คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 454
ผมขอขอบคุณทุกๆ คน จริงๆจากใจครับ ที่ให้ข้อคิดต่างๆ ผมได้อ่านทุกความคิดเห็นแล้วครับ ผมไม่รู้เลยว่าจะมากมายขนาดนี้ ผมขอขอบคุณจริงๆครับ
ผมขอตอบทุกความคิดเห็น ในนี้นะครับ
ที่ผมมาตั้งกระทู้นี้เพื่อระบายความในใจของผมเท่านั้น ไม่มีเจตนาให้รู้สึกไม่ดีกับพ่อแม่ของผม เพราะยังไงแกทั้งสองก็คือพ่อแม่ผม ผมขอโทษ และรับผิดทุกอย่างถ้ามันกระทบต่อท่านและคนอื่นๆนะครับ ผมไม่มีเจตนาจริงๆ
สำหรับเรื่องเรียนต่อ ผมตัดสินใจไม่เรียนต่อที่มหาวิทยาลัย เพราะคิดว่าการเริ่มต้นมันต้องใช้งบประมาณที่ต้องสำรองจ่ายก่อนข้อนข้างเยอะมาก และเรื่องกู้ กยศ. พ่อแม่ แกไม่อยากให้กู้ครับ แล้วอีกอย่างแกก็ไม่เซ็นเป็นผู้ค้ำให้ ส่วนเรื่องทุนการศึกษาผมได้ติดต่อไปยังมหาลัยแล้ว ขั้นตอนมันก็ประมาณหนึ่งแต่ก็ต้องสำรองจ่ายก่อน งั้นผมเลยตัดสินใจที่จะเรียนสายอาชีพ ที่วิทยาลัยแห่งหนึ่งที่มีงานให้ทำ และได้เงิน จบมาก็ทำงานได้เลย ครับ
ผมเคยไปทำงานพิเศษหลังเลิกเรียนแล้วครับ แต่พอกลับมาบ้านมา ผมเข้าบ้านไม่ได้ครับ เพราะกลับดึก พ่อแม่ นอนหมดเเล้ว ผมก็ไม่กล้ารบกวนท่านให้ลงมาเปิดประตุครับ หลังๆมาผมก้ไม่ได้ไปครับ ผมไม่มีพาหนะด้วยครับ วินแถวนี้ก้มีไม่มาก ครับ
ที่ผมไม่ได้ตอบความคิดเห็นเลย เพราะผมพึ่งจะได้ใช้อินเตอร์เน็ตครับ ผมไม่มีเฟสหรือไลน์ครับ โทรศัพท์มีแค่โทรเข้าโทรออก เท่านั้นครับ
ผมใช้ชีวิตแบบนี้มานานแล้วครับ บางครั้งมันก็ท้อบ้าง อยากตะโกนดังๆสักครั้ง แต่ก็ได้แค่คิด ไม่พอใจอะไรก็มีแต่เก็บ จะระบายให้เพื่อนฟัง ผมกลัวว่าเพื่อนจะพาลมองพ่อแม่ผมเป็นคนไม่ดี
ยังไงผมก็ต้องเดินหน้าต่อไป อย่างที่ทุกคนบอกครับ และผมจะทำให้ท่านมองผมในสายตาบ้าง ผมจะทำให้ท่านบอกว่า “ไม่ผิดที่รับคนนี้มาเลี้ยงจริง” ผมจะทำให้ได้ และมันต้องได้
ขอบคุณความหวังดีและกำลังใจของทุกคนจริงๆครับ อย่างน้อยๆก็มีคนที่ทุกข์มากว่าผมอีกเยอะ
ขอบคุณครับ
ผมขอตอบทุกความคิดเห็น ในนี้นะครับ
ที่ผมมาตั้งกระทู้นี้เพื่อระบายความในใจของผมเท่านั้น ไม่มีเจตนาให้รู้สึกไม่ดีกับพ่อแม่ของผม เพราะยังไงแกทั้งสองก็คือพ่อแม่ผม ผมขอโทษ และรับผิดทุกอย่างถ้ามันกระทบต่อท่านและคนอื่นๆนะครับ ผมไม่มีเจตนาจริงๆ
สำหรับเรื่องเรียนต่อ ผมตัดสินใจไม่เรียนต่อที่มหาวิทยาลัย เพราะคิดว่าการเริ่มต้นมันต้องใช้งบประมาณที่ต้องสำรองจ่ายก่อนข้อนข้างเยอะมาก และเรื่องกู้ กยศ. พ่อแม่ แกไม่อยากให้กู้ครับ แล้วอีกอย่างแกก็ไม่เซ็นเป็นผู้ค้ำให้ ส่วนเรื่องทุนการศึกษาผมได้ติดต่อไปยังมหาลัยแล้ว ขั้นตอนมันก็ประมาณหนึ่งแต่ก็ต้องสำรองจ่ายก่อน งั้นผมเลยตัดสินใจที่จะเรียนสายอาชีพ ที่วิทยาลัยแห่งหนึ่งที่มีงานให้ทำ และได้เงิน จบมาก็ทำงานได้เลย ครับ
ผมเคยไปทำงานพิเศษหลังเลิกเรียนแล้วครับ แต่พอกลับมาบ้านมา ผมเข้าบ้านไม่ได้ครับ เพราะกลับดึก พ่อแม่ นอนหมดเเล้ว ผมก็ไม่กล้ารบกวนท่านให้ลงมาเปิดประตุครับ หลังๆมาผมก้ไม่ได้ไปครับ ผมไม่มีพาหนะด้วยครับ วินแถวนี้ก้มีไม่มาก ครับ
ที่ผมไม่ได้ตอบความคิดเห็นเลย เพราะผมพึ่งจะได้ใช้อินเตอร์เน็ตครับ ผมไม่มีเฟสหรือไลน์ครับ โทรศัพท์มีแค่โทรเข้าโทรออก เท่านั้นครับ
ผมใช้ชีวิตแบบนี้มานานแล้วครับ บางครั้งมันก็ท้อบ้าง อยากตะโกนดังๆสักครั้ง แต่ก็ได้แค่คิด ไม่พอใจอะไรก็มีแต่เก็บ จะระบายให้เพื่อนฟัง ผมกลัวว่าเพื่อนจะพาลมองพ่อแม่ผมเป็นคนไม่ดี
ยังไงผมก็ต้องเดินหน้าต่อไป อย่างที่ทุกคนบอกครับ และผมจะทำให้ท่านมองผมในสายตาบ้าง ผมจะทำให้ท่านบอกว่า “ไม่ผิดที่รับคนนี้มาเลี้ยงจริง” ผมจะทำให้ได้ และมันต้องได้
ขอบคุณความหวังดีและกำลังใจของทุกคนจริงๆครับ อย่างน้อยๆก็มีคนที่ทุกข์มากว่าผมอีกเยอะ
ขอบคุณครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
ใจร้ายจัง อ่านแล้วหดหู่เลย แต่ท่านก็มีบุญคุณกับเราด้วยเนอะ จะจากไปเฉยๆ ก็ไม่ได้
ตอนนี้ม.6 ยังยืนไม่ได้ด้วยตัวเองใช่มั้ยคะ
ระหว่างปิดเทอมหรือหลังเลิกเรียนทำงานพิเศษมั้ย?
จะได้ไม่คิดมาก มีเงินเก็บซื้อของให้ตัวเอง
เก็บออมไว้ใช้ในมหาลัย เก็บไว้ซื้อชุดนักศึกษาใหม่
ส่วนเรื่องมหาลัย หลายๆ มหาลัยมีสอบชิงทุนนะคะ
ที่เป็นทุนเรียนฟรีไม่ต้องจ่ายอะไรเลย
ได้ค่าหอ หรืออยู่หอในฟรีอีก
บางทุนมีเงินเดือนให้ด้วย แล้วก็กู้กยส.ควบคู่ไป
(ส่วนตัว อยากแนะนำให้ไปต่างจังหวัด มีค่าครองชีพที่ต่ำกว่ากทม โอกาสได้ทุนเยอะกว่า ได้เปลี่ยนสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ด้วย)
มหาลัยมีเวลาว่างเยอะ หางานทำเลยค่ะ
ยืนด้วยตัวเองให้ได้เร็วที่สุด ยิ่งสบายใจเนอะ
ถ้าเขาคิดว่าเราเป็นภาระ ไหนๆ ก็ได้ยินแล้ว
เอามาเป็นแรงผลักดันให้อะไรๆ ดีขึ้นแทนดีกว่าค่ะ
ส่วนเรื่องอยากตอบแทนบุญคุณ
รู้สึกดีจังที่คุณไม่ได้คิดอยากหนีออกไปเฉยๆ
ตามที่บอกค่ะ รีบหางานทำ เมื่อไรที่มีรายได้เข้ามามากพอ
ส่งเงินให้ที่บ้านเพื่อเป็นการตอบแทน (ถ้าไม่รับก็อีกเรื่อง)
ไปเยี่ยม ซื้อของขวัญให้ในโอกาสต่างๆ
แค่นี้ก็ไม่รุ้สึกแย่แล้วค่ะ
ตอนนี้ม.6 ยังยืนไม่ได้ด้วยตัวเองใช่มั้ยคะ
ระหว่างปิดเทอมหรือหลังเลิกเรียนทำงานพิเศษมั้ย?
จะได้ไม่คิดมาก มีเงินเก็บซื้อของให้ตัวเอง
เก็บออมไว้ใช้ในมหาลัย เก็บไว้ซื้อชุดนักศึกษาใหม่
ส่วนเรื่องมหาลัย หลายๆ มหาลัยมีสอบชิงทุนนะคะ
ที่เป็นทุนเรียนฟรีไม่ต้องจ่ายอะไรเลย
ได้ค่าหอ หรืออยู่หอในฟรีอีก
บางทุนมีเงินเดือนให้ด้วย แล้วก็กู้กยส.ควบคู่ไป
(ส่วนตัว อยากแนะนำให้ไปต่างจังหวัด มีค่าครองชีพที่ต่ำกว่ากทม โอกาสได้ทุนเยอะกว่า ได้เปลี่ยนสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ด้วย)
มหาลัยมีเวลาว่างเยอะ หางานทำเลยค่ะ
ยืนด้วยตัวเองให้ได้เร็วที่สุด ยิ่งสบายใจเนอะ
ถ้าเขาคิดว่าเราเป็นภาระ ไหนๆ ก็ได้ยินแล้ว
เอามาเป็นแรงผลักดันให้อะไรๆ ดีขึ้นแทนดีกว่าค่ะ
ส่วนเรื่องอยากตอบแทนบุญคุณ
รู้สึกดีจังที่คุณไม่ได้คิดอยากหนีออกไปเฉยๆ
ตามที่บอกค่ะ รีบหางานทำ เมื่อไรที่มีรายได้เข้ามามากพอ
ส่งเงินให้ที่บ้านเพื่อเป็นการตอบแทน (ถ้าไม่รับก็อีกเรื่อง)
ไปเยี่ยม ซื้อของขวัญให้ในโอกาสต่างๆ
แค่นี้ก็ไม่รุ้สึกแย่แล้วค่ะ
ความคิดเห็นที่ 22
ก็ถ้าเค้าไม่อยากให้ตุณเป็นภาระ คุณก็พยายามไปจากชีวิตเค้าอย่าให้เป็นภาระเค้าซิครับ
เริ่มแรกก็ต้องหัดทำใจยอมรับความจริงก่อนว่าชีวิตนี้เหลือคุณตัวคนเดียว ถึงแม้จะเศร้าแต่ก็ต้องยอมรับความจริงให้ได้
ต่อมาคุณก็ต้องหางานพิเศษทำข้างนอกเก็บตังเพื่อตัวคุณเอง หรือ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของพ่อแม่บุญธรรมคุณ
เรียนให้จบ หางานทำ หาแฟน แต่งงาน มีลูก มีชีวิตเป็นของตัวเอง มีครอบครัวเป็นของตัวเอง แยกออกมาอยู่กับครอบครัว ส่งเงินให้พ่อแม่บุญธรรมใช้จนกว่าจะตายถ้าทำได้
คุณก็ต้องมีชีวิตของคุณเอง
คืดซะว่าถ้าไม่มีเค้าวันนั้น ชีวิตคุณอาจจะไม่ได้ดีอย่างวันนี้ก็ได้ อย่างน้อยก็มีข้าวให้กิน มีบ้านให้อยู่ มีเสื้อผ้าให้ใส่ ได้รับการศึกษา ทำให้โตพอที่จะเอาชีวิตรอดต่อไปเองได้ และโตพอที่จะมีความคิดดีๆได้จากการได้รับการศึกษา เทียบกับเด็กไร้บ้าน ไร้พ่อไร้แม่แล้ว ชีวิตคุณดีกว่าเยอะ ก็ถือซะว่าเค้าเป็นผู้มีพระคุณทำให้คุณไม่กลายเป็นเด็กติดยาข้างถนน เด็กขายพวงมาลัย หรือเป็นโจรขโมย
เป็นธรรมดาที่คุณจะน้อยใจ เป็นธรรมดาที่คุณอยากได้รับความรัก เป็นธรรมดาที่อยากมีพ่อแม่ที่ดี แต่ก็นะครับมันเป็นธรรมดาของโลก เป็นสัจธรรม มันเป็นมาแบบนี้แล้ว คนไทยก็จะเรียกว่ามันเป็นกรรม
จงจำเอาไว้ครับ เลิกคิดที่จะให้พ่อแม่มารักมาเอาใจใส่ให้เหมือนเราเป็นลูกแท้ๆ เลิกน้อยใจ มุ่งมั่นมีชีวิตเพื่อตัวเองไม่ใช่เพื่อพ่อแม่ สร้างครอบครัวของตัวเอง แต่ให้กตัญญูรู้คุณของพ่อแม่คุณ ชีวิตคุณเหลือตัวคนเดียวก็ต้องจำใส่หัวไว้และสู้เพื่อชีวิตตัวเอง ตอนนี้ยังมีโอกาสก็ต้องรีบทำ ไม่งั้นวันนึงต้องเหลือตัวคนเดียวจริงๆจะยิ่งไม่มีใครช่วยเหลือ คิดว่าชีวิตเรายังดีกว่าใครหลายๆคนครับ
เป็นกำลังใจให้นะครับ รีบๆทำงานหาเงิน อย่ารบกวนเงินเค้าดีที่สุด แล้วก็แยกตัวออกมาอยู่ หรือไม่ก็หาเมียสร้างครอบครัวตัวเองให้ดีๆครับ พยายามพึ่งตัวเองให้มากที่สุด ถ้าคิดว่าตัวเองไม่ได้รับความรักความอบอุ่นก็รักตัวเองให้มากๆครับ เพราะถ้าเราขาดความอบอุ่นเราก็จะไปแสวงหาจากคนอื่นไม่จบไม่สิ้น เดี๋ยวก็พยายามหาแฟนมาทดแทนความอบอุ่นที่เสียไปอีก พอผิดหวังก็จะอาการรุนแรงกว่านี้อีกครับ รีบๆยืนให้ได้ด้วยตัวเอง แล้วพยายามทำตัวเองให้เต็มครับ พอเราเต็มเราก็ค่อยเอาความรักความอบอุ่นเราไปให้เด็กที่ด้อยโอกาสขาดโอกาสเหมือนคุณแทน จะได้ไม่รู้สึกขาดและเติมเต็มซึ่งกันและกันในส่วนที่เราไม่มีครับ
อ้อ หาจุดมุ่งหมายเป้าหมายในชีวิตไว้ก็ดีครับ จะได้มีอะไรยึดไว้ ไม่งั้นเกี๋ยวมันจะเคว้ง หลักลอยไร้เป้าหมาย ไม่รู้จะอยู่ไปทำไมเพื่ออะไรอีก จำไว้ว่าอยู่เพื่อตัวเองนะครับ ชีวิตนี้เราเกิดมาเพื่อชีวิตเป็นของเรา ไม่ใช่ของพ่อแม่หรือของใครๆ อย่าไปโกรธแค้นพ่อแม่บุญธรรม ให้ขอบคุณเค้าแทน แล้วก็ไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับน้องครับ มันก็เป็นแบบที่คุณพูดแหละ ต้องทำใจอย่างเดียว พยายามคิดบวกเข้าไว้ครับ ทำดีต้องได้ดีครับ ขอให้ชีวิตคุณประสบพบเจอแต่สิ่งดีๆในอนาคต เจอไม่ดีก็อย่าท้อ สักวันต้องได้ดีครับ วันนึงคุณอาจจะก้าวข้ามสิ่งเหล่านี้พ้นและเป็นคนด฿แลพ่อแม่และน้องก็ได้ครับ แต่อย่าลืมทำให้ชีวิตตัวเอก่อนครับ ใครไม่รักเราไม่เป็นไร ขอให้เรารักตัวเองก่อนเป็นพอครับ
ปล อย่าคิดอะไรโง่ๆ อย่าทำร้ายตัวเอง อย่าฆ่าตัวตายนะครับ มันไม่ช่วยอะไรจริงๆครับ อดทนครับ คนโบราณอดทนกว่าคนรุ่นเรามากเราอย่าแพ้เค้าครับ อกทนแล้ววันนึงเราสำเร็จเราจะเห็นว่าโลกงดงามน่าอยู่มากครับ แล้วเราจะรู้สึกว่สถ้าเราพลาดไปวันนั้นเราอาจจะไม่ได้เจอสิ่งดีๆเหล่านี้ในวันนี้ก็ได้ มันก็เป็นแค่ช่วงนึงของชีวิตเอง ชีวิตคนเรามีขึ้นมีลง ตอนลงอย่าท้อครับ พยายามมีสติไว้ครับ อย่าหนีปัญหา สึดท้ายทึกคนก็ต้องอยู่คนเดียวครับจะช้าจะเร็ว เราก็แค่เร็วกว่าคนอื่นแค่นั้นเอง อย่าไปอิจฉาโชคชะตาคนอื่นครับมันไม่ช่วยะไรขึ้นมา โชคชะตาชีวิตเราให้เราสร้างขึ้นมาเองครับ
เริ่มแรกก็ต้องหัดทำใจยอมรับความจริงก่อนว่าชีวิตนี้เหลือคุณตัวคนเดียว ถึงแม้จะเศร้าแต่ก็ต้องยอมรับความจริงให้ได้
ต่อมาคุณก็ต้องหางานพิเศษทำข้างนอกเก็บตังเพื่อตัวคุณเอง หรือ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของพ่อแม่บุญธรรมคุณ
เรียนให้จบ หางานทำ หาแฟน แต่งงาน มีลูก มีชีวิตเป็นของตัวเอง มีครอบครัวเป็นของตัวเอง แยกออกมาอยู่กับครอบครัว ส่งเงินให้พ่อแม่บุญธรรมใช้จนกว่าจะตายถ้าทำได้
คุณก็ต้องมีชีวิตของคุณเอง
คืดซะว่าถ้าไม่มีเค้าวันนั้น ชีวิตคุณอาจจะไม่ได้ดีอย่างวันนี้ก็ได้ อย่างน้อยก็มีข้าวให้กิน มีบ้านให้อยู่ มีเสื้อผ้าให้ใส่ ได้รับการศึกษา ทำให้โตพอที่จะเอาชีวิตรอดต่อไปเองได้ และโตพอที่จะมีความคิดดีๆได้จากการได้รับการศึกษา เทียบกับเด็กไร้บ้าน ไร้พ่อไร้แม่แล้ว ชีวิตคุณดีกว่าเยอะ ก็ถือซะว่าเค้าเป็นผู้มีพระคุณทำให้คุณไม่กลายเป็นเด็กติดยาข้างถนน เด็กขายพวงมาลัย หรือเป็นโจรขโมย
เป็นธรรมดาที่คุณจะน้อยใจ เป็นธรรมดาที่คุณอยากได้รับความรัก เป็นธรรมดาที่อยากมีพ่อแม่ที่ดี แต่ก็นะครับมันเป็นธรรมดาของโลก เป็นสัจธรรม มันเป็นมาแบบนี้แล้ว คนไทยก็จะเรียกว่ามันเป็นกรรม
จงจำเอาไว้ครับ เลิกคิดที่จะให้พ่อแม่มารักมาเอาใจใส่ให้เหมือนเราเป็นลูกแท้ๆ เลิกน้อยใจ มุ่งมั่นมีชีวิตเพื่อตัวเองไม่ใช่เพื่อพ่อแม่ สร้างครอบครัวของตัวเอง แต่ให้กตัญญูรู้คุณของพ่อแม่คุณ ชีวิตคุณเหลือตัวคนเดียวก็ต้องจำใส่หัวไว้และสู้เพื่อชีวิตตัวเอง ตอนนี้ยังมีโอกาสก็ต้องรีบทำ ไม่งั้นวันนึงต้องเหลือตัวคนเดียวจริงๆจะยิ่งไม่มีใครช่วยเหลือ คิดว่าชีวิตเรายังดีกว่าใครหลายๆคนครับ
เป็นกำลังใจให้นะครับ รีบๆทำงานหาเงิน อย่ารบกวนเงินเค้าดีที่สุด แล้วก็แยกตัวออกมาอยู่ หรือไม่ก็หาเมียสร้างครอบครัวตัวเองให้ดีๆครับ พยายามพึ่งตัวเองให้มากที่สุด ถ้าคิดว่าตัวเองไม่ได้รับความรักความอบอุ่นก็รักตัวเองให้มากๆครับ เพราะถ้าเราขาดความอบอุ่นเราก็จะไปแสวงหาจากคนอื่นไม่จบไม่สิ้น เดี๋ยวก็พยายามหาแฟนมาทดแทนความอบอุ่นที่เสียไปอีก พอผิดหวังก็จะอาการรุนแรงกว่านี้อีกครับ รีบๆยืนให้ได้ด้วยตัวเอง แล้วพยายามทำตัวเองให้เต็มครับ พอเราเต็มเราก็ค่อยเอาความรักความอบอุ่นเราไปให้เด็กที่ด้อยโอกาสขาดโอกาสเหมือนคุณแทน จะได้ไม่รู้สึกขาดและเติมเต็มซึ่งกันและกันในส่วนที่เราไม่มีครับ
อ้อ หาจุดมุ่งหมายเป้าหมายในชีวิตไว้ก็ดีครับ จะได้มีอะไรยึดไว้ ไม่งั้นเกี๋ยวมันจะเคว้ง หลักลอยไร้เป้าหมาย ไม่รู้จะอยู่ไปทำไมเพื่ออะไรอีก จำไว้ว่าอยู่เพื่อตัวเองนะครับ ชีวิตนี้เราเกิดมาเพื่อชีวิตเป็นของเรา ไม่ใช่ของพ่อแม่หรือของใครๆ อย่าไปโกรธแค้นพ่อแม่บุญธรรม ให้ขอบคุณเค้าแทน แล้วก็ไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับน้องครับ มันก็เป็นแบบที่คุณพูดแหละ ต้องทำใจอย่างเดียว พยายามคิดบวกเข้าไว้ครับ ทำดีต้องได้ดีครับ ขอให้ชีวิตคุณประสบพบเจอแต่สิ่งดีๆในอนาคต เจอไม่ดีก็อย่าท้อ สักวันต้องได้ดีครับ วันนึงคุณอาจจะก้าวข้ามสิ่งเหล่านี้พ้นและเป็นคนด฿แลพ่อแม่และน้องก็ได้ครับ แต่อย่าลืมทำให้ชีวิตตัวเอก่อนครับ ใครไม่รักเราไม่เป็นไร ขอให้เรารักตัวเองก่อนเป็นพอครับ
ปล อย่าคิดอะไรโง่ๆ อย่าทำร้ายตัวเอง อย่าฆ่าตัวตายนะครับ มันไม่ช่วยอะไรจริงๆครับ อดทนครับ คนโบราณอดทนกว่าคนรุ่นเรามากเราอย่าแพ้เค้าครับ อกทนแล้ววันนึงเราสำเร็จเราจะเห็นว่าโลกงดงามน่าอยู่มากครับ แล้วเราจะรู้สึกว่สถ้าเราพลาดไปวันนั้นเราอาจจะไม่ได้เจอสิ่งดีๆเหล่านี้ในวันนี้ก็ได้ มันก็เป็นแค่ช่วงนึงของชีวิตเอง ชีวิตคนเรามีขึ้นมีลง ตอนลงอย่าท้อครับ พยายามมีสติไว้ครับ อย่าหนีปัญหา สึดท้ายทึกคนก็ต้องอยู่คนเดียวครับจะช้าจะเร็ว เราก็แค่เร็วกว่าคนอื่นแค่นั้นเอง อย่าไปอิจฉาโชคชะตาคนอื่นครับมันไม่ช่วยะไรขึ้นมา โชคชะตาชีวิตเราให้เราสร้างขึ้นมาเองครับ
ความคิดเห็นที่ 8
ถึงมหาลัยแล้ว ขอให้คิดเรื่องค่าใช้จ่ายดีๆ นะครับ ถึงจะกู้ กยศ แต่มันก็ต้องมีคนเซ็นค้ำให้นะ ตัว กยศ เอง ให้แค่ค่าใช้จ่ายเดือนละ 2200 ถ้าจะเรียนจริงๆ จะต้องหาเงินเพิ่มอีกหลายทางเลย ลองถามพ่อกับแม่บุญธรรมดูว่าเขาเต็มใจจะส่งไหม ถ้าไม่เต็มใจ อาจจะต้องคุยกับทางมหาลัยเรื่องทุน ถ้าเจออาจารย์ที่เข้าใจเรา ผมว่ามหาลัยจะช่วยคุณจนจบได้ครับโดยไม่ต้องไปฝืนทำงานเสริมมาก ขอให้เข้ามหาลัยนะครับ ได้ปริญญามา มันจะเป็นใบเบิกทางให้กับชีวิต สมัยนี้วุฒิ ม.6 ทำอะไรแทบจะไม่ได้เลย เอาใจช่วยนะครับ
ความคิดเห็นที่ 15
ผมเข้าใจความรู้สึกของ จขกท ดีเลยครับ
ขนาดผมลูกแท้ ๆ ยังถูกมองข้ามเลยครับ จำได้ว่าทะเลาะกันล่าสุดน้องใช้มืดจะเข้ามาแทงผม
แม่มาห้ามไว้ สรุปตั้งแต่วันนั้นแม่กับน้องไม่คุยกับผมเลยครับทั้ง ๆ ที่ผมไม่ผิดอะไร
ช่วงแรก ๆ ผมพยายามเข้าไปคุยกับแม่แล้ว แต่ได้คำตอบกลับมาว่า "อย่าดีแต่ฟ้อง"
ผมล้มทั้งยืนเลยครับ เสียใจมาก ไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคนี้ ส่วนน้องผมแม่ก็คุยปกติมากครับ
ถามทุกวันกินอะไรหรือยัง เงินวางไว้ให้ที่ห้องทุกเช้า แต่กับผมไม่เคยเหลวแล ไม่มีแม้แต่จะทัก
ส่วนเรื่องเงินก็คล้าย ๆ กับ จกขท เลยครับได้เป็นรายเดือนแล้วห้ามขอเพิ่ม แต่โชคดีที่ผม
มีอาจารย์คอยชวยเหลือเพราะผลการเรียนผมค่อนข้างดี ขาดเหลืออะไรอาจารย์ก็จะยื่นมือเข้ามาช่วยเสมอ
ขนาดผมลูกแท้ ๆ ยังถูกมองข้ามเลยครับ จำได้ว่าทะเลาะกันล่าสุดน้องใช้มืดจะเข้ามาแทงผม
แม่มาห้ามไว้ สรุปตั้งแต่วันนั้นแม่กับน้องไม่คุยกับผมเลยครับทั้ง ๆ ที่ผมไม่ผิดอะไร
ช่วงแรก ๆ ผมพยายามเข้าไปคุยกับแม่แล้ว แต่ได้คำตอบกลับมาว่า "อย่าดีแต่ฟ้อง"
ผมล้มทั้งยืนเลยครับ เสียใจมาก ไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคนี้ ส่วนน้องผมแม่ก็คุยปกติมากครับ
ถามทุกวันกินอะไรหรือยัง เงินวางไว้ให้ที่ห้องทุกเช้า แต่กับผมไม่เคยเหลวแล ไม่มีแม้แต่จะทัก
ส่วนเรื่องเงินก็คล้าย ๆ กับ จกขท เลยครับได้เป็นรายเดือนแล้วห้ามขอเพิ่ม แต่โชคดีที่ผม
มีอาจารย์คอยชวยเหลือเพราะผลการเรียนผมค่อนข้างดี ขาดเหลืออะไรอาจารย์ก็จะยื่นมือเข้ามาช่วยเสมอ
แสดงความคิดเห็น
อยากตอบแทนพระคุณให้หมด เพราะผมอยากเป็นอิสระ ทำไงดีครับ
ผมเป็นลูกบุญธรรม ของครอบครัวหนึ่ง พ่อกับแม่ คาดว่าจะไม่มีลูก เลยรับผมมาจากสถานเลี้ยงดูแห่งหนึ่งตอนผมอายุได้ 3 ขวบ ชีวิตผมเกือบไปได้สวย ได้อยู่ในครอบครัวที่มีความสุข มีพ่อมีแม่ มีฐานะดี แต่พอผมอายุได้ 5ขวบ แม่ผมตั้งท้อง ทุกคนในบ้านก็ดีใจ ผมก็ดีใจ คิดว่าจะได้มีน้อง มีเพื่อนเล่น ผมกับน้องอายุห่างกัน 5ปี แต่เมื่อเวลาผ่านไป ทุกสิ่งก็เปลี่ยนไป ผมได้กลายเป็นส่วนเล็กๆของครอบครัวนี้ไปแล้ว คือพอน้องเริ่มโตขึ้น ทุกคนดูจะใส่ใจน้องมากกว่า (มันก็แน่แหละครับ เลือดเนื้อเชื้อไขของพ่อกับแม่นี่นะ) ในหลายๆอย่าง ที่ผมมักจะถูกมองข้าม ทั้งเรื่องเรียน น้องได้เรียนโรงเรียนดีๆ ส่วนผมก็ตามค่าใช้จ่าย โรงเรียนรัฐใกล้บ้าน แต่มันก็ดีครับที่อย่างน้อยก็ได้มีการศึกษา การบ้านผมต้องทำเอง คิดเอง เพราะผมเคยถามพ่อแม่แล้วแกไม่สนใจผมเลย ผิดบ้าง ถูกบ้างไปตามความรู้ที่มี ส่วนน้องผมก็ตามสูตร พ่อแม่ห่วงใยใส่ใจสุดๆพาไปเรียนเสริม เรียนพิเศษ ส่วนพวกของใช้ ถ้าเป็นของน้องพ่อแม่ซื้อให้ใหม่หมด ส่วนผมก็ของเก่าจากลูกๆ ของป้าๆ อาๆ น้าๆ ทางแม่บ้าง ทางพ่อบ้าง เพราะเราก็เรียกร้องอะไรไม่ได้ มันก็รู้สึกน้อยใจ แต่พอมาคิดๆดู เราแทบจะไม่มีสิทธิอะไรเลยด้วยซ้ำ พอโรงเรียนจัดวันแม่ วันพ่อ ผมก็บอกท่านนะว่าโรงเรียนจัดงาน แกก็บอกว่าขอคิดดูก่อน แต่ยังไงผมก็อยากให้พ่อกับแม่ไปร่วมงาน พอวันงานจริงๆ แกไปร่วมงานที่โรงเรียนของน้อง ส่วนผมก็คอยแบบไรจุดหมาย มองดูเพื่อนๆ เขากอดพ่อกอดแม่ มีความสุข
ส่วนงานบ้านผมก็ทำทุกวัน ล้างจาน รดน้ำต้นไม้ ล้างห้องน้ำ กวาดบ้านถูบ้าน ตัดหญ้า เพราะอยากตอบแทนที่พ่อแม่รับผมมาจากสถานเลี้ยงดูและคอยเลี้ยงดูมาตั้งแต่ยังเล็กๆ อันไหนที่ทำได้ผมก็จะทำ ผมกับน้องเรากันดีครับ ผมจะช่วยน้องทุกอย่าง เป็นเพื่อนเล่น เป็นพี่ เป็นคนรองรับความผิดที่น้องทำด้วยครับ
ตลอดการเรียนมัธยมของผม ผมพยายามทำคะแนนให้ได้สูงๆ เกรดดีๆ สอบชิงทุน สอบแข่งขันได้รางวัล มาก็หลายอย่าง แต่ก็ยังไม่เท่าที่น้องผมได้ที่1คัดลายมือภาษาไทยตอนนั้นพ่อกับแม่พาน้องไปกินหมูกระทะ ส่วนผมก็กับข้าวในตู้เย็นเอามาอุ่นกินเอง จนทำให้บางทีเราก็ท้อนะครับ ที่พยายามทำให้ท่านภูมิใจแต่ท่านก็ไม่เห็นค่าความพยายามของผมเลย ยิ่งไปกว่านั้น บางวันผมกลับจากโรงเรียน ท่านก็เขียนกระดาษโน้ตไว้ว่าจะออกไปกินข้าวข้างนอก ให้หาอะไรกินเอง บางครั้งก็ต้มมาม่ากิน เพราะพ่อกับแม่ให้เงินผมเป็นรายอาทิตย์ๆละ 500 บาท ให้บริหารจัดการเอง ทั้งเรื่องกิน ของใช้ส่วนตัว เรื่องเรียน หมดก็คือหมด ขอใหม่ไม่ได้ ช่วงเทศกาลผมก็ไม่ได้ไปเที่ยวไหน?หรอกครับ เพราะผมจะรับหน้าที่เฝ้าบ้าน พ่อแม่และน้องก็จะไปเที่ยวกันไปหาญาติๆบ้าง ไปต่างจังหวัดบ้าง พอกลับมาก็จะมาน้องผมก็จะมาคุยให้ฟัง ว่าเป็นงี้นะ เอารูปให้ดู เราก็ทำเป็นตื่นตาตื่นใจ (แต่จริงๆ น้ำตาตกในครับ) มันมีหลายอย่างที่ผ่านมาจะก็บรรยายไม่ไหมดจริงๆครับ
แต่ผมแอบได้ยินประโยคของพ่อกับแม่ ที่ทำให้ผมถึงกับพูดไม่ออกและทำให้เกิดความว่างปล่าวในหัวคือ “เราไม่น่ารีบเอาเขามาเลี้ยงเลย ถ้าเรารออีกหน่อย เขาก็คงไม่ต้องมาเป็นภาระของเราแบบนี้”
และ ตอนนี้ผมอยู่ ม.6 ผมสอบโคต้าของมหาลัยแห่งหนึ่งได้ ผมบอกกับท่านเพราะหวังว่าท่านจะดีใจ ท่านก็ตอบกลับมาว่า ดีใจด้วยนะ แล้วเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผมยังไม่รู้อนาคตของผมเลยครับ เพราะท่านคงไม่ได้หวังอะไรในตัวผมแล้วละครับ ผมควรทำยังไงดี เพราะผมก็เหมือนไม่มีตัวตนในครอบครัวนี้ละครับ