“คิดถึงฉันมากละสิ ถึงได้รีบกลับมาที่รีสอร์ตตั้งแต่วันจันทร์แบบนี้”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงยียวนกวนประสาทนิดๆ แก้วกิริยาก็หันขวับไปทางต้นเสียงทันที และ
มันก็ไม่ต่างไปจากที่หญิงสาวคิดเลย เพราะคนที่กำลังเดินตรงเข้ามาหาก็คือปฏิพัทธ์นั่นเอง
“มาที่นี่ทำไม!”
แก้วกิริยากระชากเสียงถามอย่างรู้สึกหงุดหงิด แม้ว่าคนตรงหน้าจะแบกรับความผิด
ทั้งหมดโดยการพูดโกหก แต่แก้วกิริยาก็ยังอดรู้สึกโกรธเคืองชายหนุ่มไม่ได้ที่เขานั้น
มีส่วนทำให้แผนการของเธอผิดพลาด ซ้ำยังทำให้ความฝันอันแสนสวยงามพังพินาศ
ลงไปภายในชั่วพริบตา
แววตาของปฏิพัทธ์แข็งกร้าวขึ้นมาทันทีที่ได้ยินน้ำคำของหญิงสาวตรงหน้า
“ก็แวะมาหาเมียไง ทำไมมาไม่ได้เหรอ”
คำว่า ‘เมีย’ ที่หลุดออกมาจากปากของปฏิพัทธ์ทำให้แก้วกิริยานึกย้อนไปถึงเหตุการณ์
ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ ในยามนั้นหญิงสาวรู้สึกได้ถึงอ้อมแขนแกร่งที่กำลังโอบรัดรอบ
ตัวเธออยู่ จนคนที่เพิ่งลืมตาตื่นอดรู้สึกเขินหน้าแดงขึ้นมาไม่ได้ ยิ่งขยับกายขยุกขยิก
ร่างหนาก็ยิ่งกอดรัดเธอแน่นขึ้น หญิงสาวจึงต้องเอ่ยปรามด้วยน้ำเสียงขวยเขิน
‘มันเช้าแล้วนะคะ คุณภูปล่อยแก้วเถอะค่ะ’
เมื่อได้ยินประโยคนี้คนตัวใหญ่ก็รู้สึกโมโหคนในอ้อมแขน เขาจึงเริ่มซุกไซ้หญิงสาว
อย่างดุเดือดจนทำให้แก้วกิริยาอดรู้สึกตกใจและแปลกใจขึ้นมาไม่ได้ และเมื่อรู้สึก
ได้ถึงอะไรบางอย่างที่ผิดปกติคนตัวเล็กก็รีบพลิกกายและหันกลับไปมองใบหน้า
ของคนตัวใหญ่ที่นอนตะแคงซ้อนอยู่ทางด้านหลัง
ภาพใบหน้าหล่อคมเข้มที่ปรากฏในคลองจักษุทำให้แก้วกิริยารู้สึกตกใจแทบสิ้นสติ
เพราะคนที่กำลังกอดจูบเธออยู่นั้นก็หาใช่เจ้านายที่ตนหมายปองอยู่ไม่ แต่กลับกลาย
เป็นเพื่อนสนิทของเจ้านายเธอแทน
เมื่อรู้ตัวว่าผิดคน แก้วกิริยาก็ร้องถามเขาขึ้นมาทันที
‘นายจะทำอะไร’
คนตัวเล็กรีบผลักไสคนตัวใหญ่ให้ออกห่าง ก่อนจะกระเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียงและก้ม
เก็บชุดชั้นในที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นมาสวมใส่ด้วยสองมืออันสั่นเทาเพราะกำลัง
จับต้นชนปลายไม่ถูกกับสิ่งที่เกิดขึ้น
‘อะไรของเธอ ก็เมื่อคืนเรา...’
ปฏิพัทธ์พูดยังไม่ทันจบ คนตัวเล็กก็พูดขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงแหลมสูงแทบจะเป็นการ
ตะโกนออกมา
‘ไม่จริง! ไม่ใช่! เราสองคนไม่ได้...’
เอ่ยได้เพียงเท่านี้สติก็คืนกลับร่างของคนตัวเล็ก มือบางรีบใส่ชุดชั้นในให้เสร็จโดย
ที่ปากก็พร่ำบอกปฏิพัทธ์ไปด้วย
‘อย่าบอกใครเรื่องนี้นะ ฉันจะรีบกลับห้องเดี๋ยวนี้แหละ’
อาการตกใจ รวมไปถึงน้ำตาที่กำลังไหลรินด้วยความผิดหวังเสียใจ และท่าทีราว
กับรังเกียจเดียดฉันท์เขาอย่างมากมายทั้งที่เมื่อคืนเพิ่งจะมีความสุขด้วยกันมา
พาให้ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ปฏิพัทธ์จึงรีบหยิบกางเกงขึ้นมาสวมอย่างรู้สึกกรุ่นโกรธ ก่อนจะก้าวเข้าไปคว้าแขน
บอบบางของคนที่เพิ่งจะสวมบราเซียร์เสร็จพร้อมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกระด้าง
‘ทำไม มีฉันเป็นผัวแล้วเสียใจมากนักหรือไงฮ้า!’
‘ปล่อย!’
หญิงสาวร้องบอกให้ปล่อยเสียงดังพร้อมกับสะบัดแขนอย่างคนสติแตก ก่อนจะใช้
สองมือผลักคนตรงหน้าอย่างแรงจนคนที่ไม่ทันได้ตั้งตัวถึงกับล้มลงก้นกระแทกพื้น
เมื่อในหัวคิดได้แค่คำว่า ‘ต้องหนีไปจากที่ตรงนี้ให้เร็วที่สุด’ หญิงสาวก็รีบหันไปหยิบ
คว้าเอาผ้าห่มบนเตียงมาคลุมตัว ก่อนจะรีบวิ่งหนีออกไปทางประตูทันที
แก้วกิริยาคิดถึงตรงนี้สติก็คืนกลับสู่ปัจจุบัน หญิงสาวลุกขึ้นมาถามเขากลับเสียงดัง
วิวาห์ล้อมใจตอนที่ 6 มาแล้วค่า :)
เมื่อได้ยินน้ำเสียงยียวนกวนประสาทนิดๆ แก้วกิริยาก็หันขวับไปทางต้นเสียงทันที และ
มันก็ไม่ต่างไปจากที่หญิงสาวคิดเลย เพราะคนที่กำลังเดินตรงเข้ามาหาก็คือปฏิพัทธ์นั่นเอง
“มาที่นี่ทำไม!”
แก้วกิริยากระชากเสียงถามอย่างรู้สึกหงุดหงิด แม้ว่าคนตรงหน้าจะแบกรับความผิด
ทั้งหมดโดยการพูดโกหก แต่แก้วกิริยาก็ยังอดรู้สึกโกรธเคืองชายหนุ่มไม่ได้ที่เขานั้น
มีส่วนทำให้แผนการของเธอผิดพลาด ซ้ำยังทำให้ความฝันอันแสนสวยงามพังพินาศ
ลงไปภายในชั่วพริบตา
แววตาของปฏิพัทธ์แข็งกร้าวขึ้นมาทันทีที่ได้ยินน้ำคำของหญิงสาวตรงหน้า
“ก็แวะมาหาเมียไง ทำไมมาไม่ได้เหรอ”
คำว่า ‘เมีย’ ที่หลุดออกมาจากปากของปฏิพัทธ์ทำให้แก้วกิริยานึกย้อนไปถึงเหตุการณ์
ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ ในยามนั้นหญิงสาวรู้สึกได้ถึงอ้อมแขนแกร่งที่กำลังโอบรัดรอบ
ตัวเธออยู่ จนคนที่เพิ่งลืมตาตื่นอดรู้สึกเขินหน้าแดงขึ้นมาไม่ได้ ยิ่งขยับกายขยุกขยิก
ร่างหนาก็ยิ่งกอดรัดเธอแน่นขึ้น หญิงสาวจึงต้องเอ่ยปรามด้วยน้ำเสียงขวยเขิน
‘มันเช้าแล้วนะคะ คุณภูปล่อยแก้วเถอะค่ะ’
เมื่อได้ยินประโยคนี้คนตัวใหญ่ก็รู้สึกโมโหคนในอ้อมแขน เขาจึงเริ่มซุกไซ้หญิงสาว
อย่างดุเดือดจนทำให้แก้วกิริยาอดรู้สึกตกใจและแปลกใจขึ้นมาไม่ได้ และเมื่อรู้สึก
ได้ถึงอะไรบางอย่างที่ผิดปกติคนตัวเล็กก็รีบพลิกกายและหันกลับไปมองใบหน้า
ของคนตัวใหญ่ที่นอนตะแคงซ้อนอยู่ทางด้านหลัง
ภาพใบหน้าหล่อคมเข้มที่ปรากฏในคลองจักษุทำให้แก้วกิริยารู้สึกตกใจแทบสิ้นสติ
เพราะคนที่กำลังกอดจูบเธออยู่นั้นก็หาใช่เจ้านายที่ตนหมายปองอยู่ไม่ แต่กลับกลาย
เป็นเพื่อนสนิทของเจ้านายเธอแทน
เมื่อรู้ตัวว่าผิดคน แก้วกิริยาก็ร้องถามเขาขึ้นมาทันที
‘นายจะทำอะไร’
คนตัวเล็กรีบผลักไสคนตัวใหญ่ให้ออกห่าง ก่อนจะกระเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียงและก้ม
เก็บชุดชั้นในที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นมาสวมใส่ด้วยสองมืออันสั่นเทาเพราะกำลัง
จับต้นชนปลายไม่ถูกกับสิ่งที่เกิดขึ้น
‘อะไรของเธอ ก็เมื่อคืนเรา...’
ปฏิพัทธ์พูดยังไม่ทันจบ คนตัวเล็กก็พูดขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงแหลมสูงแทบจะเป็นการ
ตะโกนออกมา
‘ไม่จริง! ไม่ใช่! เราสองคนไม่ได้...’
เอ่ยได้เพียงเท่านี้สติก็คืนกลับร่างของคนตัวเล็ก มือบางรีบใส่ชุดชั้นในให้เสร็จโดย
ที่ปากก็พร่ำบอกปฏิพัทธ์ไปด้วย
‘อย่าบอกใครเรื่องนี้นะ ฉันจะรีบกลับห้องเดี๋ยวนี้แหละ’
อาการตกใจ รวมไปถึงน้ำตาที่กำลังไหลรินด้วยความผิดหวังเสียใจ และท่าทีราว
กับรังเกียจเดียดฉันท์เขาอย่างมากมายทั้งที่เมื่อคืนเพิ่งจะมีความสุขด้วยกันมา
พาให้ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ปฏิพัทธ์จึงรีบหยิบกางเกงขึ้นมาสวมอย่างรู้สึกกรุ่นโกรธ ก่อนจะก้าวเข้าไปคว้าแขน
บอบบางของคนที่เพิ่งจะสวมบราเซียร์เสร็จพร้อมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกระด้าง
‘ทำไม มีฉันเป็นผัวแล้วเสียใจมากนักหรือไงฮ้า!’
‘ปล่อย!’
หญิงสาวร้องบอกให้ปล่อยเสียงดังพร้อมกับสะบัดแขนอย่างคนสติแตก ก่อนจะใช้
สองมือผลักคนตรงหน้าอย่างแรงจนคนที่ไม่ทันได้ตั้งตัวถึงกับล้มลงก้นกระแทกพื้น
เมื่อในหัวคิดได้แค่คำว่า ‘ต้องหนีไปจากที่ตรงนี้ให้เร็วที่สุด’ หญิงสาวก็รีบหันไปหยิบ
คว้าเอาผ้าห่มบนเตียงมาคลุมตัว ก่อนจะรีบวิ่งหนีออกไปทางประตูทันที
แก้วกิริยาคิดถึงตรงนี้สติก็คืนกลับสู่ปัจจุบัน หญิงสาวลุกขึ้นมาถามเขากลับเสียงดัง