เริ่มจากเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 17 ก.พ.
เราไปทำธุระที่ห้างแห่งหนึ่ง ย่านพระราม 2 กำลังจะกลับบ้านแล้ว เดินผ่านร้าน S ที่ชั้น 2 ก็มีพนักงานมายื่นกระดาษอะไรสักอย่าง น่าจะเป็นว้อยเช่อร์ เธอก็ให้เราช่วยกรอกแบบสอบถามสัก 5 นาที เราก็บอกว่าไม่ซื้อนะ พนักงานก็แจ้งว่าไม่ซื้อไม่เป็นไรค่ะ เธอก็พาเราเข้าร้านไปชั่งน้ำหนัก ในช่วงนั้นได้มีพนักงานเข้ามารุมตื้อเรา 2 คน โดยพาเข้าไปในห้องปิดมิดชิด และสอบถามขอดูบัตรเครดิต เมื่อเรายื่นบัตรเครดิตไป พนักงานได้ขอเอาไว้ แจ้งว่าจะไปตรวจสอบโปรโมชั่น แล้วก็แจ้งโปรโมชั่น บลาๆๆ แล้วก็มีพนักงานเหมือนจะเป็นหัวหน้าเข้ามาพูดคุยกับเราอีกที รวมเป็น 3 คน ด้วยสถานการณ์ที่บีบคั้น ทำให้เราสติหลุด ซื้อคอร์สไปในราคา 50,000 บาท โดยผ่อน 10 เดือน เดือนละ 5,000 บาท และทางร้านเสนอทำทรีทเม้นต์นวดหน้า ฟรี 1 ชั่วโมงหลังจากทำสัญญาแล้ว
หลังจากกลับมาบ้าน ... ต้องบอกก่อนว่าแม่เราเพิ่งออกจาก รพ. มาได้ 4 วัน ยังนอนติดเตียง เดินยังไม่ได้ เรากลับบ้านมา เห็นแม่ เราร้องไห้เลย ไม่กล้าบอกใครที่บ้านเลยว่าเราซื้อคอร์ส เสียดายเงินมาก เราเลยโทรไปสอบถามที่ Call Center ของซิตี้แบงก์ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าทางร้านค้ายังไม่มีการวางบิลเข้ามา แต่จะยกเลิกได้ โดยที่ร้านค้าเป็นฝ่ายแจ้งเข้าไปยกเลิกที่ซิตี้แบงค์ เราก็ไลน์ไปหาเซลส์ เซลส์บอกว่า ยกเลิกไม่ได้ค่ะ สัญญาทำเสร็จสมบูรณ์แล้ว เราจิตตกมาก คืนนั้นเราก็เสิร์ชหาเว็บของบริษัท S เผื่อจะเจอช่องทางติดต่อสนง. ใหญ่ ก็เจออีเมล์ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ เราตัดสินใจส่งเมล์ไปเพื่อทำการยกเลิก ซึ่งในเนื้อความแจ้งความประสงค์จะจ่ายค่าคอร์สนวดหน้าที่ทางร้านเสนอฟรีมาให้ แลกกับการยกเลิกคอร์ส 50,000 บาท คือต้องบอกก่อนว่าเราไม่ใช่พวกรักสวยรักงาม ตามเพจหรือห้องโต๊ะเครื่องแป้ง เราแทบไม่เคยเข้ามาดูเลย ในพันทิป เราจะชอบเข้าตามห้องก้นครัว จตุจักร บลูแพลนเน็ต เลยไม่มีภูมิคุ้มกันเรื่องพวกโดนเซลส์หลอกอะไรเลย แล้วคืนนั้นเราดันเกิดอาการคันยุบยิบที่ใบหน้า ต้นแขน เช้าวันต่อมามีผื่นแดงๆ ขึ้นเต็ม น้องเราก็ถามเป็นอะไร เราก็บอกไม่ได้ พอดีน้องเรามียาหมอ เป็นครีมทาผิวหนังที่แพ้ เราก็กินยาแก้แพ้ที่มีไป
โดนจนได้ เสียรู้สถานเสริมความงาม S...P...
เราไปทำธุระที่ห้างแห่งหนึ่ง ย่านพระราม 2 กำลังจะกลับบ้านแล้ว เดินผ่านร้าน S ที่ชั้น 2 ก็มีพนักงานมายื่นกระดาษอะไรสักอย่าง น่าจะเป็นว้อยเช่อร์ เธอก็ให้เราช่วยกรอกแบบสอบถามสัก 5 นาที เราก็บอกว่าไม่ซื้อนะ พนักงานก็แจ้งว่าไม่ซื้อไม่เป็นไรค่ะ เธอก็พาเราเข้าร้านไปชั่งน้ำหนัก ในช่วงนั้นได้มีพนักงานเข้ามารุมตื้อเรา 2 คน โดยพาเข้าไปในห้องปิดมิดชิด และสอบถามขอดูบัตรเครดิต เมื่อเรายื่นบัตรเครดิตไป พนักงานได้ขอเอาไว้ แจ้งว่าจะไปตรวจสอบโปรโมชั่น แล้วก็แจ้งโปรโมชั่น บลาๆๆ แล้วก็มีพนักงานเหมือนจะเป็นหัวหน้าเข้ามาพูดคุยกับเราอีกที รวมเป็น 3 คน ด้วยสถานการณ์ที่บีบคั้น ทำให้เราสติหลุด ซื้อคอร์สไปในราคา 50,000 บาท โดยผ่อน 10 เดือน เดือนละ 5,000 บาท และทางร้านเสนอทำทรีทเม้นต์นวดหน้า ฟรี 1 ชั่วโมงหลังจากทำสัญญาแล้ว
หลังจากกลับมาบ้าน ... ต้องบอกก่อนว่าแม่เราเพิ่งออกจาก รพ. มาได้ 4 วัน ยังนอนติดเตียง เดินยังไม่ได้ เรากลับบ้านมา เห็นแม่ เราร้องไห้เลย ไม่กล้าบอกใครที่บ้านเลยว่าเราซื้อคอร์ส เสียดายเงินมาก เราเลยโทรไปสอบถามที่ Call Center ของซิตี้แบงก์ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าทางร้านค้ายังไม่มีการวางบิลเข้ามา แต่จะยกเลิกได้ โดยที่ร้านค้าเป็นฝ่ายแจ้งเข้าไปยกเลิกที่ซิตี้แบงค์ เราก็ไลน์ไปหาเซลส์ เซลส์บอกว่า ยกเลิกไม่ได้ค่ะ สัญญาทำเสร็จสมบูรณ์แล้ว เราจิตตกมาก คืนนั้นเราก็เสิร์ชหาเว็บของบริษัท S เผื่อจะเจอช่องทางติดต่อสนง. ใหญ่ ก็เจออีเมล์ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ เราตัดสินใจส่งเมล์ไปเพื่อทำการยกเลิก ซึ่งในเนื้อความแจ้งความประสงค์จะจ่ายค่าคอร์สนวดหน้าที่ทางร้านเสนอฟรีมาให้ แลกกับการยกเลิกคอร์ส 50,000 บาท คือต้องบอกก่อนว่าเราไม่ใช่พวกรักสวยรักงาม ตามเพจหรือห้องโต๊ะเครื่องแป้ง เราแทบไม่เคยเข้ามาดูเลย ในพันทิป เราจะชอบเข้าตามห้องก้นครัว จตุจักร บลูแพลนเน็ต เลยไม่มีภูมิคุ้มกันเรื่องพวกโดนเซลส์หลอกอะไรเลย แล้วคืนนั้นเราดันเกิดอาการคันยุบยิบที่ใบหน้า ต้นแขน เช้าวันต่อมามีผื่นแดงๆ ขึ้นเต็ม น้องเราก็ถามเป็นอะไร เราก็บอกไม่ได้ พอดีน้องเรามียาหมอ เป็นครีมทาผิวหนังที่แพ้ เราก็กินยาแก้แพ้ที่มีไป