ให้ระวังพวกคลินิคที่มีเทคนิคการขายคอร์สแบบนี้นะคะ จนตอนนี้เรายังไม่รู้เลยว่าในคอร์สวิตามิน 40 มีอะไรบ้าง ถามไปมากว่า10 ครั้งคือไม่ตอบ ถ้าใครเคยโดนแบบนี้แชตหาเราได้ค่ะ
ได้เข้าไปคลินิคจากการไปดีทอกซ์ลำไส้ และถูกชักชวนให้ตรวจสุขภาพฟรี
1.หลังจากตรวจสุขภาพด้วยเครื่องbio scan วันที่27/4/68 สแกนฟรีเครื่องbio scan เอาเท้า มือแนบแผ่นโลหะ และพาไปคุยกับเซลล์เพื่อขายคอร์ส และได้เชื่อคำพูดของเซลล์จนถึงจ่ายเงิน 129000 บาทไปวันที่ 27/4/68
2.การขายคอร์ส เซลล์พูดจาชักชวน ไม่ตรงกับสิ่งที่จะได้รับจริงแต่มารู้ทีหลัง เซลล์ชื่อเนสพูดว่า
-มูลค่าคอร์สจริง520000บาท แต่แพทย์ช่วยจ่ายหลังให้เพื่อเก็บข้อมูลวิจัย คนที่มีอาการแบบนี้ให้วิตามินแบบนี้แล้วสุขภาพ ผลเลือดดีขึ้น ซึ่งขัดแย้งกับวันที่มาเข้ารับวิตามินให้จ่ายเพิ่มราคาแพงกว่าราคาตลาด
-เดือนละ 3650 บาท พอที่จะจ่ายดูแลสุขภาพได้ไหม ซึ่งใช้เวลา เกือบ3ปี และจะคอยเช็คค่าเลือดให้ทุกเดือน -สแกนเครื่องbio scan เอาเท้า มือแนบแผ่นโลหะ ผลการตรวจออกมา สมองทำงานหนัก มีโอกาศเป็นไทรอย์แบบผอม สภาพหลอดเลือดไม่ดี พูดให้ดูแย่ไทำให้ผู้บริโภคกลัวและชักจูงซื้อคอร์ส(มาคิดทีหลังได้ว่าเครื่องbio scan มีมาตรฐานอย่างไร ผลสามารถบอกอาการป่วยได้เลยรึเปล่าไม่ได้เจาะเลือดแต่ผลที่ออกมาทำให้กังวลและกลัวมาก)
-ตอนขายคอร์สจะไม่ทราบว่าวิตามิน40เข็มจะได้ฉีดอะไรบ้าง แค่รู้มูลค่า520000 บาทตามที่เซลล์บอก
-เรื่องอายุคอร์ส เซลล์บอกว่ามีอายุถึง3 ปี แต่ในเสร็จที่ส่งมาให้ช้าวันที่ 25/5/68 ระบุว่าหมดอายุ 1ปี(มีหลักฐานในแชตว่าเซลล์แจ้งว่า3ปี)
3.หลังจากจ่ายเงินไปแล้วมีนัดพบแพทย์ วันที่25/5/68 มารับทราบผลตรวจเลือด ทำให้ทราบว่าต้องจ่ายเงินเพิ่มวิตามินd จำนวน 3เข็มราคา25000 กับพลาเซนต้าเพื่อฟื้นฟูต่อมหมวกไต แต่ทางผู้บริโภคได้ปฏิเสธไปเพราะคิดว่าแปลกมาก ราคาสูงมากและราคาควรจะรวมในคอร์ส จึงแจ้งว่าจะไปฉีดที่โรงพยาบาลเอง ซึ่งในตอนนั้นยังไม่รู้อีกว่าวิตามิน40เข็ม มีอะไรบ้าง แต่เริ่มเอะใจราคาวิตามินดี และพลาเซนต้าเลยไปหาข้อมูลราคากลางในอินเตอร์เนต
-หลังจากไปหาข้อมูลวิตามินd ราคาทั่วไปอยู่ที่ 1800-2500 ทำให้ประหลาดใจกับราคาที่บอกให้จ่ายเพิ่ม3 เข็ม 25000 บาทมาก ซึ่งมันควรจะอยู่ในคอร์สที่จ่ายไป(เลยไปซื้อโปรวิตามินดี วันที่25/5/68 ราคา1990 บาท ซึ่งจ่ายเพิ่มต่างหากผ่านทางแอปGohospo ฉีดกับทางคลินิคนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าวิตามิน ราคาจริงราคานี้ (ตอนฉีดมีผู้หญิงมาฉีดให้และไม่มีหมอคอยดูอยู่ตอนที่ฉีด) และถามพนักงานว่าคอร์สวิตามินที่จะฉีด40ตัว มีอะไรบ้าง ซึ่งเพิ่งจะมาบอกว่ามีimmune และวิตามินถูกๆอึกหลายตัว ทำให้รู้แล้วว่าโดนหลอก ไม่เป็นไปตามที่เซลล์พูดตอนจะขายคอร์ส
-วันที่ชำระเงินไม่ได้ให้ใบเสร็จมา ทางผู้บริโภคเลยทวงไป จึงได้ไฟล์มาทางไลน์ หลังจากนั้นเกือบเดือน ได้วันที่25/5/68ซึ่งในบิล ไม่ระบุชื่อวิตามิน โดส มีแค่40item และหมดอายุเพียง1ปี ซึ่งย้อนคิดดูคือไม่เป็นธรรมมากๆ ไม่ระบุอะไรเลย และมาเก็บค่าวิตามินเพิ่มแบบแพงๆ เรื่องระยะเวลาในบิล1ปี ตอนขายคอร์สบอกทำเดือนละครั้ง เช็คผลเลือดให้ตลอด ลงทุนเพื่อสุขภาพเดือนละ3650 บาท จ่ายได้ไหม ซึ่งใช้เวลา3ปีกว่า ทำให้รู้สึกว่าไม่ตรงกับที่ขายคอร์ส และมีจ่ายเพิ่มในราคาที่ไม่เป็นธรรม
4.วันที่26/5/68 เริ่มบอกเซลล์และติดต่อผู้จัดการว่าขอยกเลิกคอร์สขอเงินคืน
5.วันที่28/5/68 ออกหนังสือสัญญาขอยกเลิกคอร์ส
6.นัดเจรจา 5/6/68 แต่ไม่เป็นผล คลีนิคไม่ยอมคืนเงินเต็มจำนวน ซึ่งเสนอคืนให้ 85000 บาท หักค่าแลป 25000 บาทค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต 13113บาท ซึ่งทางผู้บริโภคยังไม่เคยเข้ารับการฉีดคอร์ส 40เข็มเลย และราคาแลปก็เกินราคาตลาดไปมาก ราคาตลาดอยู่หลักพัน และคลินิคเสนอตรวจฟรีในตอนแรก เพื่อชักจูงพูดไม่ตรงจนมาซื้อคอร์ส สิ่งที่ไม่ตรงกับที่เซลล์พูด -จ่ายเงินวันที่27/4 ได้บิลเอกสารทางไลน์วันที่25/5 ซึ่งไม่ระบุคอร์ส 129000 บาท ผู้บริโภคจะได้รับอะไรบ้าง โดสเท่าไหร่ และระบุว่าหมดอายุ1ปี ซึ่งข้อมูลไม่ตรงกับตอนจะขายคอร์ส พูดว่า เดือนละ 3650 บาท พอที่จะจ่ายดูแลสุขภาพได้ไหม ซึ่งใช้เวลา เกือบ3ปี และจะคอยเช็คค่าเลือดให้ทุกเดือน จึงยินดีจ่ายสมัครคอร์สไป พอวันที่จะเข้ามารับวิตามิน พูดอีกแบบเหมือนอยากให้เข้ามาถี่ๆ อาทิตย์ละครั้ง ให้จ่ายค่าวิตามินเพิ่มเติม จนวันที่จะมาใช้บริการยังไม่รู้ว่ามีวิตามินอะไรบ้าง ซึ่งตามหลักของการซื้อของ ผู้บริโภคควรจะได้รู้ชื่อสินค้า ปริมาณ เที่ยลกับราคาที่จ่ายไป (ในใบเสร็จระบุว่า คอร์สหมดอายุภายใน1ปี แต่เซลล์แจ้งว่าคอร์สมีอายุ3ปี ไม่ต้องห่วงอายุคอร์ส มีหลักฐานเป็นแชต)
-ชักจูงให้เข้ามาสแกนร่างกายฟรีด้วยเครื่องbio scan เอามือ ขาแนบโลหะ พูดถึงผลที่ออกมาเรื่องสุขภาพที่แย่มาก สมองทำงานหนักหลอดเลือดหนืดไม่ดี ทำให้ผู้บริโภคกลัว แล้วพามาฟังคอร์สขายต่อ พูดโน้มน้าวไปไกล จนหลงเชื่อว่าจะดูแล พอจะมารับบริการกลับพบว่าไม่ตรงตามที่พูดไว้เลย ทำให้รู้สึกตกใจ และรู้สึกเหมือนถูกหลอกให้ซื้อคอร์ส และผลเลือดที่เจาะวันที่ 27/4/68ก็คลาดเคลื่อนไปมาก เช่น ค่าLDL -255 ขณะที่เคยตรวจวัดได้188,คอเลสเตอรอล 348 แต่เคยวัดได้ 255 วันที่ 19เดือน4
-ประสิทธิภาพของเครื่องสแกนสามารถบอกได้ถึงภาวะร่างกายที่แย่จริงเหรอ -คอร์สมูลค่า 520000 บาทที่เซลล์พูดไม่มีอยู่จริง มีแต่ต้องจ่ายวิตามินตัวอื่นๆเพิ่มในราคาสูงมาก และวิตามินในคอร์สมีแต่ราคาถูกๆ -คลินิคใช้เทคนิคการขายแบบโกหก ไม่ตรงไปตรงมา แล้วผู้บริโภคก็มารู้ทีหลัง ถึงต้องยกเลิกคอร์ส -ผู้บริโภคยินดีให้ข้อมูลเพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่ประชาชน ที่โดนหลอกหลวงด้วยเทคนิคการขายให้มาตรวจสุขภาพฟรีและบอกว่าสุขภาพแย่ ป่วย เกินความเป็นจริงที่เครื่องจะตรวจได้ทำให้กลัวพูดชักอีกอย่าง พอจ่ายเงินแล้วต้องมาจ่ายเพิ่มในราคาไม่ยุติธรรม (มองย้อนกลับไปเครื่องที่บอกว่าสุขภาพไม่ดี จริงๆแล้วเชื่อถือไม่ได้ด้วยซ้ำ หลงไปกับคำพูดชักจูง)
-ได้ทวงถามถึงสิ่งที่กล่าวไปข้างต้นกับทางแชตคลีนิคทุกวันแต่ไม่มีคำอธิบายอะไรกลับมาเลย
-ทางคลีนิคอ้างว่า วิธีการขายเป็นเรื่องปกติทึ่คลินิคอื่นเค้าทำกัน สอบถามมาตรฐานเครื่องbio scan ที่สแกนก็ไม่ให้คำตอบว่าเอามาจาก ประเทศอะไร มีหน่อยงานรับรองไหมว่าสมารถวินิจฉัยร่างการ สมอง หลอดเลือด ตับ ไต ตกใจกลัวยิ่งกว่าการไปพบแพทย์อีก
เตือนภัยwellness เซลล์หลอกขายคอร์สดริปวิตามิน จากการชักชวนตรวจสุขภาพฟรี ไม่หมือนกับเซลล์พูดตอนแรก ต้องจ่ายเพิ่มตลอด
ได้เข้าไปคลินิคจากการไปดีทอกซ์ลำไส้ และถูกชักชวนให้ตรวจสุขภาพฟรี
1.หลังจากตรวจสุขภาพด้วยเครื่องbio scan วันที่27/4/68 สแกนฟรีเครื่องbio scan เอาเท้า มือแนบแผ่นโลหะ และพาไปคุยกับเซลล์เพื่อขายคอร์ส และได้เชื่อคำพูดของเซลล์จนถึงจ่ายเงิน 129000 บาทไปวันที่ 27/4/68
2.การขายคอร์ส เซลล์พูดจาชักชวน ไม่ตรงกับสิ่งที่จะได้รับจริงแต่มารู้ทีหลัง เซลล์ชื่อเนสพูดว่า
-มูลค่าคอร์สจริง520000บาท แต่แพทย์ช่วยจ่ายหลังให้เพื่อเก็บข้อมูลวิจัย คนที่มีอาการแบบนี้ให้วิตามินแบบนี้แล้วสุขภาพ ผลเลือดดีขึ้น ซึ่งขัดแย้งกับวันที่มาเข้ารับวิตามินให้จ่ายเพิ่มราคาแพงกว่าราคาตลาด
-เดือนละ 3650 บาท พอที่จะจ่ายดูแลสุขภาพได้ไหม ซึ่งใช้เวลา เกือบ3ปี และจะคอยเช็คค่าเลือดให้ทุกเดือน -สแกนเครื่องbio scan เอาเท้า มือแนบแผ่นโลหะ ผลการตรวจออกมา สมองทำงานหนัก มีโอกาศเป็นไทรอย์แบบผอม สภาพหลอดเลือดไม่ดี พูดให้ดูแย่ไทำให้ผู้บริโภคกลัวและชักจูงซื้อคอร์ส(มาคิดทีหลังได้ว่าเครื่องbio scan มีมาตรฐานอย่างไร ผลสามารถบอกอาการป่วยได้เลยรึเปล่าไม่ได้เจาะเลือดแต่ผลที่ออกมาทำให้กังวลและกลัวมาก)
-ตอนขายคอร์สจะไม่ทราบว่าวิตามิน40เข็มจะได้ฉีดอะไรบ้าง แค่รู้มูลค่า520000 บาทตามที่เซลล์บอก
-เรื่องอายุคอร์ส เซลล์บอกว่ามีอายุถึง3 ปี แต่ในเสร็จที่ส่งมาให้ช้าวันที่ 25/5/68 ระบุว่าหมดอายุ 1ปี(มีหลักฐานในแชตว่าเซลล์แจ้งว่า3ปี)
3.หลังจากจ่ายเงินไปแล้วมีนัดพบแพทย์ วันที่25/5/68 มารับทราบผลตรวจเลือด ทำให้ทราบว่าต้องจ่ายเงินเพิ่มวิตามินd จำนวน 3เข็มราคา25000 กับพลาเซนต้าเพื่อฟื้นฟูต่อมหมวกไต แต่ทางผู้บริโภคได้ปฏิเสธไปเพราะคิดว่าแปลกมาก ราคาสูงมากและราคาควรจะรวมในคอร์ส จึงแจ้งว่าจะไปฉีดที่โรงพยาบาลเอง ซึ่งในตอนนั้นยังไม่รู้อีกว่าวิตามิน40เข็ม มีอะไรบ้าง แต่เริ่มเอะใจราคาวิตามินดี และพลาเซนต้าเลยไปหาข้อมูลราคากลางในอินเตอร์เนต
-หลังจากไปหาข้อมูลวิตามินd ราคาทั่วไปอยู่ที่ 1800-2500 ทำให้ประหลาดใจกับราคาที่บอกให้จ่ายเพิ่ม3 เข็ม 25000 บาทมาก ซึ่งมันควรจะอยู่ในคอร์สที่จ่ายไป(เลยไปซื้อโปรวิตามินดี วันที่25/5/68 ราคา1990 บาท ซึ่งจ่ายเพิ่มต่างหากผ่านทางแอปGohospo ฉีดกับทางคลินิคนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าวิตามิน ราคาจริงราคานี้ (ตอนฉีดมีผู้หญิงมาฉีดให้และไม่มีหมอคอยดูอยู่ตอนที่ฉีด) และถามพนักงานว่าคอร์สวิตามินที่จะฉีด40ตัว มีอะไรบ้าง ซึ่งเพิ่งจะมาบอกว่ามีimmune และวิตามินถูกๆอึกหลายตัว ทำให้รู้แล้วว่าโดนหลอก ไม่เป็นไปตามที่เซลล์พูดตอนจะขายคอร์ส
-วันที่ชำระเงินไม่ได้ให้ใบเสร็จมา ทางผู้บริโภคเลยทวงไป จึงได้ไฟล์มาทางไลน์ หลังจากนั้นเกือบเดือน ได้วันที่25/5/68ซึ่งในบิล ไม่ระบุชื่อวิตามิน โดส มีแค่40item และหมดอายุเพียง1ปี ซึ่งย้อนคิดดูคือไม่เป็นธรรมมากๆ ไม่ระบุอะไรเลย และมาเก็บค่าวิตามินเพิ่มแบบแพงๆ เรื่องระยะเวลาในบิล1ปี ตอนขายคอร์สบอกทำเดือนละครั้ง เช็คผลเลือดให้ตลอด ลงทุนเพื่อสุขภาพเดือนละ3650 บาท จ่ายได้ไหม ซึ่งใช้เวลา3ปีกว่า ทำให้รู้สึกว่าไม่ตรงกับที่ขายคอร์ส และมีจ่ายเพิ่มในราคาที่ไม่เป็นธรรม
4.วันที่26/5/68 เริ่มบอกเซลล์และติดต่อผู้จัดการว่าขอยกเลิกคอร์สขอเงินคืน
5.วันที่28/5/68 ออกหนังสือสัญญาขอยกเลิกคอร์ส
6.นัดเจรจา 5/6/68 แต่ไม่เป็นผล คลีนิคไม่ยอมคืนเงินเต็มจำนวน ซึ่งเสนอคืนให้ 85000 บาท หักค่าแลป 25000 บาทค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต 13113บาท ซึ่งทางผู้บริโภคยังไม่เคยเข้ารับการฉีดคอร์ส 40เข็มเลย และราคาแลปก็เกินราคาตลาดไปมาก ราคาตลาดอยู่หลักพัน และคลินิคเสนอตรวจฟรีในตอนแรก เพื่อชักจูงพูดไม่ตรงจนมาซื้อคอร์ส สิ่งที่ไม่ตรงกับที่เซลล์พูด -จ่ายเงินวันที่27/4 ได้บิลเอกสารทางไลน์วันที่25/5 ซึ่งไม่ระบุคอร์ส 129000 บาท ผู้บริโภคจะได้รับอะไรบ้าง โดสเท่าไหร่ และระบุว่าหมดอายุ1ปี ซึ่งข้อมูลไม่ตรงกับตอนจะขายคอร์ส พูดว่า เดือนละ 3650 บาท พอที่จะจ่ายดูแลสุขภาพได้ไหม ซึ่งใช้เวลา เกือบ3ปี และจะคอยเช็คค่าเลือดให้ทุกเดือน จึงยินดีจ่ายสมัครคอร์สไป พอวันที่จะเข้ามารับวิตามิน พูดอีกแบบเหมือนอยากให้เข้ามาถี่ๆ อาทิตย์ละครั้ง ให้จ่ายค่าวิตามินเพิ่มเติม จนวันที่จะมาใช้บริการยังไม่รู้ว่ามีวิตามินอะไรบ้าง ซึ่งตามหลักของการซื้อของ ผู้บริโภคควรจะได้รู้ชื่อสินค้า ปริมาณ เที่ยลกับราคาที่จ่ายไป (ในใบเสร็จระบุว่า คอร์สหมดอายุภายใน1ปี แต่เซลล์แจ้งว่าคอร์สมีอายุ3ปี ไม่ต้องห่วงอายุคอร์ส มีหลักฐานเป็นแชต)
-ชักจูงให้เข้ามาสแกนร่างกายฟรีด้วยเครื่องbio scan เอามือ ขาแนบโลหะ พูดถึงผลที่ออกมาเรื่องสุขภาพที่แย่มาก สมองทำงานหนักหลอดเลือดหนืดไม่ดี ทำให้ผู้บริโภคกลัว แล้วพามาฟังคอร์สขายต่อ พูดโน้มน้าวไปไกล จนหลงเชื่อว่าจะดูแล พอจะมารับบริการกลับพบว่าไม่ตรงตามที่พูดไว้เลย ทำให้รู้สึกตกใจ และรู้สึกเหมือนถูกหลอกให้ซื้อคอร์ส และผลเลือดที่เจาะวันที่ 27/4/68ก็คลาดเคลื่อนไปมาก เช่น ค่าLDL -255 ขณะที่เคยตรวจวัดได้188,คอเลสเตอรอล 348 แต่เคยวัดได้ 255 วันที่ 19เดือน4
-ประสิทธิภาพของเครื่องสแกนสามารถบอกได้ถึงภาวะร่างกายที่แย่จริงเหรอ -คอร์สมูลค่า 520000 บาทที่เซลล์พูดไม่มีอยู่จริง มีแต่ต้องจ่ายวิตามินตัวอื่นๆเพิ่มในราคาสูงมาก และวิตามินในคอร์สมีแต่ราคาถูกๆ -คลินิคใช้เทคนิคการขายแบบโกหก ไม่ตรงไปตรงมา แล้วผู้บริโภคก็มารู้ทีหลัง ถึงต้องยกเลิกคอร์ส -ผู้บริโภคยินดีให้ข้อมูลเพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่ประชาชน ที่โดนหลอกหลวงด้วยเทคนิคการขายให้มาตรวจสุขภาพฟรีและบอกว่าสุขภาพแย่ ป่วย เกินความเป็นจริงที่เครื่องจะตรวจได้ทำให้กลัวพูดชักอีกอย่าง พอจ่ายเงินแล้วต้องมาจ่ายเพิ่มในราคาไม่ยุติธรรม (มองย้อนกลับไปเครื่องที่บอกว่าสุขภาพไม่ดี จริงๆแล้วเชื่อถือไม่ได้ด้วยซ้ำ หลงไปกับคำพูดชักจูง)
-ได้ทวงถามถึงสิ่งที่กล่าวไปข้างต้นกับทางแชตคลีนิคทุกวันแต่ไม่มีคำอธิบายอะไรกลับมาเลย
-ทางคลีนิคอ้างว่า วิธีการขายเป็นเรื่องปกติทึ่คลินิคอื่นเค้าทำกัน สอบถามมาตรฐานเครื่องbio scan ที่สแกนก็ไม่ให้คำตอบว่าเอามาจาก ประเทศอะไร มีหน่อยงานรับรองไหมว่าสมารถวินิจฉัยร่างการ สมอง หลอดเลือด ตับ ไต ตกใจกลัวยิ่งกว่าการไปพบแพทย์อีก