คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ผมพิจารณาจากร่างในปัจจุบันที่เป็นข่าวอยู่นั้น หากมีผลบังคับใช้ บริษัทที่กำหนดให้เกษียณที่ 55 อยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องแก้ไขเป็นเกษียณที่ 60 ครับ
เนื่องจากเจตนารมย์ของการตรากฎหมายเรื่องดังกล่าว พิจารณาจากปัญหาและสภาพปัจจุบันที่พบว่า นายจ้างหลายแห่งที่ไม่กำหนดให้ลูกจ้างมีกำหนดอายุเกษียณ แต่ปล่อยให้ทำงานต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าลูกจ้างจะไม่ไหวละลาออกไปเอง เมื่อถึงเวลานั้นจึงไม่เข้าข่ายการเลิกจ้างซึ่งได้รับเงินชดเชยตามกฎหมาย ซึ่งกฎหมายเล็งเห็นปัญหานี้ จึงได้กำหนดมาตราดังกล่าวขึ้น เพื่อบังคับนายจ้างที่ไม่ได้กำหนดให้มีช่วงอายุสำหรับการเกษียณ บังคับให้ต้องเกษียณ ณ อายุ 60 ปีทุกราย เพื่อให้ลูกจ้างได้รับสิทธิสวัสดิการเนื่องจากการเลิกจ้างครับ
ซึ่งหากพิจารณาจากกฎหมายปัจจุบันนั้น การที่ไม่เลิกจ้างเนื่องจากการไม่มีการกำหนดอายุเกษียณ ไม่ถือว่าขัดกฎหมายแต่อย่างใด เพราะการให้ลูกจ้างได้มีงานทำต่อไปนั้น ถือเป็นคุณต่อลูกจ้าง ดังนั้นนายจ้างหลายแห่งจึงอาศัยช่องโหว่แห่งกฎหมายนี้ ในการไม่กำหนดอายุเกษียณเพื่อที่จะได้ไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยครับ
เนื่องจากเจตนารมย์ของการตรากฎหมายเรื่องดังกล่าว พิจารณาจากปัญหาและสภาพปัจจุบันที่พบว่า นายจ้างหลายแห่งที่ไม่กำหนดให้ลูกจ้างมีกำหนดอายุเกษียณ แต่ปล่อยให้ทำงานต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าลูกจ้างจะไม่ไหวละลาออกไปเอง เมื่อถึงเวลานั้นจึงไม่เข้าข่ายการเลิกจ้างซึ่งได้รับเงินชดเชยตามกฎหมาย ซึ่งกฎหมายเล็งเห็นปัญหานี้ จึงได้กำหนดมาตราดังกล่าวขึ้น เพื่อบังคับนายจ้างที่ไม่ได้กำหนดให้มีช่วงอายุสำหรับการเกษียณ บังคับให้ต้องเกษียณ ณ อายุ 60 ปีทุกราย เพื่อให้ลูกจ้างได้รับสิทธิสวัสดิการเนื่องจากการเลิกจ้างครับ
ซึ่งหากพิจารณาจากกฎหมายปัจจุบันนั้น การที่ไม่เลิกจ้างเนื่องจากการไม่มีการกำหนดอายุเกษียณ ไม่ถือว่าขัดกฎหมายแต่อย่างใด เพราะการให้ลูกจ้างได้มีงานทำต่อไปนั้น ถือเป็นคุณต่อลูกจ้าง ดังนั้นนายจ้างหลายแห่งจึงอาศัยช่องโหว่แห่งกฎหมายนี้ ในการไม่กำหนดอายุเกษียณเพื่อที่จะได้ไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยครับ
แสดงความคิดเห็น
ครม.ออกกฎหมายแรงงานใหม่ ต้องเปลี่ยนการเกษียณอายุจาก 55 ปี เป็น 60 ปีไหม
ถ้าพรบ.แรงงานฉบับใหม่ออกบังคับใช้จะมีผลอะไรไหม เช่น ต้องเปลี่ยนการเกษียณอายุจาก 55 ปี เป็น 60 ปีไหมค่ะ