหมือนกัน เพราะส่วนมากงานที่เป็นสายต่างประเทศก็จะเน้นหาฝรั่งมากกว่า)
- เนื่องจากเป็นบริษัททำ app ผมแอบกลัวว่า อาจมีใครทำ app ที่ดีกว่ามาฆ่าในอนาคต (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าวันนั้นจะมาเมื่อไร)
ตอนนี้เลยไม่แน่ใจว่าจะย้ายไปสายแปลเลย หรือทนเก็บประสบการณ์สายmarketing ต่อไปสักพักดีครับ
ขอบคุณครับ