ความเดิมตอนที่ 1 คลิกอ่านที่นี่
https://pantip.com/topic/36047176
.......................................
ตอนที่ 2 ฮาลองเบย์มรดกโลกที่ต้องกลับมาเยือน
ซินจ่าว..มาถึงตอนที่ 2 สักที พึ่งมีความว่างครับ อิอิ ตอนนี้ผมขอนำเสนอการเดินทางในวันที่สองที่เวียดนาม (13 ธันวาคม 2559) ซึ่งยังอยู่เวียดนามเหนือ เป็นวันแรกที่เราจะได้เที่ยวกันแบบเต็มที่ ตื่นเช้ามาจากที่พักบ้านญาติพี่บอล เรารีบอาบน้ำกันแล้วไปหาอะไรกิน บรรยายกาศยามเช้าที่เมืองไฮฟองตอนนั้นเย็นนิดๆ ผู้คนออกมาทำมาหากิน ขายขนมปังบ้าน ดอกไม้ ผัก สำหรับอาหารเช้าเราออกเดินเลาะมั่วๆไปเรื่อยๆแถวๆที่พัก บังเอิญเจอวัด และยุหน้าวัดมีร้านขายเหมือนจะเป็นขนมจีน ใส่เนื้อไก่ เนื้อวัว เนื้อหมู เครื่องปรุงที่แถมมามีเกลือ พริก และก็เหมือนจะเป็นส้มลูกเล็กๆ ให้เราบีบใส่ล่ะมั้ง ผมก็กิบแบบมั่วๆ เหมือนกัน นำซุปรสชาติอ่อนๆ พอใช้ได้เลยสำหรับอาหารเช้า ได้เยอะ ราคาชามล่ะ 20,000 VND ถ้าเปรียบเทียบเป็นเงินไทยประมาณ 30 บาท กินเสร็จก็เดินชมวัดต่อ วัดนี้ชื่อ Chùa Nguyệt Quang ถ้าเป็นบ้านเราก็เป็นวัดทั่วๆไป ที่นั่งกินขนมจีนในบรรยากาศวัดๆ
บรรยากาศยามเช้าที่เมืองไฮฟอง

วัด Chùa Nguyệt Quang+ร้านอาหารหน้าวัด ได้บรรยากาศสุดๆ

จากนั้น Mr.Cuong เจ้าของบ้านที่เราไปพักด้วย พาเราขับรถไปยังจังหวัด Quang Ninh เพื่อไปชมแหล่งมรดกโลก Ha Long Bay “อ่าวแห่งมังกรผู้ดำดิ่ง” ซึ่งระยะทางทางเมืองไฮฟองไปอ่าวฮาลองจะใกล้กว่าการเดินทางจากกรุงฮานอยไปยังอ่าวฮาลอง ด้วยเหตุนี้เราจึงเลือกบินมาลงที่เมืองไฮฟอง
- จากกรุงฮานอยไปอ่าวฮาลองจะใช้เวลาประมาณ 4-6 ชั่วโมง
- จากเมืองไฮฟองไปอ่าวฮาลองใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง
รถยนต์คันนี้ล่ะคับที่จะพาเราตะลอนเลาะเสาะหาที่เที่ยวในวันนี้

ถ้าเดินทางแบบไม่มีรถพาไปแบบผม ให้ไปขึ้นรถประจำทางอยู่ที่สถานีขนส่งเมืองไฮฟอง ให้ไปแต่เช้าหน่อยนะครับ สภาพรถจะเป็นรถนอน ลองหารถไปจังหวัด Quang Ninh หรือลองถามว่ามีรถไปฮาลองไหม ถ้าเป็นรถประจำทางที่วิ่งไกลๆ เขาก็จะเก็บราคามาตรฐานอยู่ครับ แต่ก็ต้องระวังเขาคิดเรทสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอย่างเราๆนะครับ ก่อนออกเดินทางมุ่งหน้าไปเที่ยว Mr.Cuong พาเราไปแลกเงินเวียดนามดองที่ร้านขายทองแถวๆ วงเวียนในเมืองไฮฟอง
ผมแลกเงิน 200 USD โดยใช้แบงค์ 100 USD 1 ใบ และ 50 USD 2 ใบ ได้เรทดีมากครับ ได้เงินสกุล VND มา 4,620,000 VND เพื่อนผมแลกไป 80 USD ซึ่งเขามี USD ติดตัวมาแค่ 85 USD กับเงิน CNY 200 คือแบบเที่ยวเสี่ยงดวงตามมีตามเกิดจริงๆ แลก 80 USD ได้เงินเวียดนามมา 1,760,000 VND ถ้าอยากรู้ว่าเป็นเงินไทยกี่บาทลองเอา 650 หาร
ออกเดินทางสู่จังหวัด Quảng Ninh เวลา 09.20 น. ระหว่างทางที่เราเดินทางไปอ่าวฮาลองเราผ่านท่าเรือขนาดใหญ่มาก วิ่งรถมาประมาณ 40 นาทีเราก็ถึงวัดสามทอง “Chùa Ba Vàng” ที่จังหวัด Quảng Ninh โดย Mr.Cuong บอกว่าแวะเที่ยวที่นี่ก่อน วัดที่แห่งนี้มีพื้นที่มากกว่า 100 ไร่ บนภูเขาสูง ก่อตั้งเมื่อใดยังไม่ทราบ จากหลักฐานของวัดบอกว่าก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ.1706 บางตำราก็บอกว่าศรรษวรรตที่ 13 และมีการบูรณะครั้งใหญ่ เมื่อ ค.ศ. 1993 และบูรณะครั้งที่ 4 ในปี ค.ศ.2011 และมีการบวงสรวงครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 9 เมษายน ค.ศ.2014 เขาบอกว่ามีคนมาร่วมงานนับแสน เป็นอีกหนึ่งวัดที่มีชื่อเสียงของเวียดนาม #ชมฟรี #มีที่กดน้ำดื่มฟรีด้วย
จากที่จอดรถต้องเดินขึ้นเขาอีกสักนิด ขึ้นไปจะไปเจอที่กดน้ำกิน หายเหนื่อยกันเลยทีเดียว

วิวด้านบนเขา 3 ผ่านคับ .. มองเห็นอ่าวฮาลองด้วย

บรรยากาศโดยรอบวัด ที่มีแต่รูปคนขออภัยด้วยครับ ลืมถ่ายวิว 55+

เจอวิวแบบนี้ หายเหนือกันเลยทีเดียว

การขับรถยนต์ข้ามเมืองระหว่างเมืองจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการเข้าเมือง 30,000 VND แต่ถ้าเป็นมอเตอร์ไชต์ล่ะก็ไม่ต้องเสียสักดอง ผ่านฟรี ประมาณเกือบจะเที่ยงเราเดินทางถึง Quảng Ninh ผ่านส่วนสนุกขนาดใหญ่มีกระเช้า Queen Cable Car 2 ชั้น ที่ใหญ่ที่สุดในโลก – สวนสนุก SunWorld Ha Long Park สวนสนุกขนาดใหญ่ มีการจำลองโบราณสถานสำคัญของเวียดนามไว้ด้วย สวนสนุกขนาดใหญ่สภาพใหม่มาก น่าเล่น แต่เราก็แค่ได้ขี่ผ่าน 555+ เพราะมีเวลาไม่พอ เงินก็ไม่พอด้วยเช่นกัน อิอิ
บริเวณนี้คือ Queen Cable Car และ SunWorld Ha Long Park จอดถ่ายรูปแปปเดียว

Mr.Cuong กับครอบครัวพาเรามารับประทานอาหารในเมือง Quảng Ninh เป็นอาหารทะเลทั้งนั้น เราพลาดมากที่ลืมเอาน้ำจิ้มซีฟุ้ดไทยมาด้วย อาหารมื้อนี้สำหรับเรา กินฟรีครับ ต้องขอบคุณเจ้าภาพ Mr.Cuong ญาติของพี่บอลมากๆเลยครับ รวมๆ มื้อนี้หมดไป 1,700,000 VND กับข้าว 7 เมนู โค้ก 5 กระป๋อง น้ำเปล่าขวาดใหญ่ 1 ขวด กินกันทั้งหมด 6 คน คุ้มไม่คุ้มผมไม่รู้ แต่ที่รู้ๆคืออิ่มมากมาย 55+
ย่านที่เรามากินข้าวเที่ยว ซีฟู้ดดดด แจ่มแมวมาก

ได้เวลาพร้อมลุย สายหิวดันลืมเอาน้ำจิ้มซีฟู้ดมากจากไทย

หน้าตาอาหารบางส่วน เขาทำกันสดๆ เลย แต่น้ำจิ้มไม่ผ่าน

หลังจากอิ่มแล้วก็เดินทางต่อ ข้ามสะพานขนาดใหญ่ไปยังบริเวณอ่าวฮาลอง

จากนั้นช่วงบ่ายเราเดินทางไปยังบริเวณอ่าวฮาลอง Mr.Cuong บอกกับเราว่าถ้าจะล่องเรือไปยังจุดไฮไลต์ต้องใช้เวลาเที่ยวที่นี่มากกว่า 1 วัน นั่นหมายถึงต้องค้างคืนด้วย แต่เรามีเวลาเพียง 1 วัน ซึ่งต้องกลับไปทานข้าวเย็นกับญาติๆ ของพี่บอลที่เมืองไฮฟอง ซึ่งได้มีการจัดเตรียมฉลองไว้แล้ว .. หลังจากได้ฟังแล้วก็อึงพักหนึ่ง นึกในใจ “นี่เรามาใกล้แล้วแต่ไม่ได้ไปล่องเรือ เอิ่มมม” แต่เราก็เข้าใจสถานการณ์ ได้แต่หาที่ถ่ายรูปบริเวณรอบนอก ซึ่งเราก็เห็นมีคนคอยบริการเรือที่จะพาล่องเข้าสู่อ่าวฮาลอง แต่เสียดายเวลาเราไม่พอจริงๆ
จอดรถเก็บบรรยากาศบริเวณขึ้นเรือ .. แค่นี้ก็ดีใจแล้ว



ไหนๆก็มาถึงที่นี่แล้วขอเล่าความสำคัญของอ่าวฮาลองสักนิด .. อ่าวฮาลอง คือ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก ฮาลองเบย์เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ย ในภาษาเวียดนามจะเขียรว่า "Vinh Ha Long" หมายถึง "อ่าวแห่งมังกรผู้ดำดิ่ง" ภายในอ่าวฮาลองมีเกาะน้อยใหญ่อยู่เกือบ 2,000 เกาะ โดยอ่าวฮาลองได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 18 เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2537 ที่ภูเก็ต ประเทศไทย ภายในบริเวณอ่าวฮาลองจะมีถ้ำเด่าโก๋ (Dao Go) หรือถ้ำสวรรค์ สำหรับการเดินทางถ้ามาจากฮานอยหรือเมืองไฮฟองมาลงที่สถานีรถบัสของกว่างนิงห์ จากสถานีรถบัสกว่างนิงห์มาฮาลองใช้เวลาประมาณ 15 นาที หรืออีกวิธีคือถ้าเดินทางจากเมืองไฮฟอง จากสถานีรถบัสไฮฟองไปท่าเรือใช้เวลา 10 นาที จะมีเรือไฮโดรฟอยล์ (Hydrofoil) ไปยังเกาะกั๊ตบา ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ในบริเวณอ่าวฮาลอง ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ก็ถึงแล้ว .. แอบคิดในใจว่า รอบหน้าจะล่องเรือเข้าไปในอ่าวฮาลองให้ได้
ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น แต่ขอมันส์เต็มที่กับชีวิต

ในเมื่อเราไม่ได้ล่องเรือไปชมไฮไลต์ของอ่าวฮาลอง Mr.Cuong พาเราไปชมพิพิธภัณฑ์กว่างนิงห์ (Quang Ninh Museum and Library) หรือในภาษาเวียดนามคือ BẢO TÀNG TỈNH QUẢNG NINH โดยพิพิธภัณฑ์นี้มีขนาดใหญ่มาก เปิดให้เข้าชมเวลา 08.00 - 17.00 น. แต่ต้องเสียค่าเข้าชม บุคคลทั่วไป 30,000 VND นักเรียนนักศึกษา 15,000 VND เด็ก 10,000 VND แต่เราไม่ได้เข้านะครับ เพราะมันเสียเงิน อีกอย่างเข้าไปดูก็อ่านภาษาเวียดนามไม่ออกอยู่ดี ถึงจะมีภาษาอังกฤษก็ตามเถอะ 55+ เราเดินถ่ายรูปเก็บบรรยากาศด้านนอกก็โอเคสุดติ่งกระดิ่งวัวแล้ว
บริเวณ Quang Ninh Museum and Library

ด้านนอก

บริเวณใกล้เคียงกัน มีการก่อสร้างศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ซึ่งเกือบใกล้จะเสร็จแล้ว ตอนแรกผมนึกว่ายานในหนังเรื่อง Prometheus ตั้งอยู่ริมอ่าวฮาลองเลย สถานแห่งนี้ชื่อ QUANG NINH EXHIBITION OF URBAN PLANNING & EXPO ภาษาเวียดนามคือ CUNG QUY HOẠCH, HỘI CHỢ VÀ TRIỂN LÃM QUẢNG NINH ที่อยู่>>Cultural attraction column 3, Hong Hai ward, Ha Long city ใช้งบประมาณในการสร้าง 1,051 Billion VND เริ่มก่อสร้างปี ค.ศ.2014 คาดว่าน่าจะเปิดให้ใช้บริการในปี ค.ศ.2017 นี้
QUANG NINH EXHIBITION OF URBAN PLANNING & EXPO

หลังจากนั้นเราก็เดินทางกลับมายังเมืองไฮฟอง ถึงเมืองไฮฟองประมาณ 17.00 น. Mr.Cuong พาเราขับรถมายังบริเวณศูนย์กลางของเมืองไฮฟอง บริเวณนี้จะมี Hai Phong Opera House สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1904 โดยสถาปนิกชาวฝรั่ง ปัจจุบันไม่เปิดให้เข้าชมภายใน บริเวณด้านหน้ากลับกลายเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของวัยรุ่น และมีลานเสาธงเวียดนาม ซึ่งช่วงการคืนเขาจะเปิดน้ำพุ และมีคนเอานกอินทรีย์มาโชว์ด้วย
Hai Phong Opera House

บรรยากาศยามค่ำคืนบริเวณศูนย์กลางเมืองไฮฟอง

Mr.Cuong พาเรานั่งรถชมเมืองสักพักก็กลับไปบ้านญาติเพื่อร่วมรับประทานอาหารที่ทางญาติของพี่บอลได้จัดเตรียมไว้ให้ พี่บอลบอกกับเราว่าไม่ได้เจอกันกับญาติมานานมากกว่า 16 ปีแล้ว โดยญาติเหล่านี้คือบุคคลที่อพยพกลับจากประเทศมาอยู่ถิ่นฐานเดิมคือ เวียดนาม หลังจากสิ้นสุดสงครามกับฝรั่งเศส ซึ่งแน่นอนว่าทุกท่านพูดไทยได้ แต่จะออกสำเนียงไปทางลาวมากกว่า
อ้าวววชนแก้ว

ค่ำคืนนี้เป็นค่ำคืนที่แสนอบอุ่นมากสำหรับผมและเพื่อนอีกคนที่ได้มาสัมผัสประสบการณ์อันแปลกใหม่ ได้มาชิมปบียร์เวียดนามที่ทางญาติของพี่บอลเตรียมต้อนรับเรา อาหารการกินครบ ที่พักพร้อม และเป็นวันสุดท้ายที่เราจะได้อยู่ในเมืองนี้ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน และเตรียมแผนเดินทางไปเมืองซาปาในวันถัดไป
ขอบพระคุณทุกท่านมากจริงๆ ครับ Thank you so much.

---------
สอบถามข้อมูลการเดินทางได้ที่
https://www.facebook.com/jo.coner.9
---------
ตอนที่ 3 ซาปาเมืองในม่านหมอก คลิก
https://pantip.com/topic/36081974
ตอนที่ 4 หลงทางท่ามกลางนาขั้นบันได คลิก
https://pantip.com/topic/36087510
[CR] เที่ยวเวียดนามเหนือ-กลาง Backpacker ไฮฟอง-ฮาลอง-ซาปา-ฮานอย-ดานัง-ฮอยอัน-เว้ ตอนที่ 2 ฮาลองเบย์มรดกโลกที่ต้องกลับมาเยือน
.......................................
ตอนที่ 2 ฮาลองเบย์มรดกโลกที่ต้องกลับมาเยือน
ซินจ่าว..มาถึงตอนที่ 2 สักที พึ่งมีความว่างครับ อิอิ ตอนนี้ผมขอนำเสนอการเดินทางในวันที่สองที่เวียดนาม (13 ธันวาคม 2559) ซึ่งยังอยู่เวียดนามเหนือ เป็นวันแรกที่เราจะได้เที่ยวกันแบบเต็มที่ ตื่นเช้ามาจากที่พักบ้านญาติพี่บอล เรารีบอาบน้ำกันแล้วไปหาอะไรกิน บรรยายกาศยามเช้าที่เมืองไฮฟองตอนนั้นเย็นนิดๆ ผู้คนออกมาทำมาหากิน ขายขนมปังบ้าน ดอกไม้ ผัก สำหรับอาหารเช้าเราออกเดินเลาะมั่วๆไปเรื่อยๆแถวๆที่พัก บังเอิญเจอวัด และยุหน้าวัดมีร้านขายเหมือนจะเป็นขนมจีน ใส่เนื้อไก่ เนื้อวัว เนื้อหมู เครื่องปรุงที่แถมมามีเกลือ พริก และก็เหมือนจะเป็นส้มลูกเล็กๆ ให้เราบีบใส่ล่ะมั้ง ผมก็กิบแบบมั่วๆ เหมือนกัน นำซุปรสชาติอ่อนๆ พอใช้ได้เลยสำหรับอาหารเช้า ได้เยอะ ราคาชามล่ะ 20,000 VND ถ้าเปรียบเทียบเป็นเงินไทยประมาณ 30 บาท กินเสร็จก็เดินชมวัดต่อ วัดนี้ชื่อ Chùa Nguyệt Quang ถ้าเป็นบ้านเราก็เป็นวัดทั่วๆไป ที่นั่งกินขนมจีนในบรรยากาศวัดๆ
บรรยากาศยามเช้าที่เมืองไฮฟอง
วัด Chùa Nguyệt Quang+ร้านอาหารหน้าวัด ได้บรรยากาศสุดๆ
จากนั้น Mr.Cuong เจ้าของบ้านที่เราไปพักด้วย พาเราขับรถไปยังจังหวัด Quang Ninh เพื่อไปชมแหล่งมรดกโลก Ha Long Bay “อ่าวแห่งมังกรผู้ดำดิ่ง” ซึ่งระยะทางทางเมืองไฮฟองไปอ่าวฮาลองจะใกล้กว่าการเดินทางจากกรุงฮานอยไปยังอ่าวฮาลอง ด้วยเหตุนี้เราจึงเลือกบินมาลงที่เมืองไฮฟอง
- จากกรุงฮานอยไปอ่าวฮาลองจะใช้เวลาประมาณ 4-6 ชั่วโมง
- จากเมืองไฮฟองไปอ่าวฮาลองใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง
รถยนต์คันนี้ล่ะคับที่จะพาเราตะลอนเลาะเสาะหาที่เที่ยวในวันนี้
ถ้าเดินทางแบบไม่มีรถพาไปแบบผม ให้ไปขึ้นรถประจำทางอยู่ที่สถานีขนส่งเมืองไฮฟอง ให้ไปแต่เช้าหน่อยนะครับ สภาพรถจะเป็นรถนอน ลองหารถไปจังหวัด Quang Ninh หรือลองถามว่ามีรถไปฮาลองไหม ถ้าเป็นรถประจำทางที่วิ่งไกลๆ เขาก็จะเก็บราคามาตรฐานอยู่ครับ แต่ก็ต้องระวังเขาคิดเรทสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอย่างเราๆนะครับ ก่อนออกเดินทางมุ่งหน้าไปเที่ยว Mr.Cuong พาเราไปแลกเงินเวียดนามดองที่ร้านขายทองแถวๆ วงเวียนในเมืองไฮฟอง
ผมแลกเงิน 200 USD โดยใช้แบงค์ 100 USD 1 ใบ และ 50 USD 2 ใบ ได้เรทดีมากครับ ได้เงินสกุล VND มา 4,620,000 VND เพื่อนผมแลกไป 80 USD ซึ่งเขามี USD ติดตัวมาแค่ 85 USD กับเงิน CNY 200 คือแบบเที่ยวเสี่ยงดวงตามมีตามเกิดจริงๆ แลก 80 USD ได้เงินเวียดนามมา 1,760,000 VND ถ้าอยากรู้ว่าเป็นเงินไทยกี่บาทลองเอา 650 หาร
ออกเดินทางสู่จังหวัด Quảng Ninh เวลา 09.20 น. ระหว่างทางที่เราเดินทางไปอ่าวฮาลองเราผ่านท่าเรือขนาดใหญ่มาก วิ่งรถมาประมาณ 40 นาทีเราก็ถึงวัดสามทอง “Chùa Ba Vàng” ที่จังหวัด Quảng Ninh โดย Mr.Cuong บอกว่าแวะเที่ยวที่นี่ก่อน วัดที่แห่งนี้มีพื้นที่มากกว่า 100 ไร่ บนภูเขาสูง ก่อตั้งเมื่อใดยังไม่ทราบ จากหลักฐานของวัดบอกว่าก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ.1706 บางตำราก็บอกว่าศรรษวรรตที่ 13 และมีการบูรณะครั้งใหญ่ เมื่อ ค.ศ. 1993 และบูรณะครั้งที่ 4 ในปี ค.ศ.2011 และมีการบวงสรวงครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 9 เมษายน ค.ศ.2014 เขาบอกว่ามีคนมาร่วมงานนับแสน เป็นอีกหนึ่งวัดที่มีชื่อเสียงของเวียดนาม #ชมฟรี #มีที่กดน้ำดื่มฟรีด้วย
จากที่จอดรถต้องเดินขึ้นเขาอีกสักนิด ขึ้นไปจะไปเจอที่กดน้ำกิน หายเหนื่อยกันเลยทีเดียว
วิวด้านบนเขา 3 ผ่านคับ .. มองเห็นอ่าวฮาลองด้วย
บรรยากาศโดยรอบวัด ที่มีแต่รูปคนขออภัยด้วยครับ ลืมถ่ายวิว 55+
เจอวิวแบบนี้ หายเหนือกันเลยทีเดียว
การขับรถยนต์ข้ามเมืองระหว่างเมืองจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการเข้าเมือง 30,000 VND แต่ถ้าเป็นมอเตอร์ไชต์ล่ะก็ไม่ต้องเสียสักดอง ผ่านฟรี ประมาณเกือบจะเที่ยงเราเดินทางถึง Quảng Ninh ผ่านส่วนสนุกขนาดใหญ่มีกระเช้า Queen Cable Car 2 ชั้น ที่ใหญ่ที่สุดในโลก – สวนสนุก SunWorld Ha Long Park สวนสนุกขนาดใหญ่ มีการจำลองโบราณสถานสำคัญของเวียดนามไว้ด้วย สวนสนุกขนาดใหญ่สภาพใหม่มาก น่าเล่น แต่เราก็แค่ได้ขี่ผ่าน 555+ เพราะมีเวลาไม่พอ เงินก็ไม่พอด้วยเช่นกัน อิอิ
บริเวณนี้คือ Queen Cable Car และ SunWorld Ha Long Park จอดถ่ายรูปแปปเดียว
Mr.Cuong กับครอบครัวพาเรามารับประทานอาหารในเมือง Quảng Ninh เป็นอาหารทะเลทั้งนั้น เราพลาดมากที่ลืมเอาน้ำจิ้มซีฟุ้ดไทยมาด้วย อาหารมื้อนี้สำหรับเรา กินฟรีครับ ต้องขอบคุณเจ้าภาพ Mr.Cuong ญาติของพี่บอลมากๆเลยครับ รวมๆ มื้อนี้หมดไป 1,700,000 VND กับข้าว 7 เมนู โค้ก 5 กระป๋อง น้ำเปล่าขวาดใหญ่ 1 ขวด กินกันทั้งหมด 6 คน คุ้มไม่คุ้มผมไม่รู้ แต่ที่รู้ๆคืออิ่มมากมาย 55+
ย่านที่เรามากินข้าวเที่ยว ซีฟู้ดดดด แจ่มแมวมาก
ได้เวลาพร้อมลุย สายหิวดันลืมเอาน้ำจิ้มซีฟู้ดมากจากไทย
หน้าตาอาหารบางส่วน เขาทำกันสดๆ เลย แต่น้ำจิ้มไม่ผ่าน
หลังจากอิ่มแล้วก็เดินทางต่อ ข้ามสะพานขนาดใหญ่ไปยังบริเวณอ่าวฮาลอง
จากนั้นช่วงบ่ายเราเดินทางไปยังบริเวณอ่าวฮาลอง Mr.Cuong บอกกับเราว่าถ้าจะล่องเรือไปยังจุดไฮไลต์ต้องใช้เวลาเที่ยวที่นี่มากกว่า 1 วัน นั่นหมายถึงต้องค้างคืนด้วย แต่เรามีเวลาเพียง 1 วัน ซึ่งต้องกลับไปทานข้าวเย็นกับญาติๆ ของพี่บอลที่เมืองไฮฟอง ซึ่งได้มีการจัดเตรียมฉลองไว้แล้ว .. หลังจากได้ฟังแล้วก็อึงพักหนึ่ง นึกในใจ “นี่เรามาใกล้แล้วแต่ไม่ได้ไปล่องเรือ เอิ่มมม” แต่เราก็เข้าใจสถานการณ์ ได้แต่หาที่ถ่ายรูปบริเวณรอบนอก ซึ่งเราก็เห็นมีคนคอยบริการเรือที่จะพาล่องเข้าสู่อ่าวฮาลอง แต่เสียดายเวลาเราไม่พอจริงๆ
จอดรถเก็บบรรยากาศบริเวณขึ้นเรือ .. แค่นี้ก็ดีใจแล้ว
ไหนๆก็มาถึงที่นี่แล้วขอเล่าความสำคัญของอ่าวฮาลองสักนิด .. อ่าวฮาลอง คือ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก ฮาลองเบย์เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ย ในภาษาเวียดนามจะเขียรว่า "Vinh Ha Long" หมายถึง "อ่าวแห่งมังกรผู้ดำดิ่ง" ภายในอ่าวฮาลองมีเกาะน้อยใหญ่อยู่เกือบ 2,000 เกาะ โดยอ่าวฮาลองได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 18 เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2537 ที่ภูเก็ต ประเทศไทย ภายในบริเวณอ่าวฮาลองจะมีถ้ำเด่าโก๋ (Dao Go) หรือถ้ำสวรรค์ สำหรับการเดินทางถ้ามาจากฮานอยหรือเมืองไฮฟองมาลงที่สถานีรถบัสของกว่างนิงห์ จากสถานีรถบัสกว่างนิงห์มาฮาลองใช้เวลาประมาณ 15 นาที หรืออีกวิธีคือถ้าเดินทางจากเมืองไฮฟอง จากสถานีรถบัสไฮฟองไปท่าเรือใช้เวลา 10 นาที จะมีเรือไฮโดรฟอยล์ (Hydrofoil) ไปยังเกาะกั๊ตบา ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ในบริเวณอ่าวฮาลอง ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ก็ถึงแล้ว .. แอบคิดในใจว่า รอบหน้าจะล่องเรือเข้าไปในอ่าวฮาลองให้ได้
ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น แต่ขอมันส์เต็มที่กับชีวิต
ในเมื่อเราไม่ได้ล่องเรือไปชมไฮไลต์ของอ่าวฮาลอง Mr.Cuong พาเราไปชมพิพิธภัณฑ์กว่างนิงห์ (Quang Ninh Museum and Library) หรือในภาษาเวียดนามคือ BẢO TÀNG TỈNH QUẢNG NINH โดยพิพิธภัณฑ์นี้มีขนาดใหญ่มาก เปิดให้เข้าชมเวลา 08.00 - 17.00 น. แต่ต้องเสียค่าเข้าชม บุคคลทั่วไป 30,000 VND นักเรียนนักศึกษา 15,000 VND เด็ก 10,000 VND แต่เราไม่ได้เข้านะครับ เพราะมันเสียเงิน อีกอย่างเข้าไปดูก็อ่านภาษาเวียดนามไม่ออกอยู่ดี ถึงจะมีภาษาอังกฤษก็ตามเถอะ 55+ เราเดินถ่ายรูปเก็บบรรยากาศด้านนอกก็โอเคสุดติ่งกระดิ่งวัวแล้ว
บริเวณ Quang Ninh Museum and Library
ด้านนอก
บริเวณใกล้เคียงกัน มีการก่อสร้างศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ซึ่งเกือบใกล้จะเสร็จแล้ว ตอนแรกผมนึกว่ายานในหนังเรื่อง Prometheus ตั้งอยู่ริมอ่าวฮาลองเลย สถานแห่งนี้ชื่อ QUANG NINH EXHIBITION OF URBAN PLANNING & EXPO ภาษาเวียดนามคือ CUNG QUY HOẠCH, HỘI CHỢ VÀ TRIỂN LÃM QUẢNG NINH ที่อยู่>>Cultural attraction column 3, Hong Hai ward, Ha Long city ใช้งบประมาณในการสร้าง 1,051 Billion VND เริ่มก่อสร้างปี ค.ศ.2014 คาดว่าน่าจะเปิดให้ใช้บริการในปี ค.ศ.2017 นี้
QUANG NINH EXHIBITION OF URBAN PLANNING & EXPO
หลังจากนั้นเราก็เดินทางกลับมายังเมืองไฮฟอง ถึงเมืองไฮฟองประมาณ 17.00 น. Mr.Cuong พาเราขับรถมายังบริเวณศูนย์กลางของเมืองไฮฟอง บริเวณนี้จะมี Hai Phong Opera House สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1904 โดยสถาปนิกชาวฝรั่ง ปัจจุบันไม่เปิดให้เข้าชมภายใน บริเวณด้านหน้ากลับกลายเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของวัยรุ่น และมีลานเสาธงเวียดนาม ซึ่งช่วงการคืนเขาจะเปิดน้ำพุ และมีคนเอานกอินทรีย์มาโชว์ด้วย
Hai Phong Opera House
บรรยากาศยามค่ำคืนบริเวณศูนย์กลางเมืองไฮฟอง
Mr.Cuong พาเรานั่งรถชมเมืองสักพักก็กลับไปบ้านญาติเพื่อร่วมรับประทานอาหารที่ทางญาติของพี่บอลได้จัดเตรียมไว้ให้ พี่บอลบอกกับเราว่าไม่ได้เจอกันกับญาติมานานมากกว่า 16 ปีแล้ว โดยญาติเหล่านี้คือบุคคลที่อพยพกลับจากประเทศมาอยู่ถิ่นฐานเดิมคือ เวียดนาม หลังจากสิ้นสุดสงครามกับฝรั่งเศส ซึ่งแน่นอนว่าทุกท่านพูดไทยได้ แต่จะออกสำเนียงไปทางลาวมากกว่า
อ้าวววชนแก้ว
ค่ำคืนนี้เป็นค่ำคืนที่แสนอบอุ่นมากสำหรับผมและเพื่อนอีกคนที่ได้มาสัมผัสประสบการณ์อันแปลกใหม่ ได้มาชิมปบียร์เวียดนามที่ทางญาติของพี่บอลเตรียมต้อนรับเรา อาหารการกินครบ ที่พักพร้อม และเป็นวันสุดท้ายที่เราจะได้อยู่ในเมืองนี้ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน และเตรียมแผนเดินทางไปเมืองซาปาในวันถัดไป
ขอบพระคุณทุกท่านมากจริงๆ ครับ Thank you so much.
---------
สอบถามข้อมูลการเดินทางได้ที่ https://www.facebook.com/jo.coner.9
---------
ตอนที่ 3 ซาปาเมืองในม่านหมอก คลิก https://pantip.com/topic/36081974
ตอนที่ 4 หลงทางท่ามกลางนาขั้นบันได คลิก https://pantip.com/topic/36087510