จากกระทู้เก่า
https://pantip.com/topic/33248394
ซึ่งเวลาผ่านไป ความรู้เราก็ตกตระกอนมากขึ้น
เราก็ยังสิงอยู่กลุ่มแมวในเฟสบุ๊คอยู่ เเล้ววันดีคืนดีก็มีคนเอาเนื้อหาในกระทู้ที่แล้วเนี่ยเเหละมาถกกับเรา 5555 คือ เก๊าเขียนเองง่าา จะถกยกมาถกกันให้ครบสิ อย่ายกมาขาดๆเกินๆ ซึ่งส่วนนึงก็น่าจะมาจากเราเขียนหนังสือไม่เก่ง กระชับเนื้อหาไม่ดี ตอนนี้มีอะไรอัพเดท เลยขอเอาเนื้อหาเก่ามาเรียบเรียงเติมแต่งใหม่ (หวังว่า)ให้เข้าใจง่ายขึ้นนะคะ
ออกตัวก่อนว่าผู้เขียนเป็นเจ้าของฟาร์มแมว Buran Cattery ไม่ใช่เพื่อการค้า (เพราะไม่มีลูกแมวขายมานานแล้ว ฮาา) แต่ที่ต้องออกตัว เพราะหลังจากที่เขียนกระทู้นั้นไป ก็พบว่ามีการเอาเนื้อหาในกระทู้อ้างเป็นบทความของตนเอง ซึ่งตรงนี้ไม่ติดใจอะไร ต้องขอบคุณที่ช่วยกันดูแลสังคมแมวๆ เเต่บางท่านนำเนื้อหาจากกระทู้ไปดัดเเปลง แล้วถ่ายทอดผิดๆ หรือเพื่อการเอาเปรียบในการค้าแมว เเล้วเอาเปรียบแมวด้วย ซึ่งตรงนี้เค้าไม่ปลื้มนะ ! เพราะความซวยมันตกที่เเมวนะ !
และบทความที่เราเขียนอาจไม่มีวิชาการมากนัก เราเขียนจากประสบการณ์ทั้งจากการเลี้ยง การปรึกษาสัตวแพทย์ นักวิชาการ และบรีดเดอร์ ซึ่งตรงนี้เราก็เอามาเขียนจากความเข้าใจเราอีกที ถ้ามีสิ่งใดที่ผิดพลาดก็เกิดจากความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องของเราเองค่ะ (ขอรับไว้คนเดียว ><')
เรื่องแรก การเลือกซื้อแมวซักตัว (สำหรับคนที่ไม่ได้สนใจสายพันธุ์แมวข้ามข้อแรกไปได้เลยค่ะ)
เรามักจะได้คำถามประมาณว่า พี่คะ/น้องคะ เเมวตัวนี้ (พร้อมส่งรูปมา) ซื้อ-ขายราคานี้ดีมั้ยคะ หรือไม่ก็ส่งรูปแมวมาหลายๆ รูป ให้เราช่วยเลือก เราในฐานะฟาร์มๆ นึงไม่สามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้ ถ้าเราตอบอะไรไปมันเหมือนกับต้องอวยฝ่ายไป หรือว่าฝ่ายไหนใช่มั้ยคะ ถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้จักฟาร์มทั้งหลายที่เป็นเจ้าของน้องแมวเหล่านั้น
พื้นฐานการเลือกซื้อเเมวนะคะ ไหนๆ ก็จะเสียตังเพื่อให้ได้เเมวสวยสมใจเเล้ว
1. ศึกษาสายพันธุ์ว่าจริงๆ แล้วลักษณะที่ดีของสายพันธุ์นั้นๆ เป็นอย่างไร ไปดูตามงานประกวด ดูฟาร์ม "ที่ได้มาตรฐาน" ทั้งการเลี้ยง เเละสายพันธุ์ ศึกษาให้เข้าใจว่าเเมวที่ดีตามสายพันธุ์นั้นเป็นอย่างไร คราวนี้มาดูต่อว่าในระดับที่รองลงมาจากฟาร์มที่บรีดเพื่อพัฒนาสายพันธุ์ หรือประกวดเนี่ย จะต้องมีฟาร์มหรือบ้านอื่นๆ ชอบเเล้วซื้อไปเลี้ยง เเล้วทำออกมาในระดับเกรดเลี้ยงเล่น
ยกตัวอย่างที่เห็นชัดๆ นะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เปอร์เซีย (เราไม่ถนัดเปอร์เซียนะคะ ส่วนตัวเลี้ยง สก็อตติสโฟลด์ เเต่อันนี้น่าจะเห็นชัดเจนกว่า) เกรดประกวดเนี่ย สังเกตว่าขนจะยาวฟรุ้งฟริ้ง ใบหูเล็ก ตากับจมูกเป็นระนาบเดียวกัน หัวโหนกยั่งกับเลี้ยงปลาหมอสี ขาสั้น ตัวไม่ยาว หางไม่ยาวปรื้ดดดด กล้ามเนื้อดี ไม่หลวม พอมาดูเกรดที่ย่อมเยาว์ลงมา หน้าก็คงความแบนเป็นเเมวโดนสิบล้อชน เเต่ตำเเหน่งหูอาจจะไม่ดีเริศเพอร์เฟคนัก หางอาจจะยาวกว่าตัวประกวด ย่อมเยาว์ลงมาอีก ก็จะเป็นหน้าบี้นะ เเต่หูโต ขนเริ่มไม่เท่าฟอมพวกเเรกๆ เเละ ไล่ลงมาเรื่อยๆจนถึง หน้าหล่น หน้าตุ๊กตา เเล้วก็หน้ายาวววเชียว สังเกตว่าตัวก็จะยาวตามมาเรื่อยๆ (ฮาาาา) เราก็เปรียบเทียบกันในเเต่ละเกรดว่ามันควรจะลดหลั่นมาเท่าไหร่ ตลาดทั่วๆ ไปเค้าให้ราคากันยังไง บางบ้านเลี้ยงเพาะพันธุ์เล่นๆ บางบ้านเน้นบรีดพัฒนาสายพันธุ์นั้นคืออีก 1 เหตุผลว่าทำไมราคาถึงได้ต่างกัน เเนะนำว่าต้องดูให้มากๆ หลายๆ ที่ เพื่อชั่งใจว่าเงินที่เราจะจ่ายออกไปคุ้มค่ามั้ย
มีหลายที่เอาความไม่รู้ของผู้ซื้อมาเอาเปรียบนะคะ เเต่อย่าดูจากฟาร์มนึง เเล้วรีบเบิ่งรถไปต่ออีกฟาร์มนึง ถ้าเรารู้ว่าคนที่มาดูแมวเราทำเเบบนั้น เราจะไม่ให้เข้าบ้านคะ เพราะเราไม่รู้ว่าฟาร์มอื่นปลอดภัยเรื่องโรคแค่ไหน
การขอดูพ่อแม่แมวเป็นสิ่งที่พึงกระทำได้ เพื่อเป็นการดูแนวโน้มหน้าตา-ฟอร์มของน้องแมวในอนาคตค่ะ
2. ศึกษาเรื่องสุขภาพน้องแมว
พื้นฐานเลยน้องแมวไม่ควรตาเเดง ตาเจ็บ ดูหูดูก้นควรจะสะอาดไม่ใช่เป็นคราบขี้หู หรือของเสีย ลองจับลองอุ้มดูว่าลูกแมวมีน้ำหนัก กล้ามเนื้อต่างกันอย่างไร ลูกแมวหลายตัวที่ดูฟู ดูโต เเต่น้ำหนักตัวกลับเบากว่าตัวที่มันดูตัวเล็กๆ เเต่ลูกแมวก็ไม่ควรผอมจนเกินไป ดีดนิ้วเช็คดูว่าหูน้องแมวได้ยินปกติมั้ย ดูการโฟกัสของตาโดยใช้ของเล่นล่อ ตรวจดูตามผิวหนังว่ามีแผลมีการอักเสบต่างๆ หรือไม่ ความยืดหยุ่นของผิวหนัง สังเกตลักษณะนิสัย ในเมื่อคิดจะเสียตังซื้อแมวซักตัวเเล้ว ก็ควรจะได้รับน้องแมวที่เเข็งเเรงสมบูรณ์ ยกเว้นถ้าหากว่าน้องแมวตัวนั้นมีความผิดปกติ แล้วทางเจ้าของบอก เเล้วเรารับได้ก็ค่อยตกลงกันไปเป็นอีกกรณีนึง การซื้ออย่างไม่ตรวจดูให้ดีก่อน อาจได้แมวที่ไม่เเข็งเเรงมาก บางครั้งค่ารักษาเเพงกว่าค่าตัวน้องแมว พาลจะเกิดความคิดที่ว่าเอาน้องแมวข้างถนนที่ลำบากซักตัว เเล้วเอาเงินไปรักษาดูเเลเค้ายังจะดีกว่า (น้องแมวจรถ้าเลี้ยงดีๆ ก็น่ารักไม่แพ้เเมวพันธุ์)
3. สุขอนามัย
สถานที่เลี้ยงน้องแมวเป็นอย่างไร? สะอาดสะอ้านดีไหม? กลิ่นรุนเเรงเเค่ไหน? ตรงนี้ต้องเข้าใจก่อนว่าเเมวก็เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง เมื่อเลี้ยงรวมกันเป็นจำนวนมากๆ เค้าก็จะมีกลิ่นประจำตัวเค้า ซึ่งไม่ใช่กลิ่นอึ กลิ่นฉี่ ในหลายๆ ที่ฟาร์มสะอาดดี เเต่อย่างไรเสียก็ต้องมีกลิ่นของน้องแมวอยู่นะจ้ะ
การจัดพื้นที่ให้น้องแมว เเมวเด็ก แมวโตควรจะจัดสรรพื้นที่ให้ชัดเจน ตัวผู้ตัวเมีย ไม่เลี้ยงรวมกันมั่วซั่ว (เพื่อป้องกันการผสมกันเเบบไม่พักท้อง เเละสามารถรู้ได้ว่า ผสมเมื่อไหร่ กับใคร) จานอาหาร จานน้ำสะอาดดีมั้ย กรง หรือที่นอนน้องแมวสะอาดดีหรือไม่ สังเกตน้องแมวตัวอื่นๆ ว่ามีตัวไหนดูอ่อนแอ ไม่สบาย เเล้วเค้ามีวิธีเเยกอย่างไร น้องแมวเเต่ละตัวมีสุขภาพจิตดีหรือไม่ ต้องคอยสังเกตค่ะ เพราะนั้นคือสิ่งหนึ่งที่บ่งบอกได้ว่าการเอาใจใส่ของฟาร์มกับน้องแมวเป็นอย่างไร ส่วนนึงน้องแมวก็มีสันดานของตัวมันเอง (นิสัยจากพ่อแม่ถ่ายทอดถึงลูกนะคะ) เเละนิสัยจากภาวะเเวดล้อมการเลี้ยงดู
4. โรคภัยไข้เจ็บของน้องแมว
ก่อนจะซื้อน้องแมว เราต้องศึกษาโรคพื้นฐานของน้องแมว และการรักษา ศึกษาให้มากๆ อย่างน้อยก็เป็นพื้นฐานการจัดสินใจได้ในระดับนึง บางคนไม่รู้เเมวเป็นหัด กรี๊ดดดลั่ลล้าๆๆ น่ารักกกอยากได้จะเอา เอามาเเล้วเป็นไงคะ หัดกระจายตาย _ ่า ยกบ้าน =w=^
สำหรับเราถ้าเป็นฟาร์มที่เราไม่เคยซื้อแมวด้วย หรือแมวจร เราใช้วิธีเดียวกันคะ
พาไปตรวจสุขภาพ ถามข้อมูลจากผุ้ขายให้แน่ใจว่าแมวได้รับวัคซีนอะไรมาบ้างแล้ว ที่สำคัญที่สุดคือ ไข้หัดหวัดแมว ในปีแรกแมวควรได้รับ 3 เข็ม ปีต่อไปจะเหลือปีละเข็ม การตรวจโรคติดต่อ เช่น เอดส์แมว ลูคิเมีย สามารถมีชุดตรวจและรู้ผลทันที แต่ไม่ 100% อาจต้องตรวจ 2 ครั้งตามดุลพินิจของสัตวแพทย์ค่ะ ถ้าไม่แน่ใจว่าแหล่งที่ซื้อมาปลอดภัยและมีมาตรฐานที่ดี ควรจะแยกน้องแมวเพื่อดูอาการอย่างต่ำ 7 วันก่อนนำเข้าไปเจอตัวอื่นๆ และการนำแมวเข้าฝูงให้จำกัดพื้นที่ตัวใหม่คือให้ใส่กรงไว้ ให้ตัวเก่าได้ดมจากภายนอกกรง จนคุ้นกลิ่น ไม่มีขู่มีตบกันถือเอาปล่อยเข้าหากันได้ค่ะ
เวลาเลือกน้องแมว
อย่างโรคหัดเนี่ยน้องแมวจะมีขี้ตากรัง ไม่ค่อยกินข้าวกินน้ำ บางตัวถ่ายเป็นมูกปนเลือด อาเจียน (ดังนั้นการสำรวจส้วมเเมวก็สมควรทำค่ะ) ถ้าน้องแมวมีอาการนี้เเต่เด็ก.... ก็ปล่อยไว้ตรงนั้นเเหละคะ ไม่ต้องสนับสนุนซื้อแมวจากฟาร์มที่ไม่ใส่ใจสุขภาพของน้องแมว =w=' ให้สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม โอกาสรอดน้อยเหลือเกินสำหรับเเมวเด็ก เเล้วเจ้าของไม่รีบส่งไปรักษา ส่วนมากแมวที่เจอโรคนี้จะแสดงอาการหลังย้ายบ้านไม่เกิน 7 วันเพราะเป็นช่วงภูมิตกหลังย้ายบ้าน โดยเฉพาะแมวที่ไม่ได้รับวัคซีนมา หรือแค่เข็มเดียวก็มีโอกาสเป็นได้ค่ะ (วัคซีนเข็มแรกยังไม่ได้ช่วยป้องกันโรคค่ะ)
หวัดแมวตาเเดง มีน้ำมูกเยอะน้อยเเล้วเเต่ตัว บางตัวเชื้อลงปาก ในปากก็จะมีเเผลหรือร้อนใน
ท้องเสียมักมีคราบติดก้น
พวกบิดอึจะเหม็นคาวเป็นพิเศษ
สีเหงือกสีลิ้นควรจะชมพูสดใส ไม่ควรซีด
ปากไม่ควรมีกลิ่นเหม็นคะ เวลาน้องแมวป่วยปากจะเหม็น เเล้วน้องแมวเลียตัว ตัวเลยพาลเหม็นไปด้วย อันนี้ก็เป็นอีกข้อสังเกตนะคะ
ช่องปากเป็นเเผลอีก 1 โรคที่มีโอกาสเป็น คือเอดส์เเมว
ผู้ขายที่ดีถ้าน้องแมวป่วย จะแจ้งให้ผู้ซื้อทราบ เเละรักษาน้องแมวให้หายก่อนส่ง และไม่ขายแมวที่เด็กเกินไป( 2 เดือนครึ่ง) หรือยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มแรกค่ะ
(จริงๆ เราปรับปรุงเป็นบทความลง Note ในเพจฟาร์ม แล้วก็อปมาลงในกระทู้นี้ ซึ่งจะบอกว่า... Drafts ดองไว้อีกหลายบทเลย TwT' เก๊าจะทะยอยลงนะ)
กราบบบบ... อ่านซักนิดถ้าคิดจะเลี้ยงแมว ภาคอัพเดท !!
ซึ่งเวลาผ่านไป ความรู้เราก็ตกตระกอนมากขึ้น
เราก็ยังสิงอยู่กลุ่มแมวในเฟสบุ๊คอยู่ เเล้ววันดีคืนดีก็มีคนเอาเนื้อหาในกระทู้ที่แล้วเนี่ยเเหละมาถกกับเรา 5555 คือ เก๊าเขียนเองง่าา จะถกยกมาถกกันให้ครบสิ อย่ายกมาขาดๆเกินๆ ซึ่งส่วนนึงก็น่าจะมาจากเราเขียนหนังสือไม่เก่ง กระชับเนื้อหาไม่ดี ตอนนี้มีอะไรอัพเดท เลยขอเอาเนื้อหาเก่ามาเรียบเรียงเติมแต่งใหม่ (หวังว่า)ให้เข้าใจง่ายขึ้นนะคะ
ออกตัวก่อนว่าผู้เขียนเป็นเจ้าของฟาร์มแมว Buran Cattery ไม่ใช่เพื่อการค้า (เพราะไม่มีลูกแมวขายมานานแล้ว ฮาา) แต่ที่ต้องออกตัว เพราะหลังจากที่เขียนกระทู้นั้นไป ก็พบว่ามีการเอาเนื้อหาในกระทู้อ้างเป็นบทความของตนเอง ซึ่งตรงนี้ไม่ติดใจอะไร ต้องขอบคุณที่ช่วยกันดูแลสังคมแมวๆ เเต่บางท่านนำเนื้อหาจากกระทู้ไปดัดเเปลง แล้วถ่ายทอดผิดๆ หรือเพื่อการเอาเปรียบในการค้าแมว เเล้วเอาเปรียบแมวด้วย ซึ่งตรงนี้เค้าไม่ปลื้มนะ ! เพราะความซวยมันตกที่เเมวนะ !
และบทความที่เราเขียนอาจไม่มีวิชาการมากนัก เราเขียนจากประสบการณ์ทั้งจากการเลี้ยง การปรึกษาสัตวแพทย์ นักวิชาการ และบรีดเดอร์ ซึ่งตรงนี้เราก็เอามาเขียนจากความเข้าใจเราอีกที ถ้ามีสิ่งใดที่ผิดพลาดก็เกิดจากความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องของเราเองค่ะ (ขอรับไว้คนเดียว ><')
เรื่องแรก การเลือกซื้อแมวซักตัว (สำหรับคนที่ไม่ได้สนใจสายพันธุ์แมวข้ามข้อแรกไปได้เลยค่ะ)
เรามักจะได้คำถามประมาณว่า พี่คะ/น้องคะ เเมวตัวนี้ (พร้อมส่งรูปมา) ซื้อ-ขายราคานี้ดีมั้ยคะ หรือไม่ก็ส่งรูปแมวมาหลายๆ รูป ให้เราช่วยเลือก เราในฐานะฟาร์มๆ นึงไม่สามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้ ถ้าเราตอบอะไรไปมันเหมือนกับต้องอวยฝ่ายไป หรือว่าฝ่ายไหนใช่มั้ยคะ ถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้จักฟาร์มทั้งหลายที่เป็นเจ้าของน้องแมวเหล่านั้น
พื้นฐานการเลือกซื้อเเมวนะคะ ไหนๆ ก็จะเสียตังเพื่อให้ได้เเมวสวยสมใจเเล้ว
1. ศึกษาสายพันธุ์ว่าจริงๆ แล้วลักษณะที่ดีของสายพันธุ์นั้นๆ เป็นอย่างไร ไปดูตามงานประกวด ดูฟาร์ม "ที่ได้มาตรฐาน" ทั้งการเลี้ยง เเละสายพันธุ์ ศึกษาให้เข้าใจว่าเเมวที่ดีตามสายพันธุ์นั้นเป็นอย่างไร คราวนี้มาดูต่อว่าในระดับที่รองลงมาจากฟาร์มที่บรีดเพื่อพัฒนาสายพันธุ์ หรือประกวดเนี่ย จะต้องมีฟาร์มหรือบ้านอื่นๆ ชอบเเล้วซื้อไปเลี้ยง เเล้วทำออกมาในระดับเกรดเลี้ยงเล่น
ยกตัวอย่างที่เห็นชัดๆ นะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มีหลายที่เอาความไม่รู้ของผู้ซื้อมาเอาเปรียบนะคะ เเต่อย่าดูจากฟาร์มนึง เเล้วรีบเบิ่งรถไปต่ออีกฟาร์มนึง ถ้าเรารู้ว่าคนที่มาดูแมวเราทำเเบบนั้น เราจะไม่ให้เข้าบ้านคะ เพราะเราไม่รู้ว่าฟาร์มอื่นปลอดภัยเรื่องโรคแค่ไหน
การขอดูพ่อแม่แมวเป็นสิ่งที่พึงกระทำได้ เพื่อเป็นการดูแนวโน้มหน้าตา-ฟอร์มของน้องแมวในอนาคตค่ะ
2. ศึกษาเรื่องสุขภาพน้องแมว
พื้นฐานเลยน้องแมวไม่ควรตาเเดง ตาเจ็บ ดูหูดูก้นควรจะสะอาดไม่ใช่เป็นคราบขี้หู หรือของเสีย ลองจับลองอุ้มดูว่าลูกแมวมีน้ำหนัก กล้ามเนื้อต่างกันอย่างไร ลูกแมวหลายตัวที่ดูฟู ดูโต เเต่น้ำหนักตัวกลับเบากว่าตัวที่มันดูตัวเล็กๆ เเต่ลูกแมวก็ไม่ควรผอมจนเกินไป ดีดนิ้วเช็คดูว่าหูน้องแมวได้ยินปกติมั้ย ดูการโฟกัสของตาโดยใช้ของเล่นล่อ ตรวจดูตามผิวหนังว่ามีแผลมีการอักเสบต่างๆ หรือไม่ ความยืดหยุ่นของผิวหนัง สังเกตลักษณะนิสัย ในเมื่อคิดจะเสียตังซื้อแมวซักตัวเเล้ว ก็ควรจะได้รับน้องแมวที่เเข็งเเรงสมบูรณ์ ยกเว้นถ้าหากว่าน้องแมวตัวนั้นมีความผิดปกติ แล้วทางเจ้าของบอก เเล้วเรารับได้ก็ค่อยตกลงกันไปเป็นอีกกรณีนึง การซื้ออย่างไม่ตรวจดูให้ดีก่อน อาจได้แมวที่ไม่เเข็งเเรงมาก บางครั้งค่ารักษาเเพงกว่าค่าตัวน้องแมว พาลจะเกิดความคิดที่ว่าเอาน้องแมวข้างถนนที่ลำบากซักตัว เเล้วเอาเงินไปรักษาดูเเลเค้ายังจะดีกว่า (น้องแมวจรถ้าเลี้ยงดีๆ ก็น่ารักไม่แพ้เเมวพันธุ์)
3. สุขอนามัย
สถานที่เลี้ยงน้องแมวเป็นอย่างไร? สะอาดสะอ้านดีไหม? กลิ่นรุนเเรงเเค่ไหน? ตรงนี้ต้องเข้าใจก่อนว่าเเมวก็เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง เมื่อเลี้ยงรวมกันเป็นจำนวนมากๆ เค้าก็จะมีกลิ่นประจำตัวเค้า ซึ่งไม่ใช่กลิ่นอึ กลิ่นฉี่ ในหลายๆ ที่ฟาร์มสะอาดดี เเต่อย่างไรเสียก็ต้องมีกลิ่นของน้องแมวอยู่นะจ้ะ
การจัดพื้นที่ให้น้องแมว เเมวเด็ก แมวโตควรจะจัดสรรพื้นที่ให้ชัดเจน ตัวผู้ตัวเมีย ไม่เลี้ยงรวมกันมั่วซั่ว (เพื่อป้องกันการผสมกันเเบบไม่พักท้อง เเละสามารถรู้ได้ว่า ผสมเมื่อไหร่ กับใคร) จานอาหาร จานน้ำสะอาดดีมั้ย กรง หรือที่นอนน้องแมวสะอาดดีหรือไม่ สังเกตน้องแมวตัวอื่นๆ ว่ามีตัวไหนดูอ่อนแอ ไม่สบาย เเล้วเค้ามีวิธีเเยกอย่างไร น้องแมวเเต่ละตัวมีสุขภาพจิตดีหรือไม่ ต้องคอยสังเกตค่ะ เพราะนั้นคือสิ่งหนึ่งที่บ่งบอกได้ว่าการเอาใจใส่ของฟาร์มกับน้องแมวเป็นอย่างไร ส่วนนึงน้องแมวก็มีสันดานของตัวมันเอง (นิสัยจากพ่อแม่ถ่ายทอดถึงลูกนะคะ) เเละนิสัยจากภาวะเเวดล้อมการเลี้ยงดู
4. โรคภัยไข้เจ็บของน้องแมว
ก่อนจะซื้อน้องแมว เราต้องศึกษาโรคพื้นฐานของน้องแมว และการรักษา ศึกษาให้มากๆ อย่างน้อยก็เป็นพื้นฐานการจัดสินใจได้ในระดับนึง บางคนไม่รู้เเมวเป็นหัด กรี๊ดดดลั่ลล้าๆๆ น่ารักกกอยากได้จะเอา เอามาเเล้วเป็นไงคะ หัดกระจายตาย _ ่า ยกบ้าน =w=^
สำหรับเราถ้าเป็นฟาร์มที่เราไม่เคยซื้อแมวด้วย หรือแมวจร เราใช้วิธีเดียวกันคะ
พาไปตรวจสุขภาพ ถามข้อมูลจากผุ้ขายให้แน่ใจว่าแมวได้รับวัคซีนอะไรมาบ้างแล้ว ที่สำคัญที่สุดคือ ไข้หัดหวัดแมว ในปีแรกแมวควรได้รับ 3 เข็ม ปีต่อไปจะเหลือปีละเข็ม การตรวจโรคติดต่อ เช่น เอดส์แมว ลูคิเมีย สามารถมีชุดตรวจและรู้ผลทันที แต่ไม่ 100% อาจต้องตรวจ 2 ครั้งตามดุลพินิจของสัตวแพทย์ค่ะ ถ้าไม่แน่ใจว่าแหล่งที่ซื้อมาปลอดภัยและมีมาตรฐานที่ดี ควรจะแยกน้องแมวเพื่อดูอาการอย่างต่ำ 7 วันก่อนนำเข้าไปเจอตัวอื่นๆ และการนำแมวเข้าฝูงให้จำกัดพื้นที่ตัวใหม่คือให้ใส่กรงไว้ ให้ตัวเก่าได้ดมจากภายนอกกรง จนคุ้นกลิ่น ไม่มีขู่มีตบกันถือเอาปล่อยเข้าหากันได้ค่ะ
เวลาเลือกน้องแมว
อย่างโรคหัดเนี่ยน้องแมวจะมีขี้ตากรัง ไม่ค่อยกินข้าวกินน้ำ บางตัวถ่ายเป็นมูกปนเลือด อาเจียน (ดังนั้นการสำรวจส้วมเเมวก็สมควรทำค่ะ) ถ้าน้องแมวมีอาการนี้เเต่เด็ก.... ก็ปล่อยไว้ตรงนั้นเเหละคะ ไม่ต้องสนับสนุนซื้อแมวจากฟาร์มที่ไม่ใส่ใจสุขภาพของน้องแมว =w=' ให้สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม โอกาสรอดน้อยเหลือเกินสำหรับเเมวเด็ก เเล้วเจ้าของไม่รีบส่งไปรักษา ส่วนมากแมวที่เจอโรคนี้จะแสดงอาการหลังย้ายบ้านไม่เกิน 7 วันเพราะเป็นช่วงภูมิตกหลังย้ายบ้าน โดยเฉพาะแมวที่ไม่ได้รับวัคซีนมา หรือแค่เข็มเดียวก็มีโอกาสเป็นได้ค่ะ (วัคซีนเข็มแรกยังไม่ได้ช่วยป้องกันโรคค่ะ)
หวัดแมวตาเเดง มีน้ำมูกเยอะน้อยเเล้วเเต่ตัว บางตัวเชื้อลงปาก ในปากก็จะมีเเผลหรือร้อนใน
ท้องเสียมักมีคราบติดก้น
พวกบิดอึจะเหม็นคาวเป็นพิเศษ
สีเหงือกสีลิ้นควรจะชมพูสดใส ไม่ควรซีด
ปากไม่ควรมีกลิ่นเหม็นคะ เวลาน้องแมวป่วยปากจะเหม็น เเล้วน้องแมวเลียตัว ตัวเลยพาลเหม็นไปด้วย อันนี้ก็เป็นอีกข้อสังเกตนะคะ
ช่องปากเป็นเเผลอีก 1 โรคที่มีโอกาสเป็น คือเอดส์เเมว
ผู้ขายที่ดีถ้าน้องแมวป่วย จะแจ้งให้ผู้ซื้อทราบ เเละรักษาน้องแมวให้หายก่อนส่ง และไม่ขายแมวที่เด็กเกินไป( 2 เดือนครึ่ง) หรือยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มแรกค่ะ
(จริงๆ เราปรับปรุงเป็นบทความลง Note ในเพจฟาร์ม แล้วก็อปมาลงในกระทู้นี้ ซึ่งจะบอกว่า... Drafts ดองไว้อีกหลายบทเลย TwT' เก๊าจะทะยอยลงนะ)