กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดมหกรรมลดราคาสินค้าครั้งใหญ่ ‘รวมพลังห้างท้องถิ่น ลดยิ่งใหญ่ ไทยช่วยไทย (LOCAL Low COST)’ เริ่มแล้ววันนี้ – 15 พฤศจิกายน 2568 เปิดโอกาสให้ประชาชนใช้สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการคนละครึ่งพลัส และประชาชนทั่วไป ซื้อสินค้าราคาพิเศษลดสูงสุดถึง 60% ได้ที่ห้างค้าส่ง-ค้าปลีกท้องถิ่นทั่วประเทศ 101 แห่ง 800 สาขาทั่วประเทศ 
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568) เป็นวันแรกของการเริ่มเปิดงานมหกรรมลดราคาสินค้า ‘รวมพลังห้างท้องถิ่น ลดยิ่งใหญ่ ไทยช่วยไทย’ (LOCAL Low COST) ซึ่งเป็นกิจกรรมรวมห้างค้าส่ง-ค้าปลีกท้องถิ่นทั่วประเทศ 101 แห่ง กว่า 800 สาขา เพื่อจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ผลิตภัณฑ์ความงาม อาหารสัตว์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในราคาพิเศษ ลดสูงสุดถึง 60% สอดรับนโยบายรัฐบาล ‘กระตุ้นสั้น ได้ผลยาว และกระจายตัว’ ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงสินค้าราคาประหยัด ลดภาระค่าครองชีพ และมีความเป็นอยู่ที่ดี
กรมฯ ขอเชิญชวนประชาชนเลือกซื้อสินค้าคุณภาพในราคาถูก เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้ที่ห้างค้าส่ง-ค้าปลีกที่เข้าร่วมมหกรรมใกล้บ้านของท่าน ตั้งแต่วันนี้-15 พฤศจิกายน 2568 โดยสามารถใช้สิทธิร่วมกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่กำลังเริ่มดำเนินการในช่วงเวลานี้ คือ
1) บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รัฐบาลได้เพิ่มวงเงินชั่วคราวอีก 850 บาท เป็นระยะเวลา 2 เดือน (พฤศจิกายน-ธันวาคม 2568) จากเดิมได้รับ 300 บาท ทุกวันที่ 1 ของเดือน รวมเป็น 1,150 บาท โดยผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 13.4 ล้านคน สามารถนำวงเงินดังกล่าวมาใช้จ่ายซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ณ ห้างค้าส่ง-ค้าปลีกท้องถิ่นที่เป็นร้านธงฟ้าทั่วประเทศได้
2) ผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งพลัส จำนวน 20 ล้านคน ประกอบด้วย ผู้ที่อยู่ในระบบภาษีจะได้รับวงเงินจำนวน 2,400 บาท และประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษี ได้รับวงเงินจำนวน 2,000 บาท ก็สามารถนำสิทธิมาใช้ซื้อสินค้าได้ที่ร้านค้าปลีก/ร้านโชห่วย ที่ร่วมโครงการคนละครึ่งพลัสได้ด้วย”
การจัดมหกรรม LOCAL Low COST ในครั้งนี้ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศผ่านห้างค้าส่ง-ค้าปลีกท้องถิ่นของคนไทยที่กระจายอยู่ทั่วประเทศให้มีความคึกคัก นับเป็นเส้นเลือดฝอยทางธุรกิจที่มีความสำคัญอย่างมาก เปิดโอกาสให้ธุรกิจรายเล็กสามารถแข่งขันทางการค้าได้อย่างเท่าเทียม มากไปกว่านั้น ยังเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่ประชาชนจะได้ร่วมกันสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจท้องถิ่น ด้วยการใช้สิทธิที่ภาครัฐมอบให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนผ่านกลไกการส่งต่อสินค้าราคาประหยัดจากห้างค้าส่ง-ค้าปลีกท้องถิ่นสู่ร้านค้าชุมชนด้วย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : 
https://www.prachachat.net/breaking-news/news-1912722



																															 
						
เริ่มแล้ว รวมพลังห้างท้องถิ่น ลดราคาครั้งใหญ่ รับโครงการ “คนละครึ่งพลัส”
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568) เป็นวันแรกของการเริ่มเปิดงานมหกรรมลดราคาสินค้า ‘รวมพลังห้างท้องถิ่น ลดยิ่งใหญ่ ไทยช่วยไทย’ (LOCAL Low COST) ซึ่งเป็นกิจกรรมรวมห้างค้าส่ง-ค้าปลีกท้องถิ่นทั่วประเทศ 101 แห่ง กว่า 800 สาขา เพื่อจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ผลิตภัณฑ์ความงาม อาหารสัตว์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในราคาพิเศษ ลดสูงสุดถึง 60% สอดรับนโยบายรัฐบาล ‘กระตุ้นสั้น ได้ผลยาว และกระจายตัว’ ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงสินค้าราคาประหยัด ลดภาระค่าครองชีพ และมีความเป็นอยู่ที่ดี
กรมฯ ขอเชิญชวนประชาชนเลือกซื้อสินค้าคุณภาพในราคาถูก เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้ที่ห้างค้าส่ง-ค้าปลีกที่เข้าร่วมมหกรรมใกล้บ้านของท่าน ตั้งแต่วันนี้-15 พฤศจิกายน 2568 โดยสามารถใช้สิทธิร่วมกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่กำลังเริ่มดำเนินการในช่วงเวลานี้ คือ
1) บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รัฐบาลได้เพิ่มวงเงินชั่วคราวอีก 850 บาท เป็นระยะเวลา 2 เดือน (พฤศจิกายน-ธันวาคม 2568) จากเดิมได้รับ 300 บาท ทุกวันที่ 1 ของเดือน รวมเป็น 1,150 บาท โดยผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 13.4 ล้านคน สามารถนำวงเงินดังกล่าวมาใช้จ่ายซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ณ ห้างค้าส่ง-ค้าปลีกท้องถิ่นที่เป็นร้านธงฟ้าทั่วประเทศได้
2) ผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งพลัส จำนวน 20 ล้านคน ประกอบด้วย ผู้ที่อยู่ในระบบภาษีจะได้รับวงเงินจำนวน 2,400 บาท และประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษี ได้รับวงเงินจำนวน 2,000 บาท ก็สามารถนำสิทธิมาใช้ซื้อสินค้าได้ที่ร้านค้าปลีก/ร้านโชห่วย ที่ร่วมโครงการคนละครึ่งพลัสได้ด้วย”
การจัดมหกรรม LOCAL Low COST ในครั้งนี้ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศผ่านห้างค้าส่ง-ค้าปลีกท้องถิ่นของคนไทยที่กระจายอยู่ทั่วประเทศให้มีความคึกคัก นับเป็นเส้นเลือดฝอยทางธุรกิจที่มีความสำคัญอย่างมาก เปิดโอกาสให้ธุรกิจรายเล็กสามารถแข่งขันทางการค้าได้อย่างเท่าเทียม มากไปกว่านั้น ยังเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่ประชาชนจะได้ร่วมกันสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจท้องถิ่น ด้วยการใช้สิทธิที่ภาครัฐมอบให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนผ่านกลไกการส่งต่อสินค้าราคาประหยัดจากห้างค้าส่ง-ค้าปลีกท้องถิ่นสู่ร้านค้าชุมชนด้วย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/breaking-news/news-1912722