เคสนี้ควรจะคิดในแง่บวกอย่างไรได้บ้างคะ

สวัสดีค่ะ รบกวนสอบถามวิธีคิดบวกในเคสนี้ค่ะ คือพื้นฐานชีวิตครอบครัวเราไม่ได้ดีเลยค่ะ ค่อนไปทางแย่มากด้วยซ้ำ เราเลยตัดสินใจออกจากบ้านมาอยู่กับคุณป้าคนนึงตั้งแต่เด็กๆ (ตอนนั้นอายุ 12 ปี) คุณป้าส่งเราเรียนจนจบมอปลาย หลังจากนั้นเราก็ได้ออกมาจากบ้านป้าเพื่อมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยตัวเอง โดยเราได้อาศัยบ้านเพื่อนคนนึงอยู่ (ตอนนั้นเราอายุ 18 ปี)อยู่ได้ประมาณ 8 เดือนเราก็ออกมาเช่าห้องอยู่เอง โดยในระหว่างที่เราอยู่บ้านเพื่อน เราก็ได้ทำงานพาร์ทไทม์ส่งตัวเองเรียนมหาวิทยาลัย แล้วเราก็ช่วยทำงานบ้านเกือบทุกอย่าง เพราะเราก็คิดเสมอว่าเราอาศัยเค้าอยู่ จุดพีคที่ต้องออกจากบ้านคือ ญาติผู้ใหญ่ทางเพื่อนคนนึงไม่ชอบเรา และเค้ามีอำนาจใหญ่สุดในบ้าน เค้าไม่อยากให้เราอยู่บ้าน ญาติคนนั้นเค้าว่าเรา ว่าเสียๆหาย ว่าเราว่าเรากินกับเยอะ(ซึ่งตอนนั้นเราคงกินกับเยอะจริงๆ เพราะเราอยู่เเบบไม่ค่อยมีกินตั้งแต่เด็ก) เราร้องไห้กับคำพูดเค้าบ่อยมาก ติดที่เราไม่มีที่ไป  และวันที่เราออกจากบ้านเพื่อนเราออกแบบฉุกละหุกมาก ตอนนั้นเราจำได้เราทำงานเราเลิกดึก เรากลับมาเราก็บอกเพื่อนว่าเราจะออกไปอยู่ข้างนอก เพื่อนก็บอกงั้นออกไปตอนนั้นเลย เค้าช่วยเราเก็บของ เหมือนเค้ารีบให้เราออกจากบ้านเค้า เหตุการณ์นั้นมันผ่านมาได้ 10 กว่าปีแล้วค่ะ ตอนนี้เราก็มีชีวิตที่ดีกว่าแต่ก่อนเยอะเลย ดีกว่าเยอะมาก ไม่ลำบากเหมือนแต่ก่อนแล้ว ที่ผ่านมาเราก็ได้เจอเพื่อนคนนั้นเรื่อยๆ คือเราไม่เคยลืมบุญคุณครอบครัวนี้เลยที่เค้าให้เราอยู่บ้านตอนนั้น ที่ผ่านมาช่วงเทศกาลปีใหม่เราก็ได้เอากระเช้าไปไหว้พ่อแม่เพื่อนทุกปี ยกเว้นช่วงแรกที่เราตั้งตัวอยู่เราไม่ได้ไปหาเค้าเลย เราแต่งงานเมื่อปีที่แล้วเราก็กล่าวขอบคุณเค้าขอบคุณครอบครัวเค้าในงานแต่งออกไมค์เลย เชิญครอบครัวเค้ามางานเราทั้งครอบครัว  จนมาเมื่อวานซืนมีโอกาสได้คุยกันกับเพื่อนคนนี้ เรามีโอกาสได้เล่าชีวิตภูมิหลังที่เราเจอมาให้เค้าฟัง แล้วก็ได้เปิดอกคุยกัน เราเพิ่งรู้ทีหลังว่า ที่เค้ารีบช่วยเราเก็บของเหมือนกึ่งๆไล่เราในตอนนั้น ตอนที่เราอยู่บ้านเค้าเพราะ ญาติผู้ใหญ่คนนั้นเค้ากำลังเดินทางกลับมาจากบ้านพอดี และเค้าไม่อยากให้ชีวิตครอบครัวเค้ามีปัญหากันอีกเหมือนที่ผ่านมา และเพื่อนดิฉันก็ได้เปิดอกคุยว่าที่ผ่านมา 10 กว่าปีนั้น เค้าไม่ได้ให้ใจเราเลย ที่เราพูดขอบคุณเค้าในงานแต่ง เค้าไม่อินด้วยซ้ำและหาว่าเราเสแสร้งอีกต่างหาก ต้นเหตุมาจากตอนที่ออกจากบ้านเค้าตอนนั้น ดิฉันได้ปรับทุกข์กับเพื่อนอีกคนว่าอึดอัดใจที่ต้องอยู่บ้านแล้วครอบครัวเค้าต้องทะเลาะกันเพราะดิฉัน แต่ไปพูดอีท่าไหนไม่รู้ ทำให้เพื่อนดิฉันรู้สึกโกรธดิฉันตั้งแต่ตอนนั้นเลย แต่ดิฉันไม่รู้มาก่อนว่าเพื่อนคนนี้เค้าโกรธดิฉันอยู่ลึกๆ แต่พอเค้าฟังดิฉันเล่าเรื่องภูมิหลังของดิฉันให้ฟัง เค้าบอกว่าเค้าเคลียร์แล้ว เค้าเข้าใจดิฉันหมดทุกอย่างแล้ว ไม่ได้ติดอะไรแล้วจริงๆ ดิฉันก็รู้สึกดีที่เค้าเข้าใจไม่โกรธ ไม่ติดใจอะไรแล้ว แต่ลึกๆแล้ว ผ่านมาเกือบสองวันแล้ว ดิฉันกลับรู้สึกช๊อคมากกับคำพูดของเพื่อน คือดิฉันช๊อคว่าแล้วที่ผ่านมาคืออะไร เค้าเสแสร้งกับดิฉันมาตลอดเลยใช่มั้ย เค้าแกล้งทำดีกับดิฉันมาตลอด รู้สึกเสียใจจริงๆ รู้ว่ามันเป็นอดีตผ่านมาแล้ว รู้ว่าจากนี้ไปเราจะไม่ติดใจอะไรกันแล้ว  จะคบกันแบบสนิทใจมากขึ้นกว่าเดิม แต่มันทำใจยากว่าแล้วที่ผ่านมาคืออะไร แล้วถ้าเมื่อวานซืนเราไม่ได้เปิดใจกัน เพื่อนคนนี้ก็คงติดไปเรื่อยๆใช่มั้ย ดิฉันจะจัดการความรู้สึกสับสนนี้อย่างไรดี และดิฉันควรมีวิธีคิดปล่อยวางกับเพื่อนคนที่เค้าเอาเรื่องที่เราเล่าให้ฟังไปพูดกับเพื่อนคนนี้ได้อย่างไรคะ รู้สึกโกรธ แต่โกรธแบบสงบ แต่รู้สึกดีที่ตอนนี้ก็ไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนคนนั้นแล้ว เพราะรู้สึกว่านิสัยเข้ากันไม่ได้ ขอคำปรึกษาพี่ๆน้องๆเพื่อนชาวพันทิปด้วยนะคะ ตอนนี้ทุกข์ใจจริงๆ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำ และขอบคุณมากๆที่อ่านจบค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่