ต่อจาก
Japan ในโลกเงียบ (Part 1, OSAKA)-->
https://pantip.com/topic/36079654
Japan ในโลกเงียบ (Part 2, KYOTO)-->
https://pantip.com/topic/36081855
สนุกกับชีวิต
ฮัลโหลวว วันนี้ผมจะไปเมืองกวาง นารา นั้นเองครับ จัดการตัวเองเสร็จแล้ว พร้อมออกเดินทางจากที่พักไปเริ่มต้นที่สถานี Namba เช่นเคย นาราไปไม่ยากครับ ง่ายกว่าเกียวโตเยอะเลย เบๆ อ่ะ เบๆ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ถึงนารา ไปโดยรถด่วน Rapid Exp. (สถานี Osaka-Namba > สถานี Kintetsunara)

แผนการวันนี้จะไปแค่ 3 แห่งนะครับ เดินทางในเมืองโดยรถบัสล่ะ
1. วัดโทไดจิ (Todaiji Temple)
2. ศาลเจ้าคาสุกะ (Kasuga Taisha)
3. วัดโทฟุคุจิ (Tofukuji Temple)
หลังจากผมลงรถไฟมาแล้ว ก็มายืนรอรถบัสที่จะไป วัดโทไดจิ กันดีกว่า พูดถึงเรื่องรถบัสที่นี่เป็นระเบียบเว่อร์ รถที่นี่แล้วแต่สาย ขึ้นข้างหน้า-ลงข้างหลัง หรือ ขึ้นข้างหลัง-ลงข้างหน้า พี่คนขับจะไม่เปิดประตูให้คนเข้า จนกว่าคนลงจะหมดนะครับ แล้วรถตอนจอดป้ายมันก็จะโหลดลงมาเตี้ยๆ ให้คนสูงอายุไม่ต้องลำบากก้าวขาสูงๆ เป็นอะไรที่เล็กๆ แต่น่าภูมิใจกับระบบรถเค้าจริงๆ


ลงรถมาข้ามถนนตรงไปเรื่อยๆ ก็จะถึง วัดโทไดจิ ครับ ระหว่างทางก็มีกวางเต็มไปหมด ตอนผมไปยังเช้าๆอยู่ ข้างทางก็กำลังเตรียมเปิดร้านขายของกุ๊กกิ๊ก กับขนมเซมเบ้กวางครับ


มาถึงวัดโทไดจินะครับ ค่าเข้าจะแบ่งเป็น 2 ประเภท เป็นค่าเข้าวิหารหลวงพ่อโต 500 เยน และค่าเข้าพิพิธภัณฑ์วัดโทไดจิ 500 เยน (แต่ถ้าซื้อรวมรู้สึกจะแค่ 800 เยน) ผมเลือกแค่ค่าเข้าวิหาร






วัดนี้ได้รับการบันทึกว่าเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยนะ รวมถึงเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโต สูงถึง 15 เมตร ใหญ่สุดในญี่ปุ่นด้วย ดูยิ่งใหญ่มากๆครับ ภายในวัดจะมีแบบจำลองวัด ประวัติ ละก็มีมุมละลายทรัพย์อีกแล้วครับ จำหน่ายเครื่องราง กับของที่ระลึก

เดินออกมาด้านหน้าวัดจะเจอ องค์พระ Binzuru ทำจากไม้ มีความเชื่อว่าถ้าเจ็บป่วยส่วนไหน ให้ลูบตรงนั้นที่องค์พระ จะหายดีครับ



ขาออกก็เจอกวางเป็นฝูงเลย น่าร๊าก ถ้าเอาขึ้นเครื่องกลับบ้านได้ก็ดี
มาต่อที่ ศาลเจ้าคาสุกะ ระหว่างทางเข้าไปดูลึกลับ ท่ามกลางป่าไม้ ที่เต็มไปด้วยต้นตะเกียงหินตั้งเรียงราย และบริเวณที่แห่งนี้มีตะเกียงนับพันเลยครับ ตั้งไว้เต็มไปทั้งบริเวณศาลเจ้า






เมื่อมองเห็นศาลเจ้า เข้าไปจะเจอต้นสนซีดาร์ยักษ์อายุประมาณ 1,000 กว่าปีเลยล่ะ ใหญ่สุดๆ สามารถชมได้แค่เข้าไปในบริเวณศาลเจ้านะครับ ตรงนี้มีขายตุ๊กตากวางกระเบื้องเล็กๆ คาบใบเสี่ยงเซียมซีครับ ตัวละ 600 เยน มีให้เลือกทั้งภาษาญี่ปุ่น และอังกฤษ ผมเอาแบบอังกฤษมา สุ่มหยิบๆ อิอิ

แต่ถ้าอยากเข้าไปชมด้านใน ต้องเสียค่าเข้า แต่ว่าผมแนะนำไม่ต้องลังเล ให้เสียค่าเข้าไปเลยครับ เพราะภายในบริเวณนั้นสวยมากๆ
มีตะเกียงแขวนเรียงรายตามทางเดินเต็มไปหมด ตัวศาลเจ้าโทนสีทอง ขาว แดง ดำ ตัดกับลำแสงแดดส่องลงมา แบบว่าใช่อ่ะ รวมถึงจะมีห้องลึกลับมืดตื๋อ แต่ภายในเต็มไปด้วยตะเกียงที่ประดับไฟไว้ครับ ผมชอบห้องนี้มาก น่ากลัว ชวนพิศวง แต่สวยงามจริงๆ







หลังจากออกมา ผมตั้งใจจะไปร้านอุด้ง ร้าน Mizutani Chaya ครับ แต่ดันเดินผิดทาง ไปเดินทางที่เข้าป่า หลง!! กว่าจะหาทางออกเจอ เดินย้อนกลับมานี่เหนื่อยมาก แต่ก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจจะไปร้านอุด้งนะ สายกินอยู่ละ เลยเดินไปถามเจ้าหน้าที่ตามจุด รบกวนให้เค้าชี้ทางไปเรื่อยๆ ละก็ถึงครับ อยู่ไกลเหมือนกันจากศาลเจ้าคาสุกะ


ร้านน่ารักมากอ่า คนที่ร้านก็ใจดี ผมสั่งอุด้งกุ้งเทมปุระ อร่อยมากเลย เส้นอุด้งนุ่มๆ กุ้งกินได้ทั้งตัว หางกร๊อบกรอบ ซุปหอมสุดๆ กลมกล่อมดีครับ
ของคาวไปแล้วก็ต้องมีของหวาน นี่เลย โมจิ ถั่วแดงร้อน ควันฉุยๆ หวานหอมมากๆ มีเครื่องเคียงมาให้เป็นอะไรสักอย่างผมก็ไม่ทราบ เหมือนสาหร่ายคลุกเกลือเค็มๆครับ เข้ากันดีกับถั่วแดงร้อนจริงๆ

คิดว่าคุ้มมากที่มาร้านนี้ ไม่ผิดหวังเลย ได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศ สัมผัสกับอาหาร มีความสุขแท้ๆ
ยังฟินไม่จบ ลองเดินย้อนไปอีกทาง เป็นเนินเขาสีทองทั้งลูกเลย


มีกิจกรรมกันอยู่ครับ คนญี่ปุ่นต่อแถวเข้าคิวกันยาวมาก เล่นแข่งปาแผ่นเซมเบ้ ถ้าใครปาได้ไกลสุด คงได้รางวัลอะไรสักอย่างนี่ล่ะครับ ผมยืนดูเค้าแข่งกันอยู่แปปนึงสนุกดีครับ

เดินลงไปเจอรถบัสพอดีเลยขึ้นเพื่อที่จะไปวัดโคฟุคุจิ วัดสุดท้ายของแผนการเดินทางครับ รอบนี้ใช้เวลานานอยู่ เพราะรถติดมาก กว่าจะถึง รถบัสคันนี้ไม่มีป้ายไฟบอก เสียงประกาศผมก็ไม่ได้ยิน เลยถามๆคนบนรถแทน เจอลุงคนนึงเค้าจะลงป้ายเดียวกับผมพอดี เค้าเลยช่วยบอกผมตอนลงรถ พอลงมากทำท่าทางประกอบ เอาแขนทำเป็นวงกลมๆ ทำนิ้วเดินๆๆ ผมก็งง พยายามชี้ทางไปวัดให้ครับ ใจดีมากอ่า


เดินมาตามทางที่ลุงชี้มาเรื่องๆ ก็ อ๋ออออออออ ที่ลุงทำแขนเป็นวงกลม หมายถึงบ่อน้ำใหญ่ๆอันนี้นี่เอง เลยไปหาข้อมูลมา มีชื่อว่าบ่อน้ำ Sarusawa ครับ ความพยายามของลุงสำเร็จแล้วครับ

แล้วเราก็มาถึง วัดโคฟุคุจิ กำลังบูรณะอาคารหลักอยู่ครับ เลยเดินดูเท่าที่เปิด เจดีย์ 5 ชั้นสูงมาก แถมยังเป็นเจดีย์ที่สูงเป็นอันดับสองของญี่ปุ่นด้วยนะครับ



แต่ผมยังไม่กลับ เพราะต้องไปแวะชิม Mahoroba Daibutsu Pudding พุดดิ้งโลโก้พระพุทธรูป ของดังในเมืองนาราครับ

เข้าปากคำแรกนี่ อร่อยมากกกกกกกกก ก. ล้านตัว มันเนียนนุ่ม หนึบ ละลายในปากจริงๆ อ่ะ ชอบมาก เลยซื้อมาฝากที่บ้านด้วย เค้าจะมีขายแยกนะ ระหว่างกลับบ้าน กับกินที่ร้าน ถ้ากลับบ้านกระปุกจะซีลไว้ ทำให้เก็บได้นาน โดยไม่ต้องแช่ตู้เย็นครับ มั่นใจว่าคนที่บ้านได้อร่อยแน่นอนเลย
อ่ะมีความสุข เดินทางกลับกันครับ นั่งรถบัสเหมือนเดิมครับ ไปลงที่ สถานีรถไฟ Kintetsu Nara นะครับ แต่เดี๋ยวก่อน ข้างๆสถานีมีซอยละลายทรัพย์อีกแล้วครับ หูยของล่อตาล่อใจ ตั้งแต่มาเที่ยวนี่เงินเยน บินผั่บๆ ออกจากกระเป๋าไปเรื่อยๆ ที่นี่ของแทบทุกอย่างจะแพ็กเกจจะเป็นกวางแทบทั้งหมด น่ารักจริงๆ

เดินไปเรื่อยๆจะเจอกับร้านสุดยอดของสุดยอดโมจิใส้ถั่วแดง ระดับ TV Champion ที่ชื่อว่า Nakatanidou นั่นเองครับ ไปต่อแถวยาวเหยียด ลองซื้อมา 1 ลูก 130 เยน กัดคำแรกรสชาตินี่ผมทำหน้าแบบโฆษณาของกินเลยครับ เหนียวนุ่มหนึบชวนหลงไหลมากครับ กลิ่นหอมๆ ให้ตายเถอะ เกิดมาไม่เคยกินโมจิร้านไหนอร่อยเท่านี้มาก่อน




ไฮไลท์เด็ดของที่นี่นอกจาก ความอร่อยของโมจิแล้ว เคล็ดลับมันอยู่ที่การนวดแป้งโมจิ มาดูเป็นวีดีโอกันดีกว่าครับ เหมือนโงกุนกำลังสู้กับจอมมารบู ปั๊กๆๆๆ ย๊าๆๆ ปั๊กๆๆๆ

ยืนดูเค้าทุบโมจิตุ๊บๆกันหลายรอบอยู่ สนุกดีครับ ได้เวลากลับจริงๆละ เดินย้อนกลับไปขึ้นรถไฟ
มาถึงสถานี Namba แล้วครับ คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่จะได้มาเดินในย่านโดทงบุริครับ เลยแวะหาอะไรกินกันอีกดีกว่า เจอร้านหอยเชลล์ย่าง เชฟกำลังลนไฟอยู่พอดี เลยจัดมาฝานึง อร่อยครับ เค็มๆหวานๆ ย่างกำลังดีเลย

นี่ๆ ยังๆ ไม่หมด อิ่มอยู่นะ แต่ขออีกร้านนึงละกันมาทั้งที แวะเข้าร้านซูชิหมุนครับ อร่อยดี ปลาสด จิบชาร้อนๆ คลายหนาว สบายๆ


โอเค อิ่มแล้วนาา กลับไปจัดของเตรียมกลับไทยในวันรุ่งขึ้น ทำอะไรเสร็จแล้วก็ได้เวลานอนพอดี พรุ่งนี้ต้องเช็คเอาท์ แล้วจะไปยังวัดที่ไม่ได้ไปอีก 2 แห่งครับ
ไปต่อที่
Japan ในโลกเงียบ (Part 4, OSAKA และบทส่งท้าย) --> https://pantip.com/topic/36088011
--------------------------------------------
รีวิวก่อนๆ
เวียดนามในโลกเงียบ -->
https://pantip.com/topic/35881025
เขาค้อในโลกเงียบ -->
https://pantip.com/topic/35944142
Japan ในโลกเงียบ (Part 1, OSAKA) -->
https://pantip.com/topic/36079654
Japan ในโลกเงียบ (Part 2, KYOTO) -->
https://pantip.com/topic/36081855
[CR] Japan ในโลกเงียบ (Part 3, NARA)
Japan ในโลกเงียบ (Part 1, OSAKA)--> https://pantip.com/topic/36079654
Japan ในโลกเงียบ (Part 2, KYOTO)--> https://pantip.com/topic/36081855
สนุกกับชีวิต
ฮัลโหลวว วันนี้ผมจะไปเมืองกวาง นารา นั้นเองครับ จัดการตัวเองเสร็จแล้ว พร้อมออกเดินทางจากที่พักไปเริ่มต้นที่สถานี Namba เช่นเคย นาราไปไม่ยากครับ ง่ายกว่าเกียวโตเยอะเลย เบๆ อ่ะ เบๆ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ถึงนารา ไปโดยรถด่วน Rapid Exp. (สถานี Osaka-Namba > สถานี Kintetsunara)
แผนการวันนี้จะไปแค่ 3 แห่งนะครับ เดินทางในเมืองโดยรถบัสล่ะ
1. วัดโทไดจิ (Todaiji Temple)
2. ศาลเจ้าคาสุกะ (Kasuga Taisha)
3. วัดโทฟุคุจิ (Tofukuji Temple)
หลังจากผมลงรถไฟมาแล้ว ก็มายืนรอรถบัสที่จะไป วัดโทไดจิ กันดีกว่า พูดถึงเรื่องรถบัสที่นี่เป็นระเบียบเว่อร์ รถที่นี่แล้วแต่สาย ขึ้นข้างหน้า-ลงข้างหลัง หรือ ขึ้นข้างหลัง-ลงข้างหน้า พี่คนขับจะไม่เปิดประตูให้คนเข้า จนกว่าคนลงจะหมดนะครับ แล้วรถตอนจอดป้ายมันก็จะโหลดลงมาเตี้ยๆ ให้คนสูงอายุไม่ต้องลำบากก้าวขาสูงๆ เป็นอะไรที่เล็กๆ แต่น่าภูมิใจกับระบบรถเค้าจริงๆ
ลงรถมาข้ามถนนตรงไปเรื่อยๆ ก็จะถึง วัดโทไดจิ ครับ ระหว่างทางก็มีกวางเต็มไปหมด ตอนผมไปยังเช้าๆอยู่ ข้างทางก็กำลังเตรียมเปิดร้านขายของกุ๊กกิ๊ก กับขนมเซมเบ้กวางครับ
มาถึงวัดโทไดจินะครับ ค่าเข้าจะแบ่งเป็น 2 ประเภท เป็นค่าเข้าวิหารหลวงพ่อโต 500 เยน และค่าเข้าพิพิธภัณฑ์วัดโทไดจิ 500 เยน (แต่ถ้าซื้อรวมรู้สึกจะแค่ 800 เยน) ผมเลือกแค่ค่าเข้าวิหาร
วัดนี้ได้รับการบันทึกว่าเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยนะ รวมถึงเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโต สูงถึง 15 เมตร ใหญ่สุดในญี่ปุ่นด้วย ดูยิ่งใหญ่มากๆครับ ภายในวัดจะมีแบบจำลองวัด ประวัติ ละก็มีมุมละลายทรัพย์อีกแล้วครับ จำหน่ายเครื่องราง กับของที่ระลึก
เดินออกมาด้านหน้าวัดจะเจอ องค์พระ Binzuru ทำจากไม้ มีความเชื่อว่าถ้าเจ็บป่วยส่วนไหน ให้ลูบตรงนั้นที่องค์พระ จะหายดีครับ
มาต่อที่ ศาลเจ้าคาสุกะ ระหว่างทางเข้าไปดูลึกลับ ท่ามกลางป่าไม้ ที่เต็มไปด้วยต้นตะเกียงหินตั้งเรียงราย และบริเวณที่แห่งนี้มีตะเกียงนับพันเลยครับ ตั้งไว้เต็มไปทั้งบริเวณศาลเจ้า
เมื่อมองเห็นศาลเจ้า เข้าไปจะเจอต้นสนซีดาร์ยักษ์อายุประมาณ 1,000 กว่าปีเลยล่ะ ใหญ่สุดๆ สามารถชมได้แค่เข้าไปในบริเวณศาลเจ้านะครับ ตรงนี้มีขายตุ๊กตากวางกระเบื้องเล็กๆ คาบใบเสี่ยงเซียมซีครับ ตัวละ 600 เยน มีให้เลือกทั้งภาษาญี่ปุ่น และอังกฤษ ผมเอาแบบอังกฤษมา สุ่มหยิบๆ อิอิ
แต่ถ้าอยากเข้าไปชมด้านใน ต้องเสียค่าเข้า แต่ว่าผมแนะนำไม่ต้องลังเล ให้เสียค่าเข้าไปเลยครับ เพราะภายในบริเวณนั้นสวยมากๆ
มีตะเกียงแขวนเรียงรายตามทางเดินเต็มไปหมด ตัวศาลเจ้าโทนสีทอง ขาว แดง ดำ ตัดกับลำแสงแดดส่องลงมา แบบว่าใช่อ่ะ รวมถึงจะมีห้องลึกลับมืดตื๋อ แต่ภายในเต็มไปด้วยตะเกียงที่ประดับไฟไว้ครับ ผมชอบห้องนี้มาก น่ากลัว ชวนพิศวง แต่สวยงามจริงๆ
หลังจากออกมา ผมตั้งใจจะไปร้านอุด้ง ร้าน Mizutani Chaya ครับ แต่ดันเดินผิดทาง ไปเดินทางที่เข้าป่า หลง!! กว่าจะหาทางออกเจอ เดินย้อนกลับมานี่เหนื่อยมาก แต่ก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจจะไปร้านอุด้งนะ สายกินอยู่ละ เลยเดินไปถามเจ้าหน้าที่ตามจุด รบกวนให้เค้าชี้ทางไปเรื่อยๆ ละก็ถึงครับ อยู่ไกลเหมือนกันจากศาลเจ้าคาสุกะ
ร้านน่ารักมากอ่า คนที่ร้านก็ใจดี ผมสั่งอุด้งกุ้งเทมปุระ อร่อยมากเลย เส้นอุด้งนุ่มๆ กุ้งกินได้ทั้งตัว หางกร๊อบกรอบ ซุปหอมสุดๆ กลมกล่อมดีครับ
ของคาวไปแล้วก็ต้องมีของหวาน นี่เลย โมจิ ถั่วแดงร้อน ควันฉุยๆ หวานหอมมากๆ มีเครื่องเคียงมาให้เป็นอะไรสักอย่างผมก็ไม่ทราบ เหมือนสาหร่ายคลุกเกลือเค็มๆครับ เข้ากันดีกับถั่วแดงร้อนจริงๆ
คิดว่าคุ้มมากที่มาร้านนี้ ไม่ผิดหวังเลย ได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศ สัมผัสกับอาหาร มีความสุขแท้ๆ
ยังฟินไม่จบ ลองเดินย้อนไปอีกทาง เป็นเนินเขาสีทองทั้งลูกเลย
มีกิจกรรมกันอยู่ครับ คนญี่ปุ่นต่อแถวเข้าคิวกันยาวมาก เล่นแข่งปาแผ่นเซมเบ้ ถ้าใครปาได้ไกลสุด คงได้รางวัลอะไรสักอย่างนี่ล่ะครับ ผมยืนดูเค้าแข่งกันอยู่แปปนึงสนุกดีครับ
เดินลงไปเจอรถบัสพอดีเลยขึ้นเพื่อที่จะไปวัดโคฟุคุจิ วัดสุดท้ายของแผนการเดินทางครับ รอบนี้ใช้เวลานานอยู่ เพราะรถติดมาก กว่าจะถึง รถบัสคันนี้ไม่มีป้ายไฟบอก เสียงประกาศผมก็ไม่ได้ยิน เลยถามๆคนบนรถแทน เจอลุงคนนึงเค้าจะลงป้ายเดียวกับผมพอดี เค้าเลยช่วยบอกผมตอนลงรถ พอลงมากทำท่าทางประกอบ เอาแขนทำเป็นวงกลมๆ ทำนิ้วเดินๆๆ ผมก็งง พยายามชี้ทางไปวัดให้ครับ ใจดีมากอ่า
เดินมาตามทางที่ลุงชี้มาเรื่องๆ ก็ อ๋ออออออออ ที่ลุงทำแขนเป็นวงกลม หมายถึงบ่อน้ำใหญ่ๆอันนี้นี่เอง เลยไปหาข้อมูลมา มีชื่อว่าบ่อน้ำ Sarusawa ครับ ความพยายามของลุงสำเร็จแล้วครับ
แล้วเราก็มาถึง วัดโคฟุคุจิ กำลังบูรณะอาคารหลักอยู่ครับ เลยเดินดูเท่าที่เปิด เจดีย์ 5 ชั้นสูงมาก แถมยังเป็นเจดีย์ที่สูงเป็นอันดับสองของญี่ปุ่นด้วยนะครับ
แต่ผมยังไม่กลับ เพราะต้องไปแวะชิม Mahoroba Daibutsu Pudding พุดดิ้งโลโก้พระพุทธรูป ของดังในเมืองนาราครับ
เข้าปากคำแรกนี่ อร่อยมากกกกกกกกก ก. ล้านตัว มันเนียนนุ่ม หนึบ ละลายในปากจริงๆ อ่ะ ชอบมาก เลยซื้อมาฝากที่บ้านด้วย เค้าจะมีขายแยกนะ ระหว่างกลับบ้าน กับกินที่ร้าน ถ้ากลับบ้านกระปุกจะซีลไว้ ทำให้เก็บได้นาน โดยไม่ต้องแช่ตู้เย็นครับ มั่นใจว่าคนที่บ้านได้อร่อยแน่นอนเลย
อ่ะมีความสุข เดินทางกลับกันครับ นั่งรถบัสเหมือนเดิมครับ ไปลงที่ สถานีรถไฟ Kintetsu Nara นะครับ แต่เดี๋ยวก่อน ข้างๆสถานีมีซอยละลายทรัพย์อีกแล้วครับ หูยของล่อตาล่อใจ ตั้งแต่มาเที่ยวนี่เงินเยน บินผั่บๆ ออกจากกระเป๋าไปเรื่อยๆ ที่นี่ของแทบทุกอย่างจะแพ็กเกจจะเป็นกวางแทบทั้งหมด น่ารักจริงๆ
เดินไปเรื่อยๆจะเจอกับร้านสุดยอดของสุดยอดโมจิใส้ถั่วแดง ระดับ TV Champion ที่ชื่อว่า Nakatanidou นั่นเองครับ ไปต่อแถวยาวเหยียด ลองซื้อมา 1 ลูก 130 เยน กัดคำแรกรสชาตินี่ผมทำหน้าแบบโฆษณาของกินเลยครับ เหนียวนุ่มหนึบชวนหลงไหลมากครับ กลิ่นหอมๆ ให้ตายเถอะ เกิดมาไม่เคยกินโมจิร้านไหนอร่อยเท่านี้มาก่อน
ไฮไลท์เด็ดของที่นี่นอกจาก ความอร่อยของโมจิแล้ว เคล็ดลับมันอยู่ที่การนวดแป้งโมจิ มาดูเป็นวีดีโอกันดีกว่าครับ เหมือนโงกุนกำลังสู้กับจอมมารบู ปั๊กๆๆๆ ย๊าๆๆ ปั๊กๆๆๆ
ยืนดูเค้าทุบโมจิตุ๊บๆกันหลายรอบอยู่ สนุกดีครับ ได้เวลากลับจริงๆละ เดินย้อนกลับไปขึ้นรถไฟ
มาถึงสถานี Namba แล้วครับ คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่จะได้มาเดินในย่านโดทงบุริครับ เลยแวะหาอะไรกินกันอีกดีกว่า เจอร้านหอยเชลล์ย่าง เชฟกำลังลนไฟอยู่พอดี เลยจัดมาฝานึง อร่อยครับ เค็มๆหวานๆ ย่างกำลังดีเลย
นี่ๆ ยังๆ ไม่หมด อิ่มอยู่นะ แต่ขออีกร้านนึงละกันมาทั้งที แวะเข้าร้านซูชิหมุนครับ อร่อยดี ปลาสด จิบชาร้อนๆ คลายหนาว สบายๆ
โอเค อิ่มแล้วนาา กลับไปจัดของเตรียมกลับไทยในวันรุ่งขึ้น ทำอะไรเสร็จแล้วก็ได้เวลานอนพอดี พรุ่งนี้ต้องเช็คเอาท์ แล้วจะไปยังวัดที่ไม่ได้ไปอีก 2 แห่งครับ
ไปต่อที่
Japan ในโลกเงียบ (Part 4, OSAKA และบทส่งท้าย) --> https://pantip.com/topic/36088011
--------------------------------------------
รีวิวก่อนๆ
เวียดนามในโลกเงียบ --> https://pantip.com/topic/35881025
เขาค้อในโลกเงียบ --> https://pantip.com/topic/35944142
Japan ในโลกเงียบ (Part 1, OSAKA) --> https://pantip.com/topic/36079654
Japan ในโลกเงียบ (Part 2, KYOTO) --> https://pantip.com/topic/36081855