“ซินจ่าวครับ” การรีวิวทริปนี้เป็นครั้งแรกเลยที่ขอนำเอาประสบการณ์มาบอกเล่าลงเว็ปไซต์ Pantip.com ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ คนรีวิวชื่อ โจ อายุ 22 ปี และเก่ง 21 ปี นะครับ นั่งเขียนกระทู้เท่าที่จำได้นะครับ เป็นการเดินทางท่องเที่ยวแบบ Backpacker แบบอาจไม่ 100% ไปเที่ยวเวียดนามเหนือลงมาเวียดนามกลาง ผม 2 คน เป็นผู้วางแผน และยังมีรุ่นพี่อีกคนร่วมเดินทางไปกับเราด้วย พี่เขาชื่อ บอล มีญาติอยู่ที่เวียดนามด้วย และที่สำคัญคือพี่เขาพูดภาษาเวียดนามเก่งมาก ส่วนพวกผมนี่มึนตึบ พอได้แค่ภาษาอังกฤษงูๆปลาๆ กับหนังสือ 1 เล่ม เราวางแผนก่อนการเดินทางมามากกว่า 1 เดือน เราเดินทางวันที่ 12-19 ธันวาคม 2559 เส้นทาง กรุงเทพ-ไฮฟอง-ซาปา-ฮานอย-ดานัง-ฮอยอัน-เว้-สะหวันนะเขต-มุกดาหาร ไปเครื่อง-กลับรถประจำทาง ด้วยงบประมาณที่จำกัดและประหยัดสุดขีด อาจจะพูดได้ว่าพวกผมไปแบบยอมลำบากกันเลยทีเดียว หากสนใจลองมาอ่านดูนะครับ
แผนการเดินทางของเรา
เส้นทางการเดินทางท่องเที่ยวในทริปนี้
การเดินทางวันแรก.....12 ธันวาคม 2559
เราออกเดินทางโดยสายการบิน Vietjet Air ซึ่งตอนจองได้ช่วงโปรโมชั่นราคา 0 บาท จ่ายแค่ภาษี คนละ 1,514.75 บาท ตอนซื้อตั๋วซื้อผ่านสายการบินโดยตรงเลยในราคา 2 คน ไม่มีน้ำหนักกระเป๋า รวมราคา 3,035.50 บาท/2คน ออกเดินทางเวลา 15:20 - BangKok (BKK) จะไปถึง Hai Phong (HPH) เวลา 17:10 เที่ยวบินที่ VZ920 ซึ่งตอนไปเช็คอินกับสายการบินไม่ค่อยมีคนเยอะในเส้นทางนี้ พวกเราเลยสบายกันหน่อยไม่ต้องต่อแถวยาว เราเช็คอินก่อน 3 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง พนักงานจะถามเราว่า "ทำไมไม่มีตั๋วตอนขากลับไทย" เราเลยตอบไปว่า "กลับทางรถประจำทางเข้าทางสะหวันนะเขตและเข้าไทยมาทางจังหวัดมุกดาหาร พอดีบ้านอยู่ทางนี้พอดี" หลังจากเช็คอินแล้วไปกินข้าวที่ศูนย์อาหารสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งอยู่ชั่นล่างสุด ราคาถูกดี กินข้าวเสร็จก็เดินทางไปรอขึ้นเครื่อง ปรากฏว่าไปผิด Gate หืมมมม เดินเพลินจนสายการบินประกาศให้พวกเราไปขึ้นเครื่องซึ่งก็เหลือพวกเราเป็นกลุ่มสุดท้าย เกือบตกเครื่องกันเลยทีเดียว ส่วนเรื่องเงินนั้นพวกเราไปแลกเป็นเงินสกุล USD ที่สนามบินเลย สะดวกดี ให้แลกเป็นแบงค์ 50-100 USD เพราะตอนไปแลกเป็นเงินสกุล VND จะได้ Rate ดีกว่าแบงค์เล็ก
แก๊งเราเอง 55+
ประเทศไทยในมุมสูง อิอิ
แอร์โฮสเตสสายการบินนี้ยูนิฟอร์มเป็นกางเกงขาสั้นกันนะฮัฟฟ
........................
เราเดินทางถึงเมือง Hai Phong ประมาณ 17.00 น. ฟ้าครึ้มๆ เหมือนฝนจะตก ตอนแรกนึกว่าอากาศจะหนาว แต่ไม่เป็นไปตามที่คิด เมื่อเดินเข้าอาคารผู้โดยสารก็ต้องผ่านพิธีการเข้าประเทศ ซึ่งการเข้าประเทศเวียดนามไม่ได้กรอก Immigration form เพราะเวียดนามเขายกเลิกไปแล้ว สำหรับ Cat Bi International Airpor เป็นสนามบินขนาดกลางๆ ตอนพวกเราไปถึงไม่เห็นมีที่แลกเงินสกุล VND เลย ต้องรอเข้าไปแลกในเมือง เมื่อพูดถึงเมือง Hai Phong นั้น เป็นจังหวัดทางภาคเหนือของเวียดนามเป็นเมืองที่ติดทะเล ห่างจากอ่างฮาลองเบย์ประมาณ 83 กิโลเมตร เป็นเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในเวียดนาม "ไฮ” แปลว่า "มหาสมุทร" ส่วน "ฟอง" แปลว่า "การปกป้อง" รวมกันหมายถึงมหาสมุทรที่ทำหน้าที่ปกป้องผู้รุกรานที่จะมาโค่นล้มอำนาจของเวียดนาม นั่นเอง
Cat Bi International Airpor
จากสนามบินเข้าไปในเมืองญาติของพี่บอลมารับเราโดยใช้รถยนต์ 2 คัน คือแบบโชคดีมาก แต่กว่าจะเดินหากันเจอนานมาก เราไปยืมโทรศัพท์โทรหาคนที่จะมารับจากร้านขายของ เพราะเราไม่เห็นที่ขายซิมเลยในสนามบิน ถ้าหากมาแบบไม่รู้จักใครก็มีแท็กซี่ไว้ให้บริการบริเวณหน้าอาคารผู้โดยสารเลย ส่วนเรื่องราคาให้ต่อรองกันเอง น่าจะจ่ายเป็น USD ไปก่อนนะครับ แต่ผมได้ยินมาว่าเมืองนี้ก็รับเงินไทยอยู่นะครับ จากสนามบินเราเดินทางเข้าไปในเมืองเพื่อไปรับประทานอาหารเย็น ค่ำคืนนี้ Mr.Thanh พาเราไปรับประทานอาหารกันที่ Fleur D'or เป็นอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ มีอาหารที่ไม่คุ้นหูคุ้นตาเยอะพอสมควร แต่มีซีฟู้ด ราคาที่เรากิน 5 คน หมดไปประมาณ 1,700,000 VND (พี่เขาเลี้ยง...Thank you so much-ประหยัดไปอีกมื้อกันเลยทีเดียว)
นี่คือ Mr.Thanh Mr.Cuong Mr. Boll (ตามลำดับ) โฉมหน้าผู้ใหญ่ใจดีของทริปนี้
บุฟเฟ่ต์แบบทำให้กินกันสดๆ แอบบคิดในใจ ราคาน่าจะแพง
หน้าตาอาหารทะเล ใครชอบกินซีฟู้ดอย่าลืมเอาน้ำจิ้มของบ้านเราติดตัวไปด้วยนะครับ
บรรยากาศภายในร้านอาหาร
ป้ายหน้าร้าน Fleur D'or
ตำแหน่งร้าน Fleur D'or
บรรยากาศแถวๆ ร้าน Fleur D'or
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จพี่บอลและญาติๆ ของพี่บอลก็พาพวกเราไปเยี่ยมญาติพบปะพูดคุยตามประสาคนไม่ได้เจอกันนาน โดยกลุ่มญาตินี้เป็นกลุ่มที่เคยอพยพไปอยู่ไทยในช่วงสงครามเวียดนามและอพยพกลับประเทศหลังกอบกู้เอกราชได้ในยุคของท่านประธานโฮจิมินห์ หลังจากพบปะพูดคุยกันมาสักพักเราก็เข้าที่พัก ค่ำคืนแรก Mr.Cuong ได้ชวนเราไปพักค้างที่บ้านของเขา เป็นค่ำคืนที่เราโชคดีอีกแล้ววว
มุมอาร์ตๆ ในซอยแห่งหนึ่งในเมืองไฮฟอง ระหว่างมาบ้านญาติพี่บอล
รวมญาติพี่บอลวันแรก..ผมกับเก่งก็แอบติดมารวมญาติด้วย 55+ #โอกาสของเรา
เป็นการเดินทางวันแรกที่ประทับใจ..และที่สำคัญเรายังไม่เสียตังค์เลย อิอิ
อย่าพึ่งเบื่อกันนะครับ เพราะนี่เป็นเพียงวันแรก ความตื่นเต้นยังมีอีกเพียบในตอนต่อไป
สอบถามข้อมูลการเดินทางได้ที่
https://www.facebook.com/jo.coner.9
---------------------------------------
ตอนที่ 2 ฮาลองเบย์มรดกโลกที่ต้องกลับมาเยือน คลิก
https://pantip.com/topic/36077443
ตอนที่ 3 ซาปาเมืองในม่านหมอก คลิก
https://pantip.com/topic/36081974
ตอนที่ 4 หลงทางท่ามกลางนาขั้นบันได คลิก
https://pantip.com/topic/36087510
[CR] เที่ยวเวียดนามเหนือ-กลาง 9วัน8คืน Backpacker ไฮฟอง-ฮาลอง-ซาปา-ฮานอย-ดานัง-ฮอยอัน-เว้-ท่าแขก ตอนที่ 1 ไฮฟองเมืองญาติ
การเดินทางวันแรก.....12 ธันวาคม 2559
เราออกเดินทางโดยสายการบิน Vietjet Air ซึ่งตอนจองได้ช่วงโปรโมชั่นราคา 0 บาท จ่ายแค่ภาษี คนละ 1,514.75 บาท ตอนซื้อตั๋วซื้อผ่านสายการบินโดยตรงเลยในราคา 2 คน ไม่มีน้ำหนักกระเป๋า รวมราคา 3,035.50 บาท/2คน ออกเดินทางเวลา 15:20 - BangKok (BKK) จะไปถึง Hai Phong (HPH) เวลา 17:10 เที่ยวบินที่ VZ920 ซึ่งตอนไปเช็คอินกับสายการบินไม่ค่อยมีคนเยอะในเส้นทางนี้ พวกเราเลยสบายกันหน่อยไม่ต้องต่อแถวยาว เราเช็คอินก่อน 3 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง พนักงานจะถามเราว่า "ทำไมไม่มีตั๋วตอนขากลับไทย" เราเลยตอบไปว่า "กลับทางรถประจำทางเข้าทางสะหวันนะเขตและเข้าไทยมาทางจังหวัดมุกดาหาร พอดีบ้านอยู่ทางนี้พอดี" หลังจากเช็คอินแล้วไปกินข้าวที่ศูนย์อาหารสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งอยู่ชั่นล่างสุด ราคาถูกดี กินข้าวเสร็จก็เดินทางไปรอขึ้นเครื่อง ปรากฏว่าไปผิด Gate หืมมมม เดินเพลินจนสายการบินประกาศให้พวกเราไปขึ้นเครื่องซึ่งก็เหลือพวกเราเป็นกลุ่มสุดท้าย เกือบตกเครื่องกันเลยทีเดียว ส่วนเรื่องเงินนั้นพวกเราไปแลกเป็นเงินสกุล USD ที่สนามบินเลย สะดวกดี ให้แลกเป็นแบงค์ 50-100 USD เพราะตอนไปแลกเป็นเงินสกุล VND จะได้ Rate ดีกว่าแบงค์เล็ก
........................
เราเดินทางถึงเมือง Hai Phong ประมาณ 17.00 น. ฟ้าครึ้มๆ เหมือนฝนจะตก ตอนแรกนึกว่าอากาศจะหนาว แต่ไม่เป็นไปตามที่คิด เมื่อเดินเข้าอาคารผู้โดยสารก็ต้องผ่านพิธีการเข้าประเทศ ซึ่งการเข้าประเทศเวียดนามไม่ได้กรอก Immigration form เพราะเวียดนามเขายกเลิกไปแล้ว สำหรับ Cat Bi International Airpor เป็นสนามบินขนาดกลางๆ ตอนพวกเราไปถึงไม่เห็นมีที่แลกเงินสกุล VND เลย ต้องรอเข้าไปแลกในเมือง เมื่อพูดถึงเมือง Hai Phong นั้น เป็นจังหวัดทางภาคเหนือของเวียดนามเป็นเมืองที่ติดทะเล ห่างจากอ่างฮาลองเบย์ประมาณ 83 กิโลเมตร เป็นเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในเวียดนาม "ไฮ” แปลว่า "มหาสมุทร" ส่วน "ฟอง" แปลว่า "การปกป้อง" รวมกันหมายถึงมหาสมุทรที่ทำหน้าที่ปกป้องผู้รุกรานที่จะมาโค่นล้มอำนาจของเวียดนาม นั่นเอง
จากสนามบินเข้าไปในเมืองญาติของพี่บอลมารับเราโดยใช้รถยนต์ 2 คัน คือแบบโชคดีมาก แต่กว่าจะเดินหากันเจอนานมาก เราไปยืมโทรศัพท์โทรหาคนที่จะมารับจากร้านขายของ เพราะเราไม่เห็นที่ขายซิมเลยในสนามบิน ถ้าหากมาแบบไม่รู้จักใครก็มีแท็กซี่ไว้ให้บริการบริเวณหน้าอาคารผู้โดยสารเลย ส่วนเรื่องราคาให้ต่อรองกันเอง น่าจะจ่ายเป็น USD ไปก่อนนะครับ แต่ผมได้ยินมาว่าเมืองนี้ก็รับเงินไทยอยู่นะครับ จากสนามบินเราเดินทางเข้าไปในเมืองเพื่อไปรับประทานอาหารเย็น ค่ำคืนนี้ Mr.Thanh พาเราไปรับประทานอาหารกันที่ Fleur D'or เป็นอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ มีอาหารที่ไม่คุ้นหูคุ้นตาเยอะพอสมควร แต่มีซีฟู้ด ราคาที่เรากิน 5 คน หมดไปประมาณ 1,700,000 VND (พี่เขาเลี้ยง...Thank you so much-ประหยัดไปอีกมื้อกันเลยทีเดียว)
ตำแหน่งร้าน Fleur D'or
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จพี่บอลและญาติๆ ของพี่บอลก็พาพวกเราไปเยี่ยมญาติพบปะพูดคุยตามประสาคนไม่ได้เจอกันนาน โดยกลุ่มญาตินี้เป็นกลุ่มที่เคยอพยพไปอยู่ไทยในช่วงสงครามเวียดนามและอพยพกลับประเทศหลังกอบกู้เอกราชได้ในยุคของท่านประธานโฮจิมินห์ หลังจากพบปะพูดคุยกันมาสักพักเราก็เข้าที่พัก ค่ำคืนแรก Mr.Cuong ได้ชวนเราไปพักค้างที่บ้านของเขา เป็นค่ำคืนที่เราโชคดีอีกแล้ววว
เป็นการเดินทางวันแรกที่ประทับใจ..และที่สำคัญเรายังไม่เสียตังค์เลย อิอิ
อย่าพึ่งเบื่อกันนะครับ เพราะนี่เป็นเพียงวันแรก ความตื่นเต้นยังมีอีกเพียบในตอนต่อไป
สอบถามข้อมูลการเดินทางได้ที่ https://www.facebook.com/jo.coner.9
---------------------------------------
ตอนที่ 2 ฮาลองเบย์มรดกโลกที่ต้องกลับมาเยือน คลิก https://pantip.com/topic/36077443
ตอนที่ 3 ซาปาเมืองในม่านหมอก คลิก https://pantip.com/topic/36081974
ตอนที่ 4 หลงทางท่ามกลางนาขั้นบันได คลิก https://pantip.com/topic/36087510