ความเดิมตอนที่ 2 คลิก
https://pantip.com/topic/36077443
------------------------------------------------
"ตอนที่ 3 ซาปาเมืองในม่านหมอก"
........Goodbye นครแห่งสีสัน..and next station SAPA เช้าวันที่สามของการเดินทาง (14 ธันวาคม 2559) เวลา 05.00 น. Mr.Thanh คนที่มารับเราที่สนามบินไฮฟองในวันแรกที่มานั้น วันนี้เขาอาสาจะไปส่งเราที่สถานีขนส่งเมืองไฮฟอง Mr.Cuong เจ้าของบ้านที่ให้เราพักได้เตรียมขนมนมผลไม้ให้เราไปกินระหว่างทางด้วย Thank U so much ครับ ดูแลเราเป็นอย่าดีจริงๆ แถมยังชวนเราอยู่ที่เมืองไฮฟองต่อ แต่น่าเสียดายที่เราต้องเดินทางไปตาม Plan ที่วางไว้.. เดินทางจากที่พักมาขนสถานีขนส่งใช้เวลา 20 นาที ก่อนจะขึ้นรถประจำทาง Mr.Thanh พาเราแวะกินเฝอ (คล้ายก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา) แถวๆหน้าขนส่งเลย ราคา 35,000 VND Mr.Thanh ป๋าใหญ่ของเราเลี้ยงครับ Big Thank ประหยัดไปอีกมื้อ
อาหารมื้อเช้ามากๆ ไม่หิวก็ต้องกิน เพราะหนทางยังอีกยาวไกล
........รถจากเมืองไฮฟองไปเมืองซาปา จังหวัด Lao Cai ระยะทางประมาณ 380 กิโลเมตร มีรอบเช้า 06.00 น. รถจะออกพอดี โดยลักษณะจะเป็นรถนอน ราคา 260,000 VND/คน บอกคนเก็บตังค์ว่าไปลงซาปานะครับ เขาจะได้จอดให้เราลงบริเวณทางแยกไปซาปากับตัวจังหวัดลาวไก โดยเราไม่ต้องเข้าไปที่ตัวจังหวัดลาวไกแล้วย้อนกลับมาซาปาอีก แต่ถ้าใครอยากจะไปชมแม่น้ำแดงและชายแดนจีนก็นั่งยาวไปถึงตัวเมืองลาวไกเลยครับ
รถคันนี้ล่ะครับที่จะพาเราไปซาปา
........ระหว่างทางที่รถวิ่งมาสักพัก หลับแล้วหลับอีกตื่นแล้วตื่นอีกเพราะเสียงเตร รถก็วิ่งมาถึงฮานอย ผ่านเฉยๆครับ ไม่ได้จอด แต่ระหว่างทางใครอยากขึ้นก็โบกรถ ใครอยากลงก็บอกเขาจอด ถ้านั่งรถให้เลือกนอนชั้น 2 ฝั่งขวามือนะครับ จะได้เห็นวิวอันงามๆ ตลอดทาง
สายนอนสายหลับ หลับเก่งมาก สมชื่อ 55+
รถนอน 3 แถว 2 ชั้น อย่าลืมนะครับว่าให้นอนฝั่งขวามมือชั้น 2 เพื่อมองลมชมวิวระหว่างทาง
........เที่ยงปั๊ปเขาจะจอดให้เราพักเที่ยวที่ไหนสักแห่ง ให้พักเข้าห้องน้ำ ให้เวลา 15 นาที ต้องตรงเวลานะครับ หากไม่ตรงเวลาเขาจะไปเลย บางกลุ่มก็มารวมตัวกันสูบอะไรก็ไม่รุ (น่าจะเป็นบุหรี่ แต่สูบกันในบั้งชา 55+ อึ้งแปป ) ถ้าไปกับเพื่อนและคิดว่าจะปล่อยระเบิดลูกใหญ่ให้อีกคนยืนรอยุหน้ารถ แล้วให้อีกคนไปเข้าห้องน้ำ ให้คนขับเห็นว่าเรายังไม่ขึ้นนะ เพื่อนขี้อยู่ 55+ ห้องน้ำเป็นห้องน้ำเข้าฟรี แต่จะมีตู้บริจาคให้เรายอดเงิน ตอนแรกกะว่าจะไม่อยอดเพราะไม่มีแบงค์เล็ก ที่ไหนได้จะมีคนที่ทำความสะอาดยืนอยู่ห่างๆ เดินมาชี้ให้ด้วยว่าเมริงต้องหยอดนะ 55+ เลยต้องให้เพื่อนยืนรอหน้าตู้แล้ววิ่งไปหาเงินเศษที่รถ (ห่าขั่วมันนิ) เวลาไปกินข้าวก็เหมือนกันครับต้องรีบๆ โดยนิสัยคนไทยนิจะช้า กินข้าวเสร็จเห็นขายของหน่อยกะแวะช้อปปิ้ง ระวังจะไม่ทันรถนะครับ ทีมงานเราเจอมาเต็มๆ วิ่งตามรถ 55+ ตอนนั้นผมอยู่บนรถแล้วก็ตกใจเหมือนกันว่าจะบอกให้รถรอก่อน แต่ดันนึกประโยคภาษาอังกฤษไม่ออก โชคดีที่คนขับรถมองเห็นเขาวิ่งตาม .. ได้รับบทเรียนเล่มใหญ่กันเลยทีเดียว
สายนี้คือสายสูบ สูบกันอย่าจริงจัง จัดมันข้างรถเลย บุหรี่นะครับไม่ใช่สูบสายเขียว 55+
ขึ้นรถลงรถต้องเปลี่ยนรอเท้านะครับ ตะกร้าแดงๆคือรองเท้าที่เขาเตรียมไว้ให้
......ระหว่างทางที่จอดรถให้คนลง มีข้อสังเกตเห็นอีกอย่างหนึ่งคือ คนที่เดินลงรถเขาพกหมวกกันน็อกมาด้วย เกือบจะทุกคน ตอนแรกนึกว่าอ่อคงจะมีคนมารับและที่พกติดตัวคงเป็นเพราะกฎหมายเขาเข้มงวดเวลาขับหรือซ้อนมอเตอร์ไซต์ ที่ไหนได้ คนเหล่านี้เอารถมอเตอร์ไซต์ใส่ท้องรถมาด้วย (นึกในใจ เขาเอายัดกันมายังไง เอิ่มมม) ไม่นานเราก็ถึงทางแยกระหว่างไปเมืองซาปากับเข้าตัวจังหวัดลาวไก ใช้เวลาจากเมืองไฮฟองมานั่งรถกว่า 9 ชั่วโมง ในระยะทางแค่ 380 กิโลเมตร OMG! ถึงทางแยกนี้ประมาณ 15.00 น คนขับรถจอดให้เราลง เขาบอกว่ารถขึ้นรถประจำทางที่นี่ ลงรถพอดีมีเหมือนรถตู้มาจอดจะรับเราขึ้น เราต่อรองราคากันสักพักมันแพงเกิน เขาเรียกเรา 200,000 ไม่ลดด้วย เราก็เลยไม่ขึ้น
รถคันแบบนี้ล่ะครับที่เราต่องรองราคาไม่ได้ ในภาพคือแอปขึ้นเฉยๆ นะครับ แต่ก็ต้องลงมารอมินิบัสคันเลือหแดงต่อไป อิอิ
........ลืมบอกไปว่าเรามาเที่ยวซาปากัน 4 คน โดยมีลุง Buc มาด้วยจากไฮฟอง คือแบบว่าพี่บอลชวนลุงแกมาด้วยนั่นเอง (นึกในใจอีกแล้ว..ลุงแกอายุ 74 ปีแล้ว จะ Backpacker กับเราไหวไหม) เราทราบราคารถมินิบัสไปซาปามาว่าคนล่ะ 30,000 VND เลยรอขึ้นรถมินิบัสดีกว่า สักพักรถก็ผ่านมา โดยรถคันนี้จะมีทุกๆ 30 นาที เราได้ในราคา 26,000 ต่อคน ตามราคาที่ติดไว้ข้างรถ (สงสัยมีคนท้องถิ่นไปด้วยเราเลยได้จ่ายในราคาท้องถิ่นมั้ง) จากทางแยกไปเมืองซาปาประมาณ 40 กิโลเมตร ตอนวางแผนกะว่าจะมาดูหิมะสักหน่อย ทว่า มันไม่ค่อยหนาว อดเลย
นี่เลยครับมินิบัสที่เราขึ้น คันเหลืองแดงนะครับ ลืมถ่ายรูปรถ รีบมาก 55+ ลงจากรถประจำทางให้เดินข้ามไปรถมินิบัสบนนถนนอีกฝากนะครับ
........รถพาเราเดินทางผ่านโค้งนำไม่ถ้วนมุ่งหน้าสู่ยอดหุบเขาที่เมืองซาปาตั้งอยู่ ระหว่างทางวิวนี่สวยงามจับใจมาก 3 ผ่านครับ ยิ่งสูงขึ้นไปเรื่องๆ ยิ่งหนาว หมอกเริ่มหนา มองไม่เห็นห่าอะไรเลย ฝนก็ตกรินๆ อุณหภิตอนนั้น 9 องศาและในที่สุดก็ถึงเมืองซาปาสักที ตอนนี้ก็เวลา เกือบจะ 17.00 น. แล้ว หมอกหนาจัด รถมินิบัสเขาจะมาจอดให้เราบริเวณโบสถ์กลางเมืองเลย จากที่รถจอดห่างจากโรงแรมนี้ 500 เมตรเอง จะมีพวกแท็กซี่กับวินมาไซต์มาคุยกับเราเยอะแยะ รออะไร เดินสิครับ 55+ ประหยัดดี แค่มี GPS นำทาง
........ที่พักเราจองไว้ผ่าน Agoda.com ชื่อ Go Sapa Hotel พัก 2 คน นอนแบบรวม เข้าพัก 14 ธันวาคม 2559 ออก 17 ธันวาคม 2559 THB 924.00/3คืน/2คน ถูกดีครับ ส่วนพี่บอลกับลุงเขามาจองหน้าเคาเตอร์เช็คอิน โดยที่พักที่นี่มีทั้งแบบนอนรวม กับแบบเป็นห้อง รุ่นพี่เขาเลือกนอนแบบเป็นห้อง ราคาประมาณ 500 บาท/คืน เป็นห้องแบบนอนได้ 3 คน ที่พักออกแนวตะวันตกนะครับ จากนั้นก็เอาของไปเก็บเปลี่ยนรองเท้า สิ่งแรกที่เราทำเมื่อมาถึงที่ห้องนอนคือสิ่งที่หลายๆ คนรวมถึงคุณที่กำลังอ่านอยู่ก็จะทำเช่นเดียวกันกับผมคือ ขอรหัส WIFI และเช็คอิน 555+ พักผ่อนสักแปปแล้วค่อยไปลุยเมืองยามค่ำคืน
ที่พักนี่หลบมุมมาก แต่ด้านใน 3 ผ่านครับ มีล็อกเกอร์ เก็บรองเท้าด้วย พูดง่ายๆคือต้องเปลี่ยนร้องเท้ามาใส่ของโรงแรมเพราะรองเท้าเราเปื่อนฝุ่น 55+
ห้องรวมพล ด้านล่าวของที่พัก มีเตาผิงไฟด้วย
ห้องพักแบบนอนรวมชาย-หญิง
หืมมม..เช็คอินก่อนผมอีก และขาวๆ ที่มองเห็นนั่นคือหมอก+ฝนรินๆ
มีของสิ่งนี้ให้เราเล่นด้วย ขออภัยผมไม่รู้จักชื่อ 55+
บริเวณโบสถ์ครับ ทั้งฝนทั้งหมอกทั้งหนาว หดหมดแล้ว 55+
ภานในโบถส์ Holy Rosary Church Or the Stone Church (มาถึงช่วงเขาเข้าโบสถ์กันพอดี)
หน้าโบสถ์ Holy Rosary Church Or the Stone Church
บริเวณลานกิจกรรมกลางเมือง หมอกหนาจัด สงสัยจะมีตลอด 24 ชม.
เดินเลาะเมืองสักพัก เริ่มมีความหิว ปิ้งย่าง ถ่ายรูปเฉยๆ ครับ ไม่ได้กินเพราะมันแพง ไม้ล่ะ 10,000-20,000 VND นู้นนน
แต่เรามากินสิ่งนี้แทน พิซซ่าเวียดนาม อันที่จริงก็อยากลอง ราคา 15,000 VND/แผ่น
ใส่ไข่ ผัก หมู เนย ไส้กรอก หมูยอ เกลือ ซอส เสิร์ฟพร้อมน้ำเต้าหู้อุ่นๆ 1 แก้ว/10,000 VND แซบคักครับ
อิ่มแล้วก็เดินเลาะต่อ บริเวณนี้อยู่หลังโบสถ์บริเวณทางจะขึ้นเขาไปชมสวนดอกไม้ครับ ได้ฟิวตะวันตกมาก น่าจะเป็นโรงแรม
........สรุปค่าใช้จ่ายวันนี้........
- ค่ารถประจำทางจากเมืองไฮฟองไปซาปา คนล่ะ 260,000 VND
- ค่ารถมินิบัสจากทางแยกซาปา-ลาวไก ไปซาปา คนละ 26,000 VND
- ค่าที่พักตกคืนละประมาณ 154 บาท/คน (จองผ่าน Agoda)
- ค่าน้ำเปล่า 1 ขวด/คน ซื้อที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต ขวด 1.5 ลิตร 15,000 VND
- ค่าพิซซ่าเวียดนาม แผ่นละ 15,000 VND/คน
- นมเต้าหู้ แก้วละ 10,000 VND/คน
- อาหารเช้าไม่ได้เสียตังค์ เพราะ Mr.Thanh จ่ายให้เราในตอนเช้า
- อาหารเที่ยงไม่ได้เสีย เพราะกินนมกับขนมที่ Mr.Cuong เอาให้เราตอนมาจากเมืองไฮฟอง
- อาหารเย็นไม่ได้เสียจ่าย เพราะเราเตรียมมาม่าคัฟ กล่องละ 13 บาทมาจากไทย
+++รวมวันนี้หมดไป ประมาณ 425,330 VND หรือประมาณเกือบๆ 700 บาท
-------------------------------
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเดินทาง ณ เมืองซาปากับอุณหภูมิต่ำสุด 1-2 องศา ในยามค่ำคืน ตอนต่อไปผมจะพาไปชมนาขั้นบันไดที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งของเอเชีย ..
-------------------------------
สอบถามข้อมูลการเดินทางได้ที่
https://www.facebook.com/jo.coner.9
-------------------------------
ตอนที่ 4 หลงทางท่ามกลางนาขั้นบันได คลิก
https://pantip.com/topic/36087510
[CR] เที่ยวเวียดนามเหนือ-กลาง Backpacker ไฮฟอง-ฮาลอง-ซาปา-ฮานอย-ดานัง-ฮอยอัน-เว้ ตอนที่ 3 ซาปาเมืองในม่านหมอก
------------------------------------------------
"ตอนที่ 3 ซาปาเมืองในม่านหมอก"
........Goodbye นครแห่งสีสัน..and next station SAPA เช้าวันที่สามของการเดินทาง (14 ธันวาคม 2559) เวลา 05.00 น. Mr.Thanh คนที่มารับเราที่สนามบินไฮฟองในวันแรกที่มานั้น วันนี้เขาอาสาจะไปส่งเราที่สถานีขนส่งเมืองไฮฟอง Mr.Cuong เจ้าของบ้านที่ให้เราพักได้เตรียมขนมนมผลไม้ให้เราไปกินระหว่างทางด้วย Thank U so much ครับ ดูแลเราเป็นอย่าดีจริงๆ แถมยังชวนเราอยู่ที่เมืองไฮฟองต่อ แต่น่าเสียดายที่เราต้องเดินทางไปตาม Plan ที่วางไว้.. เดินทางจากที่พักมาขนสถานีขนส่งใช้เวลา 20 นาที ก่อนจะขึ้นรถประจำทาง Mr.Thanh พาเราแวะกินเฝอ (คล้ายก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา) แถวๆหน้าขนส่งเลย ราคา 35,000 VND Mr.Thanh ป๋าใหญ่ของเราเลี้ยงครับ Big Thank ประหยัดไปอีกมื้อ
อาหารมื้อเช้ามากๆ ไม่หิวก็ต้องกิน เพราะหนทางยังอีกยาวไกล
........รถจากเมืองไฮฟองไปเมืองซาปา จังหวัด Lao Cai ระยะทางประมาณ 380 กิโลเมตร มีรอบเช้า 06.00 น. รถจะออกพอดี โดยลักษณะจะเป็นรถนอน ราคา 260,000 VND/คน บอกคนเก็บตังค์ว่าไปลงซาปานะครับ เขาจะได้จอดให้เราลงบริเวณทางแยกไปซาปากับตัวจังหวัดลาวไก โดยเราไม่ต้องเข้าไปที่ตัวจังหวัดลาวไกแล้วย้อนกลับมาซาปาอีก แต่ถ้าใครอยากจะไปชมแม่น้ำแดงและชายแดนจีนก็นั่งยาวไปถึงตัวเมืองลาวไกเลยครับ
รถคันนี้ล่ะครับที่จะพาเราไปซาปา
........ระหว่างทางที่รถวิ่งมาสักพัก หลับแล้วหลับอีกตื่นแล้วตื่นอีกเพราะเสียงเตร รถก็วิ่งมาถึงฮานอย ผ่านเฉยๆครับ ไม่ได้จอด แต่ระหว่างทางใครอยากขึ้นก็โบกรถ ใครอยากลงก็บอกเขาจอด ถ้านั่งรถให้เลือกนอนชั้น 2 ฝั่งขวามือนะครับ จะได้เห็นวิวอันงามๆ ตลอดทาง
สายนอนสายหลับ หลับเก่งมาก สมชื่อ 55+
รถนอน 3 แถว 2 ชั้น อย่าลืมนะครับว่าให้นอนฝั่งขวามมือชั้น 2 เพื่อมองลมชมวิวระหว่างทาง
........เที่ยงปั๊ปเขาจะจอดให้เราพักเที่ยวที่ไหนสักแห่ง ให้พักเข้าห้องน้ำ ให้เวลา 15 นาที ต้องตรงเวลานะครับ หากไม่ตรงเวลาเขาจะไปเลย บางกลุ่มก็มารวมตัวกันสูบอะไรก็ไม่รุ (น่าจะเป็นบุหรี่ แต่สูบกันในบั้งชา 55+ อึ้งแปป ) ถ้าไปกับเพื่อนและคิดว่าจะปล่อยระเบิดลูกใหญ่ให้อีกคนยืนรอยุหน้ารถ แล้วให้อีกคนไปเข้าห้องน้ำ ให้คนขับเห็นว่าเรายังไม่ขึ้นนะ เพื่อนขี้อยู่ 55+ ห้องน้ำเป็นห้องน้ำเข้าฟรี แต่จะมีตู้บริจาคให้เรายอดเงิน ตอนแรกกะว่าจะไม่อยอดเพราะไม่มีแบงค์เล็ก ที่ไหนได้จะมีคนที่ทำความสะอาดยืนอยู่ห่างๆ เดินมาชี้ให้ด้วยว่าเมริงต้องหยอดนะ 55+ เลยต้องให้เพื่อนยืนรอหน้าตู้แล้ววิ่งไปหาเงินเศษที่รถ (ห่าขั่วมันนิ) เวลาไปกินข้าวก็เหมือนกันครับต้องรีบๆ โดยนิสัยคนไทยนิจะช้า กินข้าวเสร็จเห็นขายของหน่อยกะแวะช้อปปิ้ง ระวังจะไม่ทันรถนะครับ ทีมงานเราเจอมาเต็มๆ วิ่งตามรถ 55+ ตอนนั้นผมอยู่บนรถแล้วก็ตกใจเหมือนกันว่าจะบอกให้รถรอก่อน แต่ดันนึกประโยคภาษาอังกฤษไม่ออก โชคดีที่คนขับรถมองเห็นเขาวิ่งตาม .. ได้รับบทเรียนเล่มใหญ่กันเลยทีเดียว
สายนี้คือสายสูบ สูบกันอย่าจริงจัง จัดมันข้างรถเลย บุหรี่นะครับไม่ใช่สูบสายเขียว 55+
ขึ้นรถลงรถต้องเปลี่ยนรอเท้านะครับ ตะกร้าแดงๆคือรองเท้าที่เขาเตรียมไว้ให้
......ระหว่างทางที่จอดรถให้คนลง มีข้อสังเกตเห็นอีกอย่างหนึ่งคือ คนที่เดินลงรถเขาพกหมวกกันน็อกมาด้วย เกือบจะทุกคน ตอนแรกนึกว่าอ่อคงจะมีคนมารับและที่พกติดตัวคงเป็นเพราะกฎหมายเขาเข้มงวดเวลาขับหรือซ้อนมอเตอร์ไซต์ ที่ไหนได้ คนเหล่านี้เอารถมอเตอร์ไซต์ใส่ท้องรถมาด้วย (นึกในใจ เขาเอายัดกันมายังไง เอิ่มมม) ไม่นานเราก็ถึงทางแยกระหว่างไปเมืองซาปากับเข้าตัวจังหวัดลาวไก ใช้เวลาจากเมืองไฮฟองมานั่งรถกว่า 9 ชั่วโมง ในระยะทางแค่ 380 กิโลเมตร OMG! ถึงทางแยกนี้ประมาณ 15.00 น คนขับรถจอดให้เราลง เขาบอกว่ารถขึ้นรถประจำทางที่นี่ ลงรถพอดีมีเหมือนรถตู้มาจอดจะรับเราขึ้น เราต่อรองราคากันสักพักมันแพงเกิน เขาเรียกเรา 200,000 ไม่ลดด้วย เราก็เลยไม่ขึ้น
รถคันแบบนี้ล่ะครับที่เราต่องรองราคาไม่ได้ ในภาพคือแอปขึ้นเฉยๆ นะครับ แต่ก็ต้องลงมารอมินิบัสคันเลือหแดงต่อไป อิอิ
........ลืมบอกไปว่าเรามาเที่ยวซาปากัน 4 คน โดยมีลุง Buc มาด้วยจากไฮฟอง คือแบบว่าพี่บอลชวนลุงแกมาด้วยนั่นเอง (นึกในใจอีกแล้ว..ลุงแกอายุ 74 ปีแล้ว จะ Backpacker กับเราไหวไหม) เราทราบราคารถมินิบัสไปซาปามาว่าคนล่ะ 30,000 VND เลยรอขึ้นรถมินิบัสดีกว่า สักพักรถก็ผ่านมา โดยรถคันนี้จะมีทุกๆ 30 นาที เราได้ในราคา 26,000 ต่อคน ตามราคาที่ติดไว้ข้างรถ (สงสัยมีคนท้องถิ่นไปด้วยเราเลยได้จ่ายในราคาท้องถิ่นมั้ง) จากทางแยกไปเมืองซาปาประมาณ 40 กิโลเมตร ตอนวางแผนกะว่าจะมาดูหิมะสักหน่อย ทว่า มันไม่ค่อยหนาว อดเลย
นี่เลยครับมินิบัสที่เราขึ้น คันเหลืองแดงนะครับ ลืมถ่ายรูปรถ รีบมาก 55+ ลงจากรถประจำทางให้เดินข้ามไปรถมินิบัสบนนถนนอีกฝากนะครับ
........รถพาเราเดินทางผ่านโค้งนำไม่ถ้วนมุ่งหน้าสู่ยอดหุบเขาที่เมืองซาปาตั้งอยู่ ระหว่างทางวิวนี่สวยงามจับใจมาก 3 ผ่านครับ ยิ่งสูงขึ้นไปเรื่องๆ ยิ่งหนาว หมอกเริ่มหนา มองไม่เห็นห่าอะไรเลย ฝนก็ตกรินๆ อุณหภิตอนนั้น 9 องศาและในที่สุดก็ถึงเมืองซาปาสักที ตอนนี้ก็เวลา เกือบจะ 17.00 น. แล้ว หมอกหนาจัด รถมินิบัสเขาจะมาจอดให้เราบริเวณโบสถ์กลางเมืองเลย จากที่รถจอดห่างจากโรงแรมนี้ 500 เมตรเอง จะมีพวกแท็กซี่กับวินมาไซต์มาคุยกับเราเยอะแยะ รออะไร เดินสิครับ 55+ ประหยัดดี แค่มี GPS นำทาง
........ที่พักเราจองไว้ผ่าน Agoda.com ชื่อ Go Sapa Hotel พัก 2 คน นอนแบบรวม เข้าพัก 14 ธันวาคม 2559 ออก 17 ธันวาคม 2559 THB 924.00/3คืน/2คน ถูกดีครับ ส่วนพี่บอลกับลุงเขามาจองหน้าเคาเตอร์เช็คอิน โดยที่พักที่นี่มีทั้งแบบนอนรวม กับแบบเป็นห้อง รุ่นพี่เขาเลือกนอนแบบเป็นห้อง ราคาประมาณ 500 บาท/คืน เป็นห้องแบบนอนได้ 3 คน ที่พักออกแนวตะวันตกนะครับ จากนั้นก็เอาของไปเก็บเปลี่ยนรองเท้า สิ่งแรกที่เราทำเมื่อมาถึงที่ห้องนอนคือสิ่งที่หลายๆ คนรวมถึงคุณที่กำลังอ่านอยู่ก็จะทำเช่นเดียวกันกับผมคือ ขอรหัส WIFI และเช็คอิน 555+ พักผ่อนสักแปปแล้วค่อยไปลุยเมืองยามค่ำคืน
ที่พักนี่หลบมุมมาก แต่ด้านใน 3 ผ่านครับ มีล็อกเกอร์ เก็บรองเท้าด้วย พูดง่ายๆคือต้องเปลี่ยนร้องเท้ามาใส่ของโรงแรมเพราะรองเท้าเราเปื่อนฝุ่น 55+
ห้องรวมพล ด้านล่าวของที่พัก มีเตาผิงไฟด้วย
ห้องพักแบบนอนรวมชาย-หญิง
หืมมม..เช็คอินก่อนผมอีก และขาวๆ ที่มองเห็นนั่นคือหมอก+ฝนรินๆ
มีของสิ่งนี้ให้เราเล่นด้วย ขออภัยผมไม่รู้จักชื่อ 55+
บริเวณโบสถ์ครับ ทั้งฝนทั้งหมอกทั้งหนาว หดหมดแล้ว 55+
ภานในโบถส์ Holy Rosary Church Or the Stone Church (มาถึงช่วงเขาเข้าโบสถ์กันพอดี)
หน้าโบสถ์ Holy Rosary Church Or the Stone Church
บริเวณลานกิจกรรมกลางเมือง หมอกหนาจัด สงสัยจะมีตลอด 24 ชม.
เดินเลาะเมืองสักพัก เริ่มมีความหิว ปิ้งย่าง ถ่ายรูปเฉยๆ ครับ ไม่ได้กินเพราะมันแพง ไม้ล่ะ 10,000-20,000 VND นู้นนน
แต่เรามากินสิ่งนี้แทน พิซซ่าเวียดนาม อันที่จริงก็อยากลอง ราคา 15,000 VND/แผ่น
ใส่ไข่ ผัก หมู เนย ไส้กรอก หมูยอ เกลือ ซอส เสิร์ฟพร้อมน้ำเต้าหู้อุ่นๆ 1 แก้ว/10,000 VND แซบคักครับ
อิ่มแล้วก็เดินเลาะต่อ บริเวณนี้อยู่หลังโบสถ์บริเวณทางจะขึ้นเขาไปชมสวนดอกไม้ครับ ได้ฟิวตะวันตกมาก น่าจะเป็นโรงแรม
........สรุปค่าใช้จ่ายวันนี้........
- ค่ารถประจำทางจากเมืองไฮฟองไปซาปา คนล่ะ 260,000 VND
- ค่ารถมินิบัสจากทางแยกซาปา-ลาวไก ไปซาปา คนละ 26,000 VND
- ค่าที่พักตกคืนละประมาณ 154 บาท/คน (จองผ่าน Agoda)
- ค่าน้ำเปล่า 1 ขวด/คน ซื้อที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต ขวด 1.5 ลิตร 15,000 VND
- ค่าพิซซ่าเวียดนาม แผ่นละ 15,000 VND/คน
- นมเต้าหู้ แก้วละ 10,000 VND/คน
- อาหารเช้าไม่ได้เสียตังค์ เพราะ Mr.Thanh จ่ายให้เราในตอนเช้า
- อาหารเที่ยงไม่ได้เสีย เพราะกินนมกับขนมที่ Mr.Cuong เอาให้เราตอนมาจากเมืองไฮฟอง
- อาหารเย็นไม่ได้เสียจ่าย เพราะเราเตรียมมาม่าคัฟ กล่องละ 13 บาทมาจากไทย
+++รวมวันนี้หมดไป ประมาณ 425,330 VND หรือประมาณเกือบๆ 700 บาท
-------------------------------
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเดินทาง ณ เมืองซาปากับอุณหภูมิต่ำสุด 1-2 องศา ในยามค่ำคืน ตอนต่อไปผมจะพาไปชมนาขั้นบันไดที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งของเอเชีย ..
-------------------------------
สอบถามข้อมูลการเดินทางได้ที่ https://www.facebook.com/jo.coner.9
-------------------------------
ตอนที่ 4 หลงทางท่ามกลางนาขั้นบันได คลิก https://pantip.com/topic/36087510
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น