หลายท่านอาจจะสงสัยว่าต้องใช้หรือเปล่า เพราะมีคำว่าหม่อมนำหน้า หรืออย่างในบางกระทู้ ก็เคยมีเขียนถึงคนที่มียศเป็นหม่อมหลวง และใช้คำว่าทรงด้วย
คือก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า พระราชโอรส หรือพระราชธิดาของพระมหากษัตริย์ จะมีพระยศอยู่ด้วยกัน ๒ แบบ คือ เจ้าฟ้า และ พระองค์เจ้า
เจ้าฟ้าคือพระราชโอรส และพระราชธิดาที่ประสูติแต่พระอัครมเหสี พระบรมราชินี พระบรมราชเทวี พระวรราชเทวี ฯลฯ และพระราชมารดาของพระราชโอรส พระราชธิดาเหล่านั้นก็อาจจะเป็นเชื้อพระวงศ์ด้วยกัน ตัวอย่างก็เช่น
-รัชกาลที่ ๖ แรกพระราชสมภพทรงเป็น เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ เพราะทรงเป็นพระราชโอรสที่ประสูติแต่ สมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง (พระบรมราชชนนีพันปีหลวงมาได้รับการสถาปนาหลังจากรัชกาลที่ ๖ ขึ้นครองราชย์แล้ว)
-สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ก็ทรงเป็นพระราชโอรสที่ประสูติแต่ สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
-พระราชโอรส พระราชธิดาของในหลวงรัชกาลที่ ๙
ส่วนพระองค์เจ้า ก็คือพระราชโอรสและพระราชธิดาที่ประสูติแต่ เจ้าจอมมารดา ที่เป็นสามัญชน เจ้าจอมมารดาบางท่านก็อาจจะมียศเป็นหม่อมราชวงศ์ หรือหม่อมหลวงด้วย แต่ก็ถือเป็นสามัญชน เช่น
-กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระนามเดิมคือ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาชุ่ม ในรัชกาลที่ ๔
-กรมหลวงชุมพร พระนามเดิมคือ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาโหมด ในรัชกาลที่ ๕
แต่ก็มีพระองค์เจ้าบางองค์ที่ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น เจ้าฟ้า เช่น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เนื่องจากรัชกาลที่ ๕ ทรงเล็งเห็นว่า พระมารดาของเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ คือ พระองค์เจ้าพรรณราย นั้น ก็เป็นพระขนิษฐาร่วมพระบิดาของสมเด็จพระเทพศิรินทรา บรมราชินี ซึ่งเป็นพระชนนีของพระองค์เอง จึงได้ทรงสถาปนาให้เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ พร้อมด้วยเจ้าฟ้ากรมขุนขัตติยกัลยา ที่เป็นพระเชษฐภคินี (พี่สาว) ของเจ้าฟ้ากรมพระยานริศราฯ เป็นเจ้าฟ้า (เพราะเมื่อแรกพระราชสมภพ รัชกาลที่ ๕ และพระขนิษฐา พระอนุชาร่วมพระชนนีก็เป็นเจ้าฟ้า)
ทีนี้ เมื่อเจ้าฟ้าชาย หรือ พระองค์เจ้าชาย เสกสมรสกับหญิงสาวที่เป็นสามัญชน หญิงสาวคนนั้นก็จะได้เป็น หม่อม ดังเช่น สมเด็จย่าของเราที่แต่เดิมก็เป็น น.ส.สังวาลย์ เมื่อเสกสมรสกับเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดชแล้ว ก็ได้เป็น หม่อมสังวาลย์
เมื่อเจ้าฟ้าชาย หรือพระองค์เจ้าชายเสกสมรสกับหม่อมแล้วมีลูก ลูกก็จะได้เป็น หม่อมเจ้า ซึ่งชั้นหม่อมเจ้านี้ยังถือว่าเป็นเจ้าอยู่ ต้องใช้ราชาศัพท์ในการพูดคุย เช่น ท่านมุ้ย ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ก็ต้องใช้ราชาศัพท์ด้วย เวลาจะเรียกชื่อเล่นของหม่อมเจ้า หรือเรียกพระนามอย่างลำลองก็ใช้คำนำหน้าว่า ท่าน เมื่อหม่อมเจ้ามีชายมีพระชายา พระชายาก็จะเป็นหม่อม ลูกก็จะเป็น หม่อมราชวงศ์ หรือที่เรียกแบบลำลองว่า คุณชาย (ดูตัวอย่างได้จากคุณชายจุฑาเทพ)
ซึ่งก็มีหม่อมเจ้าบางองค์อีกที่ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น พระองค์เจ้า เช่น
-พระองค์เจ้าสุขุมาภินันท์ (พระโอรสในเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์)
-พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ (พระโอรสในเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ)
-พระองค์เจ้านักขัตรมงคล (พระโอรสในกรมพระจันทบุรีนฤนาถ) พระบิดาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙
ซึ่งการสถาปนาจากหม่อมเจ้าเป็นพระองค์เจ้านั้น อาจจะมีการสถาปนาเฉพาะหม่อมเจ้าพระองค์นั้นพระองค์เดียว ทำให้โอรสและธิดาก็ยังคงเป็นหม่อมราชวงศ์ตามเดิม
เมื่อหม่อมราชวงศ์มีลูก ลูกก็จะเป็นหม่อมหลวง ซึ่งเรียกแบบลำลองว่า คุณ อย่างเช่น คุณปลื้ม เป็นต้น
ตั้งแต่ชั้นหม่อมราชวงศ์ลงมาก็ถือว่าเป็นสามัญชนแล้ว
หม่อมหลวง หม่อมราชวงศ์ ต้องใช้ราชาศัพท์ไหมนะ ???
คือก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า พระราชโอรส หรือพระราชธิดาของพระมหากษัตริย์ จะมีพระยศอยู่ด้วยกัน ๒ แบบ คือ เจ้าฟ้า และ พระองค์เจ้า
เจ้าฟ้าคือพระราชโอรส และพระราชธิดาที่ประสูติแต่พระอัครมเหสี พระบรมราชินี พระบรมราชเทวี พระวรราชเทวี ฯลฯ และพระราชมารดาของพระราชโอรส พระราชธิดาเหล่านั้นก็อาจจะเป็นเชื้อพระวงศ์ด้วยกัน ตัวอย่างก็เช่น
-รัชกาลที่ ๖ แรกพระราชสมภพทรงเป็น เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ เพราะทรงเป็นพระราชโอรสที่ประสูติแต่ สมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง (พระบรมราชชนนีพันปีหลวงมาได้รับการสถาปนาหลังจากรัชกาลที่ ๖ ขึ้นครองราชย์แล้ว)
-สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ก็ทรงเป็นพระราชโอรสที่ประสูติแต่ สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
-พระราชโอรส พระราชธิดาของในหลวงรัชกาลที่ ๙
ส่วนพระองค์เจ้า ก็คือพระราชโอรสและพระราชธิดาที่ประสูติแต่ เจ้าจอมมารดา ที่เป็นสามัญชน เจ้าจอมมารดาบางท่านก็อาจจะมียศเป็นหม่อมราชวงศ์ หรือหม่อมหลวงด้วย แต่ก็ถือเป็นสามัญชน เช่น
-กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระนามเดิมคือ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาชุ่ม ในรัชกาลที่ ๔
-กรมหลวงชุมพร พระนามเดิมคือ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาโหมด ในรัชกาลที่ ๕
แต่ก็มีพระองค์เจ้าบางองค์ที่ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น เจ้าฟ้า เช่น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เนื่องจากรัชกาลที่ ๕ ทรงเล็งเห็นว่า พระมารดาของเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ คือ พระองค์เจ้าพรรณราย นั้น ก็เป็นพระขนิษฐาร่วมพระบิดาของสมเด็จพระเทพศิรินทรา บรมราชินี ซึ่งเป็นพระชนนีของพระองค์เอง จึงได้ทรงสถาปนาให้เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ พร้อมด้วยเจ้าฟ้ากรมขุนขัตติยกัลยา ที่เป็นพระเชษฐภคินี (พี่สาว) ของเจ้าฟ้ากรมพระยานริศราฯ เป็นเจ้าฟ้า (เพราะเมื่อแรกพระราชสมภพ รัชกาลที่ ๕ และพระขนิษฐา พระอนุชาร่วมพระชนนีก็เป็นเจ้าฟ้า)
ทีนี้ เมื่อเจ้าฟ้าชาย หรือ พระองค์เจ้าชาย เสกสมรสกับหญิงสาวที่เป็นสามัญชน หญิงสาวคนนั้นก็จะได้เป็น หม่อม ดังเช่น สมเด็จย่าของเราที่แต่เดิมก็เป็น น.ส.สังวาลย์ เมื่อเสกสมรสกับเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดชแล้ว ก็ได้เป็น หม่อมสังวาลย์
เมื่อเจ้าฟ้าชาย หรือพระองค์เจ้าชายเสกสมรสกับหม่อมแล้วมีลูก ลูกก็จะได้เป็น หม่อมเจ้า ซึ่งชั้นหม่อมเจ้านี้ยังถือว่าเป็นเจ้าอยู่ ต้องใช้ราชาศัพท์ในการพูดคุย เช่น ท่านมุ้ย ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ก็ต้องใช้ราชาศัพท์ด้วย เวลาจะเรียกชื่อเล่นของหม่อมเจ้า หรือเรียกพระนามอย่างลำลองก็ใช้คำนำหน้าว่า ท่าน เมื่อหม่อมเจ้ามีชายมีพระชายา พระชายาก็จะเป็นหม่อม ลูกก็จะเป็น หม่อมราชวงศ์ หรือที่เรียกแบบลำลองว่า คุณชาย (ดูตัวอย่างได้จากคุณชายจุฑาเทพ)
ซึ่งก็มีหม่อมเจ้าบางองค์อีกที่ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น พระองค์เจ้า เช่น
-พระองค์เจ้าสุขุมาภินันท์ (พระโอรสในเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์)
-พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ (พระโอรสในเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ)
-พระองค์เจ้านักขัตรมงคล (พระโอรสในกรมพระจันทบุรีนฤนาถ) พระบิดาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙
ซึ่งการสถาปนาจากหม่อมเจ้าเป็นพระองค์เจ้านั้น อาจจะมีการสถาปนาเฉพาะหม่อมเจ้าพระองค์นั้นพระองค์เดียว ทำให้โอรสและธิดาก็ยังคงเป็นหม่อมราชวงศ์ตามเดิม
เมื่อหม่อมราชวงศ์มีลูก ลูกก็จะเป็นหม่อมหลวง ซึ่งเรียกแบบลำลองว่า คุณ อย่างเช่น คุณปลื้ม เป็นต้น
ตั้งแต่ชั้นหม่อมราชวงศ์ลงมาก็ถือว่าเป็นสามัญชนแล้ว